ตอนที่แล้วตอนต่อไป“ศิษย์น้องซวนหยวนนำอาวุธของเจ้าออกมา ไม่อย่างนั้นคนอื่นเขาจะหาว่าข้ารังแกเจ้า” ดาบนภาดาราของชิงยวิ๋นปลดปล่อยแสงไปทั่วลานประลอง
“ชิงยวิ๋นการจะสังหารเจ้ามันง่ายราวกับสังหารสุนัข ทำไมข้าจะต้องใช้อาวุธ?” ซวนหยวนหัวเราะ ทันใดนั้นแสงสำน้ำเงินและแสงสีแดงก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา แสงสีน้ำเงินปลดปล่อยความเย็นและแสงสีแดงก็ปลดปล่อยความร้อนอันรุนแรงออกมา ผู้คนต่างตกตะลึงอย่างมาก
“เป็นไปได้ยังไง? ทั้งน้ำและไฟ? ถ้าเป็นคนปกติจะต้องถูกฆ่าตายไปแล้ว! หรือว่าเขามีร่างกายที่พิเศษ?”
“ต้องใช่แน่ๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเซียนทั้ง 5 ถึงรับเขาเป็นศิษย์ แต่เขาอวดดีเกินไปและยังเป็นเพียงนักสู้ขอบเขตกษัตริย์ เขาไม่มีทางเอาชนะศิษย์พี่ชิงยวิ๋นได้แน่”
ชิงยวิ๋นโกรธเกรี้ยวกับคำพูดของซวนหยวนอย่างมาก “ไอสารเลว! มารับความตายเสีย!” จากนั้นเขาก็กวัดแกว่งดาบพุ่งตรงไปที่ซวนหยวน ในตอนนั้นเองท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยหมู่ดาวที่สร้างจากพลังปราณ พวกมันแต่ละดวงกว้างถึง 1 เมตร และมีความรุนแรงเทียบเท่ากับมังกร 700 ตัว
“ฮ่าๆๆ นี่สินะนภาดารา แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะมันได้ ซวนหยวนจะต้องตายอย่างแน่นอน” หนึ่งในศิษย์แท้จริงหัวเราะ
“เหอะ ก็ไม่เห็นจะเท่าไร!” ซวนหยวนยิ้มอย่างสบายๆ เบื้องหลังของเขามีเงาของหญิงสาววารีสวรรค์และเงาของราชันย์มังกรไฟปรากฏขึ้น เงาทั้ง 2 มีความสูงนับ 10 เมตร ทันใดนั้นก็ได้มีแสงสีน้ำเงินและสีแดงถูกลปล่อยออกมาจากดวงตาของพวกเขา มันทำให้ก่อเกิดทะเลสีน้ำเงินและทะเลเพลิงสีแดง คลื่นยักษ์ที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับมังกรหนึ่งพันตัวได้บดขยี้ดวงดาวของชิงยวิ๋น
พลังที่แข็งแกร่งเริ่มครอบงำเหล่าศิษย์แท้จริง ชิงยวิ๋นผู้ซึ่งมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับมังกร 850 ตัวและอยู่จุดสูงสุดของขอบเขตนักพรตกำลังยืนสั่นเทาด้วยความกลัว ชุดเกราะของเขาถูกเปิดใช้งาน ถ้าไม่มีมัน เขาคงจะถูกบขยี้ภายใต้การโจมตีของซวนหยวนไปแล้ว
สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไป ศิษย์ภายในมากมายที่ชื่นชมในตัวซวนหยวนต่างทำได้เพียงเงียบเพราะถูกข่มขู่ ตอนนี้พวกเขาต้องการที่จะพูดบางอย่างออกมาเมื่อได้ประจักษ์ในความสามารถของซวนหยวนอีกครั้ง
“ศิษย์น้องซวนหยวน ฆ่ามัน! ชิงยวิ๋นมันคือตัวบัดซบ! มันและน้องชายของมันมักจะคุกคามพวกเราเพื่อเงิน! ศิษย์น้องเฉินหลงถูกมันฆ่าตายเพราะไม่มีเงินจะให้!”
“ใครบอกว่าศิษย์ภายในอ่อนแอกว่าศิษย์แท้จริง? ซวนหยวนแข็งแกร่งพอที่จะสังหารชิงยวิ๋นได้!”
“มันคือคนชั่ว! ศิษย์น้องซวนหยวนฆ่ามันเลย!”
บรรดาพวกที่ถูกข่มเหงโดยชิงยวิ๋นต่างลุกขึ้นและส่งเสียงเชียร์อย่างพร้อมเพียงกัน “ซวนหยวน! ซวนหยวน! ซวนหยวน!.. ”
ชิงยวิ๋นไม่คิดเลยว่าจะมีศิษย์มากมายที่เกลียดชังเขามากขนาดนี้ แต่เขาก็ยังถูกสะกดด้วยความประหลาดใจในความแข็งแกร่งที่ไม่น่าเชื่อของซวนหยวน เขาพยายามที่จะตั้งสมาธิในวินาทีสุดท้ายและโจมตีไปที่ซวนหยวนด้วยดาบของเขา อย่างไรก็ตามชุดเกราะของซวนหยวนก็เปิดใช้งานอัตโนมัติและปกป้องเขา
ซวนหยวนต่อยไปที่เสื้อเกราะของชิงยวิ๋นด้วยหมัดเปล่าๆ หมัดของเขามีความแข็งแกร่งเท่ากับมังกร 1,000 ตัว
แสงของดวงดาวมอดดับลง ในขณะที่พลังของน้ำและไฟพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เงาเบื้องหลังของซวนหยวนราวกับเป็นเงาของพระเจ้า ความแข็งแกร่งของซวนหยวนเกินความคาดหมายของทุกคนไปมาก
บรรดาศิษย์แท้จริงที่อยู่ข้างเดียวกับชิงยวิ๋นต่างสั่นด้วยความกลัว หากเรื่องอื้อฉาวที่พวกเขาได้ไปข่มขู่เหล่าศิษย์ภายในถูกตรวจสอบ พวกเขาจะต้องถึงคราวซวยอย่างแท้จริง
ชิงยวิ๋นเสียเปรียบอย่างมาก เขาโคจรพลังปราณอย่างรวดเร็วและไม่คิดที่จะยอมแพ้ซวนหยวนเด็ดขาด โชคดีที่เจียงอี้เทียนมอบทางเลือกสุดท้ายให้กับเขา – ยันต์อาคมจักรพรรดิ
รอยยิ้มที่บิดเบี้ยวปรากฏที่หน้าของชิงยวิ๋น ยันต์อาคมจักรพรรดิถูกนำออกมาอย่างรวดเร็ว ในตอนนั้นเอง ซวนหยวนมีความรู้สึกราวกับว่าเสื้อของเขากำลังถูกฉีก
อย่างไรก็ตามได้มียันต์อาคมลอยมาอยู่ที่หน้าของซวนหยวน
เฟิงเลี่ยที่ในตอนแรกที่กลัวว่าซวนหยวนจะพ่ายแพ้ก็หัวเราะขึ้น “ฮ่าๆๆ มันคือยันต์อาคมป้องกัน!”
ยันต์อาคมของชิงยวิ๋นเปลี่ยนเป็นแสงสีเหลืองและพุ่งตรงไปที่ซวนหยวนจากด้านบน ปราณที่แข็งแกร่งทำให้เหล่าศิษย์ภายในถึงกับหายใจไม่ออก
ยันต์ป้องกันของซวนหยวนกลายเป็นชายชรา ด้านหลังของเขามีแสงสีม่วง พลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาทำให้ชายชราดูน่ากลัวอย่างมาก ชิงยวิ๋นคุกเขาต่อหน้าเขา ชายชราเพียงแค่ขยับนิ้วและแสงสีเหลืองก็ถูกกำจัดออกไป
“เจ้าควรจะภูมิใจกับตัวเองที่บังคับให้ข้าต้องใช้ยันต์ป้องกันได้ แต่เจ้าก็ต้องจ่ายเงินมาในสิ่งที่ข้าต้องใช้ไป!”
ซวนหยวนเรียกพลังน้ำและไฟออกมาอีกครั้งและยิงตรงไปที่ชิงยวิ๋น เสื้อเกราะของเขาถูกทำลายและถูกซัดกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร ร่างกายของเขาถูกชโลมไปด้วยเลือด ซวนหยวนไม่ได้หยุดแค่นั้น เขาชกไปที่หน้าอกและทำลายเส้นโลหิตที่หัวใจของชิงยวิ๋น
“ไว้ชีวิตข้า!!” ชิงยวิ๋นกรีดร้อง เขาไม่เหลือปราณในร่างกายอีกแล้ว หัวใจของเขาถูกทำลายถ้าไม่ได้รับการรักษาในเร็วๆนี้ อีกไม่กี่อึดใจเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
“นั่นคือคำพูดสุดท้าย?” ซวนหยวนหยิบคันศรจับวิญญาณขึ้นมาและเล็งไปที่หน้าของชิงยวิ๋น
“อย่าฆ่าข้า! ปล่อยข้าไป ได้โปรด ปล่อยข้าไปเถอะ ข้ายอมเป็นคนรับใช้ของเจ้าชั่วชีวิตก็ได้ ได้โปรดอย่าฆ่าข้าเลย!” ชิงยวิ๋นอ้อนวอน เขาเห็นเงาร่างของชายชราในชุดสีม่วง เงาร่างของหญิงสาววารีสวรรค์และเงาร่างของราชันย์มังกรไฟ ตอนนี้ซวนหยวนเปรียบเสมือนภูเขาขนาดยักษ์ที่กำลังบดขยี้เขาอยู่
“ทำไมเจ้าถึงไม่ไว้ชีวิตกู่ฉิง? ไม่ได้มีเพียงแค่เจ้าเท่านั้นที่จะตายในวันนี้ แต่ไอพวกตัวบัดซบที่เป็นพวกของเจ้าก็จะต้องตายเช่นเดียวกัน!” ซวนหยวนปล่อยลูกศรออกไป เกิดเสียงดังปั้ง หัวของชิงยวิ๋นระเบิดออกในทันที
“ผู้ดูแลไป๋ โปรดคำนวณทรัพย์สินทั้งหมดของชิงยวิ๋นและเปลี่ยนพวกมันเป็นคะแนนศิษย์ให้กับข้า” ซวนหยวนกล่าวกับไป๋จ้าน
ไป๋จ้านยังคงตกตะลึงกับการต่อสู้แต่เขาก็รีบพยักหน้า
จากนั้นซวนหยวนก็มองไปยังผู้ที่อยู่ข้างเดียวกับชิงยวิ๋นและเตือน “ยังมีเวลาสำหรับการลงโทษ ผู้ที่ถูกข่มเหงรังแกโดยชิงยวิ๋นและกลุ่มของเขา จงก้าวออกมา ศิษย์พี่เฟิงเลี่ยอยู่ในกลุ่มผู้บังคับใช้กฎ เขาจะช่วยพวกเจ้าเอง”
หนึ่งในศิษย์ภายในยืนขึ้นและชี้ไปที่กลุ่มคน “เป็นพวกมัน!”
ศิษย์แท้จริงนับสิบที่ถูกชี้รู้แล้วว่าพวกเขาไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ พวกเขาคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพียงกัน “มันไม่ใช่ความผิดของพวกข้า! พวกเราถูกบังคับโดยศิษย์พี่ชิงยวิ๋น!”
“ยึดทรัพย์สินพวกมันทั้งหมดและทำลายการบ่มเพาะของพวกมัน จากนั้นก็ขับไล่ออกจากนิกายนักสู้มังกร!” เฟิงเลี่ยตะหวาด
“ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วยเถิด ศิษย์พี่เฟิงเลี่ย!” คำสั่งของเฟิงเลี่ยเปรียบเสมือนการไล่พวกเขาให้ไปตายเพราะพวกเขาไม่สามารถรอดออกไปจากป่าล้านอสูรได้
“ศิษย์ภายในที่ถูกข่มขู่และรังแกโดยชิงยวิ๋นและศิษย์แท้จริงคนอื่นๆ จงก้าวออกมาทางเราจะทำการบันทึกไว้ ฝ่ายที่ผิดจะถูกลงโทษด้วยเช่นกัน” เฉินจิ้นโฉวหัวหน้าผู้บังคับใช้กฏของส่วนในกล่าว
ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความงดงามราวกับแสงจันทร์เดินเข้าหาซวนหยวน นางจ้องมองไปที่เขาและยิ้ม “นี่สินะคือซวนหยวน ถ้าเจ้าเขาร่วมการแข่งขันศิษย์ที่มีรายชื่อ เจ้าอาจจะได้เป็นผู้ชนะ”
นางคือหลงเย่ว หญิงสาวที่มีรายชื่อติดอันดับ 3 ของศิษย์ภายในและยังอยู่ในกลุ่มบังคับใช้กฎ
ซวนหยวนจ้องมองอย่างสับสนและตรวจสอบ
ไป๋จ้านคำนวณทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว “เจ้าสังหารและเปิดเผยความชั่วร้ายของชิงยวิ๋นและกลุ่มของมัน หัวหน้าของส่วนในได้มอบคะแนนศิษย์ให้เจ้าเป็นรางวัล1,000,000,000,000 คะแนน(หนึ่งล้านล้าน)”
“ขอบคุณ!” ซวนหยวนหันไปหาปู้จิงซาและยิ้ม
“เจ้าสมควรได้รับมัน แต่อย่าพึ่งดีใจไป ข้ากำลังรอคอยการต่อสู้ในอีก 3 ปีข้างหน้า” ปู้จิงซากล่าว
เฟิงเลี่ยเดินเข้ามาใกล้ซวนหยวนและกล่าวถามอย่างตื่นเต้น “ข้าตกใจที่เห็นเจ้าใช้ยันต์อาคมป้องกัน เจ้าได้มันมาได้ยังไง?”
“เพราะท่านได้ให้ยันต์อาคมวายุนภากับผู้อาวุโสของข้า แต่เขาคิดว่ายันต์อาคมป้องกันมันไม่มีประโยชนกับเขา เขาก็เลยให้ข้ามา” ซวนหยวนตอบ
“ฮ่าๆๆ ดูเหมือนว่าข้าจะช่วยเจ้าไว้ละนะ” เฟิงเลี่ยวางมือไว้บนบ่าของซวนหยวน “ดีมาก! ชิงยวิ๋นอยู่ภายใต้การดูแลของศิษย์พี่เจียงอี้เทียนจึงเป็นความรับผิดชอบของเขาที่ชิงยวิ๋นรังแกผู้อื่น… และข้ายังเชื่อว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะเขาได้ในเวลาอีก 3 ปี!”
จากนั้นเฟิงเลี่ยก็จากไป ซวนหยวนมองไปที่ฟางยู่โหยวและพยักหน้า เขากระโดดขึ้นไปบนหลังของนกนภาวารีอีกครั้ง ตามมาด้วยเซียนทั้ง 4 ฟางยู่โหยวจ้องมองไปที่แผ่นหลังของซวนหยวนด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโหยหา
“ไปกันเถอะ” ฟางยวิ๋นกล่าว
นางรู้ดีว่าความห่างชั้นระหว่างนางกับซวนหยวนนั้นแตกต่างกันมาก นางหันไปที่ฟางยวิ๋นและกล่าว “ท่านลุง ข้าต้องการที่จะฝึกฝนในมิติเวลา!”
ฟายยวิ๋นถอนหายใจ จากนั้นเขาก็พาฟางยู่โหยวจากไป
*************************************************************************
ติดตามได้ที่ –