I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 59 ในกรณีนี้

| Dragon-Marked War God | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

 


แปลไทยโดย : Takumi Kun


ตรวจทาน       : Subaru-Kyun


************************************************************************


“หยู่น้อยเจ้าได้ทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์แล้วรึ!”


เจียงเฉินรู้สึกเหมือนเขาโดนตบหน้าเลย แต่รอยยิ้มของเขานั้นไม่ได้ลดลงไปด้วย ยิ่งหยานเฉินหยู่แข็งแกร่งขึ้นเท่าไรเขายิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น


หลังจากนั้น ชีพจรเก้าหยินเป็นภาวะกายศักดิ์สิทธิ์โบราณ และมันขึ้นชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์หมายความว่าบุคคลทั่วไปไม่สามารถที่จะเปรียบได้ กายศักดิ์สิทธิ์สำหรับมนุษย์เหมือนกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในหมู่สัตว์ปีศาจ พวกเขาเป็นที่โปรดปรานของสวรรค์ ความเร็วในการบ่มเพาะนั้นเหนือกว่าทุกๆคน นอกจากนี้มันไม่ได้จำกัดแค่ความเร็วในการบ่มเพาะขณะที่พวกเขายังมีความสามารถโดยธรรมชาติของพวกเขาได้อย่างดี แต่ละคนในหมู่พวกเขานั้นล้วนทรงพลังอย่างแท้จริง คนที่มีกายศักดิ์สิทธิ์โบราณนั้นไม่สามารถที่จะตัดสินได้โดยสามัญสำนึก


“ท่านพี่เจียงเฉิน ที่ข้ามีเป็นแบบนี้ได้ทั้งหมดเป็นเพราะท่านแท้ๆ ท่านได้ช่วยชีวิตข้าไว้ ข้ายังไม่แสดงความขอบคุณใดๆแก่ท่านเลย”


หยานเฉินหยู่พูดตามตรง


“แล้วหยู่น้อยจะตอบแทนท่านพี่อย่างไรหรือ?”


เจียงเฉินพูดด้วยร้อยยิ้มชั่วร้าย


“งั้นแต่งงานกับเขาซะ จัดให้ไว หยุดทำตัวหวานเลี่ยนต่อหน้าข้าได้แล้ว”


หวงต้าไม่สามารถทนได้อีก


“เจ้าหมานิสัยไม่ดี”


หยานเฉินหยู่จ้องหวงต้า เมื่อนางได้ยินเขาพูดว่าแต่งงาน หน้าของนางแดงก่ำ และเมื่อนางคิดถึงเรื่องนี้นางก็อายม้วน


หวงต้าเผยฟันขาวออกมาและพยายามหยอกสาวน้อยไร้เดียงสาผู้นี้ แต่สิ่งที่หยานเฉินหยู่พูดออกมาทำให้มันหยุดทันที


“เจ้าหมาน้อย! อย่าพูดเรื่องไร้สาระนะ”


ตุบ!


แค่ได้ยินการเรียกตนเองว่า “เจ้าหมาน้อย” สามารถจัดการหวงต้าได้ทันใด มันได้ร่วงลงพื้นเจียงเฉินที่ยืนข้างๆมันได้เริ่มหัวเราะเสียงดังออกมาทันที หยู่น้อยผู้ไร้เดียงสาจัดการหวงต้าได้ หมายความว่าเจ้าหมานี่ได้พบกับศัตรูตามธรรมชาติของมัน


หวงต้าได้ยืนขึ้นจากพื้นช้าๆ มันโมโหและน้ำตามันก็ไหลออกมาจากตามัน ‘ยัยหนูนี่กล้าเรียกข้าว่าเจ้าหมาน้อย? บัดซบ ส่วนไหนของข้าที่เล็กกันฟะ? เจ้าสามารถที่จะหาหมาตัวอื่นที่แกร่งกว่าได้ได้รึเปล่า? อุก บิดาผู้นี้ไม่ใช่แม้กระทั่งหมา’


“ตกลง รีบออกจากที่นี่กันดีกว่า”


เจียงเฉินพูดด้วยสีหน้าจริงจัง


“ท่านพี่เจียงเฉินคนจากนิกายกระบี่สวรรค์ไปไหนแล้วหรอคะ?”


ในระหว่างทาง หยานเฉินหยู่ได้ถามขึ้น


“ข้าได้สังหารพวกมันทั้งหมดแล้วล่ะ”


เจียงเฉินตอบหน้าตาย


สีหน้าของหยานเฉินหยู่แสดงออกมาถึงความไม่สบายใจในทันที แต่ก่อนนางเคยได้ยินเจียงเฉินพูดถึงการสังหารผู้คน เมื่อมองไปเจียงเฉินได้ถอนหายใจออกมาในใจ สาวน้อยผู้นี้ช่างอ่อนหัดและไร้เดียงสาเสียจริง


ชีพจรเก้าหยินนั้นทำให้นางต้องอยู่แต่ในตระกูลหยานโดยที่ไม่มีโอกาสออกมาข้างนอกสักครั้ง สาวน้อยไร้เดียงสาผู้ไม่มีประสบการ์ณในโลกภายนอก การที่สังหารคนเป็นสิ่งที่ผิดปกติและเป็นเรื่องไกลตัวนาง


“หยู่น้อย เจ้าอาจจำเป็นต้องทำมันในอนาคตนะ”


เจียงเฉินจับไหล่หยู่น้อยอย่างนิ่มนวล หยานเฉินหยู่มีชีพจรเก้าหยิน เมืองสีชาดเล็กๆไม่สามารถที่จะรั้งนางไว้ได้ตลอดไปและไม่ช้าก็เร็วนางจะต้องก้าวเข้าสู่โลกแห่งการฝึกตนอย่างแท้จริง หากจะให้ชีพจรเก้าหยินได้เติบโต การสังหารเป็นก้าวที่ไม่สามารถมองข้ามได้


“ข้าไม่ต้องการสังหารคนนิ”


หยานเฉินหยู่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง สำหรับนางแล้วการสังหารเป็นเรื่องที่โหดร้าย


เจียงเฉินไม่ได้ตอบสนองกับคำพูดของนาง เขาแค่ยิ้ม สาวน้อยผู้นี้ได้ออกไปยังโลกภายนอกครั้งแรก นางจำเป็นต้องลงมือแน่เมื่อถึงเวลา


หวงต้ายังตะลึงไม่หายไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำตลอดทาง การที่โดนเรียกว่าหมาน้อยนั้นเป็นความพ่ายแพ้ของมันอย่างแท้จริง


ภายในโถงประชุมตระกูลหยาน


หยานเจิ้นหยุนได้เดินเข้าเดินออกห้องโถง ผู้อาวุโสท่านอื่นๆดูเป็นกังวลอย่างมาก ชีพจรเก้าหยินของหยานเฉินหยู่เพิ่งตื่น และไม่เพียงแค่นั้นโรคร้ายที่ได้ทำให้นางทุกข์ทรมานก็ได้รับการรักษาแล้ว นางได้ทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์แล้ว นี่เป็นสิ่งที่ควรจะเฉลิมฉลอง แต่ตอนนี้ไม่มีผู้ใดหัวเราะออกแม้แต่คนเดียว


“ข้าสงสัยว่าน้องเจียงเฉินกำลังทำสิ่งใดอยู่ตอนนี้….”


หยานเจิ้นหยุนพูดสิ่งที่กังวลออกมา


“หยู่เอ๋อร์ตอนนี้อยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์แล้วด้วยชีพจรเก้าหยินที่ทรงพลัง นางสามารถช่วยน้องเจียงเฉินได้บ้างละนะ”


หยานหงไท่พูดขึ้น


“ท่านผู้นำตระกูลขอรับ น้องเจียงเฉินเป็นวีรบุรุษของตระกูลหยานของพวกเรานะขอรับ พวกเราไม่สามารถที่จะนั่งมองสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับเขาได้นะขอรับ!”


หยานหยางตะโกนออกมาเสียงดัง เจียงเฉินเป็นผู้ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ และตอนนี้เจียงเฉินได้พบกับอันตราย เขาไม่สามารถที่จะนั่งรออย่างสงบได้


“มันไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก ด้วยความสามารถของน้องเจียงเฉิน หากพวกเขาต้องการสังหารเขาจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้โดยง่าย”


หยานเจิ้นหยุนพูดออกมา เขาพยายามที่จะโน้มน้าวตัวเขาเอง ในความจริงแล้วเขากังวลเกี่ยวกับเจียงเฉินยิ่งกว่าใคร แต่ตระกูลหยานไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ สาเหตุแรก ทำไมพวกเขาถึงไม่สามารถทำสิ่งใดได้เพราะอนาคตของตระกูลหยาน พวกเขาไม่สามารถที่จะรุกรานนิกายกระบี่สวรรค์ได้


อย่างที่สอง ลีชานเย่ว์เกลียดเจียงเฉินเข้ากระดูกดำ ในที่สุดมันก็มีโอกาสที่จะได้แก้แค้นให้บุตรชายของมัน และมันไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆแน่ แน่นอนว่าเขาจะต้องส่งคนมาคอยจับตาดูตระกูลหยานอย่างใกล้ชิด หากหยานเจิ้นหยุนพยายามที่จะช่วย ลีชานเย่ว์จะพยายามหยุดเขาอย่างแน่นอน เหมือนตอนที่หยานเจิ้นหยุนได้หยุดลีชานเย่ว์นอกภูเขาก่อนหน้านี้


เมื่อทุกๆคนที่นั่งในห้องโถงประชุมต่างแสดงท่าทีกังวลออกมา หยานเหมิงได้มาที่โถงประชุมด้วยสีหน้าปิติยินดีสุดขีด


“ท่านผู้นำตระกูลขอรับและท่านผู้อาวุโส! คุณหนูและน้องชายเจียงเฉินกลับมาแล้วขอรับ!”


“อะไรนะ! พวกเขากลับมาแล้ว”


สีหน้าเป็นกังวลได้เปลี่ยนเป็นมีความสุขในทันที พวกเขามองไปยังทางเข้าเห็นคนกำลังเดินเข้ามา ทั้งสามคน(?) คือเจียงเฉิน หยานเฉินหยู่ และด้านหลังพวกเขาเป็นหมาตัวใหญ่สีเหลือง


เมื่อพวกเขาเห็นเจียงเฉิน บรรยากาศที่น่าหดหู่ได้เปลี่ยนเป็นเฉลิมฉลอง


“ฮ่าฮ่า น้องเจียงเฉิน ดีจริงๆที่เห็นเจ้าสบายดี!”


หยานเจิ้นหยุนเริ่มหัวเราะดังๆออกมา


“น้องเจียง ศิษย์ทั้งสามจากนิกายกระบี่สวรรค์อยู่ไหนเหรอ?”


หยานหยางถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น


“พวกมันโดนเผากลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว”


หวงต้าได้พูดออกมา มันพยายามให้คนอื่่นรู้ว่ามันมีตัวตนอยู่ ทุกๆคนต่างคุ้นๆกับหมาตัวนี้ นี่มันไอ้หมาที่ปากเสียสุดๆนี่ ภาพลักษณ์ได้ฝังลึกลงไปในใจทุกคน เจ้าหมานี่ทำให้ศิษย์นิกายกระบี่สวรรค์ไล่ตามมันมากว่าหมื่นไมล์ มันไม่สามารถที่จะดูถูกได้


แต่มันได้ตามเจียงเฉินมา พวกเขาไม่สามารถที่จะปฎิเสธมันได้


“จริงหรือ! น้องเจียงฆ่ามันทั้งหมด?”


หยานหยางมีสีหน้าตะลึงอ้าปากค้าง


“ถูกต้องแล้ว ข้าได้ทะลวงเข้าสู่ฉีไห่ขั้นปลายได้ในช่วงที่คับขันและจัดการเฉินซวง”


เจียงเฉินพูดอย่างเฉยเมย เขาได้ทำให้ทุกคนในห้องโถงตะลึงกันหมด ในตอนนั้นทุกๆคนในห้องโถงต่างมองไปยังชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า นอกเหนือจากอาการตะลึงแล้ว ยังดูไม่เชื่อในสายตาอีก


ในการที่จะเลื่อนระดับนี่มันง่ายขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไร? มันเหมือนโยนระเบิดใส่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ตรงๆ  นอกจากนี้แม้เขาจะอยู่ระดับฉีไห่ขั้นปลาย เขาไม่น่าจะสามารถสังหารคนระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางได้อย่างง่ายดาย อย่างไรเขาก็เป็นยอดฝีมือระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางเชียวนะ ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางอ่อนแอตั้งแต่เมื่อใดกัน?


หากไม่รู้จักเจียงเฉินดีพอ พวกเขาทั้งหมดอาจหัวเราะเจียงเฉินที่เล่าเรื่องโกหกกับทุกคน ก่อนที่จะดูหมิ่นเขาภายหลัง


ทุกๆคนต่างส่ายหัวไร้ซึ่งคำพูด หยานหยางรู้สึกทำอะไรไม่ถูก เมื่อเทียบกับเจียงเฉินแล้วใครจะกล้าเรียกตัวเองว่าอัจฉริยะ? คำว่าอัจฉริยะไม่สามารถที่จะจำกัดความในสิ่งที่เจียงเฉินเป็นอยู่ได้ ใช้คำว่าปีศาจแทน


“น้องเจียงเฉิน หยู่เอ๋อร์ การกลับมาของเจ้านั้นตอนนี้ได้รับรู้แล้วโดยคนจากตระกูลลี บุตรทั้งสามของลีชานเย่ว์ได้ตายหมด ดังนั้นเขาจะไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่ หากเขาเกิดบ้าขึ้นมาคงจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้แก้แค้น”


หยานเจิ้นหยุนพูดพร้อมขมวดคิ้ว


“เป้าหมายของลีชานเย่ว์คือข้าเพียงคนเดียว หากท่านผู้นำตระกูลหยานรู้สึกว่ามันสร้างปัญหาให้ตระกูลหยานล่ะก็ ข้าก็จะออกไปทันที”


เจียงเฉินพูด


“มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นหรอกน้องเจียงเฉิน! เจ้าเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลหยาน แม้ข้าต้องแลกด้วยชีวิต ข้าหยานเจิ้นหยุนจะไม่ลังเลที่จะช่วยเจ้า! นอกจากนี้ในเมืองนี้ตระกูลหยานและตระกูลลีต่างเป็นศัตรูกัน การต่อสู้ระหว่างพวกเรามันจะเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว”


หยานเจิ้นหยุนร้อนรนและรีบพูดออกมาอย่างจริงจัง


“ใช่แล้ว ที่เลวร้ายที่สุด มันจะเกิดการต่อสู้ที่รุนแรงขึ้นพวกเราไม่กลัวตระกูลลีในขณะนี้!”


หยานหงไท่พูดทุกๆคนในที่นี้มีจิตวิญญาณสูง พวกเขาอาจจะไม่กล้าที่จะสู้กับนิกายกระบี่สวรรค์ แต่สู้กับตระกูลลี? พวกเขาจะไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว


“หากลีชานเย่ว์เลือกที่จะสู้กับพวกเราเวลานี้ เขาจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน! นี่เป็นโอกาสใหญ่ของตระกูลหยาน”


เจียงเฉินพูด


“หมายความเช่นไรรึ น้องเจียงเฉิน?”


หยานเจิ้นหยุนถาม


“ท่านลองคิดดู นายน้อยทั้งสามของตระกูลลีตายไปหมดแล้ว และอัจฉริยะเกือบทั้งหมดของตระกูลลีได้ตกตายหมด! มันชัดเจนที่ขวัญกำลังใจของตระกูลลีจะตกต่ำ อย่างไรก็ตามตระกูลลีได้หยั่งรากไว้ในเมืองนี้ลึก การตายของยอดฝีมือฉีไห่ไม่กี่คนไม่ได้สร้างผลกระทบมากมายนักกับความแข็งแกร่งของพวกเขา สิ่งที่ลีชานเย่ว์จำเป็นต้องทำในตอนนี้คือพยายามให้ทุกคนใจเย็นลงและเพิ่มขวัญกำลังใจแต่เขาไม่สามารถ ตั้งแต่เขาไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์โกรธของเขาไว้ได้ เขาฆ่าแม้แต่อัจฉริยะทั้งสองจากตระกูลอื่นที่ขึ้นตรงกับเขา”


ดวงตาเจียงเฉินส่องประกายด้วยความเฉลียวฉลาด เขาพูดต่อ “สิ่งที่ลีชานเย่ว์กระทำไปนั้นสร้างความผิดหวังให้แก่ตระกูลที่ขึ้นตรงกับเขา เขาใจสลายและคนของเขาเสียกำลังใจ ตอนนี้หากแม้พวกเขาจะรักษาความแข็งแกร่งไว้ พวกเขาไม่สามารถที่จะปกป้องพวกเขาจากตระกูลหยานได้”


คำพูดของเจียงเฉินทำให้ทุกคนที่อยู่ในโถงประชุมตาสว่าง


สิ่งที่เจียงเฉินพูดมานั้นถูกต้อง การต่อสู้ระหว่างตระกูลทั้งสองเปรียบดั่งสงคราม เมื่อทั้งสองฝ่ายมีกำลังรบใกล้เคียงกัน สิ่งที่ส่งผลต่อสงครามนั้นคือขวัญและกำลังใจของคนและการสนับสนุนจากคนของเขา เหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์จากตระกูลลีต่างตกตายหมด ขวัญกำลังใจตกต่ำ เกือบที่จะไม่เหลือและลีชานเย่ว์สังหารอัจฉริยะจากตระกูลที่ขึ้นตรงกับเขาด้วยตัวเองอีก นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่ตระกูลหยานกจะโจมตีพวกนั้น


“สิ่งที่น้องเจียงพูดมานั้นถูกต้องแล้ว หากตระกูลลีต้องการสงครามแล้วก็พวกเราไม่ได้กลัว”


หยานหงไท่พูด


“ดี! ทุกๆคนเริ่มเตรียมตัวได้! รวบรวมกองกำลังรบของตระกูลพวกเรา! เตรียมตัวทำสงครามกับตระกูลลี!”


หยานเจิ้นหยุนพูดขณะที่เขาได้ปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมา


“ท่านผู้นำตระกูลหยาน ข้ามีบางอย่างที่ต้องการความช่วยเหลือจากท่าน”


เจียงเฉินพูด


“บอกข้ามาเถิด น้องเจียงเฉิน”


หยานเจิ้นหยุนตอบกลับอย่างสุภาพ


“ข้าต้องการให้ผู้อาวุโสไปอาศัยกับตระกูลเจียงที่เมืองฟ้าหอมเป็นเวลาสองสามวัน หากเขาสามารถไปได้ใจของข้าจะสงบได้”


เจียงเฉินพูดพร้อมมองไปยังหยานหงไท่


“น้องเจียงเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นกังวลว่าลีชานเย่ว์จะส่งคนไปโจมตีตระกูลเจียง แต่ข้าคิดว่ามียอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์อยู่ภายในตระกูลเจียงมิใช่หรือ?”


หยานหงไท่ถามด้วยสีหน้างงงวย ทุกคนต่างเข้าใจได้ว่าเจียงเฉินกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตระกูลเจียง แต่ที่นั่นมียอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์อยู่ที่นั่น เหตุใดถึงต้องมียอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์เพิ่ม?


“ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ท่านนั้นมีอารมณ์ร้าย หากท่านผู้อาวุโสไปด้วยตัวเองล่ะก็มันจะสะดวกกว่า”


เจียงเฉินพูด มีแต่เขาที่รู้ว่าไม่มียอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ซ่อนตัวอยู่ที่คฤหาสน์ในตระกูลเจียง ด้วยกำลังของตระกูลเจียงไม่สามารถที่จะปกป้องตัวพวกเขาได้ มันเป็นเพราะเจียงเฉินต้องการที่จัดเตรียมในส่วนของเขาด้วย


หยานหงไท่เป็นยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลาย ตราบที่ลีชานเย่ว์ไม่ได้ไปด้วยตัวเอง หยานหงไท่สามารถที่จะปกป้องตระกูลเจียงได้อย่างปลอดภัย ตอนนี้ลีชานเย่ว์มุ่งเป้ามาที่เจียงเฉินและรู้ว่าเจียงเฉินอยู่หอคอยหมอกฝน เขาไม่ได้ออกจากเมืองสีชาด




************************************************************************



จบจ้า  To be continue….♥

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments