ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
แปลไทยโดย : Takumi Kun
ตรวจทาน : Subaru-Kyun
=====================================================
ทั้งสองฝ่ายต่างปลดปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างรุนแรง พวกเขาอยู่ใจกลางของจตุรัสตรงข้ามกันและกัน
ทางด้านของตระกูลลี พวกเขานำโดยลีชานเย่ว์ ข้างๆเขาคือยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ทั้งห้า รอยยิ้มป่าเถื่อนปรากฎบนหน้าลีชานเย่ว์ และแผลเป็นทางยาวของเขาได้ทำให้เขาดูป่าเถื่อนกว่าเดิม
ส่วนอีกด้านหนึ่ง หยานเจิ้นหยุนยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับเจียงเฉิน ด้านหลังพวกเขามีหยานเฉินหยู่ หวงต้า ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ทั้งสี่จากตระกูลหยาน
พิจารณากำลังรบของแต่ละฝ่าย ตระกูลหยานเหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่สิ่งที่ทำให้เจียงเฉินและหยานเจิ้นหยุนอยากรู้ว่าตระกูลลีที่ควรมีกำลังใจต่ำแต่ตอนนี้กลับมีขวัญกำลังใจดี
“มีบางสิ่งผิดปกติ………..”
เจียงเฉินขมวดคิ้ว
“มีอะไรไม่ชอบมาพากล ตระกูลลีไม่น่าจะมีขวัญกำลังใจสูงได้ มันคือสิ่งใดกันที่สามารถทำให้พวกเขามีกำลังใจที่ดีได้”
หยานเจิ้นหยุนงุนงงมาก อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายดั่งลูกธนูที่เตรียมปล่อยออกจากคันศร การต่อสู้ระหว่างพวกเขาไม่สามารถที่จะหยุดยั้งได้
“ฮ่าฮ๋า หยานเจิ้นหยุน หากเจ้าส่งตัวเจียงเฉินมาให้ข้าตอนนี้ ข้าจะให้เจ้าตายโดยไม่ต้องเจ็บปวดภายหลัง”
ลีชานเย่ว์หัวเราะเสียงดัง ขวัญกำลังใจของเขาสูงมาก หน้าของเขาเปี่ยมด้วยความมั่นใจ และได้พูดเหมือนทุกสิ่งอยู่ในการควบคุมของเขา
“วันนี้ข้าจะฆ่าทุกๆคนในตระกูลหยาน และพวกเราจะทำลายหอคอยหมอกฝนทิ้งซะ”
ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลลีได้ตะโกนออกมาอย่างยะโสโอหัง ตอนนี้พวกเขาได้รับการช่วยเหลือของราชันย์ปีศาจระดับแก่นแท้สวรรค์ พวกเขามั่นใจว่าสามารถทำให้ตระกูลหยานหายไปจากเมืองนี้ได้ภายในข้ามคืน
ตรงข้ามพวกเขา เจียงเฉินยืนขมวดคิ้วอยู่ เขานึกถึงราชันย์ปีศาจแก่นแท้สวรรค์ที่ปรากฎขึ้นก่อนหน้านี้ และได้มีลางร้ายเกี่ยวกับมัน
“ฮึ่ม! ลีชานเย่ว์ ตอนนี้เหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์จากตระกูลลีก็ได้ตายหมดแล้ว หลังจากพ้นวันนี้ตระกูลลีจะต้องจบสิ้น!”
หยานเจิ้นหยุนตะโกนออกมาเสียงดัง
“ฮ่าฮ๋า หยานเจิ้นหยุน ถ้าจะเป็นแบบนั้นงั้นเจ้าตายคนแรก”
ลีชานเย่ว์หัวเราะเสียงดัง เขาหันหน้าไปอีกทางหนึ่งและตะโกนออกมา “ท่านผู้ทรงเกียรติขอรับ โปรดช่วยข้าสังหารหยานเจิ้นหยุนหน่อยขอรับ”
กี๊ซซซซซซซซซซซซซ!
หลังจากลีชานเย่ว์ตะโกน เสียงเหยี่ยวร้องดังคมชัดจากบนท้องฟ้า ทุกๆคนต่างหันไปเห็นเหยี่ยวดำขนาดยักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ทันที ขดปีกเหยี่ยวสีดำและกลายเป็นชายแก่ เขาปลดปล่อยพลังระดับแก่นแท้สวรรค์ออกมาและทำให้ทุกๆคนที่อยู่ใจกลางต่างถูกกดดันอย่างมหาศาล มันรู้สึกน่าสะพรึงกลัว
“นั่นคือราชันย์ปีศาจ?”
ชายแก่ที่ลอยอยู่บนฟ้า สามารถที่จะเหินบนฟ้าได้นั่นเป็นหนึ่งในสิ่งที่ระดับแก่นแท้สวรรค์ทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการบ่มเพาะของสัตว์ปีศาจหรือมนุษย์ เมื่อพวกเขาได้ถึงขั้นแก่นแท้สวรรค์ พวกเขาสามารถควบคุมพลังธรรมชาติและสามารถเหินฟ้าได้
ยอดฝีมือฉีไห่และยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์สามารถที่จะดูดซับพลังธรรมชาติได้ แต่ไม่สามารถควบคุมพลังธรรมชาติได้
นี่คือความแตกต่างระหว่างแก่นแท้มนุษย์และแก่นแท้สวรรค์ สามารถพูดได้ว่าอย่างหนึ่งอยู่เหนือพื้นดินส่วนอีกอย่างหนึ่งภายใต้พื้นดิน แน่นอนว่าชายแก่ในชุดดำนั้นเป็นเหยี่ยว เขาเป็นสัตว์ปีศาจสายอากาศ และโดยธรรมชาติแล้วเขาสามารถที่จะบินได้ก่อนขึ้นระดับแก่นแท้สวรรค์
การปรากฎตัวของชายแก่ชุดดำนั้นได้เปลี่ยนสถานการณ์อย่างสิ้นเชิง ราชันย์ปีศาจระดับแก่นแท้แห่งสวรรค์สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างภายในเมืองได้ คนจากตระกูลหยานทุกคนต่างหวาดกลัวภายใต้แรงกดดันของชายแก่ผู้นี้ และขวัญกำลังใจของพวกเขาได้หายไปอย่างสิ้นเชิงภายใต้แรงกดดัน
หยานเจิ้นหยุนตกตะลึง ในที่สุดเขาก็รู้ว่าเหตุนั้นลีชานเย่ว์ถึงมีความมั่นใจยิ่งนักเพราะมีราชันย์ปีศาจระดับแก่นแท้สวรรค์ให้ความช่วยเหลือ แน่นอนว่ามันสามารถที่จะโอหังและมีความมั่นใจได้
เจียงเฉินที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้าเย็นยะเยือก การปรากฎตัวของราชันย์ปีศาจระดับแก่นแท้สวรรค์นั้นรบกวนแผนการของเขา
หากเป็นชีวิตที่แล้วของเขา เขาสามารถที่จะสังหารราชันย์ปีศาจระดับแก่นแท้สวรรค์ได้อย่างง่ายดายโดยการจ้องมอง แต่ตอนนี้เขาเป็นเพียงแค่ยอดฝีมือฉีไห่ขั้นปลาย เขามีความสามารถหลากหลายแต่ไม่สามารถที่จะใช้ได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ใช่คู่มือของยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์
เจียงเฉินหายใจเข้าลึกๆ ในกรณีที่สถานการณ์เลวร้ายเขาจำเป็นต้องใช้ทักษะแหล่งต้นกำเนิดวิญญาณที่ยอดเยี่ยม แต่มันไม่ง่ายที่จะข่มขู่ราชันย์ปีศาจระดับแก่นแท้สวรรค์ด้วยแรงกดดันวิญญาณเพียงอย่างเดียว
“ฮ่าฮ๋าฮ่า หยานเจิ้นหยุน วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้ตาย! ข้าจะฆ่าทุกๆคนจากตระกูลหยานให้พวกมันได้ไปรับใช้เจ้าที่นรก! สำหรับเจ้า ไอ้เด็กเปรตเจียงเฉิน ข้าจะถลกหนังเจ้าทั้งเป็นและจะดึงเส้นประสาทเจ้าทีละชิ้นทีละชิ้น ข้าจะหักกระดูกเจ้าและเผามันให้เป็นเถ้าถ่าน! เท่านี้บรรเทาความเกลียดชังของข้าที่มีต่อเจ้าได้”
ลีชานเย่ว์ยิ้มอย่างร้ายกาจ เขารู้สึกตื่นเต้นสุดๆเมื่อได้คิดว่าศัตรูตรงหน้าเขาตายได้อย่างไรต่อหน้าของเขา เขาจะได้แก้แค้นให้บุตรชายของเขาแล้ว
บนท้องฟ้า ชายแก่ได้จ้องมายังหยานเจิ้นหยุนด้วยสายตาเฉียบคมดุจอินทรีย์ นี่คือชายที่เขาจะต้องสังหารคืนนี้ เมื่อเขาสังหารชายคนนี้แล้ว เขาก็จะออกจากที่นี่
“เจ้าคือหยานเจิ้นหยุน?”
ชายแก่ถามและยืนยันตัวตน
ท่าทีของหยานเจิ้นหยุนเปลี่ยนไป ใจเขาแทบหลุดออกมาจากลำคอจากการมองของชายแก่ ด้วยความสามารถของเขา ไม่มีทางที่เขาจะสู้กับยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ได้ มันไม่ได้อยู่คนละระดับ
“อย่าทำร้ายบิดาของข้านะ!”
ตรงหน้าเขา หยานเฉินหยู่กางแขนออกขวางหยานเจิ้นหยุน ไอหนาวเย็นสุดขั้วได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายนาง พลังเยือกแข็งของนางพร้อมที่จะโจมตี นางไม่ปล่อยให้มีผู้ใดพยายามที่จะสังหารบิดาของนางต่อหน้านาง มีเพียงทางเดียวที่ทำได้คือข้ามศพนางไปก่อน
“ช่างเป็นไอเย็นที่รุนแรงจริงๆ ข้าไม่เคยคาดมาก่อนเลยว่าจะมีกายศักดิ์สิทธิ์อยู่ในสถานที่เล็กๆเช่นนี้! แต่โชคร้าย เจ้าอ่อนแอยิ่งนัก”
ชายแก่ตกตะลึง แต่ท่าทีของเขาได้เปลี่ยนเป็นยิ้มเย็นหลังจากนั้น
“หยู่เอ๋อร์ ถอยไป! ดูเหมือนว่าบิดาเจ้าต้องตายในวันนี้แล้ว”
หยานเจิ้นหยุนพูด
“ท่านพ่อ ข้าจะไม่ออกจากที่นี่เด็ดขาด!”
หยานเฉินหยู่แน่วแน่กับการตัดสินใจของนาง
“ฮึ่ม! สายสัมพันธ์ระหว่างพ่อ-ลูก….ถ้างั้นพวกเจ้าทั้งคู่จงตายไปด้วยกัน!”
ชายแก่ไม่ได้มีความอดทนมากนัก เขายื่นฝ่ามือออกมาเตรียมที่จะจู่โจมหยานเจิ้นหยุนและหยานเฉินหยู่ ภายใต้กำมือของยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ไม่สามารถที่จะหลบเลี่ยงได้เลย หากมันบีบมืออย่างสมบูรณ์ บิดาและบุตรีแห่งตระกูลหยานจะตายที่นั่น
“โฮ่ง!”
ในเวลานั้นเสียงเห่าของหมาก็ดังออกมา! หวงต้าได้เงยหัวขึ้นและเห่าใส่ชายแก่ชุดดำบนอากาศ
ชายแก่ได้รู้สึกคุ้นเคยต่อเสียงนี้นัก เขาได้รับหันไปยังทิศที่มาของเสียงและเมื่อเขาได้เห็นว่ามาจากหวงต้า สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
ในเวลาต่อมาชายแก่ได้ทำอะไรบางอย่างที่ทำให้ทุกคนตกใจตรงนั้น
ทุกๆคนเห็นชายแก่ผู้นั้น ผู้ที่จงใจปล่อยจิตสังหารออกมา ได้ลดจิตสังหารของเขาลง เขาได้กลายเป็นลำแสงและเหินลงมาจากฟ้า เขาลงมายังเบื้องหน้าหวงต้าและคุกเข่าลงบนพื้น
ชายแก่ได้ก้มหน้าลงถึงพื้น หน้าผากเขาจรดกับพื้นดิน ได้เป็นการแสดงความเคารพต่อหวงต้า
อะไร? เกิดอันใดขึ้นตอนนี้?
ราชันย์ปีศาจแก่นแท้สวรรค์ได้คุกเข่าต่อหน้าหมา?
ทั่วพื้นที่นั้นกลายเป็นเงียบสนิท ทั่วทั้งกลางจตุรัสเงียบกริบ ทุกๆคนต่างมีท่าทีเดียวกันหมด ปากพวกเขาอ้าค้างกว้างในตอนที่เห็นชายแก่คุกเข่าลง
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?! เกิดสิ่งใดขึ้นตอนนี้?! ราชันย์ปีศาจระดับแก่นแท้สวรรค์ เหตุใดเขาถึงคุกเข่าทันทีเมื่อเห็นหมา?! หมาตัวนี้มันอะไรกัน?!
ทุกๆคนมีความรู้สึกแปลกๆ สถานการณ์เกินกว่าที่จะจินตนาการของทุกคน
การต่อสู้ได้มีการเปลี่ยนแปลงในทุกๆวินาที รอยยิ้มบนหน้าของลีชานเย่ว์ได้แข็งทื่อ ชายแก่ชุดดำเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่ของเขา หากหยานเจิ้นหยุนตาย ผลลัพธ์ของสงครามสามารถตัดสินได้ทันที ทุกๆอย่างจะเป็นไปตามแผนที่ลีชานเย่ว์ได้วางไว้
แต่มิมีผู้ใดคิดว่าในช่วงสุดท้ายจะมีสิ่งที่ยากต่อการเข้าใจเกิดขึ้น
คนจากตระกูลหยานนั้นมีอารมณ์ความรู้สึกที่แข็งแกร่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขารู้สึกเหมือนว่าโชคชะตะกำลังเล่นตลกกับพวกเขา หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนของพวกเขา เมื่อจบสงครามตระกูลหยานจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ แต่ไม่ได้คาดคิดว่าราชันย์ปีศาจจะโผล่มาในตอนท้ายและพลิกผันทุกสิ่ง
และขณะนี้ ตระกูลหยานที่สูญเสียความหวังทั้งหมดแม้แต่หยานเจิ้นหยุนก็หมดหวัง แต่จะมีผู้ใดคิดว่าก่อนที่ราชันย์ปีศาจจะจู่โจมมา เขาได้ไปคุกเข่าต่อหน้าหมา
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?
เจียงเฉินเองก็ตาเบิกกว้างเช่นกัน ดูตกตะลึงอย่างมาก เขามองไปยังเจ้าหมาที่มั่นใจในตัวเองและหลงตัวเอง ด้วยประสบการณ์ทั้งหมดของเขา เขายังไม่เข้าใจว่าเหตุใดชายแก่ผู้นี้ถึงได้คุกเข่าต่อหน้าหวงต้า
แม้สายเลือดของหวงต้าจะสูงส่งกว่า ในโลกนี้ทุกสิ่งจะตัดสินด้วยความสามารถ ความสามารถของชายแก่นั่นเหนือกว่าหวงต้ามาก หากได้สู้กันหวงต้าไม่มีทางที่จะสู้ได้
แต่ในความเป็นจริง ตอนนี้ราชันย์ปีศาจได้คุกเข่า
“นี่มันบ้าอะไรฟะ? หวงต้าเจ้าทำได้เช่นไร?”
เจียงเฉินกระซิบหวงต้าด้วยเซนส์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นครั้งแรกที่เจียงเฉินรู้สึกชื่นชมเจ้าหมานี่
“ข้าทำเช่นไร? เคารพข้าใช่ไหม? ไม่เป็นไรหรอกหากเจ้าจะเคารพนับถือข้า ด้วยผู้ที่หล่อเท่และยิ่งใหญ่เช่นข้า ไม่มีสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เมื่อข้าอยู่แถวนี้”
หวงต้าหลงตัวเองระดับสูงสุด เขาได้คุยโวต่อเจียงเฉินผ่านเซนส์ศักดิ์สิทธิ์
“พอ! รีบบอกข้ามา เจ้าทำเช่นไรให้เจ้าเหยี่ยวนั่นคุกเข่า?”
เจียงเฉินจ้องมัน
“ก๊ะก๊ะ ข้าน่ะมีความยิ่งใหญ่น่ะสิ แน่นอนข้ามีวิถีทางที่ยิ่งใหญ่ของข้า! เจ้าเชื่อไหมเจ้าเหยี่ยวน้อยนี้จะไม่ฆ่าตัวตายต่อหน้าพวกเราแม้ข้าจะขอให้มันทำ?”
หวงต้ายืดหัวขึ้นสูง เขาโอ้อวดเหมือนเขาอยู่เหนือทุกๆคน
“ใครจะสนล่ะเรื่องฆ่าตัวตาย เจ้ามีทางที่จะทำให้เจ้าเหยี่ยวนั่นเชื่อฟังข้าได้หรือไม่?”
เจียงเฉินถาม
“ง่ายมาก คอยดูนะ!”
หวงต้าพูด เขาจ้องไปยังชายแก่ที่กำลังคุกเข่าต่อหน้ามัน “เหยี่ยวดำน้อย จงลุกขึ้น!”
“ขอรับ”
ชายแก่ไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งหวงต้า เขารีบยืนขึ้นจากพื้น เขายืนต่อหน้าหวงต้าด้วยความเคารพ เหมือนเด็กที่ทำผิดและรอผู้ใหญ่มาอบรมสั่งสอน
เมื่อเห็นเช่นนี้ ทุกๆคนต่างประทับใจหวงต้า พวกเขามองมันอย่างชื่นชม พวกเขาทั้งปลื้มทั้งชื่นชมมัน
แม้เจียงเฉินยอมรับว่าเจ้าหมานี่มันลึกลับ ในชีวิตที่แล้วของเขา แม้เขามีวิธีมากมายที่จะให้สัตว์ปีศาจเชื่อฟังเขา ทั้งหมดนั่นมาจากความแข็งแกร่งของเขาทั้งสิ้น เขามีเทคนิคพิเศษไม่กี่อย่าง
“จากนี้ต่อไป! เขาจะเป็นเจ้านายของเจ้า! ไม่ว่าเขาจะพูดสิ่งใด เจ้าต้องทำตาม!”
หวงต้ายืนขึ้นด้วยขาหลังสองข้าง และเอาขาหน้าไขว้หลังและเขาได้เดินเป็นวงกลมรอบชายแก่และพูดด้วยน้ำเสียงผู้ใหญ่
หลังจากที่ได้ยินคำของหวงต้า ชายแก่ได้คุกเข่าต่อเจียงเฉินและพูดออกมาด้วยความเคารพ
“นายท่าน!”
บัดซบ! มันเกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร? ไอ้หมาตัวเหลืองนี่มันเป็นใครกันแน่?
ทุกคนรู้สึกเหมือนฟ้าผ่าใส่หัว พวกเขาเกือบล้มลงบนพื้น
พวกเขาไม่สามารถที่จะยืนได้อีกต่อไป ราชันย์ปีศาจแก่นแท้สวรรค์ตนนั้น! เขานั้นดูดุร้ายและโหดเหี้ยมก่อนหน้านี้ ต่อมาได้เป็นแกะเชื่องๆ
เจ้าหมาสีเหลืองนี่มันเป็นเทพรึยังไง? เขาทำได้อย่างไร?
************************************************************************
จบจ้า
เอาล่ะสิงานนี้พลิกไปพลิกมา…โปรดติดตามตอนต่อไป