ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
สายตาทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ร่างของชายที่กำลังข่มขู่ซวนหยวน เขาคือน้องชายของชิงยวิ๋นนามว่า ชิงซาน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหยียดหยามที่มีต่อซวนหยวน เขาสวมเสื้อเกราะสีแดงและถือดาบที่เป็นอาวุธและยุทธภัณฑ์ระดับปฐพีขั้นสูงสุด
ทันในนั้นเองฝูงชนต่างระเบิดเสียงฮือฮาออกมา
“นั่นเขา น้องชายของชิงยวิ๋น! ชิงซาน! ศิษย์ภายในลำดับที่ 1!”
“ใช่ ข้าได้ยินมาว่า เขาเคยสังหารนักสู้ขอบเขตนักพรตอีกด้วย!”
“ทุกคนที่มีรายชื่อติดอันดับแข็งแกร่งพอที่จะท้าทายนักสู้ขอบเขตนักพรต!”
“ดูเหมือนว่าซวนหยวนถึงคราวตายแล้ว เขาไม่มียุทธภัณฑ์เลยแม้แต่ชิ้นเดียว!”
“ซวนหยวนคือศิษย์ของเซียนทั้ง 5 ธาตุ! เขาฝึกฝนกับเซียนไฟอยู่ที่ภูเขาแดงหลายเดือน ชิงซานไม่แข็งแกร่งพอที่จะท้าทายเขา!”
“ชิงซานจะต้องพยายามที่จะสังหารซวนหยวนตอนที่เขาไม่มียุทธภัณฑ์!”
“แต่ซวนหยวนไม่ใช่ศิษย์ที่มีรายชื่อติดอันดับ…”
“เจียงอี้เทียนเป็นคนประกาศเองว่าห้ามใครก็ตามทำร้ายข้าในช่วง 3 ปีนี้ หรือเจ้าต้องการที่จะท้าทายเขา?” ซวนหยวนยิ้มเมื่อเห็นชิงซาน คำพูดของเขากระตุ้นคนจำนวนมาก พวกเขาคิดว่าซวนหยวนหวาดกลัวและต้องการใช้ชื่อของเจียงอี้เทียนเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้
“ซวนหยวน ถ้าเจ้ากลัว แน่นอนว่าข้าจะไม่ท้าเจ้าสู้ ศิษย์พี่เจียงอี้เทียนสั่งห้ามไม่ให้ลอบสังหารเจ้า แต่ข้าจะขอท้าเจ้าต่อหน้าพยานทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ เจ้ากล้าพอที่จะสู้กับข้าหรือไม่? ถ้าเจ้ากลัว ก็จงคุกเข่าลงและเห่าหอนให้เหมือนสุนัขแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป” ชิงซานหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“เช่นนั้นรึ? ก็ดี ข้ายอมรับคำท้าของเจ้า” ท่าทีของซวนหยวนไม่เหมือนกับว่าเขามีโทสะ เขาต้องการที่จะทดสอบพลังของเขากับใครบางคนที่มีรายชื่ออยู่ในอันดับพอดี
“ทุกท่าน ได้โปรดเป็นพยาน ข้าไม่คิดจะเล่นตุกติกกับซวนหยวน การต่อสู้ในครั้งนี้มีชีวิตเป็นเดิมพัน ข้าอยากจะขอให้นายน้อยหู่เซวียนเป็นผู้ตัดสิน ได้หรือไม่?”
ซวนหยวนมองปที่หู่เซวียนและพยักหน้า
“แน่นอน ข้าขอประกาศว่าศิษย์ภายในจากนิกายนักสู้มังกร ชิงซานและซวนหยวนสมัครใจที่จะต่อสู้ด้วยตนเอง ถ้าหากฝ่ายใดเกิดตกตายขึ้นมาก็ไม่สามารถที่จะตำหนิใครได้”
ตอนนี้ผู้คนต่างรีบเคลียร์พื้นที่ให้กับพวกเขา ม่อโฉวต้องการที่จะก้าวเข้ามาแต่ก็ถูกซวนหยวนหยุดเอาไว้
“ซวนหยวน นำอาวุธของเจ้าออกมา ข้าไม่ต้องการให้ใครคนอื่นกล่าวหาว่าข้ารังแกเจ้าอย่างไม่เป็นธรรม” ชิงซานต้องการที่จะสังหารซวนหยวนมาเป็นเวลานานแล้ว
“มันก็แค่การต่อสู้กับเจ้า ทำไมข้าถึงต้องใช้อาวุธ?” ซวนหยวนกล่าวอย่างอวดดี
ผู้ชนต่างตกตะลึง พวกเขาคิดว่าซวนหยวนหยิ่งยโสเกินไปและจะต้องตายอย่างแน่นอน
“ก็ดี ถ้าเจ้าต้องการที่จะตาย ข้าก็จะทำมันให้เร็วที่สุด” ชิงซานมีโทสะกับความหยิ่งผยองของซวนหยวน เขาปลดปล่อยพลังปราณออกมา ดาบในมือเริ่มเปล่งประกายจากนั้นเงาของมังกรหลายร้อยตัวก็พุ่งทะยานสู่ท้องฟ้า!
มังกร 200 ตัว!
มังกร 300 ตัว!
มังกร 360 ตัว!
“น่าประทับใจ! นักสู้ที่อยู่จุดสูงสุดของขอบเขตกษัตริย์และมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ามังกร 360 ตัว! ไม่แปลกใจเลยทำไมเขาถึงสังหารนักสู้ขอบเขตนักพรตได้! ซวนหยวนต้องตายแน่!”
ตัวดาบและชิงซานดูเหมือนจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างไร้ที่ติ เขากวัดแกว่งดาบและยิงปราณไปที่หน้าของซวนหยวน แต่ซวนหยวนเองก็ไม่ได้พยายามที่จะหลบเลี่ยงแต่อย่างใด เขายืนนิ่งไม่ไหวติงราวกับต้นไม้ ด้านหลังของเขาได้มีร่างของราชันย์มังกรไฟปรากฏออกมา ตัวตนของมันเปรียบเสมือนทรราชที่ปกครองชั้นฟ้า
“มันคืออะไร?!” บางคนเริ่มตะโกนด้วยความกลัว
“มันจะต้องไม่ใช่ไฟธรรมดา! แม้ว่ามันจะไม่แข็งแกร่งเท่าอัคคีต่อสู้ แต่ก็นับได้ว่าทรงพลัง”
“ข้าก็คิดเช่นนั้น ซวนหยวนได้ฝึกฝนบนภูเขาแดงกับเซียนไฟ เขาจะต้องได้รับบางอย่างมาจากอาจารย์ของเขา ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมเขาถึงหยิ่งผยองนัก”
ในใจของซวนหยวน “กู่ฉิง ข้าจะสังหารน้องชายของชิงยวิ๋นเพื่อปลอบโยนดวงวิญญาณของเจ้า!”
ซวนหยวนยกมือขึ้นและสะบัดนิ้วเพียงเล็กน้อย จากนั้นเปลวไฟก็ถูกปลดปล่อยออกไปในอากาศ
ชิงซานรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาถูกฉีกกระชากจากภายใน ปราณของเขาถูกหยุดไว้โดยการสะบัดนิ้วเพียงครั้งเดียว ซวนหยวนพุ่งไปข้างหน้าและจับคว้าดาบของชิงซานเอาไว้ ชิงซานพยายามที่จะดึงดาบกลับมาแต่ก็ไม่สามารถที่จะทำได้
ทุกสายตาต่างกลายเป็นตื่นตระหนก ดาบที่ซวนหยวนจับไว้เริ่มหลอมละลาย
“เป็นไฟที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้! มันน่ากลัวเกินไปแล้ว! ข้าได้ยินมาว่าเซียนไฟสามารถควบคุมไฟที่ไม่ธรรมดาได้ ดูเหมือนว่าเขาคงจะมอบมันให้กับซวนหยวน ถ้าเป็นแบบนี้อัคคีต่อสู้จะน่ากลัวขนาดไหน?”
ชิงซานถูกบังคับให้จนมุม ปราณของเขากลายเป็นละอองดาวสีทองล้อมรอบตัวซวนหยวน แต่ปราณอัคคีของซวนหยวนกลับทำลายมันได้อย่างง่ายดายก่อนที่จะสัมผัสตัวเขา ในที่สุดชิงซานก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่อาจเทียบชั้นกับซวนหยวนได้ มันสายเกินไปแล้วที่เขาจะสำนึกเสียใจ
“ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว!” ซวนหยวนคำราม เขาจับหัวของชิงซานเอาไว้และฉีกร่างของเขาออกอย่างโหดเหี้ยม สายโลหิตพุ่งกระจายไปทั่วศูนย์การค้าไท่ไป๋ มันเป็นความตายที่เกิดขึ้นในไม่กี่วิ!
ผู้ที่เฝ้ามองต่างตกตะลึง วิธีการของซวนหยวนโหดเหี้ยมเกิดไป แม้แต่หู่เซวียนเองก็พูดไม่ออก หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ประกาศชัยชนะของซวนหยวน
ซวนหยวนหยิบแหวนของชิงซานและถ่ายโอนคะแนนศิษย์ 4,000 ล้านคะแนนใส่เหรียญตราของเขา นอกจากนี้ยังมีเงิน 5 ล้านเหรียญกษัตริย์อยู่ภายใน มันเพียงพอให้เขาซื้อในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
คนรับใช้ของไป๋เป็นเพียงคนเดียวที่ยังใจเย็นหลังจากที่เห็นฉากตรงหน้า “ใครก็ได้มาทำความสะอาดและนำศพออกไปที”
“ไม่จำเป็น” ซวนหยวนยิ้ม เขาสะบัดนิ้วอีกครั้งและปรากฏเปลวไฟออกมาแผดเผาซากศพ ทันใดนั้นจากร่างเนื้อก็กลายเป็นขี้เถ้าในทันที
ม่อโฉวจ้องมองไปที่ซวนหยวนด้วยความหวาดกลัว แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไร นางยังคงเชื่อว่าซวนหยวนเป็นคนดี เขาจะสังหารจะเฉพาะคนชั่วเท่านั้น
“ไปกันเถอะ” ซวนหยวนกล่าวอย่างอ่อนโยน ม่อโฉวเดินตามเขาไปในทันที นางไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นกับร่มสายรุ้งอีกต่อไป
“เพียงแค่ไม่กี่เดือน นายน้อยซวนหยวนถึงกับพัฒนาไปมากขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเฟิงเลี่ยจะมองคนไม่ผิดจริงๆ” หู่เซวียนกล่าว “ใน 2-3 วันข้างหน้า จะมีงานประมูลซึ่งศูนย์การค้าไท่ไป๋จะเป็นเจ้าภาพในทุกๆ 10 ปี นายน้อยซวนหยวนจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่?”
ดวงตาของซวนหยวนเปล่งประกาย “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชิงซานถึงเก็บเงินไว้ที่ตัวเป็นจำนวนมาก ดูเหมือนว่าเขาต้องการที่จะเข้าร่วมงานประมูลด้วยเช่นกัน”
หลังจากนั้น พวกเขาก็เดินเข้าไปที่บ้านไม้ของไป๋
“นายน้อยซวนหยวน คุณหนูกำลังรอท่านอยู่ โปรดตามมาทางนี้” คนรับใช้กล่าว หู่เซวียนรู้ว่าถึงเวลาที่เขาต้องไปแล้ว เขาสัญญากับซวนหยวนว่าจะมาพบกับเขาในอีก 2 วันที่งานประมูล
ซวนหยวนมองไปยังแผ่นหลังของหู่เซวียนและก็พาม่อโฉวเข้าไปในบ้านไม้ จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่ามีรอยแผลขนาดใหญ่ที่มือของเขา
“ดูเหมือนว่าร่างกายของข้าจะยังไม่แข็งแกร่งพอ” ซวนหยวนถอนหายใจ