I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 58 การเปรียบอย่างน่าเกลียด

| Dragon-Marked War God | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

 


แปลไทยโดย : Takumi Kun


  ตรวจทาน      : Subaru-Kyun


************************************************************************

เฉินซวงปลดปล่อยตัดสายฟ้าออกมาด้วยยุทธภัณฑ์ระดับต่ำ นี่เป็นการโจมตีโดยทุ่มพลังทั้งหมดของเขาแล้ว เขามีขวัญกำลังใจสูงและเขาเชื่อว่าตัวเขาสามารถสังหารเจียงเฉินได้ด้วยดาบของเขา


นอกจากนี้ทักษะดัชนีที่เจียงเฉินใช้แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ มันอยู่ในระดับชั้นปฐพีอย่างเห็นได้ชัด เจียงเฉินได้ใช้ทักษะทรงพลังเช่นนี้ด้วยพลังงานของฉีไห่ ซึ่งมันไม่เพียงพอนั่นเป็นเหตุว่าทำไมเขาถึงแน่ใจว่าเจียงเฉินไม่สามารถที่จะใช้มันได้อีกเป็นครั้งที่สองในช่วงเวลาสั้นๆ


แต่โชคร้าย เจียงเฉินได้ทำให้มันผิดหวัง ทักษะดัชนีสุริยะทั้งหกนั้นเจียงเฉินเป็นผู้คิดค้นเองดังนั้นเขาสามารถใช้มันได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้การบ่มเพาะด้วยทักษะร่างแปลงมังกร ทะเลลมปราณ โลหิตและพลังหยวนล้วนแข็งแกร่งอย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยการช่วยเหลือของตราประทับมังกรทั้งสิบ ทำให้เขาสามารถปลดปล่อยดัชนีสุริยะคู่ได้เป็นครั้งที่สอง


เปรี๊ยะ เปรียะ


เจียงเฉินยังคงเยือกเย็น ปลายนิ้วของเขาส่องประกาย ส่งผลให้อากาศเกิดการร้าวและสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง คลื่นอากาศที่หนาแน่นได้วนทั่วร่างเขาและเหนือหัวของเขานั้นมีเงาของมังกรสีเลือดอยู่ ทำให้เขาดูอาจหาญและศักดิ์สิทธิ์


เปรี้ยง!


ดัชนีสีทองยักษ์ทั้งสองได้ปรากฎออกมาอีกหนึ่ง และได้หลอมรวมซึ่งกันและกัน โจมตีไปยังเฉินซวง ความสามารถในการสู้กับระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางนั้นเป็นหนทางในการทดสอบพละกำลังในการต่อสู้ของเขา เขาโจมตีด้วยดัชนีสุริยะคู่อย่างต่อเนื่อง เลือกที่จะต่อสู้ซึ่งๆหน้ากับเฉินซวง ความรู้สึกที่จะได้จัดการศัตรูซึ่งหน้าได้เพิ่มขวัญและกำลังใจเขาและช่วยเพิ่มความมั่นใจของเขามากขึ้น


อีกครั้งหนึ่งที่ดัชนีทองคำขนาดยักษ์ได้ปะทะกับตัดสายฟ้า ส่งผลให้อากาศเริ่มสั่นสะเทือน ดัชนีสุริยะคู่ได้ทำให้ตัดสายฟ้าสามสายได้แตกเป็นเสี่ยงๆอย่างสมบูรณ์ นั่นเท่ากับว่าได้เอาชนะเฉินซวงได้อย่างไม่ต้องสงสัย


ด้วยพลังหยวนที่เกือบอยู่ระดับเดียวกัน ความแตกต่างระหว่างพละกำลังของทักษะการตอสู้ได้แสดงให้เห็นออกมา แม้เฉินซวงมียุทธภัณฑ์ขั้นต่ำอยู่ในมือ มันไม่สามารถที่จะอุดช่องว่างระหว่างทักษะยุทธขั้นมนุษย์กับทักษะขั้นปฐพีได้ เขาไม่สามารถที่จะสู้กับเจียงเฉินได้ ด้านความสามารถของเจียงเฉินนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เขาไม่สามารถเทียบได้กับคนทั่วๆไปได้เลย


การปะทะกันส่งผลให้ท้องฟ้าเหนือหุบเขากลายเป็นสีทองอร่าม การปะทะกันอย่างรุนแรงส่งผลให้เกิดหลุมจำนวนมากและควันดำที่ออกมาจากหลุมปรากฎขึ้นในทุกๆที่


ด้านตรงข้ามเจียงเฉิน เฉินซวงแทงดาบลงบนพื้นเพื่อพยุงร่างของเขาไม่ให้ทรุดตัวลง ผมเผ้าของเขายุ่งเหยิงหมด เขาได้คายเลือดที่อมไว้ในปากเขาสองสามครั้ง ที่หน้าอกของเขาแดงฉานจากเลือดที่เขาได้ไอออกมา เพราะการโจมตีเมื่อครู่นี้ เฉินซวงไม่เพียงบาดเจ็บสาหัสจากดัชนีสุริยะคู่ เขายังได้แผลจากเศษพลังของตัดสายฟ้าที่กระดอนกลับภายใต้การโจมตีของทั้งสอง เฉินซวงได้บาดเจ็บสาหัส สถานการณ์ของเขาตอนนี้สามารถอธิบายได้เหมือน ลูกศรที่กำลังร่วงหล่น


“ไม่ เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด!”


เฉินซวงส่ายหัวของเขา เขาไม่สามารถที่จะเชื่อได้ โดยเฉพาะเมื่อเขามองไปยังเจียงเฉินที่ดูสงบและมีท่าทีสบายๆที่ยืนตรงข้ามเขา


“ก่ะก่ะ ตอนนี้ให้ข้าจัดการที่เหลือละกัน”


หวงต้าหัวเราะเสียงดัง ร่างที่แข็งแกร่งของเขาเริ่มเคลื่อนไหวเพียงแค่เสี้ยววินาทีเขาก็มาถึงหน้าเฉินซวงแล้ว 


“***มารดาเจ้าสิ เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงมาซัดก้นข้า?”


หวงต้าได้กัดฟันและเคลื่อนไปยังด้านหลังของเฉินซวง ไม่มีการพูดใดๆ เขาอ้าปากกว้างและกัดไปยังก้นของเฉินซวงอย่างแรง


อ๊าากกกกกกกกกกกกก!


เสียงกรีดร้องที่แหลมสูงดังก้องทั่วหุบเขา เฉินซวงในสภาพตอนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหวงต้า การกัดของหวงต้านั้นเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชัง หลังจากได้ยินเสียงเนื้อสดๆแยกออกจากกันสะท้อนออกมา ก้นครึ่งหนึ่งของเฉินซวงได้โดนฉีกออก


แม้เฉินซวงจะเป็นยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลาง หากความทนทานของร่างกายเขาสามารถเทียบกับเจียงเฉินได้ แต่ความทนทานในร่างกายเขานั้นห่างชั้นกับเจียงเฉิน หวงต้าสามารถทำให้เจียงเฉินเจ็บปวดได้ด้วยการกัด แต่เขาสามารถที่จะสังหารเฉินซวงได้ง่ายๆด้วยการกัดของเขา


อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!!!


เฉินซวงเงยหัวขึ้นบนท้องฟ้าและกรีดร้องออกมาอย่างน่ากลัว มันทำให้หรวนหลิงที่ยืนอยู่ข้างๆหวาดกลัวอย่างมาก หน้าตาที่น่ารักของนางไม่แสดงถึงความเย่อหยิ่งอีกทั้งที่นางแสดงออกเช่นนั้นเสมอ


หวงต้านั้นโหดเหี้ยมอย่างมาก….เขาได้กัดก้นอีกข้างของเฉินซวงและฉีกมันออกมา เลือดและเนื้อได้ถูกทิ้งเกลื่อน มันดูน่าเศร้ายิ่งนัก หลังจากนั้นหวงต้าได้กดเฉินซวงลงพื้นด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งของเขา และแสดงให้เห็นถึงฟันอันแหลมคมของมันแล้วเขาเริ่มที่จะจู่โจมด้วยวิธีอันโหดร้ายที่สุดและนองเลือดเท่าที่เป็นไปได้


“โหดเหี้ยม!”


ฉากนองเลือดและหยาบช้าเช่นนี้ส่งผลให้เจียงเฉินทำสีหน้าประหลาด เจ้าหมานี่มันโหดเหี้ยมและใจร้ายเป็นอย่างมาก ผู้ใดที่ไปหาเรื่องเจ้าหมานี่เข้าก็จะได้รับผลที่ตามมาอย่างร้ายแรง ในการแก้แค้นเรื่องก้นของเขา หวงต้าได้ยอมสละเลือดของเขา และตอนนี้เขาได้ระบายความกราดเกรี้ยวทั้งหมดใส่เฉินซวง


เสียงกรีดร้องอย่างน่ากลัวดังก้องทั่วหุบเขา ร่างกายของเฉินซวงขาดวิ่นไปหมด แต่เขายังคงมีชีวิตอยู่หวงต้าต้องการที่จะทรมานเขาจนตาย


“ใครบอกให้เจ้าซัดก้นบิดาผู้นี้!”


หวงต้าไม่ลืมที่จะสาปแช่งเฉินซวงเป็นช่วงๆขณะที่ทรมานเขาอยู่


“หวงต้า พอได้แล้ว!”


เจียงเฉินพูดพร้อมขมวดคิ้ว เฉินซวงจะต้องตาย ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้


กร้อบ!


หลังจากที่เจียงเฉินพูดจบ หวงต้าก็ได้ไปบิดคอของเฉินซวง ทำให้เสียงกรีดร้องเงียบในทันที เฉินซวงตอนนี้ได้ตกตายแล้ว


“ชิ นี่มันวันโชคดีของเจ้า!”


หวงต้าได้คายส่วนของร่างกายเฉินซวงออกมาในช่วงที่เขาพูด เจียงเฉินที่ยืนด้านข้างเกือบหมดสติ ‘บัดซบเจ้าฆ่าคนไปและเจ้ายังพูดว่าเป็นวันโชคดีของเขาอีก?’


หลังจากที่ได้สังหารเฉินซวงไปแล้ว เจียงเฉินได้เดินไปเก็บดาบของเฉินซวงที่ตกอยู่ ต่อจากนั้นเขาและหวงต้าได้หันไปยังหรวนหลิงที่ยืนอยู่ด้วยท่าทีหวาดกลัว เจียงเฉินมีท่าทีเย็นชาและหวงต้ายิ้มอย่างร้ายกาจ คนและหมาได้เดินไปอยู่ตรงหน้าหรวนหลิง


“ไม่ อย่าฆ่าข้า! ได้โปรดข้าขอร้องเจ้าอย่าฆ่าข้าเลย”


หรวนหลิงแทบสูญเสียวิญญาณของนางไป นางไม่เคยหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน ทั้งสองที่อยู่ตรงหน้านางน่าหวาดกลัวเกินไป มันโหดเหี้ยมที่สุดเท่าที่นางเคยพบ นางไม่อยากตายและนางไม่อยากตายแบบเฉินซวงและเชาฮัว


“ตราบที่เจ้าไม่ฆ่าข้า ข้าจะทำทุกอย่างที่เจ้าต้องการให้ข้าทำ ข้าสามารถเป็นผู้หญิงของเจ้า! และข้าสามารถเป็นได้กระทั่งสัตว์เลี้ยงมนุษย์ของเจ้า”


หรวนหลิงขอร้องด้วยสีหน้าขาวซีด


หวงต้าตาเป็นประกายเมื่อเขาได้ยินว่าสัตว์เลี้ยงมนุษย์แต่ในเวลาเดียวกันเขาได้เห็นถึงลำแสงส่องประกายผ่านไป  เจียงเฉินได้เหวี่ยงดาบไปยังคอของหรวนหลิง ดวงตาของนางเบิกกว้าง ร่างกายที่นุ่มนิ่มของนางร่วงสู่พื้น


“บัดซบ! เจ้ามีปัญหาอะไรฟะ?! นางได้ตกลงที่จะเป็นสัตว์เลี้ยงมนุษย์ของข้า! เหตุใดเจ้ายังฆ่านางอีก?”


หวงต้าโกรธทันที ในที่สุดเขาก็มีสัตว์เลี้ยงมนุษย์เสียทีแต่เพียงแค่ไม่กี่วินาทีนางได้โดนเจียงเฉินสังหาร


เจียงเฉินมองไปยังหวงต้าที่กำลังกราดเกรี้ยวอยู่ แต่เขาไม่ได้สนใจที่จะตอบสนองมัน เขาได้หยิบดาบยาวขึ้นมาช้าๆ มันเป็นยุทธภัณฑ์ระดับต่ำและมันไม่ได้มีค่ามากสำหรับเจียงเฉิน แต่มันยังสามารถใช้ได้อยู่


“เฮ้ ทำไมเจ้าโหดร้ายอย่างนี้? เจ้าไม่มีความสงสารเลยหรือ? เจ้าฆ่าแม้กระทั้งเด็กผู้หญิง?! เจ้าต้องหาสัตว์เลี้ยงมนุษย์ใหม่ให้ข้าด้วย”


หวงต้าไม่ยอมหยุด เขาไม่รู้สึกอับอายใดๆเมื่อเขาพูดถึงความเห็นอกเห็นใจ


“พอเถอะ เจ้าลืมไปแล้วรึหญิงสาวผู้นี้ได้ไล่ล่าเจ้าตลอดเวลาที่ผ่านมา? หากเจ้าตกอยู่ในมือนางล่ะก็ข้าสามารถให้คำมั่นได้เลยว่าหนังหมาของเจ้านั้นจะถูกถลกออก นางมาจากนิกายกระบี่สวรรค์ พวกเราต้องถอนวัชพืชออกทั้งราก”


เจียงเฉินจ้องไปทางหวงต้าอย่างหงุดหงิด หรวนหลิงไม่ใช่หญิงสาวที่อ่อนแอ นางอยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์เมื่อนางกัดฟันตัวเองและพูดว่าจะต้องฆ่าเจียงเฉินก่อนจะขึ้นเขาไป เจียงเฉินจึงพิพากษานางด้วยความตายนอกจากนี้นางมาจากนิกายกระบี่สวรรค์ เจียงเฉินไม่ต้องการให้นิกายกระบี่สวรรค์ตามมาล้างแค้น


หวงต้าบ่นอุบอิบกับตัวเอง แต่เขาไม่ได้พูดออกมาเสียงดัง


เจียงเฉินจุดไฟไปยังเฉินซวงและหรวนหลิงและเผาทั้งสองเป็นเถ้าถ่าน หลังจากนั้นพาหวงต้าไปกับเขาและลงจากเขา


ภายนอกเขาต้นกำเนิด หญิงสาวในชุดเดรสสีม่วงได้พุ่งไปยังภูเขา นางอายุราวๆสิบสี่ถึงสิบห้าปี ใบหน้าของนางงดงามอย่างอัศจรรย์ด้วยท่าทางหน่อมแน้ม ดวงตาของนางนั้นส่องประกายดั่งฤดูใบไม้ผลิแสนบริสุทธิ์ในภูเขา นางได้พุ่งไปอย่างรวดเร็ว อากาศรอบตัวนางแผ่ความหนาวเย็นออกมา


“ท่านพี่เจียงเฉิน ได้โปรดอย่าได้เป็นอะไรเลย”


ขณะที่หญิงสาวผู้นี้วิ่งอยู่ นางได้กำลังภาวนาด้วย หญิงสาวที่สวมเดรสสีม่วงนี้ไม่ใช่ใครนอกเสียจาก หยาน เฉิน หยู่ ผู้ซึ่งปลุกชีพจรเก้าหยินแล้วนั่นเอง นางได้ออกมาจากการปิดประตูบ่มเพาะ และสิ่งแรกที่นางถามออกมาคือสถานที่ที่เจียงเฉินอยู่ ในใจของนาง เจียงเฉินเป็นคนแรกและเป็นบุรุษเพียงคนเดียวในชีวิตนาง หลังจากที่ได้รู้ว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น นางออกจากตระกูลหยานและพุ่งตรงไปยังภูเขาต้นกำเนิดโดยไม่รอช้า


เมื่อหยานเฉินหยู่ได้มาถึงชายแดนของเขาต้นกำเนิดและกำลังจะเข้าไป นางได้เห็นคนและหมาเดินออกมา


“ท่านพี่เจียงเฉิน”


เมื่อนางเห็นชายหนุ่มสวมชุดสีขาว สีหน้าเป็นกังวลของหยานเฉินหยู่กลับกลายเป็นปิติยินดี นางอดไม่ได้ที่จะเรียกเจียงเฉิน


“หยู่น้อย!” 


เจียงเฉินประหลาดใจเมื่อเห็นหยานเฉินหยู่


“ยัยหนูนี่น่ารักไม่ใช่เล่น หากได้นางมาเป็นสัตว์เลี้ยงมนุษย์ของข้า….ฮี่ฮี่”


ก่อนหวงต้าพูดจบ เขาได้ตบหัวของหัวต้าไป


หวงต้าจ้องเจียงเฉินก่อนเขาดึงกลับ เจียงเฉินไม่เคยเถียงกลับและแม้หวงต้าจะน่ารังเกียจ แต่มันไม่ได้โง่ มันสามารถรู้ได้ทันทีว่าคนที่อยู่ตรงหน้ามันเป็นคนที่สำคัญมากสำหรับหัวใจเจียงเฉิน


“ท่านพี่เจียงเฉิน ท่านไม่เป็นอะไร! นี่มันวิเศษจริงๆ!”


หยานเฉินหยู่กระโดดไปยังอ้อมแขนของเจียงเฉินโดยไม่คิด เพราะนางมีความสุขมากๆ เจียงเฉินสามารถที่จะรู้สึกได้ถึงร่างอันนวลเนียนและอ่อนนุ่มจากแขนของเขา และกลิ่นของหญิงสาวที่โชยออกมา หน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุขจนเขาต้องหายใจเข้าลึกๆ


เขารู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องคิด มันจะต้องเป็นเพราะหยานเฉินหยู่เป็นกังวลเรื่องของเขาหลังจากที่พบว่าเกิดอะไรขึ้น และได้รีบเร่งไปเพื่อช่วยเขา เด็กสาวตัวเล็กๆผู้นี้มีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขานักและได้สัมผัสเจียงเฉิน


“อย่าได้กังวลหยู่น้อย ข้าสบายดีนะเห็นไหม?”


เจียงเฉินวางมือไว้บนไหล่อันอ่อนนุ่มของหยานเฉินหยู่ หยานเฉินหยู่เพิ่งรู้สึกตัวว่ากำลังกอดเจียงเฉินอยู่ นางรีบออกจากอ้อมแขนของเจียงเฉินดั่งกระต่ายที่กำลังหวาดกลัว หน้าแดงก่ำจากความอาย


“เหะเหะ…”


เจียงเฉินยิ้มออกมา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุข


“ดอกไม้งามปักบนมูลวัว”


หวงต้าบ่นอยู่ข้างๆ


“หุบปากไปเลย!”


เจียงเฉินตอบกลับด้วยเตะเหินหาว


เจียงเฉินตรวจสอบร่างกายหยานเฉินหยู่ด้วยสัมผัสเทวะและพบว่าเต็มไปด้วยพลังชีวิต สภาพช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ บัดนี้ได้มลายไปหมดแล้ว การตื่นขึ้นของชีพจรเก้าหยินได้ให้ร่างกายใหม่อย่างแท้จริง


เมื่อเจียงเฉินตรวจสอบระดับของหยานเฉินหยู่ เจียงเฉินก็กรอกตา แล้วก็พบว่านางอยู่ระดับอาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น นี่มันบ้าไปแล้ว เมื่อมาเปรียบเทียบกันระหว่างพวกเขาแล้ว มันน่าเกลียดมาก เขาบ่มเพาะยากสุดๆด้วยทักษะร่างแปลงมังกร และเขาเพิ่งขึ้นระดับฉีไห่ขั้นปลายได้โดยใช้โลหิตของหวงต้าช่วย แต่หยานเฉินหยู่เมื่อชีพจรเก้าหยินได้ตื่นขึ้นได้พุ่งขึ้นระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้นโดยธรรมชาติ



************************************************************************


จบจ้า  นางเอกมาแล้ว

หากชอบนิยายเรื่องนี้สามารถติดตามอัพเดทได้ที่







 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments