I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 61 ค่ำคืนที่สงครามอุบัติ

| Dragon-Marked War God | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

 

แปลไทยโดย : Takumi Kun


ตรวจทาน       : Subaru-Kyun


************************************************************************


พลังได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากราชันย์ปีศาจระดับแก่นแท้สวรรค์ทำให้ทุกคนใจเต้นระส่ำ พวกเขาตอนนี้ต่างหวาดกลัว ทุกๆคนได้มองไปยังลีชานเย่ว์ เป็นที่ประจักษ์ว่าราชันย์ปีศาจมาหาท่านผู้นำตระกูล


จิตวิญญาณอสูรเหยี่ยวปีกโลหิต? มันคืออะไร….หลายคนที่อยู่ตรงนี้ไม่เคยแม้แต่ได้ยินเกี่ยวกับเหยี่ยวปีกโลหิต หากได้ไปยั่วยุราชันย์ปีศาจและเขาจะทำลายตระกูลลีอย่างง่ายดาย? มันเป็นมุขตลกใช่ไหม? หากตระกูลลีที่จะทำสงครามกับตระกูลหยานได้จบสิ้นก่อนสงครามจะเริ่ม? มันคงเป็นความโชคร้าย


ลีชานเย่ว์ตื่นตระหนก เขาโดนสายตาที่เย็นยะเยือกของชายแก่ในชุดสีดำ มันให้ความรู้สึกน่าขนลุก เขารู้ว่าวิญญาณอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตคือสิ่งใด มันเป็นสัตว์ปีศาจที่ทรงพลังมาก แต่เขาไม่มีวิญญาณปีศาจตนนั้นจริงๆ


“ท่านผู้ทรงเกียรติ ท่านมีอะไรผิดพลาดหรือไม่ขอรับ? ที่นี่ไม่มีวิญญาณอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตในตระกูลลี”


ลีชานเย่ว์ก้มหัวอย่างสุภาพต่อชายแก่ผู้นี้ เขาไม่กล้าที่จะไม่สุภาพและเขาพยายามที่จะพูดให้นุ่มนวลที่สุดเท่าที่เขาทำได้ เขากลัวที่จะไปยั่วยุชายแก่ผู้นี้ เขาอาจโดนตบตายได้


“วิญญาณอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตที่อยู่กับเจ้า ฮึ่ม! ข้าจะให้เวลาเจ้าสามลมหายใจส่งมันมาให้ข้า! หากไม่ ข้าก็จะสังหารพวกเจ้าที่อยู่ที่นี่ทุกคน!”


ชายแก่ที่สวมชุดดำพูดออกมาด้วยท่าทางเย็นชาไร้น้ำเสียงความรู้สึก จิตสังหารของเขานั้นคนอื่นสามารถตรวจพบได้โดยง่าย ไม่มีใครสงสัยในสิ่งที่เขาพูด


สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไป ไม่มีผู้ใดสงสัยในสิ่งที่ชายแก่ในชุดดำพูด หากลีชานเย่ว์ไม่ได้ส่งวิญญาณอสูรนั่นในสามลมหายใจ ชายแก่ผู้นี้จะสังหารพวกเขาทั้งหมด ด้วยความสามารถของพวกเขา ไม่สามารถที่จะป้องกันตัวพวกเขาเองจากราชันย์ปีศาจแก่นแท้สวรรค์ได้


ลีชานเย่ว์ตื่นตระหนกหลั่งเหงื่อเย็นออกมาทันที วิญญาณอสูรเหยี่ยวปีกโลหิต มันคือสิ่งนั้น? เขาไม่ได้มีมันจริงๆ แต่ชายตรงหน้าเขาแน่ใจว่าเขาต้องมีมัน


นั่นทำให้ลีชานเย่ว์รู้สึกอารมณ์เสียมากขึ้น นั่นเพราะชายตรงหน้าเขาไม่ใช่คนที่จะไปตอแยด้วยได้ หากเขาไม่สามารถที่จะส่งมันให้แก่เขาภายในสามลมหายใจ…..นี่ไม่ใช่มุขตลกนะ


“อย่าบอกนะว่าเป็นวิญญาณอสูรสีแดงอันนี้?”


ทันใดนั้นลีชานเย่ว์ได้นึกอะไรบางอย่างออกในใจ เขารีบเอาของออกจากกระเป๋าพิเศษของเขา


“นี่คือวิญญาณอสูรที่ท่านผู้ทรงเกียรติกำลังตามหาอยู่?”


ลีชานเย่ว์ถือวิญญาณอสูรสีแดงขึ้นมาและถาม เขาได้วิญญาณอสูรนี่มาจากอุบัติเหตุเมื่อไม่กี่ปีก่อนในขณะที่ออกไปด้านนอก แม้เขาไม่รู้ว่าวิญญาณอสูรนี่มันคืออะไร แต่มันมีโลหิตและปราณที่แข็งแกร่ง ตลอดจนมีพลังประหลาด ลีชานเย่ว์จึงรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งพิเศษ นั่นเป็นเหตุที่เขาเก็บไว้ในมุมหนึ่งของที่เก็บของ หลังจากผ่านไปทุกๆปี เขาไม่เคยสนใจมันมาก เขาประหลาดใจมากที่มันสามารถดึงดูดราชันย์ปีศาจได้


อย่างไรก็ตามลีชานเย่ว์ยังไม่แน่ใจเพราะวิญญาณอสูรตนนี้เป็นเพียงระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น แต่เหยี่ยวดำยักษ์ที่อยู่ตรงหน้าอยู่ระดับราชันย์ปีศาจแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้น เขาจะเอาวิญญาณอสูรแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้นจริงหรือ?


“มันคือเหยี่ยวปีกโลหิตจริงๆ! ฮ่าฮ๋า วิญญาณอสูรนี่มีสายเลือดสมบูรณ์ของเหยี่ยวปีกโลหิต ข้าช่างโชคดีเสียจริง”


เมื่อชายแก่มองไปยังวิญญาณอสูรสีแดง เขาหัวเราะอย่างตื่นเต้นทันที สำหรับคนทั่วไป วิญญาณอสูรนั้นก็คือวิญญาณอสูรทั่วไป แต่สำหรับเผ่าเหยี่ยวปีศาจนั้น มันเป็นสมบัติที่นับค่าไม่ได้ สิ่งที่ชายแก่ผู้นี้สนใจไม่ใช่ระดับของวิญญาณอสูร แต่เป็นสายเลือดที่อยู่ภายใน เหยี่ยวปีกโลหิตเป็นราชาในหมู่เหยี่ยวปีศาจ สายเลือดของมันมีค่ามากอย่างไม่น่าเชื่อ มนุษย์ธรรมดาและสัตว์ปีศาจไม่สามารถที่จะดูดซับสายเลือดได้ แต่ชายแก่ผู้นี้สามารถ 


เมื่อลีชานเย่ว์ได้นำวิญญาณอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตออกมา คนของตระกูลลีทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างน้อยชีวิตของพวกเขาปลอดภัยแล้ว


“ส่งวิญญาณอสูรนั่นมาให้ข้า!”


ชายแก่ในชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สามารถโต้แย้งได้


“ขอรับ ท่านผู้ทรงเกียรติ”


ลีชานเย่ว์ตอบรับ แต่เมื่อเขาจะส่งวิญญาณอสูรไปให้ทันใดนั้นเขาก็ดึงกลับเข้ามา ตาของลีชานเย่ว์ส่องแสง และมีรอยยิ้มเย็นบนหน้าเขา


“ท่านผู้ทรงเกียรติขอรับ วิญญาณอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตข้าจะส่งให้ท่านแน่นอน แต่ข้าต้องการขอบางอย่างจากท่านผู้ทรงเกียรติขอรับ”


ลีชานเย่ว์พูด นี่เป็นโอกาสที่ดีของเขา ด้วยกำลังและขวัญกำลังใจของตระกูลลีตอนนี้หากพวกเขาต้องทำสงครามกับตระกูลหยาน พวกเขาไม่ได้ประโยชน์อันใด แต่หากราชันย์ปีศาจได้ช่วยพวกเขา ผลมันจะออกเป็นคนละเรื่อง


“อะไร? เจ้ากล้าดีเช่นไรมาต่อรองกับข้า?!”


ชายแก่ชุดดำได้ปลดปล่อยพลังออกมา ใบหน้าของเขาดูกราดเกรี้ยวอย่างมาก


“ข้ามิกล้า”


ลีชานเย่ว์คุกเข่าลงและถือวิญญาณอสูรขึ้นบนอากาศ “ข้าเพียงแค่ต้องการให้ท่านผู้ทรงเกียรติช่วยข้า! ข้าไม่ได้มีเจตนาที่จะต่อรองท่าน! หากท่านผู้ทรงเกียรติไม่ต้องการที่จะช่วย ข้าไม่กล้าที่จะพูดสิ่งใด! โปรดรับวิญญาณอสูรเถิด ท่านผู้มีเกียรติ”


“อืม พวกเจ้ามีทัศนคติที่ดีนะและอารมณ์ของข้าก็ดีด้วยวันนี้ แล้วคำขอของเจ้าสำหรับวิญญาณอสูรนี่คือสิ่งใด สิ่งใดคือสิ่งที่เจ้าต้องการความช่วยเหลือจากข้า?”


ชายแก่หยิบวิญญาณอสูรและจ้องไปยังลีชานเย่ว์ในขณะที่พูด 


ลีชานเย่ว์มีความสุขสุดๆเมื่อได้ยิน เขาเป็นคนฉลาด เขารู้ว่าหากใช้ด้วยวิญญาณอสูรมาเป็นของต่อรอง มันจะเป็นการยั่วยุเหยี่ยวดำ สัตว์อสูรทั้งหมดต่างอารมณ์ร้อนทั้งสิ้นดังนั้นมันจะส่งผลในทางตรงข้ามและทำให้ตระกูลลีถูกสังหารหมู่ นั่นเป็นเหตุที่ลีชานเย่ว์ทำตามสิ่งที่ชายแก่นั่นขอมาขณะที่พูดในเวลาเดียวกันก็บรรลุเป้าหมายด้วย


“ข้าต้องการให้ท่านผู้ทรงเกียรติช่วยข้าสังหารคนสองคน”


ลีชานเย่ว์พูด


“ฮ่าฮ่า ช่างง่ายดายยิ่ง! บอกข้ามาเจ้าต้องการที่จะสังหารผู้ใด?”


ชายแก่ในชุดดำเริ่มหัวเราะเสียงดังออกมา สำหรับเขาการฆ่าแค่สองคนเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เหมือนหยิบเค้ก


“คนแรกคือหัวหน้าตระกูลหยาน หยานเจิ้นหยุน! และอีกผู้หนึ่งคือยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ที่อยู่เมืองฟ้าหอม หากท่านผู้ทรงเกียรติช่วยข้าสังหารทั้งสอง และจะเป็นการช่วยเหลือที่ยอดเยี่ยมแก่พวกเรา”


ลีชานเย่ว์คุกเข่ากับพื้นแล้วพูดขึ้น เขาไม่กล้าขอสิ่งที่มันมากเกินไปเช่นการขอให้ไปทำลายตระกูลหยาน ตราบที่ได้ช่วยเขาสังหารหยานเจิ้นหยุนและยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ลึกลับที่เมืองฟ้าหอม ตระกูลลีจะสามารถทำลายตระกูลหยานและควบคุมเมืองสีชาดได้


สำหรับเจียงเฉินเขาต้องการที่จะจับมันมาทรมานทีละน้อยๆจนมันตาย เขาจะไม่ยอมให้มันหนีโดยกายชิงตายก่อน


“โอ้? ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ได้มายังเมืองเล็กๆได้อย่างไรเนี่ย?”


ชายแก่ชุดดำขมวดคิ้ว


“ท่านผู้ทรงเกียรติขอรับ ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ผู้นั้นอยู่ในขั้นต้นขอรับ เขาไม่ใช่ภัยคุกคามของท่านผู้ทรงเกียรติแม้แต่น้อย”


ลีชานเย่ว์มองเห็นชายแก่ชุดดำลังเลจึงรีบบอกเขา ในความจริงแล้วเขาไม่ได้เห็นหน้าตาของยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ผู้นั้น ดังนั้นเขาไม่ได้รู้ หากคนผู้นั้นอยู่ระดับแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้น…..้เขาจึงพูดเพื่อให้ชายแก่ได้ช่วยเขา


“เข้าใจแล้ว ข้าจะช่วยเจ้า แก่นสวรรค์ของมนุษย์มีประโยชน์สำหรับข้าเช่นกัน ข้าไม่เคยคาดคิดว่าจะสามารถที่จะหายอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ได้ในสถานที่เล็กๆ น่าสนใจจริงๆ แต่ในกรณีนี้เจ้าต้องรอจนข้าดูดซับวิญญาณอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตเสร็จสิ้นก่อน ข้าจะช่วยเจ้าสังหารยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ผู้นั้นให้”


ชายแก่ชุดดำบอก ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ไม่ใช่คนทั่วๆไป พวกเขาไม่ใช่อะไรที่จะรับมือได้ง่าย แม้ชายแก่อย่างเขายังต้องระวังตัว ตอนนี้เขาได้มีวิญญาณอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตมันสำคัญอย่างมากหากสำเร็จเขาจะยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น นอกเหนือจากนั้น เหตุที่เขาได้ตกลงที่จะช่วยลีชานเย่ว์เพราะแก่นสวรรค์ในร่างกายของยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์นั้น เป็นสิ่งที่ให้ผลประโยชน์ที่ดีแก่สัตว์ปีศาจ


“แน่นอน ไม่จำเป็นต้องรีบที่จะสังหารยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ผู้นั้น…..แต่ข้าขอให้ท่านผู้ทรงเกียรติช่วยข้าสังหารหยานเจิ้นหยุนก่อนท่านผู้ทรงเกียรติจะปิดประตูฝึกตนในการดูดซับวิญญาณอสูรขอรับ”


ลีชานเย่ว์มีรอยยิ้มชั่วร้ายอยู่บนใบหน้า ตระกูลเจียงไม่ได้สำคัญนักในตอนนี้ การทำลายตระกูลหยานฆ่าเจียงเฉินนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้


ทุกๆคนในตระกูลลีต่างมีหน้าตาปิติยินดี ไม่มีใครในพวกเขาที่มั่นใจในการรบกับตระกูลหยาน แต่ตอนนี้พวกเขาได้รับการช่วยเหลือจากราชันย์ปีศาจระดับแก่นแท้สวรรค์ในการสังหารหยานเจิ้นหยุน พวกเขาจึงไม่กระวนกระวายอีก


“ดี การฆ่ายอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์มันง่ายดายมากสำหรับข้า”


ชายแก่ชุดดำเก็บวิญญาณอสูรและตกลงรับคำลีชานเย่ว์ 


“นี่มันดีมากเลยสำหรับข้า ข้าไม่ขอปิดบังท่านผู้ทรงเกียรติ ตระกูลลีของข้ากำลังจะทำสงครามกับ

ตระกูลหยาน แต่ตอนนี้ท่านผู้ทรงเกียรติได้มาช่วยพวกเรา พวกเราจะต้องชนะในสงครามใหญ่ครั้งนี้แน่นอน ข้าคิดว่าคงไม่ต้องรอแล้ว สงครามจะเริ่มในคืนนี้!”


ลีชานเย่ว์ยืนขึ้นจากท่าคุกเข่า ความตื่นเต้นนั้นแสดงออกบนใบหน้าของเขา ทุกๆสิ่งจะทำงานออกมาเช่นนี้ แผนของลีชานเย่ว์คือสู้กันทั้งสองฝ่ายจนจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพ่ายแพ้ เขาไม่เคยคิดว่าวิญญาณอสูรที่เขาได้รับมาเมื่อหลายปีก่อนจะดึงดูดราชันย์ปีศาจระดับแก่นแท้สวรรค์ได้และได้ช่วยเหลือเขา ตราบเท่าที่ชายแก่ชุดดำได้ฆ่าหยานเจิ้นหยุน จะไม่มีผู้ใดในตระกูลหยานที่สามารถสู้เขาได้


หลังจากทำลายตระกูลหยานและฆ่าเจียงเฉินเรียบร้อย เขาจะรอชายแก่ผู้นี้ดูดซับวิญญาณอสูร และจะมุ่งไปยังเมืองฟ้าหอมและทำลายตระกูลเจียง หลังจากนั้นเมื่อสงครามได้จบลงตระกูลลีจะควบคุมเมืองสีชาดอย่างสมบูรณ์แบบ


“อืม”


ชายแก่ผงกหัว มีคำพูดว่าหากมีคนให้เงินแก่เจ้า เจ้าจะต้องปกป้องคนผู้นั้นจากภัยอันตราย ลีชานเย่ว์รู้วิธีในการพูดหว่านล้อมชายแก่เป็นท่านผู้ทรงเกียรติ ยกยอเขาอย่างมาก อย่างที่สองคือ เขาเพิ่งพ้นจากการจองจำและได้รับวิญญาณอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตทันทีดังนั้นเขาจะมีความสุข นั่นเป็นเหตุผลที่ช่วยให้ลีชานเย่ว์ในการสังหารคนสองคนเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกินความสามารถของเขา


ขวัญกำลังใจของลีชานเย่ว์กลับมาสูงดังเดิม เขาตะโกนใส่คนของตระกูลลี “ทุกคนจงฟัง หลังจากนี้เจ้าต้องตามข้าไปบุกตระกูลหยาน! ด้วยการช่วยเหลือของท่านผู้ทรงเกียรติ หยานเจิ้นหยุนจะต้องตายแน่นอน! พวกเราตระกูลลีจะต้องได้รับชัยชนะ! คืนนี้ตระกูลหยานจะหายไปจะไม่มีผู้ใดเหลือรอด”


“จะไม่มีผู้ใดรอด จะไม่มีผู้ใดรอด………”


เดิมคนจากตระกูลลีนั้นมีขวัญกำลังใจน้อย แต่เพราะราชันย์ปีศาจแก่นแท้สวรรค์ ทำให้กำลังใจพวกเขากลับคืนอีกครั้ง พวกเขารู้สึกว่าการต่อสู้ในวันนี้ ตระกูลลีจะเป็นผู้ชนะ! ตระกูลหยานไม่สามารถรับมือได้ พวกเขาจะถูกตระกูลลีขยี้ทิ้ง


“สวรรค์! ท้องฟ้าได้เปลี่ยนแปลงจริงๆ! ตระกูลลีและหอคอยหมอกฝนจะสู้กันจริงๆแล้วสินะ”


“พวกเขากำลังจะทำสงคราม! มีเพียงความตายเท่านั้นที่จะหยุดสงครามได้! ตระกูลลีและตระกูลหยานได้ส่งกำลังคนในเวลาเดียวกัน ข้าคาดเดาว่าพวกเขาจะสู้กันใจกลางจตุรัส!”


“ท้องฟ้าที่อยู่เหนือเมืองสีชาดกำลังเปลี่ยนไป! รีบมาเป็นพยานในการแสดงตอนนี้!”


“ระวังก้นเจ้าไว้ด้วย เฉพาะผู้ไม่เกรงกลัวความตายเท่านั้นที่จะออกไป! การต่อสู้ในหมู่พยัคฆ์ หากเจ้าที่เป็นลิงไปยืนข้างๆ ไม่ใช่ว่าไปหาที่ตาย?”



………………………………………………………….


เมืองตกอยู่ในความโกลาหล คนส่วนใหญ่จะหลบอยู่ในบ้านของพวกเขาเมื่อพวกเขาได้ทราบข่าว พวกเขากลัวที่จะบาดเจ็บจากการโดนลูกหลง ส่วนคนที่อยากรู้อยากเห็นได้ไปยืนห่างๆจากใจกลางจตุรัสรอชมการแสดง


หนึ่งชั่วโมงครึ่งผ่านไป ทั้งสองตระกูลได้พบกันที่ใจกลางจตุรัส ใจกลางจตุรัสในเมืองสีชาดนั้นกว้างขวางอย่างมาก สามารถที่จะจุคนที่ต่อสู้ได้นับพัน ในเวลาเดียวกันนี่คือสาเหตุที่หยานเจิ้นหยุนต้องการทำสงครามที่นี่หากเกิดการต่อสู้ที่รุนแรงมากขึ้นแถวๆหอคอยหมอกฝน แน่นอนว่ามันจะถูกทำลาย



************************************************************************



จบจ้า


ตอนนี้กำลังค้าง…….To be continue….

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments