ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” จ้องอะไรหนักหนา ? นี้เจ้าลามกตั้งแต่อายุยังน้อยเลยสินะ หากเจ้าโตขึ้นจะเกิดอะไรขึ้นกลับเรา “
‘เทพธิดา’กระพริบตาพร้อมจ้อง ‘ชูเฟิง’ อย่างเหยียดหยาม
” ท่านกล่าวผิดแล้ว นี่ไม่ได้เรียกว่า ลามก เขาเรียกว่าการหาประสบการณ์”
” ชูเฟิงเช็ดปากของเขาแล้วพบกับว่าตัวเองกำลังน้ำลายไหล”
” ชิส์ เหตุผลของเจ้าฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด “
‘เทพธิดา’ ตอบ ‘ชูเฟิง’ อย่างรวดเร็ว จากนั้นมุนปากของเราก็ค่อยผลิบาน นางยิ้มออกมาอย่างดีอกดีใจ
” ว๊าาา ความรู้สึกของอิสระข้างนอกมันช่างดีที่สุด!!! “
‘เทพธิดา’ ดูมีความสุขอย่างมาก นางเปิดแขนออกพร้อมกับหมุนไปรอบๆ จากนั้นนางก็เริ่มวิ่งไปทั่วทุกหนทุกแหนในอาณาเขตโลกวิญญาณนางเหมือนกับเด็กที่กำลังเล่นอย่างสนุกสนาน แต่ในความเป็นจริง นางเหมือนกับนกตัวน้อยๆที่ได้รับอิสรภาพมากกว่า
” แม่นาง ข้าสงสัยว่า ข้าควรเรียกท่านว่าอะไร ? “
‘ชูเฟิง’ ถาม
“แม่นงแม่นางอะไร ? บอกให้เรียกเราว่า ท่านเทพธิดา!!! “
” ท่านเทพธิดา ? ท่านก็แค่หญิงสาวตัวเล็ก จะบอกให้เราเรียกว่า เทพธิดางั้นหรอ หากเรื่องมากข้าจะเรียกท่านว่า ท่านไข่ “
‘ชูเฟิง’ ในตอนนั้นมีรอยยิ้มเหมือนกับปีศาจขณะที่กล่าวกับนาง
” ไอ้ . . . . เจ้านี่มัน!!! ทั้งๆที่ครอบครัวของเจ้าขังเราไว้ในไข่นี้แท้ “
แม่นางแลบลิ้นใส่ ‘ชูเฟิง’ พร้อมกับ สะบัดหน้าหนีถ้าไม่ใช่เพราะนางรออยู่นี้มา 15 ปีในโลกวิญญาณของเขา นางก็คงมีสติปัญญาพอๆกลับคนที่มีอายุ 15 แต่ตอนนี้ ชูเฟิง สงสัยจริงๆว่านางยังคงเป็นเด็กสาวอยู่ใช่หรือไม่
” นี่ ท่านไข่ ยังไงท่านก็เป็นมนุษย์ ซึ่งก็หมายความว่า ท่านจะต้องมีสัจจะกับคำพูด ตอนนี้ได้เวลาบอกคาถาการควบคุมรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณมาสะดีๆ มิเช่นนันข้าจะปล้ำเจ้า “
” เราไม่ใช่มนุษย์ ซึ่งก็หมายความว่า เราไม่ต้องมีสัจจะกับเจ้า “
” ท่าน . . . . . . “
‘ชูเฟิง’ ถึงกับพูดไม่ออก แม้เขาจะเคยเห็นคนที่หน้าด้านมาก่อน แต่เขาก็ไม่เคยเห็นใครที่หน้าด้านไปกว่าตัวเขาเอง นึกไม่ถึงวันนี้เขาจะต้องมาพ่ายแพ้ให้กับหญิงสาว
” ฮ่าๆๆ เราล้อเล่น ถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่ มนุษย์ แต่เราก็เป็นคนที่มีสัจจะ งั้นเดี๋ยวเราจะบอกเจ้า แต่ต่อจากนี้เจ้าจะต้องรับปากกับเราว่าจะเรียกเราว่า ท่านเทพธิดา แล้วเราจะบอก คาถา ให้ “
” ท่านเทพธิดา!!! “
‘ชูเฟิง’ ตะโกนเรียกอย่างจริงจัง
” นี่ไอ้เจ้าบ้า เรียกเราแบบไม่เต็มใจหนิ “
หญิงสาวหันไปพูดกับ ‘ชูเฟิง’ อย่างรวดเร็ว ด้วยถ้อยคำด่าที่ ‘ชูเฟิง’ ไม่เข้าใจในตอนนั้นนางก็เริ่ม ร่ายคาถา ‘ชูเฟิง’ รู้สึกได้ในอาณาเขตโลกวิญญาณ มีกลุ่มก้อนพลังโปร่งใสปรากฏขึ้นมาและเริ่มหมุนไปรอบๆตัวของนาง
” เอาไป. . . . “
จู่ๆ นางก็ใช้นิ้วชี้มาที่ ‘ชูเฟิง’ ทันใดนั้นกลุ่มก้อนพลังก็พุ่งเข้ามาหา ‘ชูเฟิง’
” การสร้างรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ ? “
ตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ พบว่ากลุ่มก้อนพลังแปลกๆคืออำนาจพลังวิญญาณ
” เราสามารถใช้คาถานี่ได้ ตราบใดที่เรายังอยู่ที่นี่ การสร้างรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณเจ้าจะใช้มันตอนไหนก็ได้ “
หลังจากที่ถ่ายทอดรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณไปยังร่างกายของ ‘ชูเฟิง’ นางก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
” ท่านเทพธิดา ท่านสุดยอดไปเลย ฮ่าๆๆ ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าท่านสามารถช่วยข้าให้เอาชนะ กง ลู่หยุนได้งั้นหรอ ข้าสงสัยว่าท่านจะทำยังไง ? “
‘ชูเฟิง’ หัวเราะแล้วถาม
” แน่นอนว่าเราช่วยเจ้าได้ ตราบใดที่เจ้าสามารถเป็น ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ที่แท้จริง เจ้าก็กลายเป็นบุคคลที่น่ายกย่อง และเจ้าจะได้รับประโยชน์ตามมาอีกมากมาย “
คงจะหมายถึงการกอบโกยพวกโอสถวิญญาณ
” ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ภายในตันเถียนของเจ้าคืออะไร แต่มันสามารถช่วยให้เจ้าปรับปรุง โอสถวิญญาณ ได้อย่างมากมาย ดังนั้นการเพิ่มพลังวิญญาณของเจ้าจะรวดเร็วเป็นอย่างมาก “
” ยังไงก็ตาม หากเจ้าจะต้องการให้ผู้อื่นยกย่อง เจ้าก็จะต้องทำให้พวกเขาเชื่อถือให้ได้ ดังนั้น สิ่งที่เจ้าต้องทำในตอนนี้คือการเป็น ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณให้ได้ “
‘เทพธิดา’ ยังคงอธิบาย
” ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ที่แท้จริง ? แล้วข้าจะต้องทำยังไงถึงจะมีคุณสมบัติเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณล่ะ ? “
‘ชูเฟิง’ ถาม
” คนส่วนมักจะมองว่าผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณนั้นใช้รูปแบบพลังอำนาจวิญญาณเพื่อสร้างรูปแบบการป้องกันขึ้นมาได้ แต่ความจริงแล้ว นั้นไม่นับว่าเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณที่แท้จริง “
” ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณที่แท้จริง ไม่เพียง แต่จะสามารถหยึดหยุ่นผันแปรรูปร่างป้องกันได้เท่านั้น พวกเขายังสามารถสร้างรูปแบบการโจมตีที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้ ผู้ที่สามารถใช้รูปแบบการปกป้องและการโจมตี นั่นแหละถึงสมควรเรียกพวกเขาว่า ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณที่แท้จริง!!! “
หลังจากได้ยินคำพูดของ’เทพธิดา’ ‘ชูเฟิง’ ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ท้ายแล้วเขาก็ต้องการให้นางเป็นที่ปรึกษา เพื่อกลายเป็น ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณที่แท้จริง!!!
” ข้าพอเข้าใจแล้วว่ารูปแบบอำนาจพลังวิญญาณคืออะไร แต่สิ่งที่ข้ายังไม่เข้าใจ คือ แหล่งกำเนิดวิญญาณ “
‘ชูเฟิง’ ถาม โลกวิญญาณ แหล่งกำเนิดวิญญาณ อสูรวิญญาณ ฯลฯ คนแปลไม่รู้จะใช้อะไรดี
” อย่างที่รู้ๆ ว่ารูปแบบอำนาจพลังวิญญาณจะก่อตัวขึ้นมาจากแหล่งกำเนิดวิญญาณ และแหล่งกำเนิดวิญญาณยังมีพื้นฐานพลังต่างจากโลกมนุษย์ “
” สำหรับแหล่งกำเนิดวิญญาณ นั้นเสมือนเป็นที่อาศัยของเหล่าอำนาจพลังวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ และพวกเขาจะคอยมอบอำนาจพลังวิญญาณให้กับร่างกายของเจ้า “
” ซึ่งก็หมายความว่าถ้าหากแหล่งกำเนิดวิญญาณ ยอมรับใช้เจ้า มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปว่าเจ้าจะอยู่ในแค่ระดับ 8 ห้วงวิญญาณ เจ้าสามารถเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรแก่นแท้ได้เลย . . . “
‘เทพธิดา’ อธิบาย
” เป็นงั้นหรอ แล้วข้าจะต้องทำยังไงถึงจะสามารถเชื่อมต่อกับแหล่งกำเนิดวิญญาณได้ ? แล้วแหล่งกำเนิดวิญญาณแห่งนี้จะยอมรับข้างั้นหรอ ? “
‘ชูเฟิง’ เริ่มมองไปรอบๆเพื่อมองหาแหล่งกำเนิดวิญญาณแต่สุดท้ายก็ไม่พบ
” แน่นอนว่าไม่ แต่โลกวิญญาณแห่งนี้เป็นของเจ้าไม่ผิดแน่ แต่ด้วยพลังของเจ้าในปัจจุบันยังต้องใช้วิธีอื่นในการใช้มัน “
” ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเจ้าในตอนนี้ แม้แต่ เจ้าลูกสุนัข จูเก่อยังไม่สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งกำเนิดวิญญาณของเขาได้เลย ในความเป็นจริง เขานั้นไม่นับว่าเป็น ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ซะด้วยซ้ำ
” เทพธิดากล่าวอย่างดูถูก”
อะไรน่ะ ? แม้แต่ท่าน ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ยังทำไม่ได้ ?
” ชูเฟิงพูดอะไรไม่ถูก อาวุโสจู่เก่อมีอำนาจพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าเขาอย่างแน่นอน แล้วทำไมเขาถึงทำไม่ได้ แล้วอีกนานขนาดไหนเขาถึงจะทำได้” เจ้าไม่ต้องกังวล มีคนได้เตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ไว้ให้เจ้าแล้ว อย่างน้อยๆก็มีแหล่งกำเนิดวิญญาณที่ยิ่งใหญ่อยู่ 2 ดวง ที่ถูกผนึกไว้ในอาณาเขตของเจ้า “
‘เทพธิดา’ พูดพร้อมกับยิ้ม
” จริงๆหรอ ? แหล่งกำเนิดวิญญาณนั้นมันแข็งแกร่งมั๊ย ? “
‘ชูเฟิง’ พอเข้าใจความหมายที่พูด ไม่ต้องสังสัยเลยว่าเป็นฝีมือคนในครอบครัวของเขาที่เตรียมโลกวิญญาณให้กลับเขา
” แหล่งกำเนิดวิญญาณ 2 ดวงนั้น ดวงหนึ่งแข็งแกร่งมากๆ อีกดวงอ่อนแอลงมาหน่อย เจ้าจะต้องเลือกมา 1 ดวง แล้วเจ้าสนใจดวงไหนล่ะ “
‘เทพธิดา’ หัวเราะอย่างคิกคักขณะที่มองหน้าของ ‘ชูเฟิง’
” ข้าขอเลือกดวงที่อ่อนแอ “
‘ชูเฟิง’ ทบทวนเล็กน้อย แต่เขารู้สึกว่าดวงที่อ่อนแอสามารถควบคุมมันได้ง่ายกว่า
” ดวงที่อ่อนแออยู่หลังประตูบานใหญ่นั้นไง “
‘เทพธิดา’ ชี้ไปยังประตูที่ปล่อยออร่าที่น่ากลัวออกมา
” แหล่งกำเนิดวิญญาณถูกขังไว้ในนั้นหรอ “
‘ชูเฟิง’ ถึงกับกลืนน้ำลายของเขา แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นไอสิ่งที่เรียกว่าแหล่งกำเนิดวิญญาณ แต่เขารู้ว่าต้องมีบางอย่างที่น่ากลัวอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน
” ใช่แล้ว เจ้าคิดถูกแล้วล่ะ สิ่งที่อยู่หลังประตูที่ถูกผนึกไว้ มันแข็งแกร่งเป็นอย่างมากและมันก็ไม่ยอมให้เจ้าควบคุมมันได้ง่ายๆ “
” แม้เราจะบอกว่ามันอ่อนแอ แต่จริงๆแล้วก็ไม่ได้อ่อนอย่างที่เจ้าคิด หากปลดผนึกมันออกมา ด้วยพลังของเจ้าในตอนนี้ ก็มิสามารถควบคุมมันได้ “
” ดังนั้นเจ้าจะต้องใช้เวลาอีกหน่อยเพื่อให้ร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งพอที่จะเป็นภาชนะ หากมันเล็ดลอดออกมายังโลกมนุษย์ อาณาจักรทั้ง 9 ของเจ้าอาจจะถูกมันทำลายจนหมดสิ้น “
แม่งไม่ใช่แหล่งกำเนิดวิญญาณและ มันจิ้งจอกเก้าหางชัดๆ
” หรอ. . .เป็นงั้นหรอ นี่แปลว่าในร่างของข้ามีอสูรวิญญาณถูกขังไว้อยู่สินะ!!! “
‘ชูเฟิง’ ถึงกลับตะลึง ไม่คิดเลยว่าครอบครัวของเขาจะทำเพื่อเขาถึงขนาดนี้
ไม่เพียงแค่พวกเขาจะบังคับให้ ชูเฟิง นั้นแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว พวกเขายังกังวล ถึงขนาดต้องเอาอสูรวิญญาณที่สามารถทำลายอาณาจักรทั้ง 9 มาไว้ในร่างของเขาอีก
บางทีนี้อาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้ ครอบครัวของเขาช่างน่าประทับใจยิ่งนักในตอนนั้น ชูเฟิงก็ได้รู้ในสิ่งที่นางพูด อสูรวิญญาณที่สามารถทำลายอาณาจักรทั้ง 9 ขนาดเป็นดวงที่อ่อนแอ ยังน่ากลัวได้ถึงเพียงนี้
เมื่อคิดไปยังจุดนั้น เขาได้แต่เหงื่อตก ความหวาดกลัวส่งเข้าไปถึงกระดูกของเขาจนทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดตัวเอง จากที่เขาเดินสำรวจรอบๆ สุดท้ายเขาก็พบว่า นอกจากประตูบานใหญ่แล้วก็ไม่มีอะไรที่ดูเหมือนสิ่งที่ใช้กักขังสัตว์ประหลาดไว้อีกแล้ว
” แล้วอีกดวงล่ะ อยู่ที่ไหน “
‘ชูเฟิง’ อยากรู้
” เอ๋!!! “
ได้ยินคำถามของ’ชูเฟิง’ เทพธิดาก็ยิ้มแบบแปลกๆ พร้อมกับชี้มาที่ตัวเองและพูดว่า
” แหล่งกำเนิดวิญญาณดวงนั้นเจ้าก็เป็นคนปลดผนึกมันออกมา ยืนอยู่นี่แล้วไง!!! “
เป็นตอนที่คนแปลปวดหัวมากที่สุดเลยก็ว่าได้. . . . . ใครจะเกลาคำ ทักมาเลยนะ ผมจะกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง 3-4 ชม. ในการแปลตอนนี้
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . . .
ที่มา: