I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 53 เจ้าปีศาจตัวน้อย

| Dragon-Marked War God | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

 



แปลไทยโดย Takumi Kun 


ตรวจ เรียบเรียง Subaru-Kyun


=====================================================
 

เสียงโอดครวญสร้างความหวาดผวาให้แก่ทุกคน ดาบของเจียงเฉินไม่เพียงแค่แทงไปยังไหล่ของลีชานหมิง มันยังตัดผ่านเส้นประสาทของเขา นอกจากนี้ดาบของเจียงเฉินปกคลุมด้วยเพลิงอันร้อนแรง ตอนนี้ได้เกิดการเผาไหม้บนร่างกายเขา ความเจ็บปวดแบบนี้ แม้แต่ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ยังไม่สามารถทนได้


ถ้าพูดกันตามตรง เพียงแค่ดาบนั้นไม่สามารถที่จะทำให้ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ แต่ความเจ็บปวดจากบาดแผลที่เจียงเฉินทำไว้นั้นเกินกว่าจะจินตนาการได้ ภายใต้การเจ็บปวดอย่างรุนแรงลีชานหมิงทั้งสั่นทั้งร้องโหยหวนอย่างสิ้นลาย มันไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้


เคร้ง….


ดาบในมือของลีชานหมิงตกลงบนพื้น


เจียงเฉินค่อยๆดึงวิญญาณทมิฬเชือดเฉือนออกจากไหล่ของลีชานหมิง ดาบดึงออกมาทุกๆนิ้ว เลือดไหลทะลัก เลือดโดนความร้อนของดาบแผดเผา และมันเหือดแห้งก่อนตกสู่พื้น


ฉากนี้ทำให้ทุกๆคนเสียวไปถึงแก่นกระดูก ทั้งสี่คนจากตระกูลลีไม่เหลือสีบนหน้าพวกเขา ในใจพวกเขานั้นมีแต่ความสิ้นหวัง หมดกัน วันนี้ไม่มีโอกาสเหลือสำหรับพวกเขาอีก แม้แต่ลีชานหมิงยังโดนเจียงเฉินจัดการ เสาหลักของพวกเขากำลังจะตาย ไม่ต้องกล่าวถึงก็รู้ว่าอะไรรอเขาอยู่


แม้แต่คนจากตระกูลหยานยังต้องกลั้นหายใจ เมื่อพวกเขาได้เห็นสภาพของลีชานหมิงในตอนนี้ พวกเขาช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย นี่เป็นสิ่งที่โหดร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ โชคดีที่เจียงเฉินอยู่ข้างเดียวกับพวกเขา …หากเขาเป็นศัตรูล่ะก็ความตายของพวกเขานั้นคงไม่ต่างจากลีชานหมิง


“ข้าบอกเจ้าแล้ว เจ้านั้นหลงระเริงกับระดับแก่นแท้มนุษย์มาก ข้าก็บอกแล้ว ‘อย่ามายั่วยุข้า มิฉะนั้นผลที่ตามมาจะร้ายแรงนัก’ แต่เจ้าก็ยังไม่ฟัง …..เฮ้อ……”


เจียงเฉินพูดอย่างเฉยเมย ดาบในมือเขาได้วางลงบนคอของลีชานหมิง


“เจียงเฉิน หากเจ้าสังหารข้า บิดาข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”


ร่างกายของลีชานหมิงสั่นภายใต้แรงกดดันของเจียงเฉิน เขาได้สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปแล้ว ตอนนี้เขาทำได้เพียงนำชื่อลีชานเย่ว์มาขู่เจียงเฉิน


“ข้าบอกเจ้าไปก่อนหน้าแล้วนี่ ลีชานเย่ว์จะตายโดยที่ไม่มีทายาทสืบสกุล” 


สำหรับเจียงเฉินคำขู่ของลีชานหมิงนั้นไม่ต่างจากการผายลม , ผายลมแบบเงียบๆอีกด้วย เขาได้กดวิญญาณทมิฬเชือดเฉือนลงบนคอของลีชานหมิง ดวงตาของลีชานหมิงกระพริบถี่มาก ตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เพียงไม่นานตาของเขาได้สูญเสียแววตาไป ชีวิตของเขาก็จากไปแล้ว


ตุบ!


ในที่สุดลีชานหมิงก็ร่วงลงบนพื้นด้วยหน้าของเขาแหงนดูท้องฟ้า เขาตายตายังเปิดอยู่ ก่อนเขาตายเขาได้เสียใจในความพ่ายแพ้ของเขา


“ลีชานหมิงตายแล้ว?”


“พี่ใหญ่เจียงเฉินสังหารยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์โดยยอดฝีมือฉีไห่ขั้นกลาง?”


“เขาได้ช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้”



………………………………………………………………………


คนจากตระกูลหยานมองเจียงเฉินด้วยท่าทางหลากหลายอารมณ์ ปิติยินดี เป็นปลื้ม ชื่นชม หวาดกลัว นับถือ…..พวกเขาได้เห็นถึงด้านที่น่าหวาดกลัวของชายหนุ่มผู้นี้ เขานั้นเหมือนเจ้าปีศาจตัวน้อย หากเขาเป็นศัตรู จุดจบของพวกเขาคงไม่โสภา


“น้องเจียง พวกเราจะทำเช่นไรกับคนจากตระกูลลีทั้งสี่?”


หยานหยางถามขึ้นมา ทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ให้เจียงเฉินเป็นหัวหน้าของพวกเขา


เจียงเฉินหันกลับไปและเดินตรงไปยังคนที่เหลือรอดทั้งสี่ ทั้งสี่คนต่างรู้สึกเหมือนท้องฟ้าหมุนรอบตัวพวกเขาและร่างกายพวกเขาไม่ใช่ของพวกเขาเอง หนึ่งในพวกเขายืนตัวสั่นและโงนเงนเนื่องจากความหวาดกลัวสุดขีด


“พวกเจ้าทั้งสี่คนมีใครอยู่ตระกูลที่ขึ้นตรงกับตระกูลลีบ้าง”


เจียงเฉินถาม


ทั้งสี่ตื่นตระหนก พวกเขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจียงเฉินถึงถามคำถามนี้ นั่นเพราะเขาวางแผนจะไปเล่นงานหนึ่งในตระกูลที่ขึ้นตรงกับตระกูลลีต่างกันงั้นรึ? ราชาปีศาจน้อยช่างน่าสะพรึงกลัวนักดูเหมือนว่าเขาจะสังหารแต่ละคนด้วยวิธีแตกต่างกัน


ชายหนุ่มสองคนกลืนความหวาดกลัวลงไปและก้าวออกมา พวกเขาพูดเสียงสั่น “พวกข้าทั้งสองไม่ได้มาจากตระกูลลี ตระกูลของพวกข้าขึ้นตรงกับตระกูลลีเพื่อความอยู่รอดเพียงเท่านั้น”


ทั้งสองที่ยืนตรงหน้าเจียงเฉินนั้นไม่เลวเลย นั่นเพราะพวกเขาคงรู้ว่าร้องขอชีวิตล้วนไร้ค่า เจียงเฉินไม่ให้พวกเขารอดกลับไปได้อยู่ดี


“เข้าใจล่ะ ทั้งสองไม่จำเป็นต้องตายละนะ หยานหยางสังหารอีกสองคนซะ”


เมื่อได้ยินสิ่งที่เจียงเฉินพูดออกมา ทั้งสองคนที่เหลือนั้นเบิกตากว้าง ทันใดนั้นรู้สึกว่าสมองพวกเขาหยุดทำงาน


‘เกิดอะไรขึ้น? ราชาปีศาจน้อยจะปล่อยพวกเราไปงั้นรึ?เหตุใดเจียงเฉินถึงไม่สังหารพวกเขา? อย่าบอกนะว่าจู่ๆเขาก็เกิดความปราณีขึ้นมาถึงได้ไว้ชีวิตพวกเรา?ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุใด พวกเราไม่ต้องคิดให้มาก พวกเขานั้นมีความสุขที่สามารถอยู่ต่อได้ นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ


ชายหนุ่มทั้งสองน้ำตาคลอเบ้า พวกเขารู้สึกเหมือนสำลักความสุขโดยที่ไม่ได้ใช้มัน ความปิติยินดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือสามารถที่จะอยู่ต่อได้ รู้สึกดีมากที่ยังมีชีวิตอยู่


อ๊ากกกกกก


ขณะที่ทั้งสองกำลังชื่นชมโชคของตัวเองได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านหลังพวกเขา สองคนจากตระกูลลีโดนดาบจำนวนมากแทง คนจากตระกูลหยานไม่ได้สนใจอะไรมากนักกับการสังหารคนตระกูลลีทั้งสอง เพราะคนพวกนี้ได้พยายามที่จะสังหารพวกเขาก่อนหน้านี้ หากไม่ใช่เพราะเจียงเฉิน คนพวกนี้ก็ตายแล้ว


“ทั้งสองคน นำร่างของลีชานหมิงไปด้วย นี่เป็นเมตตาที่นายน้อยผู้นี้มอบให้ ตอนนี้ข้าได้สังหารมันไปแล้ว มันเป็นเรื่องที่สมควรแล้วที่จะนำร่างของเขาไปคืนแก่บิดาของเขา ลีชานเย่ว์”


เจียงเฉินเก็บวิญญาณทมิฬเชือดเฉือนช้าๆก่อนที่เขาจะเก็บยุทธภัณฑ์ระดับต่ำอีกชิ้นไปด้วย


ทุกๆคนต่างเกือบล้มลงบนพื้นเมื่อพวกเขาได้ยินเจียงเฉินพูดว่าเขาเป็นคนมีเมตตา แม้แต่หวงต้าที่กำลังดูอยู่ยังรู้สึกแปลกใจ


“สวรรค์ เจ้าหนุ่มนี่มันน่ารังเกียจยิ่งกว่าข้าเสียอีก”


หวงต้าทำท่ารังเกียจคำพูดที่ออกมาจากปากของเจียงเฉิน แม้แต่หยานหยางและคนอื่นๆต่างเช็ดเหงื่อเย็นช้าๆ ‘พี่ใหญ่เป็นคนมีเมตตา? จุดประสงค์ของเจ้าคือใช้ร่างไร้วิญญาณของลีชานหมิงยั่วยุลีชานเย่ว์ตะหากเล่า’


“ไอ้พวกบ้าทั้งสองมัวรออะไรอีกล่ะ? รีบพาร่างนายน้อยไปสิ หรือเจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าจะไม่ฆ่าเจ้าด้วยดาบของข้าและเผาไปพร้อมๆกับลีชานหมิง”


เจียงเฉินต่อว่าทั้งคู่ที่ยืนค้างอยู่กับที่


“ขอรับ!”


ทั้งสองคนสั่นเพราะความกลัว พวกเขาไม่กล้าที่จะปฎิเสธ พวกเขาพยุงร่างไร้วิญญาณของลีชานหมิงขึ้นมาและวิ่งออกจากที่นี่เหมือนเหินเวหาไป พวกเขาไม่คิดว่าเจียงเฉินจะล้อเล่น พวกเขาไม่มีข้อสงสัยเมื่อเขาพูดว่าจะสังหารพวกเขาด้วยดาบและเผาพวกเขา


“พี่ใหญ่เจียง ทำไมปล่อยพวกมันไปล่ะ?”


หยานจงถามด้วยสีหน้างุนงง


“อย่าได้กังวล พวกมันอยู่ไม่ยืนหรอก”


เจียงเฉินยักไหล่พร้อมตอบอย่างหน้าตาย


เจียงเฉินโยนดาบในมือให้หยานหยาง ตาของหยานหยางส่องประกาย เขารับดาบนั้นทันที


“น้องเจียง นี่มันยุทธภัณฑ์ระดับต่ำเชียวนะ มันแพงมากๆ ข้าจะรับมันไว้ได้อย่างไร”


หยานหยางพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเอียงอาย ยุทธภัณฑ์ระดับต่ำนั้นมีค่ามหาศาลแม้เขายังมียุทธภัณฑ์ระดับต่ำอยู่ที่ตัวเขาเอง แต่นั่นเป็นของที่ตระกูลหยานให้ใช้ชั่วคราว เขาจะต้องคืนมันเมื่อเขากลับไป แต่เจียงเฉินให้เป็นของขวัญแก่เขา หากจะเป็นการโกหกถ้าเขาบอกว่าไม่ชอบมัน


“จริงหรือ? หากเจ้าอายที่จะรับมันข้าจะให้หยานจง”


เจียงเฉินเอามือขึ้นมาและยื่นออกไปจะเอากลับคืน หยานหยางรีบถอยหลังพร้อมรอยยิ้ม “ไม่อายแล้วล่ะ ไม่เลย! นี่เป็นของขวัญจากน้องเจียงเฉิน ข้าจะมอบให้ผู้อื่นได้เช่นไร”


หยานจงที่ยืนข้างๆยักไหล่ด้วยความผิดหวัง 


“ไปกันเถอะ พวกเราควรที่จะลงจากเขาได้แล้ว คนจากตระกูลลีเองก็ตายหมดแล้ว ตอนนี้ผู้สมัครเข้าสำนักกระบี่สวรรค์เหลือเพียงพวกเจ้าเท่านั้น”


เจียงเฉินพูดทั้งรอยยิ้ม


ทุกๆคนรีบรักษาบาดแผลตัวเองและเตรียมที่จะลงเขา พวกเขายังมีเวลาเหลืออยู่ แต่ไม่มีจุดหมายที่จะอยู่บนเขาต่อ วันนี้ภายใต้การนำของเจียงเฉิน ตระกูลหยานได้มีชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้จะส่งผลถึงอนาคตของพวกเขาด้วย ตอนนี้เหล่าอัจฉริยะตระกูลลีทั้งหมดได้จากไปหมดสิ้น ในขณะที่เหล่าอัจฉริยะจากตระกูลหยานยังคงอยู่ และด้วยหยานเฉินหยู่ผู้มีชีพจรเก้าหยินอีก เพียงแค่ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีตระกูลลีก็จะถูกตระกูลหยานกลืนกินไป หลังจากนั้นพวกเขาก็จะควบคุมเมืองสีชาติได้อย่างสมบูรณ์


หวงต้ายืนขึ้นมาและตามหลังเจียงเฉินอย่างมีความสุข ทุกๆคนจ้องหมาตัวนี้ทันที พวกเขารู้สึกคุ้นเคยกับหมาตัวนี้ด้วยเหตุใดก็ไม่รู้


“พวกเจ้ากำลังจ้องหาอะไร ไม่เคยเห็นหมาหน้าตาดีรึ? จิ๊จิ๊ บิดาที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่หมาเฟ้ย”


หวงต้าจ้องและต่อว่าพวกเขา


อะ..ไร..กัน..นี่…….หมาพูดได้แถมยังหลงตัวเองสุดๆอีก


ในขณะนั้นภายนอกภูเขา มีไม่กี่คนได้รออยู่ เฉินซวงและอีกสองจากสำนักกระบี่สวรรค์กำลังเสวนาและผ่อนคลาย ลีชานเย่ว์กำลังยิ้มร่าได้ไปคุยกับหยานเจิ้นหยุนบ้างบางครา แต่หยานเจิ้นหยุนนั้นดูเย็นชาและเป็นกังวล


“หยานเจิ้นหยุน ตอนนี้นะ ข้าล่ะกลัวว่าคนของพวกเจ้าคงตายหมดแล้วล่ะ”


ลีชานเย่ว์พูดออกมาพร้อมยิ้มกว้าง


“มันต้องเป็นคนของเจ้ามากกว่ามั้งที่ตายแล้วน่ะ”


หยานเจิ้นหยุนจ้องลีชานเย่ว์เขม็ง เขาต้องการที่จะกระโจนเข้าใส่มันและฉีกปากนั่นเสีย


“ฮี่ฮี่ หยานเจิ้นหยุนข้ารู้ว่าเจ้ารู้สึกแย่แค่ไหน แต่เจ้าต้องรู้จักเรียนรู้ที่จะยอมรับความจริงเสียบ้างนะ เจ้าควรที่จะกลับไปวางแผนใหม่ หากเหล่าอัจฉริยะทั้งหมดในตระกูลได้ตกตายหมด จะสักกี่ปีหนอที่จะอยู่ได้ก่อนตระกูลหยานจะไม่เหลือใคร”


ลีชานเย่ว์พูดออกมาด้วยสีหน้าพึงพอใจอย่างมาก


“ฮึ่ม! การประเมินยังไม่สิ้นสุด เจ้าจะรู้ผลได้เช่นไร”


หยานเจิ้นหยุนแค่นเสียง ฮึ ออกมาอย่างเย็นชา


“อ๊ะ มีบางคนออกมาแล้วล่ะ”


ยอดฝีมือแก่นมนุษย์จากตระกูลลีตะโกนบอก ทุกๆคนหันไปยังชายหนุ่มสองคนที่ออกมาจากภูเขาอย่างไม่ลังเล หนึ่งในนั้นได้แบกร่างไร้วิญญาณบนบ่า


เมื่อลีชานเย่ว์เห็นทั้งสอง ความมั่นใจของเขาได้แปรเปลี่ยน


ไม่นานนัก ทั้งสองได้มาคุกเข่าต่อหน้าลีชานเย่ว์และวางร่างของลีชานหมิงไว้บนพื้น


เหวอ  …. อู้ว…


บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันใด รวมทั้งเฉินซวงและอีกสองคน ทุกๆคนต่างดูร่างไร้วิญญาณของลีชานหมิง แล้วตกตะลึง ตาของพวกเขาบ่งบอกเลยว่าไม่น่าเชื่อ ลีชานหมิงเป็นระดับแก่นแท้มนุษย์และเขาได้ตาย นี่มันไม่น่าเชื่อ


“ฮ่าฮ๋าฮ๋า ลีชานเย่ว์ นี่คือผลลัพธ์ที่เจ้ารอรึ?”


หยานเจิ้นหยุนหัวเราะเสียงดัง อารมณ์ของเขาดีสุดๆ


“พูด!!! ใครเป็นคนฆ่าเขา”


ลีชานเย่ว์โกรธจัด แผลบนใบหน้าสั่นสะเทือนทำให้หน้าเขาดูน่ากลัวมาก


“มันเป็น จะ..เจียง…..เจียงเฉิน…”


“ทุกๆคน….ทุกคนตายกันหมด”


ทั้งสองพูดออกมาเสียงสั่น พวกเขาเอ่ยชื่อเจียงเฉินอย่างยากลำบาก พวกเขานั้นกลัวเจียงเฉินมาก น่าสะพรึ่งกลัว ชายหนุ่มคนนั้นน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว


“อะไรนะ”


ลีชานเย่ว์คำรามเสียงดัง ความโกรธของเขาปะทุอีกครั้ง และเขาได้กลายเป็นดั่งสิงห์ที่กำลังจะระเบิดความกราดเกรี้ยวสุดๆ “เจียงเฉิน! เจียงเฉิน! เจ้าได้ฆ่าบุตรชายข้าทั้งสามคน! นี่เป็นความผิดของมัน ข้าจะต้องตายโดยไม่มีบุตรสืบสกุล! ข้าจะหั่นแกเป็นล้านชิ้น! เป็นล้านชิ้น!”


ลีชานเย่ว์กราดเกรี้ยวเหนือคำบรรยาย บุตรชายทั้งสามได้ตายหมดแล้ว เขาไม่มีอัจฉริยะให้คาดหวังอีกแล้วตอนนี้


“เมื่อทุกคนตายกันหมด พวกเจ้าทั้งสองก็ไม่ต้องอยู่ต่อ!”


ลีชานเย่ว์ได้แผ่จิตสังหารที่น่าเหลือเชื่อออกมา และซัดฝ่ามือใส่หัวของชายหนุ่มทั้งสอง




************************************************************************

โปรดติดตามตอนต่อไป  


To be continue…..♥








 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments