I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 76 ผลของการไม่ยอมแพ้

| Dragon-Marked War God | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

 


แปลไทยโดย  Subaru-Kyun   / Takumi Kun


ตรวจทาน        Subaru-Kyun

=====================================================


      เจ้าหมาเจ้าเล่ห์นี่ เป็นสายพันธุ์หายาก เวลาฆ่ามันก็อำมหิตยิ่งนัก แต่แม้กระทั่งเวลากิน มันก็กินอย่างโหดร้ายนัก มันยากที่จะมองมันกินอาหาร


“มันบ้าอะไรวะเนี่ย เจ้าหมานี่มันอะไรกัน มันกินจุเกินไปแล้ว ใครก็ตามที่มีหมาตัวนี้ติดตามละก็

ต้องถังแตก กับค่าอาหารของมันเป็นแน่”


“อี๋…..!! ข้าทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เจ้าหมานี่มันมาจากไหนกัน? มันอยู่นี่ทำให้ข้ากินอะไรไม่ลงเลย 

ผู้จัดการ รีบไปไล่มันออกไปที”


“นี่มันทำให้ข้ากินอะไรไม่ลงเลยจริงๆ…… มันแย่ยิ่งนัก”


………………………………………………………………………


ผู้คนทนไม่ไหวอีกต่อไป เวลาที่เจ้าหวงต้ากำลังจะกิน มันถ่มน้ำลายของมันรอบๆ ทำให้ผู้คนต่างกินอะไรไม่ลง เจ้าหมานี้ต้องเป็นพันธุ์พิเศษในหมู่พันธุ์พิเศษเป็นแน่


“บ๋อย….. รีบเอาอาหารมาให้ข้าอีก!!”


หวงต้าไม่สนใจสายตาที่มองมาอย่างรังเกียจ  มันตะโกนและสั่งให้บริกรนำอาหารมาให้มันอีก


“ขอรับ ได้ขอรับ…….”


บริกรไม่ลังเลเลยสักนิด เขาเดินเข้าไปเตรียมอาหาร ในขณะเดียวกัน พนักงานสองคนก็เก็บจานไปวางไว้กับพื้น


ถัดจากหน้าต่าง ได้มีชายหนุ่มนั่งจิบไวน์อยู่คนเดียว กำลังเอนตัวพิงกับกำแพง บางครั้งเขาจะมองไปยังหวงต้าพร้อมกับแสยะยิ้ม


ไม่นานหลังจากนั้น โต๊ะก็เต็มไปด้วยอาหารที่นำมาเสิร์ฟ ตาของหวงต้าได้เปล่งแสงระยิบระยับ มันทำยังกับว่าจะกระโดดขึ้นไปบนจาน


ในเวลานี้เจียงเฉินพุ่งไปหาหวงต้าอย่างรวดเร็ว และใช้มือกดหัวของมันไว้ และพูด “ไอ้หมาเวร…..เห็นแก่หน้าข้าหน่อยได้รึไม่ ไม่มีใครแย่งอาหารเจ้าหรอก”


“แง่ง……แฮ่ เจ้าหนู เอามือเจ้าออกไป”


หวงต้าคำรามเสียงดัง โดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ของมันเลย ลิ้นที่ยาวกว่าเมตรของมัน ออกมาจากปาก และตวัดไปบนโต๊ะกวาดอาหารเข้าปากมัน

รวดเร็วดังพายุ


ทุกคนในภัตตาคารต่างลืมที่จะกินอาหาร พวกเขากำลังจ้องไปยังหมาสีเหลืองตัวนั้น 


“บ๋อย…….ไปเอามาอีกโต๊ะ”


หวงต้ากิน(?)อาหารหมดอีกแล้ว มันจึงสั่งเพิ่มอีกโต๊ะ


“บัดซบ !! เจ้าหมานี่มันกินอาหารดีๆหมดในพริบตา นี่ข้าต้องมาเสียยาฟื้นพลังมนุษย์อีกหลายร้อยอีก”


“บ้าชิบ…..เจ้าหมานี่กินอาหารดีกว่าข้าและบิดาข้าเสียอีก มันน่าโมโหเสียจริง”


บางคนทนไม่ไหว โกรธมาก พวกเขาจึงทุบลงไปบนโต๊ะของพวกเขา อาหารอร่อยจำนวนมากมาย ต้องเสียไปกับหมาตัวหนึ่ง อาหารราคาแพงพวกนี้ พวกเขายังไม่มีปัญญาที่จะกิน จบลงที่พวกเขาแย่กว่าหมาที่ภัตตาคารจันทราสีเงิน


“รสชาติไม่เลวเลย……เจ้าหนูเจียงเฉิน สาวน้อยเฉินหยู่ ทำไมพวกเจ้าไม่เข้ามากินกับข้าละ เจ้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อมานั่งและดูนะ อย่างน้อยกินอะไรสักอย่างสิ”


หวงต้า มองไปยังเจียงเฉินและหยานเฉินอยู่ ทั้งคูมีสีหน้าเคร่งเครียด และหน้าผากของเขาเติมเต็มไปด้วยเส้นสีดำ มันไม่ได้รู้สึกเลยที่มันได้พูดจาไร้ยางอายออกมา และมันยังไม่รู้สึกตัวว่าด้านหน้าของมันมีเพียงแค่จานเปล่าเท่านั้น


เจียงเฉินอดทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว เขาได้ถีบหัวเจ้าหวงต้า กระเด็นไปไกลกว่าสองเมตร เขารู้สึกอยากถลกหนังเจ้าหมาบ้านี่ แล้วนำมันไปตุ๋นกินเสียเลย


ยางคนที่นั่งถัดไปจากพวกเขา ถึงกับพ่นอาหารออกจากปาก เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เจ้าหมาหยาบคายนี่มาจากไหนกัน?


ในเวลาต่อมา บริกรได้เติมอาหารลงบนโต๊ะอีกครั้ง ขณะเดียวกันพนักงานอีกสองคนเก็บกวาด ทำความสะอาดพื้น เพื่อรักษาความสะอาดของภัตตาคารจันทราสีเงิน ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด


เมื่อหวงต้าเห็นอาหารนำมาเสิร์ฟ ดวงตาของมันก็ส่องสว่าง และมันกำลังวิ่งและกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะ ขณะที่มันกำลังแลบลิ้นออกมา มันรู้สึกถึงสายตาสองคู่ ที่กำลังมองเหมือนจะสังหารใครสักคนอยู่ สายตาสองคู่นั้นจะเป็นของใครไปไม่ได้ เจียงเฉิน และ หยานเฉินหยู่นี่เอง  มันเก็บลิ้นของมันเข้าในปากทันที


“ฮี่ฮี่…….มากินด้วยกันเถอะ”


หวงต้าดึงจานอาหารมาวางไว้ตรงหน้า ในเวลานี้มันกินช้าลงมากแสดงถึงมารยาทที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้


“กินสิ….ทำไมพวกเจ้าทั้งสองถึงไม่กิน ?”


ขณะที่หวงต้ากำลังกินอยู่นั้น ก็ได้เอ่ยปากชวนเจียงเฉินและหยานเฉินอยู่ ให้มากินด้วยกันกับมัน


“กินไปเถอะ เราจะไปทันทีที่เจ้ากินเสร็จ”


เจียงเฉินมองไปยังหวงต้าอย่างสิ้นหวัง ณ จุดนี้จะกินอะไรได้เล่า แค่นั่งด้วยกันกับเจ้าหมานี่ก็ทำให้กินอะไรไม่ลงแล้ว


“ฮี่ฮี่…..งั้นข้ากินมันหมดเลยนะ”


ใบหน้าของหวงต้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่มันตัดสินใจที่จะลิ้มรสอาหารอย่างช้าๆ ความเร็วในการกินของมันลดลงเป็นอย่างมาก


แขกโดยรอบต่างมองมายังพวกเขาเป็นครั้งคราว แต่ในที่สุดพวกเขาก็เบื่อ พวกเขาหยุดที่จะจ้องมอง

และเพลิดเพลินอาหารของพวกเขาและซุบซิบนินทากันต่อ


“ผลสรุปการแข่งขันศิษย์ชั้นในประจำแคว้นฉี ผู้ชนะเลิศคือ หนาน เป่ย เฉา แห่งนิกายอัคคีผลาญฟ้า !!

ข้าได้ยินมาว่ารางวัลนั้นเยี่ยมยอดมาก มันคือยุทธภัณฑ์ระดับสูง และ สมุนไพรหมื่นปี” 


“ใช่เลย รางวัลของการแข่งขันศิษย์ชั้นในประจำแคว้นฉี นั้นจัดหามาโดยสี่นิกายใหญ่ 

ในตอนนี้ นิกายอัคคีผลาญฟ้าได้รางวัลนั่น! เชื่อหรือไม่ หนานเป่ยเฉานั้นอายุเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้นเอง”


………………………………………………………………………


หูของเจียงเฉินกระตุก มันเหมือนว่าจะได้ยินเรื่องหนาน เป่ย เฉาทุกทีที่พวกเขาไปเลยทีเดียว

ดูเหมือนว่า หนานเป่ยเฉา จะกลายเป็นคนมีชื่อเสียงชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว


“ข้าได้ยินมาว่า การแข่งขันของศิษย์ชั้นนอกกำลังจะเริ่มในอีกสองอาทิตย์ ที่เมืองสุริยันต์โคจร ข้าคิดว่าศิษย์ทั้งหมดของสี่นิกายใหญ่ต่างไปที่นั่น”


“เมืองสุริยันต์โคจร อยู่ส่วนกลางของแคว้นฉี เป็นเมืองที่ใหญ่โตมโหฬาร เทียบไม่ได้กับเมืองเล็กๆอย่าง เมืองจันทราสีเงิน มีศิษย์ชั้นนอกมากมายจากสี่สำนักใหญ่ที่เข้าร่วม คิดว่าใครจะเป็นผู้ชนะการแข่งขันครั้งนี้”


“ข้าคิดว่าราชันย์ปีศาจน้อยจาก นิกายทมิฬและ หลี่หวู่ซวงจาก นิกายกระบี่สวรรค์ มีโอกาสมากที่สุดที่จะชนะ 

อย่างไรก็ตาม นิกายอัคคีผลาญฟ้า และนิกายหุบเขาสุขสันต์ มีอัจฉริยะมากมาย แต่ไม่มีใครเทียบได้กับราชันย์ปีศาจน้อย กับหลี่หวู่ซวง”


“เข้าใจแล้ว งั้นข้าจะฝากเงินของข้าไว้กับราชันย์ปีศาจน้อยและหลี่หวู่ซวง”


………..


ทุกคนต่างพูดถึงการแข่งขันประจำแคว้นฉี การแข่งระหว่างศิษย์ชั้นในได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว ต่อไปจะเป็นการแข่งขั้นระหว่างศิษย์ชั้นนอก


สี่นิกายใหญ่ในแคว้นฉีต่างสู้กันมาโดยตลอด ไม่ว่าสู้อย่างเปิดเผยหรือลอบจู่โจม ในทุกๆปีพวกเขาได้มีการจัดการแข่งขันขึ้นที่แคว้นฉี โดยมีรางวัลที่น่าดึงดูดใจอย่างมาก อย่างแรก นี่เป็นการส่งเสริมศิษย์ให้หมั่นบ่มเพาะพลัง อย่างที่สองการต่อสู้ของความภาคภูมิใจในแต่ละนิกาย และผลสุดท้ายจะเป็นการจัดลำดับนิกายในหมู่พวกเขา


นอกจากนี้ผู้หนึ่งจากรุ่นเยาว์ในแคว้นฉีจะสามารถมีชื่อเสียงได้หากประสบความสำเร็จในการแข่งขันประจำแคว้นฉี

เมื่อได้ยินชื่อ ‘ราชันย์ปีศาจน้อย’ เด็กหนุ่มชุดน้ำเงินไม่สามารถหยุดตัวเองไม่ให้หัวเราะออกมาได้ เขากำลังดื่มด้วยตัวคนเดียวไม่ได้คุยกับผู้อื่น ดูเดียวดาย

“การแข่งขันประจำแคว้นฉี…..เมืองสุริยันโคจร…”

เจียงเฉินพึมพัมกับตัวเขาเอง เขาเริ่มเกิดความสนใจในการแข่งขันนี้

ในตอนนั้นเอง มีชายสี่คนได้เข้ามาที่ภัตตาคาร ได้นำโดยชายร่างอ้วนอายุยี่สิบ หน้าเขามันเยิ้ม และผมของเขาจัดอย่างง่ายๆ และตาวาวคู่นั้นของมันได้มองไปยังรอบๆ พวกเขาเข้าไปยังด้านหลังและมีกลิ่นอายของคนพาล

ถัดจากชายร่างอ้วนเป็นชายหนุ่มอีกคนอายุราวๆยี่สิบ ชายหนุ่มผู้นี้ถือพัดไว้ในมือและเมื่อมองไปยังเขาสามารถบอกได้อย่างง่ายดายว่าเขามาจากตระกูลที่มั่งคั่ง

ชายหยาบช้าทั้งสองที่ตามพวกเขามานั้น ท่าทีสีหน้าพวกเขาหยิ่งผยองยิ่งนัก

“เฮ้ นี่นายน้อยหยินและนายน้อยหลิวมาด้วย! โปรดตามข้าไปยังชั้นบนขอรับ นายน้อย!”

เมื่อบริกรพบชายร่างอ้วน สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสุภาพสุดๆ เขาก้มหัวและทักทายทั้งสอง

หลายๆคนก้มหัวต่ำทันทีเมื่อพบชายร่างอ้วน คนที่พูดกันเสียงดังต่างเงียบปากทันที หากเหมือนหนูที่เห็นแมวกำลังเดินมาทางพวกมัน

นายน้อยผู้นี้ไม่ใช่คนที่สามารถตอแยได้ง่ายๆ นายน้อยหยินเป็นบุตรชายของเจ้าเมือง ชื่อเต็มของเขาคือ หยิน เร็นและภัตตาคารจันทราสีเงินก็เป็นธุรกิจของตระกูลเขา

หยินเร็นเป็นหนึ่งในคนพาลของเมืองจันทราสีเงิน เขาเป็นคนเจ้าสำราญอย่างมาก และบุคลิกภาพของเขาเหมือนดั่งชื่อ และเขาบ้าเรื่องเพศสัมพันธ์ด้วย เขาชอบกลั่นแกล้งผู้อื่นและลักพาหญิงสาว นายน้อยที่ยืนข้างเขาคือนายน้อยหลิว เป็นนายน้อยจากตระกูลมั่งคั่งของเมืองจันทราสีเงิน ทั้งคู่มีบุคลิกภาพใกล้เคียงกัน ความคิดใกล้เคียงกันด้วย

“อืม”

หยินเรนผงกหัวของเขาและเริ่มเดินตรงไปที่บันได ตาของเขามองไปยังทุกๆโต๊ะที่ชั้นแรกก่อนที่สายตาจะตกไปยังหยานเฉินหยู่ ตาทั้งสองของเขาชำเลืองมอง แม้เขาจะเห็นใบหน้าของหยานเฉินหยู่เพียงแค่ครึ่งเดียว เลือดสูบฉีดไปที่หน้าของเขา

งานอดิเรกที่โปรดปรานมากสุดของหยินเรนคือผู้หญิง และหญิงสาวที่งดงามอย่างหยานเฉินหยู่นั้นดึงดูดความเจ้าสำราญของหยินเร็นอย่างมาก


“เ**ด ดูท่าว่าข้าจะมาครั้งนี้ไม่เสียเปล่า! ข้าไม่รู้เลยว่าจะมีหญิงสาวน่ารักขนาดนี้อยู่ในเมืองจันทราสีเงิน! นางเหมือนดั่งอมตะจากสวรรค์..ข้าเชื่อว่าหญิงสาวผู้นี้เหมาะสมกับข้าอย่างแท้จริง” (ไอ้หมูอ้วนหน้ามันเยิ้มแบบแกเรอะ ฝันไปเถอะ)


หยินเร็นยังคงจ้องมองหยานเฉินหยู่และพูดโดยไม่สนใจว่าผู้ใดจะคิดเช่นไร


เมื่อเขาพูดจบ หลายๆคนในภัตตาคารต่างส่ายหัวของพวกเขา พวกเขาหันหัวมองไปยังเจียงเฉินและหยานเฉินหยู่มองอย่างน่าสงสาร พวกเขาเป็นเป้าหมายของหยินเร็น พวกเขาจบแล้วแน่แท้


หยินเร็นส่งสัญญาณด้วยสายตาให้สองคนที่ตามเขามา ทั้งสองคนได้ตามนายน้อยของพวกเขามานาน ดังนั้นพวกเขาเข้าใจทันทีว่าหมายความเช่นไร พวกเขาเดินไปยังโต๊ะของเจียงเฉิน


“คุณหนู นายน้อยของพวกเราประสงค์ให้คุณหนูไปร่วมที่ชั้นสอง”


หนึ่งในชายร่างกำยำพูดด้วยเสียงที่เขาคิดว่าสุภาพแล้ว


“ไสหัวไป!”


เจียงเฉินพูดโดยไม่ได้เงยหัวเขาขึ้นมา


“เจ้าหนูเมื่อกี้เจ้าพูดเช่นไรนะ?”


ชายร่างกำยำอีกคนมีโทสะทันที เขามองไปยังเจียงเฉินอย่างไม่อยากเชื่อ ไอ้หนุ่มนี่กล้าดีอย่างไรถึงได้พูดกับเขาแบบนี้ในภัตตาคารจันทราสีเงิน? เขากำลังหาที่ตาย?


“เขาบอกให้เจ้าไสหัวไป หูหนวกรึไง?! บัดซบ ไปห่างๆให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่ามารบกวนเวลากินข้าวของบิดาข้า”


หวงต้าหยาบคายยิ่งกว่าชายทั้งสอง มันเงยหัวขึ้นสูง และสั่งให้พวกเขาออกไปอย่างหยาบคาย


ชายหนุ่มในชุดสีน้ำเงินอยู่ไม่ห่างจากที่นี่สายตาของเขามองไปยังเจียงเฉินและคนอื่นๆ ดูเหมือนว่าเขากำลังตรวจสอบว่าเจียงเฉินจะรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้อย่างไร คนรับใช้ทั้งสองต่างเป็นยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์


“สั* ไอ้หมาเดนตายนี่มาจากที่ใด? มันกล้าที่จะพูดกับบิดามันเช่นนี้?”


ชายร่างกำยำอีกคนเกรี้ยวกราด


“หยุดเรื่องไร้สาระ นำหญิงสาวไปเถอะ! มันจะดีกว่าหากไม่ทำให้แผนการของนายน้อยล่าช้า”


หลังจากพูดเสร็จ ชายทั้งคู่ยื่นมือไปยังหยานเฉินหยู่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะใช้กำลังลักพาตัวตอนนี้ การเชื้อเชิญถูกปฎิเสธ ทั้งคู่เคยลักพาตัวมามากมายก่อนหน้า


“เฮ้อ….นางจบแล้ว นางเป็นเป้าหมายของหยินเร็น นางช่างโชคร้ายเสียจริง”


“ถูกต้อง นางออกจะเป็นหญิงสาวที่น่ารัก และนางกำลังจะพินาศแล้ว”


หลายคนถอนหายใจอย่างเงียบๆ ท่าทีของพวกเขาเต็มไปด้วยความสงสาร


แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนั้นทำให้พวกเขากรามค้างลงบนพื้น เมื่อมือของทั้งคู่นั้นกำลังจะสัมผัสหยานเฉินหยู่ เจียงเฉินได้เคลื่อนไหว


เจียงเฉินยกมือขึ้นมา แสงสีทองสว่างพุ่งออกมาจากปลายนิ้ว แสงสว่างนั้นเหมือนกับดาบยาว ได้ตัดลงมาดั่งสายฟ้าฟาด


ฉัวะ! ฉัวะ!


เสียงตัดสี่ครั้งทุกคนสามารถที่จะได้ยิน แขนทั้งสี่เต็มไปด้วยเลือดได้ลอยขึ้นบนอากาศ เลือดพุ่งออกจากแขนของทั้งคู่ดั่งน้ำพุ ไหลไปรอบๆโต๊ะ ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นก่อนที่เลือดจะไหลไปยังโต๊ะที่ติดกับเจียงเฉิน เลือดได้แข็งตัวและหายไปก่อน


อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!


เสียงกรีดร้องอย่างน่ากลัวดังลั่นทั้งภัตตาคาร แขนทั้งสี่กระเด็นไปคนละทิศ และพวกเขายังคงขยับได้ จนถึงตอนนี้ทั้งสองเพิ่งตอบสนองในสถานการณ์ และพวกเขาเริ่มกรีดร้องอย่างน่ากลัว



************************************************************************


จบตอนจ้า ไม่ค้างกันสินะครับ อิอิอิ

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments