ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
แปลไทยโดย : Takumi Kun
ตรวจทาน : Subaru-Kyun
************************************************************************
“ท่านผู้อาวุโส ท่านไปที่เมืองฟ้าหอมคอยคุ้มกันตระกูลเจียงให้ปลอดภัยด้วย”
หยานเจิ้นหยุนมองไปยังหยานหงไท่ สำหรับเมืองสีชาดอย่าได้กังวล เจียงเฉินและหวงต้าทั้งคู่แข็งแกร่ง พวกเขาเทียบได้กับยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ หากหยานเฉินหยู่ปลดปล่อยพลังของชีพจรเก้าหยินออกมา นางจะมาเติมเต็มในส่วนของหยานหงไท่แทน
“เข้าใจแล้วขอรับ ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้และเริ่มตรงไปยังเมืองฟ้าหอม! วางใจได้เลยน้องเจียงเฉิน ตราบที่หยานหงไท่ยังอยู่ จะไม่มีผู้ใดสามารถแตะต้องแม้แต่หญ้า เศษไม้หรือคฤหาสน์ตระกูลเจียงได้”
หยานหงไท่รับปาก
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโส”
เจียงเฉินประสานมือแสดงความเคารพต่อหยานหงไท่ ด้วยสัญญาที่หยานหงไท่ได้ให้ไว้ เจียงเฉินจะได้คลายความกังวล ต่อไปเขาจะต้องชำระหนี้กับตระกูลลี หลังจากเสร็จสิ้น เจียงเฉินก็จะหมดห่วงและจะขึ้นเขาไปและเริ่มการเดินทางต่อ
หยานหงไท่ออกจากเมืองสีชาดและออกเดินทางไปยังเมืองฟ้าหอม ในส่วนตระกูลหยาน พวกเขากำลังเตรียมตัว พวกเขาได้เตรียมตัวรับมือเมื่อตระกูลลีบุกมา ดังนั้นพวกเขาจะไม่เตรียมตัวไม่ได้
ณ ตระกูลลี!
ไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกเขาได้จมอยู่กับความโศกเศร้าและความเศร้าโศก งานศพสำหรับลีช่างห่าวยังไม่เสร็จทีและตอนนี้พวกเขาต้องจัดงานศพของลีชานหมิงเพิ่ม บรรยากาศภายในตระกูลลีหดหู่ยิ่งนัก บรรยากาศชวนหดหู่นี่มาจากความกราดเกรี้ยวของลีชานเย่ว์ แม้แต่ยามที่มีระดับต่ำสุดและคนรับใช้ต่างหวาดกลัว พวกเขาไม่กล้าแม้แต่หายใจเสียงดัง
ภายในลานกว้างตระกูลลี โถงไว้ทุกข์ขนาดใหญ่สร้างมาจากชุดสีดำ ภายในกลางโถง มีโลงศพทั้งสองวางอยู่ มีคำสามคำที่ได้เขียนบนโลงศพ ‘จดจำการตาย’ ลีชานเย่ว์และยอดฝีมือแก่นมนุษย์สองสามคนยืนด้านหน้าพิธี
ในขณะนั้น… สายลับจากตระกูลลีวิ่งหน้าตาตื่นเหงื่อโชกเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้น?”
ยอดฝีมือแก่นมนุษย์ถามพร้อมขมวดคิ้ว
“ท่านผู้นำตระกูลขอรับ เจียงเฉินมันยังมีชีวิตอยู่!”
ชายคนนั้นพูดอย่างระมัดระวัง
ปัง!
แน่นอนเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ความกราดเกรี้ยวของลีชานเย่ว์ได้ระเบิดออกมา เขาหันหัวไปด้านข้าง แผลเป็นบนหน้าของเขาดูน่ากลัว
“เจ้าพูดว่าเช่นไรนะ? เฉินซวงมัวทำอะไรอยู่?! ทำไมเขาไม่ไปฆ่าเจียงเฉิน?!”
ลีชานเย่ว์กราดเกรี้ยวอย่างมาก
“เจียงเฉินยังมีชีวิตอยู่ขอรับ! ข้ารับใช้ของท่านได้เห็นตัวตาตัวเอง เห็นเขาเข้าไปยังหอคอยหมอกฝนด้วยกันกับหมาตัวสีเหลือง! โอ๊ะ และมีหญิงสาวแต่งชุดสีม่วงตามพวกเขาเข้าไปด้วยขอรับ ดูเหมือนว่านางอายุราวๆ 14-15 ปี! และข้าไม่เห็นศิษย์จากนิกายกระบี่สวรรค์กลับมาจากภูเขาด้วยขอรับ”
ชายคนนั้นพูดอย่างระมัดระวัง เขากลัวว่าหากเขาไปยั่วลีชานเย่ว์ที่เปี่ยมด้วยโทสะเช่นนี้ ลีชานเย่ว์อาจจะระบายความกราดเกรี้ยวและซัดเขาตายได้ ไม่มีผู้ใดต้องการที่จะตายเช่นนั้น และเขาก็รู้มาว่าลีชานเย่ว์ได้สังหารคนของตัวเองไปสองคนด้วย
สายลับผู้นี้จำหยานเฉินหยู่ไม่ได้ หลังจากที่ทุกข์ทรมานจากชีพจรเก้าหยินตั้งแต่ยังเป็นเด็กสาว หยานเฉินหยู่ไม่เคยที่จะก้าวเท้าออกนอกตระกูลหยาน ขณะที่นางได้เติบโตมาเป็นหญิงสาวที่น่ารัก มันชัดเจนว่าชายผู้นี้จำนางไม่ได้
“ไอ้เด็กเป**นั่นโชคดีจริง ฆ่ามันยากชะมัด”
ลีชานเย่ว์กำหมัดแน่นจนได้ยินเสียงแตกหัก เขาคิดว่าพลังและความสามารถของเฉินซวง เขาจะสามารถที่จะฆ่าเจียงเฉินได้อย่างแน่นอน หากเป็นเช่นนี้เขาก็ไม่สามารถที่จะสังหารเจียงเฉินด้วยมือของเขาและแก้แค้นได้ เขาจะต้องพุ่งเป้าไปยังตระกูลเจียงที่เมืองฟ้าหอม หาโอกาสที่จะจัดการพวกนั้น
แต่เขาไม่เคยคิดว่าเจียงเฉินมันจะโชคดีลงจากเขาต้นกำเนิดได้โดยยังมีชีวิต จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไร? สำหรับหญิงสาวที่แต่งชุดสีม่วง ลีชานเย่ว์ไม่ได้สนใจนาง เขาสนเพียงแค่ความตายของเจียงเฉินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“ท่านผู้นำตระกูลขอรับ ไอ้เด็กนี่มันลึกลับมาก แม้แต่คนจากนิกายกระบี่สวรรค์ยังไม่สามารถสังหารเขาได้ ท่านคิดว่าเฉินซวงและหรวนหลิงจะโดนเจียงเฉินฆ่าหรือเปล่าขอรับ?”
ชายคนนั้นพูดพร้อมขมวดคิ้ว
“ข้าคิดว่ามันต้องฆ่าพวกนั้นเป็นแน่! ไอ้เด็กนี่เติบโตไวยิ่งนัก พวกเราต้องหาทางที่จะจัดการมันให้เร็วที่สุด หากปล่อยให้มันเติบโตต่อไป ข้าไม่คิดว่าการใช้เวลาในการแก้แค้นมากนั้นมันจะเป็นไปไม่ได้ ตระกูลลีของพวกเราจะถูกไอ้เด็กนั่นทำลายก็เป็นได้”
ผู้อาวุโสตระกูลลีพูด ในที่สุดการเติบโตของเจียงเฉินก็ทำให้พวกเขาหวาดกลัว การมีตัวตนของเจียงเฉินเพียงคนเดียวเป็นภัยคุกคามร้ายแรงสำหรับตระกูลลี พวกเขาต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
“เจ้าแน่ใจรึว่าเจียงเฉินมันกลับไปที่ตระกูลหยานไม่ได้กลับไปที่เมืองฟ้าหอม?”
ลีชานเย่ว์มองไปยังสายลับ
“ข้ารับใช้ของท่านเป็นเห็นได้มันชัดเจน ข้อมูลของข้าไม่ผิดแน่”
สายลับตอบกลับมา
“ดูท่าเวลาที่จะทำสงครามกับตระกูลหยานจะมาถึงแล้ว! รวบรวมกำลังพลของพวกเรา เตรียมตัวทำสงครามกับตระกูลหยาน และฆ่าเจียงเฉินด้วยทั้งหมดที่มี”
ลีชานเย่ว์พูดขณะที่ขบฟันแน่น บุตรทั้งสามของเขาตายหมด เขาไม่สนอะไรอีกแล้ว เขาต้องชิงลงมือตอนนี้ หากเจียงเฉินกลับไปยังเมืองฟ้าหอม เขากลัวยอดฝีมือแก่นสวรรค์มากไม่กล้าที่จะโจมตีเขา แต่สำหรับตระกูลหยาน ยังมีโอกาสที่จะฆ่าเจียงเฉินตราบที่มันอยู่กับตระกูลหยาน
“ท่านผู้นำตระกูลขอรับ พวกเราสูญเสียคนเป็นจำนวนมากและกำลังใจของพวกเราถดถอย….หากพวกเราเริ่มสงครามกับตระกูลหยาน….ข้าไม่คิดว่ามันจะเหมาะสม”
ชายคนหนึ่งที่กังวลพูดออกมา
“ไม่ต้องพูดอะไรอีก! มันต้องมีสักทางล่ะ ข้าจะใช้เลือดของเจียงเฉินและคนจากตระกูลหยานสังเวยแก่บุตรชายข้าทั้งสามและเหล่าอัจฉริยะที่ได้ตกตายไป”
ลีชานเย่ว์โบกมือและเขาได้ตัดสินใจแล้ว เขาจะต้องฆ่าเจียงเฉินให้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
ในคืนนั้นทั้งสองตระกูลได้เตรียมตัวทำสงครามในช่วงเวลาเดียวกัน ผู้คนภายในเมืองต่างรู้สึกถึงสายลมอ่อนๆพัดมาก่อนที่พายุจะโหมกระหน่ำ จากที่เห็นธุรกิจทั้งสองตระกูลแปรเปลี่ยนไป ดูเหมือนว่าทั้งสองตระกูลต่างเอาจริงในเวลานี้
“ข้าเห็นร้านต่างๆของตระกูลลีต่างปิดประตูแน่นกันหมดและหอคอยหมอกฝนเองก็ปิดเช่นกัน ดูเหมือนว่าทั้งสองตระกูลจะทำสงครามกันจริงๆ…..เมืองสีชาดกำจังจะตกสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง”
“ทั้งหมดนั่นเป็นเพราะเจ้าเจียงเฉินน่ะแหละ! เจ้านี่ได้สังหารบุตรของลีชานเย่ว์ทั้งหมด แม้แต่ลีชานหมิงที่ทะลวงเข้าสู่แก่นแท้มนุษย์แล้วยังโดนเขาสังหาร! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลีชานเย่ว์ถึงได้เกรี้ยวกราดนัก”
“พวกเจ้าได้ยินเรื่องนี้หรือไม่! ในระหว่างการประเมินผลบนเขาต้นกำเนิดวันนี้เหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์ทั้งหมดจากตระกูลลีได้โดนเจียงเฉินสังหารหมดสิ้น! เจียงเฉินมันเป็นคนอาจหาญยิ่งนัก เขากล้าแม้กระทั่งสังหารศิษย์จากนิกายกระบี่สวรรค์!”
“เขาอำมหิตยิ่งนัก เขากล้าสังหารกระทั่งศิษย์จากนิกายกระบี่สวรรค์! ชายคนนั้นช่างโหดเหี้ยมที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเจอมา! การจุดระเบิดความวุ่นวายในเมืองนี้ทั้งหมดเป็นเพราะเขา”
“ชายคนนี้เป็นร่างอวตารของมารร้าย! ข้าได้ยินมาว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่เมืองฟ้าหอมนั้นเพราะเขาทั้งนั้น! ตระกูลมู่หลงได้ถูกเขากวาดล้างโดยสมบูรณ์! เขาทั้งเหี้ยมโหดทั้งอำมหิต!”
………………………………………………………….
ภายในเมืองตกอยู่ในความโกลาหลและทุกคนต่างทำอะไรไม่ถูกเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะไม่มีผู้ใดที่ไปที่ใดในเมืองที่ไม่ได้ยินการพูดถึงเจียงเฉิน จากเมืองฟ้าหอมยันเมืองสีชาด เจียงเฉินได้กลายเป็นร่างอวตารของปีศาจ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ที่นั่นก็จะเกิดปัญหาตามมาเสมอ!
ในวันที่สามทั้งสองตระกูลได้เตรียมพร้อมสำหรับความรุนแรง ลีชานเย่ว์ยังไม่ได้ฝังบุตรทั้งสองของเขา เขาต้องการที่จะล้างแค้นให้พวกเขา พวกเขาจะได้หมดห่วง
“ท่านผู้นำตระกูล ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้วขอรับ”
ยอดฝีมือแก่นมนุษย์พูดออกมา
“ดี! คืนนี้จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างตระกูลลีและตระกูลหยาน”
ลีชานเย่ว์พูดอย่างเย็นชา
“ท่านผู้นำตระกูลขอรับ คนของเราต่างมีกำลังใจน้อยนิด ทางสายสืบของเราติดต่อมาว่าทางด้านตระกูลหยานเองได้เตรียมตัวอย่างดีเหมือนกันขอรับ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้พวกเราไม่สามารถสู้ได้นะขอรับ”
บางคนพูดออกมาด้วยความกังวล
“หยุดพูดเช่นนั้นซะ ไม่มีการถอยกลับ! หากแม้ทั้งสองฝ่ายได้รับความทุกข์ และหากแม้ว่าตระกูลลีของพวกเราจะพบกับจุดจบวันนี้ ข้าก็จะฆ๋าเจียงเฉินในคืนนี้! หากข้าไม่ฆ่าแล้วมันจะเติบโตเรื่อยๆและตระกูลลีของพวกเราทีตัวเลือกแค่ทางเดียวคือรอให้มันมาหาและฆ่าพวกเรา”
ลีชานเย่ว์เป็นคนไร้ความปราณี หากเขาไม่เป็นเช่นนี้เขาคงไม่ได้อยู่ตำแหน่งนี้ในเมืองสีชาด
ในตอนนั้นเอง ห่างจากเมืองสีชาดพันไมล์ มีเหยี่ยวดำขนาดยักษ์บินออกมาจากเขาต้นกำเนิด มันรวดเร็วอย่างยิ่ง มันสูงกว่าสิบเมตรและมีปีกสีดำคู่หนึ่งที่แข็งอย่างกับเหล็ก
“ฮ่าฮ่า ข้าถูกจองจำมากว่ายี่สิบปี ตอนนี้ข้าเป็นอิสระแล้ว!”
เหยี่ยวดำหัวเราะดังลั่น มันดุกดิกร่างกายเปลี่ยนกลายเป็นชายแก่รุ่นราวห้าสิบปี ชายผู้นี้รูปร่างผอมสวมชุดสีดำ เขามีตาเฉียบคมและเยือกเย็นคู่หนึ่ง
“มีเมืองอยู่ด้านหน้า ลองไปดูหน่อยดีกว่า”
ชายแก่ผู้นี้ขยับตัวเล็กน้อยและแปลงกลับเป็นเหยี่ยวดำและบินตรงไปยังเมืองสีชาดด้วยความเร็วสูง ราชาปีศาจระดับแก่นแท้สวรรค์ ความเร็วของเขาเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้เขาเป็นสัตว์ปีศาจสายอากาศ เพียงแค่วินาทีเดียวเขาก็มาถึงใจกลางเมืองสีชาด
ฮู่มมม
การมาถึงของเหยี่ยวดำก่อให้เกิดพายุขึ้นเหนือเมือง แก่นแท้สวรรค์สร้างความกดดันแก่ทุกๆคน
“ดูนั่น! เหยี่ยวขนาดยักษ์ มาด้วยพลังมหาศาล”
“สวรรค์! นี่มันราชันย์ปีศาจระดับแก่นแท้สวรรค์ มันมาที่นี่ด้วยเหตุอันใด?”
…………………………………………..
หลายๆคนมองไปยังเหยี่ยวดำยักษ์ด้วยความตกตะลึง ในเมืองแห่งนี้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ระดับแก่นแท้สวรรค์ไม่เคยปรากฎตัวมาก่อน
ณ ตระกูลหยาน
เจียงเฉินได้มองไปบนฟ้าพร้อมขมวดคิ้ว ด้วยสายตาของเขาสามารถบอกได้อย่างง่ายดายว่ามันอยู่ระดับใด เหยี่ยวดำนี่อยู่ระดับแก่นแท้สวรรค์จุดสูงสุดของขั้นต้น และใกล้ที่จะทะลวงเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์ขั้นกลาง
หวงต้ามองไปยังเหยี่ยวดำ ทันใดนั้นก็เกิดรอยยิ้มบนหน้ามันอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“ราชันย์ปีศาจขั้นแก่นแท้สวรรค์”
หยานเจิ้นหยุนตะลึงอย่างมาก สงครามระหว่างตระกูลลีและตระกูลหยานใกล้จะเริ่ม แต่ทันใดนั้นราชาปีศาจขั้นแก่นแท้สวรรค์ได้ปรากฎตัว การปรากฎตัวของมันเพียงตัวเดียวทำให้เมืองปั่นป่วน และบางทีมันอาจจะสร้างความปั้นป่วนยิ่งกว่านี้
เหยี่ยวดำได้บินขึ้นเหนือเมืองและขยับตัวเล็กน้อย สายตาของมันมุ่งไปยังทิศทางที่ตระกูลลีตั้งอยู่
“ที่นี่มีสมบัติบางอย่างอยู่! แม้มันจะซ่อนมิดชิด ข้าสามารถที่จะหาพวกมันได้! ด้วยกลิ่นที่คุ้นๆ….มันเป็นวิญญาณอสูรเหยี่ยวปีกโลหิต! ฮ่าฮ๋าฮ่า เหยี่ยวปีกโลหิต!”
ทันใดนั้นเหยี่ยวดำก็หัวเราะเสียงดังออกมา มันเก็บปีกและกลายเป็นร่างชายแก่มันลงจอดหน้าคฤหาสน์ตระกูลลี
เหยี่ยวปีกโลหิตเป็นเหยี่ยวสายพันธุ์หายาก มันเป็นสายเลือดชั้นสูงในหมู่เหยี่ยว เหยี่ยวดำยักษ์เองก็เป็นเหยี่ยวเช่นกัน เขาจึงมีประสาทสัมผัสในการรับรู้สิ่งที่เกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ตน นี่สาเหตุที่เหยี่ยวดำสามารถที่จะสัมผัสได้อย่างง่ายดาย
เหยี่ยวดำยักษ์นั่นไม่เคยคิดว่าจะมีวิญญาณอสูรของเหยี่ยวปีกโลหิตอยู่ในเมืองเล็กๆ หากเขาได้วิญญาณอสูรนี้ไป เขาสามารถที่จะดูดซับสายเลือดเหยี่ยวปีกโลหิตได้และสืบทอดความสามารถโดยธรรมชาติของมัน ทำให้ตัวของมันเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นทั่วร่าง
ภายในเรือนที่พักของตระกูลลี ทุกๆคนต่างให้ความสนใจกับเหยี่ยวดำขนาดยักษ์ เหยี่ยวดำขนาดยักษ์ตอนนี้ได้อยู่ในรูปลักษณ์ของชายแก่ ทันใดนั้นมันร่อนลงตรงหน้าลีชานเย่ว์ ตาของเขาเฉียบคมดั่งดาบจ้องทุกๆคนก่อนที่สุดท้ายลงมาอยู่ตรงหน้าลีชานเย่ว์
“ส่งวิญญาณอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตมาเดี๋ยวนี้! หากไม่ส่งมาข้าจะสังหารทุกๆคนไม่ให้เหลือรอด”
สิ่งแรกที่เหยี่ยวดำทำคือข่มขู่นั่นเอง
************************************************************************
จบจ้า
โปรดติดตามตอนต่อไป