ตอนที่แล้วตอนต่อไป
“ตามความรู้โบราณ หัวใจควบคุมระบบไหวเวียนโลหิต หลอดเลือดไหลเวียนไปยังหัวใจ และเลือด ไตดูแลกระดูก ขณะที่ปอดดูแลผิวหนัง ถ้าเจ้ามีทองต่อสู้ และกลั่นมันเข้าไปในปอดของเจ้า แม้แต่ดาบก็ไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้” เฒ่าโลภมากบอกซวนหยวน
“ข้าได้พบอัคคีต่อสู้และวารีต่อสู้เพื่อปรับแต่งอวัยวะของข้าแล้ว แค่นี้มันก็ถือว่าดีแล้ว การจะหาทองสำหรับต่อสู้มันไม่ใช่เรื่องง่าย” ซวนหยวโต้เถียง
“อาจารย์แสนสวยของเจ้าอาจจะมีมันก็ได้ ไปที่ตระกูลหยินซะ แล้วข้าจะรักษาพ่อของนาง และเรียกร้องขอทองศักดิ์สิทธิ์เป็นของตอบแทน” เฒ่าโลภมากเสนอ
“อย่าแม้แต่จะคิดเรื่องนี้กับอาจารย์ของข้า” ซวนหวนปัดข้อเสนอ อย่างไรก็ตามเขาจำได้ว่าหยินเฉินลู่สามารถทำลายพื้นปฐพีได้เพียงลมหายใจเดียว ทองต่อสู้ อย่างทองศักดิ์สิทธิ์ มันมีพลังที่เหนือกว่าจินตนาการ
เฒ่าโลภมากรู้ว่าซวนหยวนคิดอะไรอยู่ “ร่างกายของเจ้าจะเปลี่ยนแปลงไปถ้าเจ้าปรับแต่งอวัยวะทั้งห้าได้อย่างสมบูรณ์ มันจะทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นตามที่เจ้าต้องการ ถ้าเจ้าต้องการแก้แค้นให้กู่ฉิง”
“ถึงอย่างนั้นข้าก็จะไม่ของตอบแทนจากอาจารย์ของข้า” ซวนหยวนตอบกลับ “และข้าควรจะเป็นคนค้นพบวิธีรักษาท่านพ่อของอาจารย์ข้า ครั้งหนึ่งไป๋เคยกล่าวไว้ว่าอาการป่ายของเขาเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณ….”
“ก็ได้ ข้าจะรอเจ้ามาขอร้องข้า ไม่มีโรคใดที่ข้ารักษาไม่ได้ ข้าเคยเห็นโรคแปลกๆมาแล้วมากมาย …” เฒ่าโลภมากหัวเราะ
ม่อโฉวเดินตามซวนหยวน ด้านข้างของทางเดินถูกตกแต่งด้วยไม้ไผ่ เมื่อสายลมพัดผ่านพวกมันจะทำให้เกิดเสียงที่ไพเราะ เมื่อม่อโฉวเดินผ่านบ่อปลา ปลาได้กระโดดขึ้นมาเหนือน้ำราวกับว่าพวกมันกำลังต้อนรับการมาถึงของนาง
เมื่อพวกเขามาถึงประตูบ้านของไป๋ คนใช้กล่าวอย่างนุ่มนวลว่า “คุณหนู นายน้อยซวนหยวนมาถึงแล้ว”
“เข้ามาได้” มันเป็นเสียงของไป๋ คนใช้เปิดประตู และปล่อยให้ทั้งสองคนเข้าไปข้างใน แต่คนใช้ไม่ได้เข้าไปข้างใน ไป๋นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้อันประณีตและกล่าว “กว่าท่านจะกลับมา”
“ข้ามาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้า” ซวนหยวนยิ้มอย่างขมขื่น
“เรื่องอะไร? ไม่ต้องเกรงใจ” ไป๋กล่าว จากนั้นนางก็สังเกตเห็นม่อโฉวและถามว่า “แล้วเจ้าคือ?”
“ม่อโฉว! ซวนหยวนคือพี่ของข้า!” ม่อโฉวกล่าวอย่างตื่นเต้น
“เช่นนั้นหรือ? ถ้างั้นมานั่งกันเถอะ ไม่จำเป็นต้องยืน” ไป๋กล่าวอย่างอ่อนหวาน
ซวนหยวนนั่งลง แต่เขาไม่อาจสรรหาคำพูดได้ เพราะกู่ฉิงถูกสังหาร ซือหยุนต้องเผชิญกับเรื่องลำบากเช่นกัน เขาได้เตรียมใจไว้แล้วในกรณีที่เลวร้ายที่สุด
“มีข่าวเกี่ยวกับซือหยุนหรือไม่?” ซวนหยวนหายใจเข้าลึกๆ และถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา
“ข้าว่าแล้วท่านต้องถามเรื่องนี้” ไป๋ถอนหายใจ “เกี่ยวกับซือหยุน ข้าหวังว่าท่านจะไม่สนใจหลังจากที่ข้าพูด”
“หมายความว่าไง?” ซวนหยวนขมวดคิ้ว
“คุณหนูเหยียนมาหาข้าที่นี่ และข้า…” ไป๋บอกพวกเขากับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น นางก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน “หลังจากนั้นคุณหนูเหยียนก็ได้หายตัวไป ไม่มีใครเห็นนางตั้งแต่วันนั้น”
“ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว ไม่มีอะไรที่พวกเราสามารถทำได้ ถ้าไม่ใช่เพราะข้าคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เจ้าได้ทำสิ่งที่เจ้าทำได้แล้ว ข้าจะตามหาซือหยุนหลังจากที่ข้าเอาชนะเจียงอี้เทียนได้ ข้าจะไม่โทษใคร นอกจากโทษตัวเอง” ใบหน้าของซวนหยวนปรากฏรอยยิ้มอันขมขื่นออกมา
“ก่อนที่นางจะจากไป คุณหนูเหยียนได้บอกให้ข้าบอกท่านเกี่ยวกับเรื่องของเจียงอี้เทียน” ไป๋ถอนหายใจ
“เรื่องอะไร?” ซวนหยวนถาม
“เจียงอี้เทียนได้ใช้อาคมดูความทรงจำของนาง ทำให้เขารู้เรื่องตำราแห่งการครอบครองจากหมู่บ้านสือที่ท่านครอบครองอยู่ ข้าเดาว่าเขาไม่ต้องการให้คนอื่นรู้เรื่องนี้ เขาต้องการตำราเล่มนั้นเป็นของตัวเอง นั่นเป็นเหตุผลที่เขากลับมายังนิกาย” ไป๋ไม่คิดว่าซวนหยวนจะเป็นผู้ครอบครองตำราแห่งการครอบครองเมื่อพวกเขาเจอกัน ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับเขาล้วนเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์
“มันรู้ว่าข้าจะไม่ยอมมอบตำราให้ ดังนั้นมันถึงหลอกล่อข้าให้ต่อสู้และสังหารข้า จากนั้นมันก็จะเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าเป็นเจ้าของไปอย่างไม่มีข้อกังหา.” ซวนหยวนถอนหายใจ “มันปล่อยให้ซือหยุนมีชีวิตอยู่เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับข้าต่อ โชคดีที่นางสังเกตเห็นแผนการที่แท้จริงของมัน มิฉะนั้นข้าคงไม่มีทางรู้เลยว่าเป้าหมายของมันคือตำราแห่งการครอบครอง”
“ทั้งหมดนั่นคือสิ่งที่ท่านอยากรู้? เกี่ยวกับคุณหนูเหยียน?” ไป๋ยิ้ม
“ไม่ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ข้าคิดว่าไท่ไป๋จะต้องมีข้อมูลที่ข้าต้องการ ข้าต้องข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจิตวิญญาณ โดยเฉพาะ ทอง ,ปฐพีและไม้ต่อสู้” ซวนหยวนกล่าวอย่างช้าๆ “ไท่ไป๋ต้องรวบรวมข่าวเกี่ยวกับพวกมันอยู่แล้วใช่ไหม?”
“แน่นอน แต่มันเป็นความลับสุดยอดของไท่ ข้าไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลพวกนั้นได้ แต่ถ้าท่านต้องการรู้จริงๆ ข้าจะลองดูว่าข้าสามารถทำอะไรได้บ้าง” ไป๋มองไปที่ซวนหยวนขณะที่อารมณ์ของเขากำลังแปรปรวนมากขึ้น “ทำไมท่านถึงต้องการพวกมัน?”
“เพื่อปรับแต่งอวัยวะทั้งห้าของข้า ตอนนี้ข้ามีอัคคีและวารีต่อสู้แล้ว” ซวนหยวนพูดความจริงออกมาทันที ไป๋สามารถจับเขาเพื่อล้วงข้อมูลของตำราแห่งการครอบครองได้ แต่นางเลือกที่จะช่วยเขาแทน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไว้ใจนาง
“ท่านมีอัคคีและวารีต่อสู้แล้ว?” ไป๋ถึงกับอ้าปากค้าง
“ใช่ ข้ากำลังเดิมพันกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังจากปรับแต่งอวัยวะทั้งห้า แล้วมันคงเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะพ่ายแพ้ต่อเจียงอี้เทียน” ซวนหยวนกล่าวเบาๆ
“หรือว่าท่านจะมีร่างกายที่พิเศษ อย่างเช่น กายาห้าธาตุ? มิฉะนั้นท่านคงไม่สามารถปรับแต่งด้วยไฟและน้ำได้!” ซวนหยวนทำให้นางแปลกใจมากขึ้นทุกวัน
“ไป๋เจ้าฉลาดจริงๆ ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า ข้ามีเวลาเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้นเพื่อตามหาธาตุทั้ง 3 เพื่อเอาชนะเจียงอี้เทียนให้ได้”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ ข้าจะช่วยท่าน” ไป๋กล่าวเพื่อให้ซวนหยวนอุ่นใจ “ท่านสามารถบอกได้ไหมว่าท่านครอบครองอะไรอยู่?”
“วารีสวรรค์ และบัวแดงอัคคี” ซวนหยวนกล่าว
ไป๋มองซวนหยวนด้วยนัยน์ตาที่เปิดกว้าง นางเดาได้ทันทีว่าซวนหยวนเจอจิตวิญญาณ ดังนั้นนางจึงไม่ถามเขาต่อ “ท่านคิดว่าท่านสามารถเอาชนะเจียงอี้เทียนได้ไหม?”
“แน่นอน! ข้าไม่จำเป็นต้องใช้พลังของวารีสวรรค์และบัวแดงอัคคีของข้า แต่ข้าต้องการอาวุธ,ยุทธภัณฑ์,ยันต์อาคม และเม็ดยาบางอย่าง” ซวนหยวนหยิบเงิน 80 ล้านเหรียญกษัตริย์ออกมาแล้วกล่าวว่า “ข้ายังมียุทธภัณฑ์ระดับปฐพีมากมาย และสิ่งของอื่นๆที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อข้ามากนัก เจ้าช่วยข้าขายพวกมันหน่อยได้ไหม? ข้าต้องการซื้ออะไรบางอย่างในงานประมูลที่จะเกิดขึ้นอีก 2 วัน”
“ข้าจะเพิ่มสิ่งของพวกนี้ลงไปในบัญชีสินค้า ท่านจะซื้ออะไรตามที่ท่านต้องการได้เลย” ไป๋ตกใจความมั่งคั่งของซวนหยวน แต่นางก็ไม่แสดงอาการตกใจให้เขาเห็น
“ขอบคุณ จะเป็นไรไหมถ้าม่อโฉวอยู่กับข้าที่นี่จนกว่าจะถึงงานประมูล?” ซวนหยวนยิ้ม
“แน่นอนไม่เป็นไร” ไป๋นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งที่แล้วทำให้ใบหน้าของนางแดงขึ้นเล็กน้อย จากนั้นนางก็หันออกไปข้างนอก “เอาสิ่งของพวกนี้ไปประเมิน และแลกเปลี่ยนเป็นเหรียญกษัตริย์ และนำเงินกลับมา”
ประตูเปิดออก และมีคนใช้เดินเข้ามา เขาหยิบแหวนสองวงไป และเดินออกไป
ทำให้ภายในบ้านมีแค่หญิงสาวสองคน และชายหนุ่มหนึ่งคน ทำให้บรรยากาศภายในบ้านเริ่มอึดอึด