ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
แปลไทยโดย : Takumi Kun
ตรวจทาน : Subaru Kyun
************************************************************************
“เจ้าพูดถูกแล้ว ราชันย์ปีศาจทั้งสามได้โดนจับโดยศิษย์ใน แต่ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าเหยี่ยวดำจะหนีออกมาอีกครั้ง สัตว์ปีศาจสายอากาศได้เปรียบเวลาหลบหนี”
หวงต้าพูด
“อืม เจ้าหมาไร้ประโยชน์เช่นเจ้าทำได้ดีนิวันนี้ เยี่ยมมาก!”
เจียงเฉินเริ่มลูบหัวหวงต้า
“หยุดเลย! อย่ามาแตะต้องหัวข้า! บิดาเจ้าไม่ใช่หมา เจ้าต่างหากหมา แง่ง”
หวงต้าโมโหจริงๆ แต่การเห่าของมันทำให้เจียงเฉินหัวเราะออกมาเสียงดัง
ไม่นานหลังจากนั้น เจียงเฉิน หวงต้า และชายแก่ได้กลับไปยังตระกูลหยาน หยานเจิ้นหยุนได้เตรียมบ้านไว้สำหรับพวกเขาเป็นพิเศษ และไม่มีผู้ใดได้รับอนุญาตให้เข้าไปใกล้
ภายในบ้านเจียงเฉินและชายแก่หันหน้าเข้าหากัน ชายแก่ดูสุภาพอ่อนน้อมและเขาไม่ได้แสดงกิริยาดูหมิ่นแต่อย่างใด ในใจของเขานั้นไม่ได้มีความสุขที่ต้องมาทำแบบนี้ แต่เขาไม่สามารถที่จะสู้ตราบที่ชีวิตของเขาอยู่ในกำมือของหวงต้า แค่หวงจ้าคิดแค่นั้น เขาก็จะตายทันที
ที่น่าสงสารยิ่งกว่า เขานั้นได้มีความเกลียดชังต่อหวงต้าแต่เขายังต้องอ้อนวอนหวงต้าตลอดชีวิต สาเหตุเพราะหากหวงต้าตาย เซนส์ศักดิ์สิทธิ์ในจิตใจเขาก็จะระเบิด เป็นการฆ๋าเขาชัดๆ
“เจ้าเหยี่ยวดำตัวโต ข้าขอถามเจ้าหน่อย ลีชานเย่ว์มอบจิตวิญญาณอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตแก่เจ้ารึ?”
เจียงเฉินถาม
“ใช่”
ชายแก่ชุดดำไม่กล้าพูดเท็จ
“ส่งมันมาให้ข้า”
น้ำเสียงของเจียงเฉินบ่งบอกว่าห้ามปฎิเสธ นี่เป็นคำสั่ง
“อะไรนะ!?”
ท่าทีของชายแก่เปลี่ยนไป จิตวิญญาณอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตมันมีประโยชน์ต่อเขาอย่างมาก มันเป็นโชคลาภสำหรับเขา และตอนนี้เจียงเฉินมาขอให้เขาส่งไปให้ง่ายๆ มันทำให้เขาไม่พอใจ
“ส่งมันมาเดี๋ยวนี้ เจ้ากล้าที่จะปฎิเสธคำสั่งของเจ้านายงั้นรึ?เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าที่จะมอบความตายอันน่าสยดสยองแก่เจ้างั้นรึ?”
หวงต้าแค่นเสียงอย่างเย็นชา
“ขอรับ”
ชายแก่ผงกหัวและรีบนำวิญญาณอสูรออกมา เจ้าหมานี่หมายความตามนั้นจริงๆ นั่นเป็นเหตุที่ว่าทำไมเขาจึงไม่กล้าที่จะปฎิเสธคำสั่งของหวงต้า เมื่อเทียบกับจิตวิญญาณอสูรเหยี่ยวปีกโลหิต ชีวิตของเขาสำคัญยิ่งกว่า
เมื่อมองไปยังวิญญาณอสูรสีแดงเลือด ตาของเจียงเฉินเป็นประกาย เขาเคยเห็นมาเกือบทุกอย่าง และเขาสามารถที่จะบอกถึงตัวตนสิ่งนั้นได้ทันทีเพียงแค่มองเท่านั้น วิญญาณอสูรนี้เป็นวิญญาณอสูรของเหยี่ยวปีกโลหิตอย่างแท้จริง มันมีสายเลือดสมบูรณ์ของเหยี่ยวปีกโลหิตอยู่
วิญญาณอสูรนี้มีต้นกำเนิดจากเหยี่ยวปีกโลหิตระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลาย มันเป็นสิ่งที่เขาต้องการ ตามที่เจียงเฉินได้ประมาณการไว้หากเขาได้ดูดซับวิญญาณอสูรนี้และพลังงานที่มีอยู่ด้วยการใช้ทักษะร่างแปลงมังกรในการดูดซับสายเลือดของอสูรเหยี่ยวปีกโลหิต เขาก็จะสามารถทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ได้
“แต่ว่านายท่านสำหรับมนุษย์ วิญญาณอสูรไม่สามารถช่วยอะไรนายท่านได้มากนัก ข้าเป็นเหยี่ยววิญญาณอสูรของเหยี่ยวปีกโลหิตนี้จะเหมาะสมกับข้า!”
ชายแก่ยังไม่ยอมแพ้
เจียงเฉินจ้องไปยังชายแก่ และหยิบวิญญาณอสูรไป
“อย่าได้กังวลไป ข้าไม่ได้รับไปเฉยๆ ข้าจะให้ทักษะทักษะมารเทวะศักดิ์สิทธิ์แก่เจ้า หากเจ้าทำการบ่มเพาะด้วยทักษะนี้ เจ้าจะได้รับยิ่งกว่าวิญญาณอสูรนี่เสียอีก สามารถทะลวงเข้าสู่ระดับ อาณาจักรราชาปีศาจในอนาคตใช่ว่าจะเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้”
เจียงเฉินพูดขึ้นก่อนที่จะส่งบทคัดย่อสำหรับ’ทักษะมารเทวะศักดิ์สิทธิ์’ ไปให้ชายแก่ทางเซนส์ศักดิ์สิทธิ์ ร่างของชายแก่สั่นเทิ้ม ดวงตาของเขาเปล่งประกายอย่างรุนแรงจนเห็นแสงสว่างออกมาจากตาของเขา
ทักษะมารเทวะศักดิ์สิทธิ์ได้มาจากเซียนปีศาจที่แข็งแกร่งมาก ในชีวิตที่แล้วของเขามันเป็นทักษะศักดิ์สิทธิของปีศาจ หากเป็นการแบ่งประเภทตามระบบของมนุษย์ที่ใช้มันก็จะอยู่ในระดับเซียน
ในทวีปเซียนนั้น สิ่งใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเซียนนั้นจะเป็นสมบัติล้ำค่าทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทักษะบ่มเพาะ ทักษะต่อสู้ ยุทธภัณฑ์ พวกมันเหมือนๆกัน ทักษะการบ่มเพาะของปีศาจนั้นหายากยิ่งกว่า ในชีวิตที่แล้วของเจียงเฉิน เขาได้พัวพันในหลากหลายสิ่ง และเขาพบทักษะเซียนปีศาจไม่มากนัก แม้เขาจะไม่สามารถที่จะบ่มเพาะด้วย ทักษะมารเทวะศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ยังจำมันได้ วันนี้เขาได้ส่งทักษะนี้ให้แก่ชายแก่ นอกเหนือจากที่เขามอบวิญญาณอสูร เจียงเฉินยังมีแรงจูงใจอย่างอื่นอีก
ไม่นานหลังจากนี้เขาจะต้องออกเดินทางต่อและตระกูลเจียงนั้นเป็นสิ่งเดียวที่เขายังกังวลอยู่ หากราชันย์ปีศาจได้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลเจียงสามารถที่จะปกป้องพวกเขาได้ เจียงเฉินจะสามารถวางใจได้ ยิ่งชายแก่แข็งแกร่งขึ้นเท่าไร ก็จะสามารถช่วยเหลือมากขึ้นด้วย
หลังจากที่ถ่ายทอด ทักษะมารเทวะศักดิ์สิทธิ์เสร็จสมบูรณ์ ชายแก่ได้ตื่นเต้นอย่างมาก ร่างกายของเขาสั่นเทิ้ม เขาคุกเข่าลงและพูดออกมา “ขอบพระคุณนายท่านสำหรับของขวัญที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้! ขอบพระคุณนายท่านสำหรับของขวัญที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้!”
ดวงตาของชายแก่มีต้ำตาคลอ มุมมองที่เขามองเจียงเฉินได้เปลี่ยนไปโดยสมบูรณ์ แม้เจียงเฉินจะอยู่อาณาจักรฉีไห่ แต่ภาพลักษณ์ของเขาดั่งขุนเขา
นี่เป็นทักษะการบ่มเพาะของเซียนปีศาจ ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาให้ทักษะระดับเซียนแก่เขาง่ายๆ นี่เป็นสิ่งที่มนุษย์ทำกันหรือ? นี่มันไม่น่าเชื่อเลย แม้แต่ราชันย์ปีศาจที่ทรงพลังในตำนานยังไม่มีทักษะการบ่มเพาะเซียนปีศาจเลย
นอกจากนี้หากพวกเขามีทักษะที่ทรงพลังอย่างทักษะมารเทวะศักดิ์สิทธิ์ จะมีผู้ใดอยากที่จะแบ่งให้แก่ผู้อื่น? ในทวีปตะวันออกแห่งนี้ไม่มีทักษะระดับเซียนอยู่ ไม่แค่เพียงเจียงเฉินจะมีมันอยู่ เขายังให้อย่างเมินเฉยอีก คว่ามกล้าแบบนี้ ความลึกลับขนาดนี้ เขาสามารถที่จะพิชิตชายแก่ได้อย่างสมบูรณ์
สิ่งที่เจียงเฉินพูดนั้นถูกต้อง ทักษะร่างมารเทวะศักดิ์สิทธิ์นั้นทรงคุณค่ายื่งกว่าจิตวิญญาณอสูรเหยี่ยวปีโลหิตมากมายนัก
“บัดซบ! ทำไมเจ้าหนูอย่างเจ้าถึงรู้ทักษะร่างมารเทวะศักดิ์สิทธิ์ได้? อย่าบอกนะว่าเจ้าเป็นมารแก่มาจุติ บอกมาเร็วๆเลยว่ามีอะไรดีๆอีก ให้บิดาเจ้าได้รับประโยชน์บ้าง”
หวงต้าได้มองเจียงเฉินด้วยความตะลึง เขารู้สึกมาตลอดว่าเจียงเฉินนั้นลึกลับแต่เมื่อเห็นว่าเจียงเฉินให้ทักษะมารเทวะศักดิ์สิทธิ์ เข้าได้ตะลึงอย่างมาก
“หลบไป ทักษะบ่มเพาะของปีศาจไม่มีประโยชน์อันใดต่อเจ้า”
เจียงเฉินพูดอย่างหมดหนทาง เจ้าหมอนี่เป็นกิเลน สายเลือดของมันอยู่จุดสูงสุดของสัตว์ปีศาจ ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะบ่มเพาะด้วยทักษะปีศาจใดๆ หากมันฝืนตัวเองใช้วิถึทางบ่มเพาะของปีศาจ มันจะจบด้วยการจำกัดศักยภาพของมัน
“ข้าต้องการที่จะปิดประตูบ่มเพาะ ทั้งคู่ช่วยข้าดูแลทางเข้าหน่อยนะและไม่ให้ผู้ใดมารบกวนข้า”
เจียงเฉินพูดและหันกลับเดินเข้าห้องไป
“เจ้าบ้านี่ เจ้านี่มันเจ้ากี้เอาแต่ใจตนเหลือเกินตอนนี้”
หวงต้ามองไปยังเจียงเฉินและพูดออกมาอย่างหมดหนทาง หลังจากนั้นเขาได้บอกชายแก่ที่ยืนขึ้นจากการคุกเข่า “จงปกป้องประตูไว้ บิดาเจ้าจะนอนหลับที่นี่”
“ขอรับ”
ชายแก่ก้มหัวอย่างสุภาพต่อหวงต้าก่อนที่จะเดินตรงไปยังทางเข้าของสถานที่ที่เจียงเฉินบ่มเพาะอยู่อย่างมีความสุข หน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุข ความรู้สึกท้อใจของเขาได้หายไปหมดแล้ว เขาได้เรียนรู้ทักษะมารเทวะศักดิ์สิทธิ์ นี่มันวันโชคดีของเขา
ภายในห้อง เจียงเฉินนั่งขัดสมาธิกับพื้น วิญญาณอสูรสีแดงกำลังลอยอยู่บนอากาศตรงหน้าเขา เจียงเฉินไม่ได้กลืนวิญญาณอสูรทันที นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพยายามที่จะดูดซับวิญญาณอสูรที่มีสายเลือดหายาก เขาต้องการที่จะปรับปรุงรูปแบบของเขาให้สมบูรณ์และโคจรทักษะร่างแปลงมังกรด้วยศักยภาพสูงสุดของมัน
หวงต้าได้นอนบนหินสีเขียวขนาดใหญ่ในลานกว้างและนอนหลับโดยไม่กังวลสิ่งใดแม้แต่น้อย ชายแก่ยืนอยู่ทางเข้าประตูหลัก ได้แสดงออกถึงผู้คุ้มกันที่ซื่อสัตย์ของเจียงเฉินในขณะเดียวกันก็ตั้งใจศึกษาทักษะมารเทวะศักดิ์สิทธิ์อย่างเงียบๆ
ค่ำคืนมืดมิดและมีสายลมพัดรุนแรง ใจกลางจตุรัส โลหิตไหลนองในทุกที่ นี่เป็นการต่อสู้นองเลือด ตระกูลลีที่สูญเสียลีชานเย่ว์ไป ไม่เพียงแค่พวกเขาสูญเสียการช่วยเหลือของเสาหลักไป พวกเขายังสูญเสียกำลังใจอีกด้วย ภายใต้สถานการ์ณดังกล่าว สิ่งที่เหลือสำหรับพวกเขาคือรอให้ตระกูลหยานมาฆ่าเท่านั้น
การต่อสู้กินเวลาเพียงแค่ชั่วโมงครึ่งเท่านั้นก่อนที่จะสรุปผลได้ ตระกูลลีพ่ายแพ้ โลหิต ศพ แขนขา ได้เห็นเกลื่อนในทุกที่ นี่เป็นการต่อสู้ที่รุนแรงที่สุดในเมืองสีชาติ
คนจากตระกูลลีมากกว่าร้อยคนที่ได้ตายไป และที่เหลือได้ยอมแพ้ พวกเขาอยู่ที่มุมโดยมีคนตระกูลหยานคุม หน้าของพวกเขามีสีเทา พวกเขาไม่รู้ชะตากรรมต่อไปของตนเอง
“ท่านผู้นำตระกูล พวกเราจะทำเยี่ยงไรดีกับคนพวกนี้ขอรับ?”
หยานหยางพูดอย่างฮึกเหิม
“สังหารพวกมันให้สิ้น! ก่อนที่น้องเจียงจะไป เขาได้บอกว่าหากจะกำจัดวัชพืชให้ถอนทั้งราก”
ชายแก่แก่นแท้มนุษย์ได้พูดขึ้น
“ไม่!”
หยานเฉินหยู่ตะโกนอย่างตื่นตระหนก ใบหน้าของนางดูซีดเซียวและดูอารมณ์เสีย เป็นเด็กไร้เดียงสาที่ไม่มีประสบการ์ณภายนอกมาก่อน นางไม่เคยเห็นฉากเช่นนี้มาก่อน ในตอนสู้รบนางได้ใช้ความเย็นจากชีพจรเก้าหยินสังหารไปสองคน นั่นทำให้นางรู้สึกแย่พอแล้ว มันจะโหดร้ายเกินไปหากพวกเขาได้สังหารคนพวกนี้ทั้งหมด นางไม่สามารถรับได้
“ท่านพ่อ พวกเขาได้ยอมแพ้แล้วนะคะ ฆ่าพวกเขาทั้งหมดนั้นไม่โหดร้ายไปหน่อยหรือ! ข้าเชื่อว่าสิ่งที่ท่านพี่เจียงเฉินพูดไม่ได้หมายความเช่นนี้”
หยานเฉินหยู่พูด
หยานเจิ้นหยุนลูบหัวหยานเฉินหยู่อย่างอ่อนโยน หน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสาร บุตรีของเขามีจิตใจเมตตายิ่งนัก และมันจะทำให้นางทุกข์ทรมานในอนาคต นี่เป็นเหตุผลที่ได้พานางมาร่วมการต่อสู้ด้วย ความรู้สึกเมื่อได้สังหารคนไปครั้งแรกย่อมรู้สึกไม่ดีแต่เมื่อนางได้ออกเดินทางไปยังโลกฝึกตนที่แท้จริง นางจำเป็นต้องทำ หากไม่ทำนางก็จะต้องทุกข์ทรมานเมื่อไปยังส่วนในของแคว้นฉี
หยานเฉินหยู่ผู้มาพร้อมกายศักดิ์สิทธิ์ เมืองเล็กๆไม่สามารถรั้งนางไว้ได้ตลอด นอกจากนี้บุตรีเขาได้กำลังตกหลุมรักเจียงเฉิน ผู้ใดคือเจียงเฉิน? เขาคือชายแห่งความวุ่นวาย! การที่จะสามารถเป็นสตรีที่เคียงข้างเขาได้ นางจะต้องไม่เป็นภาระ
“หลบไป หยู่เอ๋อร์ บิดาเจ้ารู้ดีว่าควรทำเช่นไร และข้ารู้ความหมายแท้จริงของน้องเจียงเฉิน”
หยานเจิ้นหยุนและก้าวไปข้างหน้า สายตาที่เย็นชาของเขาได้จ้องไปยังคนตระกูลลร “สังหารทุกคนจากตระกูลลี! ผู้ที่มาจากตระกูลที่อยู่ใต้อำนาจ ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ของพวกเจ้า แต่พวกเจ้าต้องผ่านการประเมินเสียก่อน”
ด้วยเหตุนี้ หยานเจิ้นหยุนได้ตัดสินชะตาของคนจากตระกูลลี มันคล้ายกับตอนที่เจียงเฉินทำกับตระกูลมู่หลง แต่เขามีความปราณียิ่งกว่าสเจียงเฉินด้วยการที่เขายอมรับการยอมแพ้ของตระกูลใต้อาณัติ
หยานเจิ้นหยุนเข้าใจในสิ่งที่เจียงเฉินบอกเขา จะกำจัดวัชพืชให้ถอนทั้งราก วัชพืชคือตระกูลลีมันเอง แล้วคนที่ยอมแพ้ เขาไม่ได้สังหารทั้งหมดตระกูลหยานตอนนี้เป็นผู้คุมกฎของเมืองนี้เขาจึงต้องมีความปราณีสักนิด
หยานเฉินหยู่ถอนหายใจ นางได้ออกจากใจกลางจตุรัสด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว หยานหยางรีบเดินตามนางไป การต่อสู้ในวันนี้ได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อหยานเฉินหยู่ สาวน้อยผู้นี้จะใช้เวลาไม่กี่วันในการทำมัน
แต่นี่ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ สิ่งแวดล้อมส่งผลต่อลักษณะของบุคคล นางจำเป็นต้องทำเร็วๆนี้ หรือหลังจากนี้
************************************************************************
จบจ้า