ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
แปลไทยโดย Takumi Kun
ตรวจทาน Subaru-Kyun
************************************************************************
“อะไรนะ!? อายุสิบแปดปีอยู่ระดับยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์?! หนานเป่ยเฉาเป็นอัจฉริยะประเภทใดกัน? เพียงแค่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็น่ากลัวแล้ว!”
“อายุสิบแปดปีอยู่ระดับแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลางมันน่ากลัวก็จริง แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ เขาสามารถเอาชนะระดับแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายด้วยระดับแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลางนี่สิ! และคนที่เขาได้เอาชนะได้ยังเป็นกวนอี้หยุนที่เอาชนะไป๋หัวไต๋ ทั้งสองนั้นเป็นศิษย์ในระดับต้นๆจากสี่นิกายใหญ่ พวกเขาไม่ใช่ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายทั่วๆไป!”
“ข้าไม่เคยคาดว่าอัจริยะหาผู้เปรียบได้จะอยู่ในนิกายอัคคีผลาญฟ้า! ศิษย์จากอีกสามนิกายใหญ่จะต้องรู้สึกกดดันอย่างมากเป็นแน่! หนานเป่ยเฉาผู้นี้อายุเพียงแค่สิบแปดเท่านั้นอนาคตของเขาไร้ที่สิ้นสุดและเขาอาจจะเป็นภัยคุกคามต่อนิกายใหญ่อื่นๆอีกด้วย”
………………………………………………………………………หลายๆคนต่างคุยเกี่ยวกับเรื่องของหนานเป่ยเฉา ผู้ปรากฎตัวออกมาจากที่ไหนไม่ทราบ การแข่งขันประจำแคว้นฉีนั้นสำคัญมากต่อสี่นิกายใหญ่และหนานเป่ยโจมนั้นสามารถกดข่มเหล่าศิษย์ชั้นในทั้งหมดด้วยตัวเขาเอง นี้แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ที่เขามี นอกจากนี้ตอนนี้เขายังมีอายุเพียงสิบแปดปี และนี่ทำให้เขาได้เป็นดวงดาราเจิดจรัสในแคว้นฉี
“มีอะไรที่น่าภาคภูมิใจกัน? อัจฉริยะตัวจริงอยู่นี่!”หวงต้ามองไปยังเจียงเฉิน ในสายตาของมัน เจียงเฉินเป็นสุดยอดอัจฉริยะที่สุดเท่าที่มันเคยพบเจอ แม้ว่าเขาจะยังอยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้นก็ตาม มันหายากมากๆในการหาคนที่อยู่ระดับต่ำกว่าอาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ที่สามารถเอาชนะเจียงเฉินได้ เจียงเฉินอายุยังไม่ถึงสิบหกปีด้วยซ้ำ ความสำเร็จของเขาในอนาคตย่อมยิ่งใหญ่หว่าหนานเป่ยเฉามาก
“ท่านพี่เจียงเฉินคะ หนานเป่ยเฉาผู้นั้นดูท่าจะแข็งแกร่งจริงๆนะคะ!”
หยานเฉินหยู่พูด
“ดูเหมือนว่าแคว้นฉีเป็นสถานที่สำหรับพยัคฆ์หมอบและมังกรเร้นกาย……แต่นี่เป็นสิ่งที่ดีมันทำให้ความพยายามที่จะมายังที่แห่งนี้เป็นผลดีต่อข้า หากเหล่าอัจฉริยะของแคว้นฉีนั้นธรรมดา มันคงจะน่าเบื่อแย่”
เจียงเฉินยิ้มและจำชื่อหนานเป่ยเฉา มันหายากที่จะหาคนในวัยใกล้เคียงเขาที่คู่ควรที่จะจดจำชื่อ
“เจ้าหนู หลังจากใช้เวลาไปมากมายในภูเขา ปากของบิดานั้นแทบจะไร้ความรู้สึกแล้ว ข้าต้องการให้เจ้าเลี้ยงข้าวข้ามื้อใหญ่หน่อย”
หวงต้าพูด
“แน่นอน งั้นเลือกสถานที่เถอะ”
เจียงเฉินใจกว้างยิ่งนัก เขายังคงสามารถจ่ายสำหรับมื้อใหญ่ได้ง่ายๆ
“ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าสถานที่แห่งใดดี? นี่เป็นครั้งแรกที่บิดาเจ้ามาที่นี่ บิดาเจ้าต้องการอาหารที่เลิศรสที่สุด”
หวงต้าพูดอย่างไม่ลังเล
เจียงเฉินสอบถามคนเดินเท้า “นี่พี่ชาย ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมืองจันทราสีเงินอยู่ไหนหรือ?”
“เจ้าเพิ่งเข้ามาสินะน้องชาย เมื่อเจ้าไม่รู้เกี่ยวกับร้านอาหารในเมืองจันทราสีเงิน! เจ้าเดินตามถนนนี้ไปราวๆชั่วโมงและเจ้าจะพบภัตตาคารจันทราสีเงิน แต่ราคาอาหารที่นั่นไม่ใช่ถูกๆ คนทั่วๆไปไม่มีปัญญาจ่ายหรอกน้องชาย”
คนเดินเท้าได้ชี้ไปยังถนนใหญ่และอธิบาย
“ตกลง งั้นไปภัตตาคารจันทราสีเงินกัน วันนี้ บิดาเจ้าจะกินอาหารทั้งหมดในภัตตาคารจันทราสีเงิน!”
หวงต้ากระโดดขึ้นๆลงๆด้วยความตื่นเต้น เหมือนกับขอทานที่หิวโหยมาสามคืนและได้พบกับไก่อบอยู่ตรงหน้า
หวงต้าได้เดินนำหน้าขณะที่ขยับร่างกายอ้วนๆของมัน เจียงเฉินและหยานเฉินหยู่ได้ตามหลังมันไป
ในเมืองจันทราสีเงิน มีเพียงเจ้าเมืองเท่านั้นที่สามารถมีกิจการที่มีชื่อนำหน้าด้วยจันทราสีเงิน ดังนั้นภัตตาคารจันทราสีเงินจึงเป็นธุรกิจของเจ้าเมือง
เจ้าเมืองควบคุมเมืองจันทราสีเงินโดยสมบูรณ์ อิทธิพลกลุ่มอื่นๆได้ก้มหัวให้กับเจ้าเมือง เจ้าเมืองเป็นยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ มียอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์เพียงคนเดียวในเมืองจันทราสีเงิน นั่นเป็นเหตุว่าเขาเป็นผู้ปกครองแด่เพียงผู้เดียว
ไม่นานหลังจากนั้น เจียงเฉิน หยานเฉินหยู่และหวงต้าได้มาถึงภัตตาคารจันทราสีเงิน มันเป็นภัตตาคารที่ดูโอ่อ่ามีการตกแต่งอย่างหรูหรา และบนประตูทางเข้ามีคำสองคำอยู่ ‘จันทราสีเงิน’ มันเป็นอาคารสองชั้น และการตกแต่งโอ่อาและหรูหรา ไม่ว่าใครต่างรู้สึกถึงออร่าของพวกชนชั้นสูงจากสถานที่แห่งนี้
ชัดเจนว่า คนที่สามารถเข้ามาทานอาหารที่นี่ได้ต่างเป็นชนชั้นสูงหรือไม่ก็คนร่ำรวยที่สุดในเมืองจันทราสีเงิน ภัตตาคารแห่งนี้ไม่รับเหรียญทอง รับแต่ยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์เท่านั้นแทนการใช้จ่าย มันเป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่สามารถที่จะจ่ายได้
ในช่วงบ่าย จะเป็นช่วงที่ยุ่งมากที่สุดในแต่ละวันของภัตตาคารจันทราสีเงิน คนรวยและคนดังที่สวมชุดราคาแพงต่างเข้ามากัน
“ยินดีต้อนรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี เชิญเข้ามาด้านใน! รับชามังกรคุณภาพสูงสุดนะขอรับ!”
ชายหนุ่มที่ดูเหมือนว่าจะเป็นบริกรได้ก้มหัวทักทายลูกค้าขณะที่ตะโกนรายการที่สั่ง ในภัตตาคารจันทราสีเงินแม้แต่บริกรยังอยู่อาณาจักรฉีไห่ นี่หมายความว่าเมืองสีชาดไม่สามารถเปรียบเทียบได้
เมื่อบริกรเห็นเจียงเฉินและคนอื่นๆ เขารีบมาด้านหน้าและทักทาย “นี่เป็นครั้งแรกที่พวกท่านทั้งสองได้มายังภัตตาคารจันทราสีเงินสินะขอรับ เชิญเข้ามาด้านในขอรับ!”
บริกรมีวิจารณญาณที่ดี เขาสามารถจำลูกค้าทั้งหมดที่มายังภัตตาคารจันทราสีเงินและหากเขาเห็นคนผู้นั้นเป็นครั้งแรกพวกเขาก็จะเป็นคนที่ไม่เคยมาที่แห่งนี้มาก่อน ดังนั้นเมื่อเขามองไปยังเจียงเฉินและหยานเฉินหยู่ ชายหนุ่มดูดีและมีพรสวรรค์และเด็กสาวที่งดงามดุจนางฟ้าจากสวรรค์ พวกเขาทั้งคู่มีออร่าของชนชั้นสูงแผ่ออกมา ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะดูหมิ่นแต่อย่างใด
เจียงเฉินผงกหัวของเขาและเดินตรงเข้าไปยังภัตตาคารจันทราสีเงิน หวงต้าได้เดินตามหลังไปลิ้นของมันแล่บออกมาจากปาก และหน้ามันดูปิติยินดี ความเร็วของมันรวดเร็วยิ่งกว่าเจียงเฉิน
“เฮ้ย เฮ้ย! ที่นี่เป็นร้านอาหารชั้นสูง สัตว์เลี้ยงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป!”
ตอนนี้บริกรได้พบหวงต้าที่อยู่ด้านหลังพวกเขา เขาได้ขวางทางไม่ให้เข้าไปเพิ่ม
ได้ยินคำว่า ‘สัตว์เลี้ยง’ หวงต้าเกิดโทสะขึ้นมาทันที มันกระโจนขึ้นสู่อากาศและตระครุบเขาลงบนพื้น
บริกรอยู่ระดับอาณาจักรฉีไห่ แต่เมื่อเขาโดนหวงต้าตระครุบลงบนพื้น มันรู้สึกเหมือนมีภูเขามากดทับตัวเขา แค่เพียงหายใจก็ลำบากแล้วสำหรับเขาในตอนนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่จะต่อต้านหวงต้าเลย
“ไอ้เวร เจ้าว่าผู้ใดเป็นสัตว์เลี้ยงวะ? ข้าบิดาเจ้าเป็นผู้ที่โดดเด่นนะเฮ้ย! เจ้ากล้าดีเช่นไรที่มาเรียกข้าว่าสัตว์เลี้ยง! เจ้ากล้าดีอย่างไรเรียกภัตตาคารขยะนี่ว่าชั้นสูง?! ข้าบิดาเจ้าอุตส่าห์ยอมมากินข้าวที่นี่………บัดซบ! เจ้ากล้าดีอย่างไรมาดูถูกบิดาของเจ้า เจ้าคงเชื่อว่าข้าจะไม่กัดเจ้าให้ตายสินะ?!”หวงต้าไม่ใช่คน(?) ที่สามารถมาตอแยด้วยได้ มันเป็นถึงลูกหลานของกิเลน มันมีสายเลือดหนึ่งที่สูงส่งที่สุดในโลก แต่บริกรผู้นี้ทำกับว่ามันเป็นสัตว์เลี่ยงทั่วๆไป จะไม่ให้หวงต้าไม่สามารถกราดเกรี้ยวได้อย่างไร?
ในขณะนั้นคนหลายๆคนในภัตตาคารจันทราสีเงินเริ่มมองดูว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น สายตาของพวกเขาต่างจับจ้องไปยังหวงต้า หมาที่สามารถพูดได้ นี่มันเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์
“เกิดอะไรขึ้น?”
ในเวลาเดียวกัน ชายแก่เดินออกมาจากห้องภายในภัตตาคาร ชายคนนี้มีพลังหนาแน่นรอบตัวเขา เขาเป็นยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ เมื่อเขามองไปยังทั้งสาม ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปโดยพลัน ประสบการณ์ของเขานั้นมีมากบริกรคนนั้นถือว่าน้อย เขานั้นสามารถบอกได้ในการมองเพียงครั้เดียวว่าทั้งสามคนนี้ไม่สามารถตอแยได้ง่ายๆ
“นายน้อย ข้านั้นมีเงินมากมายนักแต่ภัตตาคารจันทราสีเงินนั้นกีดกันสหายข้าไม่ให้เข้าไป มันหมายความเช่นไรหรือ?”
หน้าของเจียงเฉินเย็นชา พูดอย่างไม่แยแส
“ข้ามิกล้ากีดกันท่านหรอก เชิญเข้าข้างในเถิด!”
ผู้จัดการทำท่าทางต้อนรับ จนถึงตอนนี้ในที่สุดหวงต้าก็ได้ขยับออกจากบริกร มันเดินตรงไปที่โต๊ะเหมือนหัวหน้า
“เจ้ามองหาอะไร? ไม่เคยพบหมาหน้าตาดีรึ?”
หวงต้ามองไปยังรอบๆด้วยสายตาหลงตัวเอง
บ้าอะไรฟะ?! มันมีอะไรน่าภูมิใจฟะ? เมื่อเจ้าเป็นหมา?
ทุกๆคนต่างไร้คำพูดจะพูด
ด้านหลังเจียงเฉิน บริกรยืนขึ้นมามองอย่างอยุติธรรม แต่เขาไปยืนด้านข้างของผู้จัดการอย่างสุภาพ เขารู้ว่าตัวเขาได้ก่อปัญหาเอาไว้ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าแม้แต่หายใจเสียงดัง
“คราวหน้าดูให้มันดีๆหน่อย! เร็วเข้าสิ รีบไปเสิร์ฟให้เหมาะสมด้วย”ผู้จัดการจ้องบริกร
เมื่อเจียงเฉินเดินไปยังโต๊ะ เขารู้สึกได้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่เขา เมื่อเขาหันกลับไปยังที่มาของสายตานั่นก็พบเด็กหนุ่มอายุประมาณสิบปีสวมชุดสีน้ำเงิน ผมสีดำของเขาได้แสกกลางมองดูสะอาดสะอ้าน หน้าตาของเขาดูดี ดวงตาของเขาสดใส แม้ว่าเขาจะดูขี้เกียจก็ตาม ประสาทสัมผัสของเขาสุดยอด
ชายหนุ่มชุดสีฟ้าได้ก้าวไปยังเก้าอี้ด้วยเท้าข้างหนึ่งของเขาและขณะที่เอนไปยังกำแพง มีขวดไวน์ในมือทำมาจากคริสตัล เมื่อเขาเห็นว่าเจียงเฉินมองเขา เขายกไวน์ขึ้นต่อเจียงเฉินและยิ้มให้
ริมฝีปากเจียงเฉินยกขึ้น เขาทักทายเด็กหนุ่มกลับด้วยรอยยิ้ม
“มานี่หน่อยสิ!”
บริกรตั้งใจต้อนรับพวกเขา เขาพาทั้งสามไปยังโต๊ะตัวใหญ่ใจกลางห้อง ทางที่เขามองไปยังหวงต้านั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หมาตัวนี้น่าหวาดกลัวยิ่ง พลังที่ไหลออกมาจากร่างมันไม่ใช่สิ่งที่บริกรสามารถขัดขืนได้
“ไม่สิ่งใดที่ต้องการสั่งเพิ่มหรือขอรับ?”
บริกรถาม
“นำทุกอย่างที่มี นำอาหารที่อร่อยที่สุดในร้านมาให้ข้า! แต่ละส่วนแยก…..ไม่สิ แยกเป็นเมนูละสามจาน!”
หวงต้าพูดอย่างไม่ลังเล นอกจากนี้เสียงของมันยังดังมาก มันดึงดูดสายตาตกตะลึงจากผู้คนรอบข้างอีกครั้ง
“อะไรนะ? ทุกเมนูงั้นเรอะ?”
บริกรตื่นตระหนก ภัตตาคารจันทราสีเงินเป็นภัตตาคารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจันทราสีเงิน และในแต่ละจานนั้นแพงสุดๆ ในแต่ละจานที่นำมาเสิร์ฟ มีราคาขั้นต่ำสองร้อยถึงสามร้อย ยาเม็ดฟื้นพลังขั้นมนุษย์ แม้แต่ตระกูลที่มั่งคั่งที่สุดในเมืองยังสั่งไม่มากขนาดนี้ และไม่เพียงเท่านั้น เจ้าหมายังสั่งแต่ละเมนู นำมาสามจานอีก มันมีราคามากกว่ายาฟื้นพลังขั้นมนุษย์พันเม็ด
“เป็นอะไร? ข้าบิดาเจ้ามีเงินจ่าย! รีบๆไปเอาอาหารมาเสิร์ฟให้ข้าได้แล้ว หากเจ้าปฎิเสธคำสั่งของข้า ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆด้วยฟันของข้า!”
หวงต้าเผยฟันของมันออกมาอีกครั้ง
“ขอรับ ได้ขอรับ!”
บริกรไม่กล้าปฎิเสธ ในที่สุดเขาก็พบลูกค้าที่มั่งคั่งสุดๆ และเขานั้นมีความสุขมากกว่าเศร้า
“เจ้าหมานี่พิเศษแฮะ มันมีท้องใหญ่มาก”
“พวกเขามั่งคั่งแบบสุดๆแต่สิ่งที่พวกเขาทำนั้นเสียของ”
“เด็กสาวผู้นั่นงดงามมาก ข้าสงสัยว่านางมาจากแห่งใด…..”
…………………………………………………………….
ขณะที่ทุกคนกำลังพูดถึงเหตุการณ์ตอนนี้ บริกรได้นำอาหารจานเล็ก ใหญ่เติมเต็มที่ว่างของโต๊ะ ในบรรดาอาหารนั้นมีแม้กระทั่งหัวใจของสัตว์อสูรระดับแก่นแท้มนุษย์ได้นำไปตุ๋นกับสมุนไพรและโสม มันดูหรูหราอย่างมาก
“เฮะเฮะ บิดาเจ้าทนรอไม่ไหวแล้ว!”
หวงต้าหัวเราะเสียงดังอย่างตื่นเต้น ร่างของมันยืนขึ้นเหมือนมนุษย์ ยืนบนสองเท้า ขาหน้าของมันทั้งสองวางบนโต๊ะและน้ำลายมันหกลงบนจานหัวใจสัตว์อสูร
เมื่อเห็นเช่นนี้ เจียงเฉินและหยานเฉินหยู่ขมวดคิ้ว เจ้าหมาเวรนี่ยังจะกินขนาดนี้?ความอยากอาหารของพวกเขาหายไปเมื่อเห็นเช่นนี้
เฮะเฮะ……
ทั่วทั้งภัตตาคารเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของหวงต้า มันแลบลิ้นยาวออกมากว่าเมตร
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนั้นสร้างความตกตะลึงแก่ทุกคนในภัตตาคาร หวงต้าดั่งพายุ กวาดอาหารทุกอย่างด้วยลิ้นของมัน เพียงแค่นาทีเดียว มันกวาดอาหารทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะเข้าปากมัน จานสะอาดสามารถใช้เป็นกระจกได้เลย
“รสชาติไม่ได้แย่อะไรนัก เอาอาหารมาให้ข้าอีกโต๊ะ!”
น้ำลายของหวงต้าเลอะทุกที่ มันตะโกนหาบริกรที่ยืนด้านข้าง
“บัดซบ! เจ้าจะมัวยืนอยู่ตรงนี้ด้วยเหตุใดล่ะ?! รีบๆเอาเอาหารมาให้ข้ามากกว่านี้!”
ขาหน้าของหวงต้าทุบลงบนโต๊ะ ทำจานทั้งหมดร่วงลงพื้น
บ้าจริง!
เจียงเฉินเอามือปิดหน้าของเขา เขาอยากที่จะออกจากที่นี่พร้อมหยานเฉินหยู่ทันทีและไม่ให้ผู้ใดรู้ว่าเขารู้จักเจ้าหมานี่ นี่มันน่าอับอายขายหน้าแท้ๆ
****************************************
จบจ้า
หากข้าเป็นเจียงเฉิน ข้าจะทำเป็นไม่รู้จักมัน ตัวขายขี้หน้าชัดๆ แทบแทรกแผ่นดินหนีเลย