ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
แปลไทยโดย : Takumi Kun
ตรวจทาน : Subaru-Kyun
************************************************************************
รวดเร็ว รวดเร็วเป็นบ้า! หลายคนที่นั่งติดกับเจียงเฉิน แต่พวกเขาไม่เคยสังเกตถึงการโจมตีของเจียงเฉิน บางคนเห็นถึงการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยของไหล่ของเจียงเฉินก่อนชายทั้งสองจะสูญเสียแขนไป นี่ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก
อ๊ากกกกกกก!!!
ความรู้สึกในการสูญเสียแขนข้างหนึ่ง สองข้างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นความเจ็บปวดจึงต่างกัน แม้แต่ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ยังไม่สามารถที่จะทนความเจ็บปวดเช่นนี้ได้ ชายทั้งสองได้มองแขนที่กระตุกที่อยู่ห่างจากพวกเขา ในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวไม่มีอื่นอีก
เลือดสาดกระเซ็นทั่วสถานที่ บางคนโดนเลือดกระเซ็นใส่หน้าได้วิ่งไปด้านอื่นๆของร้านอย่างตื่นตระหนก ภัตตาคารได้กลายเป็นสถานที่แห่งความหายนะ หน้าของหลายๆคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว โดยเฉพาะบริกรที่ยืนใกล้กับพวกเขามากที่สุด เขามองเจียงเฉินเหมือนมองเห็นผี
มีเพียงแค่คนเดียวที่ยังคงสงบนิ่งอยู่ในภัตตาคาร อยู่อีกด้านหนึ่งจากทุกคนบนโต๊ะของเจียงเฉิน เป็นชายหนุ่มสวมชุดสีคราม ดวงตาเขาเป็นประกายกว่าก่อน เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเจียงเฉินจะลงมืออย่างอุกอาจหรือเขาได้จัดสินใจอย่างรวดเร็ว
นอกจากนั้นการโจมตีของเจียงเฉินนั้นรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ คนอื่นอาจเห็นได้ไม่ชัดแต่สำหรับเขานั้นชัดเจนมาก และเพราะว่าเขาได้เห็นอย่างชัดเจน เขาเริ่มให้ความสนใจแก่เจียงเฉิน เขาได้รู้สึกว่าเจียงเฉินนั้นไม่ใช่คนธรรมดาเมื่อเขาได้เข้ามาและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดนั้นทำให้ยืนยันได้ว่าเจียงเฉินไม่ใช่คนทั่วๆไป
“เขาจบเห่แล้วล่ะ เขากล้าดีอย่างไรไปตัดแขนผู้ติดตามของหยินเร็น! ครั้งนี้เขาพินาศแน่!”
“ใช่แล้ว หยินเร็นเป็นนายน้อยที่เลื่องชื่อเรื่องกลั่นแกล้งและป่าเถื่อน! และเขามีบิดาที่อยู่ขั้นแก่นแท้สวรรค์คอยหนุนหลังอยู่ นั่นเป็นเหตุว่าเขาสามารถกร่างได้ในเมืองจันทราสีเงินและทำให้หลายๆคนต้องสำลักด้วยความโกรธ!แม้ว่าชายหนุ่มผู้นี้จะไม่ใช่คนที่จะตอแยด้วยง่ายๆแต่เขาได้หาเรื่องหยินเร็น! ข้าคิดว่ามันคงยากสำหรับเขาที่เขาจะรอดต่อจากนี้!”“ข้าไม่คิดว่าชายหนุ่มผู้นี้จะเป็นคนธรรมดา ข้าคาดเดาว่าจะมีสิ่งที่น่าตื่นเต้นเกิดขึ้นวันนี้!”
หลายๆคนกับลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น มีเพียงไม่กี่คนที่กล้าก่อปัญหาในภัตตาคารจันทราสีเงิน และน้อยมากๆที่กล้าลงมือกับคนของจวนเจ้าเมืองขณะที่อยู่ในภัตตาคารจันทราสีเงิน นี่มันเหมือนกับฆ่าตัวตายชัดๆ
“บัดซบ! นี่มันกรีดร้องซะน่ากลัว! มันส่งผลต่อการกินอาหารของบิดาเจ้านะ!”
หวงต้าต่อว่าเสียงดัง ในเวลาเดียวกัน หวงต้าได้ปล่อยลำแสงสีทองออกมา ลำแสงสีทองพุ่งผ่านระหว่างคิ้วของพวกเขา และชายทั้งสองได้หยุดกรีดร้องทันที พวกเขาร่วงลงบนพื้นหงายหน้าขึ้นและดวงตาของพวกเขายังเปิดค้างอยู่ แม้ว่าจะตายไปแล้ว พวกเขายังมีท่าทีหวาดกลัว
ในฐานะผู้ติดตามของนายน้อยที่มีความแข็งแกร่งระดับอาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ พวกเขาอยู่เหนือกฎในเมืองจันทราสีเงิน ทั้งคู่ไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าจะต้องมาตายที่นี่ ตายในภัตตาคารจันทราสีเงินที่ที่พวกเขาทำตัวกร่างและตายด้วยฝีมือของหมา!
หลังจากเสียงกรีดร้องได้หายไป ภัตตาคารได้เงียบสนิท ในขณะเดียวกันหยินเร็นและนายน้อยหลิวในที่สุดก็เริ่มเคลื่อนไหว พวกเขามองไปยังผู้ติดตามที่นอนจมกองเลือดด้วยความตกตะลึง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อ
‘ตาย?’
‘มีคนกล้าสังหารคนของข้าในภัตตาคารจันทราสีเงินของข้า?’
‘นี่มันเรื่องล้อเล่นใช่ไหม?’
นี่มันไม่น่าเชื่อ ตัวเขาเองก็ทำตัวป่าเถื่อนอยู่เหนือกฎหมายในเมืองจันทราสีเงินมาหลายปี ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะแตะต้องคนรับใช้ของเขา ไม่แม้แต่จะเอ่ยถึงการสังหาร
เมื่อรู้ว่ามีเรื่องใหญ่ได้เกิดขึ้น ผู้จัดการได้รีบออกมาจากห้องและยืนตรงหน้าหยินเร็น
“เจ้าไม่มีธุระอันใดที่นี่! เจ้ากล้าดีอย่างไรมาหาเรื่องข้า?! วันนี้ข้าจะไม่ให้เขาออกจากภัตตาคารจันทราสีเงินได้”
หยินเร็นโบกมือ ให้สัญญาณกับผู้จัดการให้ถอยออกไป การแสดงออกของเขาดูร้ายกาจและเขาได้เดินตรงไปยังเจียงเฉิน ไขมันของเขากระเพื่อมทุกครั้งที่เขาเดิน นายน้อยหลิวตามหลังเขาด้วยท่าทางเดียวกัน
ในเมืองจันทราสีเงิน ไม่มีผู้ใดที่พวกเขาไม่สามารถจะเล่นงานได้ แม้นายน้อยที่อยู่หน้าพวกเขานั้นจะมีฝีมืออยู่บ้าง เขาไม่เคยเก็บไว้พิจารณา นี่เป็นปัญหาทางจิตร้ายแรงสำหรับคนอย่างเขา พวกมันหยิ่งยโสได้เพราะพวกมันรู้ว่ามีคนสามารถปกป้องพวกมันได้ นั่นเป็นเหตุที่ว่าพวกมันสามารถทำทุกอย่างก็ได้ตามที่พวกมันต้องการ และได้ลืมสนิทว่าความสามารถของตัวพวกมันเองนั้นต่ำต้อยเพียงใด
พวกมันไม่แม้จะรู้ว่ามีสิ่งใดในโลก ไม่มีผู้ใดที่เห็นว่าพวกมันเป็นคนดี พวกมันไม่รู้ความหมายของวิ่งไปสู่ทางตันด้วยซ้ำ วันนี้เจียงเฉินจะทำให้มันได้รู้ซึ้งทุกคนที่อยู่โดยรอบทำเหมือนว่ามาดูการแสดง พวกเขากำลังสงสัยว่าชายหนุ่มผู้นี้จะรับมือกับนายน้อยแห่งจวนเจ้าเมืองเช่นไร ชายหนุ่มชุดสีน้ำเงินที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ส่ายหัวของเขา เขาไม่ได้เป็นกังวลต่อเจียงเฉิน ตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสารแต่มีให้กับหยินเร็นและนายน้อยหลิว
“ไอ้เด็กเป** เจ้ากล้าดีอย่างไรมาสังหารคนของข้า! เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร? หากแม้เจ้ามีสิบชีวิต ไม่เพียงพอที่จะรอดในวันนี้ได้”
หยินเร็นพูดอย่างเอาแต่ใจ
“ไสหัวไปซะ!”
เจียงเฉินไม่แม้จะมองหยินเร็น เขาพูดออกมาไม่กี่คำออกจากปากเขา เหมือนเขาทำกับชายสองคนก่อนหน้า
หยินเร็นตัวอ้วนใหญ่ หน้าของเขานิ่งค้างไปชั่วขณะ ในเมืองจันทราสีเงิน ไม่มีผู้ใดกล้าพูดคำว่า‘ไสหัวไปซะ’ ต่อหน้าเขา แต่ชายหนุ่มตรงหน้าที่ไม่รู้ว่ามาจากที่ใดกล้าบอกเขาให้ไสหัวไป นี่มันช่างน่าอับอายยิ่งนัก
“ไอ้เด็กเวร เมื่อครู่เจ้าพล่ามสิ่งใดออกมา?”
นายน้อยหลิวตะโกนออกมาเสียงดัง “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังพูดอยู่กับใคร? นี่คือนายน้อยแห่งจวนเจ้าเมือง!จันทราสีเงิน หากเจ้าฉลาด ส่งตัวผู้หญิงคนนั้นให้พวกข้าและขอขมา จากนั้นพวกข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!”
“หากเจ้าไม่ยอมไสหัวไปงั้นพวกเจ้าต้องลงนรก!”
เจียงเฉินไม่แม้หันหัวของเขา เขาได้ยืดมือไปตบลงบนหน้านายน้อยหลิว
แกร้ก แกร้ก แกร้ก
เจียงเฉินตบหน้านายน้อยหลิว ทำให้หัวของนายน้อยหลิวหมุนรอบๆเหมือนพายุและมันไม่หยุดจนหมุนครบสองสามครั้ง ที่คอเกิดเสียงแตกหักจากการหมุนรอบๆ หน้าของเขาหันผิดที่ผิดทาง นี่เป็นการตายอย่างน่าอนาถ
หวาๆๆ…..ทุกๆคนในภัตตาคารมีการแสดงออกและส่งเสียงแตกต่างกันออกมา ทางที่มองไปยังเจียงเฉินนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว นี่มันโหดเหี้ยมมาก เมื่อชายหนุ่มไร้เดียงสาผู้นี้ได้โจมตีกลายเป็นโหดร้ายมาก
นี่เป็นนายน้อยของตระกูลหลิวและเขาได้ตายเพราะโดนตบ เป็นการตายที่โหดร้ายอย่างมาก เรื่องนี้น่ากลัวเกินไปที่จะคิดเกี่ยวกับมัน
“ชายหนุ่มผู้นี้มาจากที่ใดกัน? เขาไม่ปราณีเลย”
“หยินเร็นกล่าวนามของเขาออกมา แต่ชายหนุ่มผู้นี้ยังโจมตีโดยไร้ความปราณี…ชายผู้นี้เป็นใครกันแน่?”
“ดูเหมือนว่าวันนี้จะไม่จบลงด้วยดีเป็นแน่”
หลายคนถอนหายใจเงียบๆ ตอนนี้แม้แต่คนบ้ายังสามารถบอกได้ว่าหยินเร็นได้พบทางตัน วันนี้เขาได้พบคนที่น่ากลัว ชายหนุ่มผู้นี้สังหารโดยไม่แม้แต่คิด นี่มันน่ากลัวเกินที่จะคิด
เจียงเฉินสังหารนายน้อยหลิวด้วยการตบเพียงครั้งเดียวและมันทำให้หยินเร็นเกิดความหวาดกลัว เหงื่อไหลเต็มหน้าผากของชายอ้วน ร่างของเขาเริ่มสั่น แต่เขาไม่ต้องการที่จะถอนความคิดกลับ เขายังคงคิดว่าตัวเขาเป็นนายน้อยที่แข็งแกร่ง ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะมาตอแยด้วย
‘บิดาข้าเป็นเจ้าเมือง! ในภัตตาคารจันทราสีเงินแห่งนี้ จะไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้องข้า! มีเพียงข้าที่แตะต้องใครก็ได้ที่ข้าต้องการ! ข้าหยินเร็นต้องการเด็กสาวผู้นี้ ข้าจะต้องได้นางอย่างแน่นอน’
หยินเร็นให้กำลังใจตัวเขาเอง ตาของเขามองไปยังหยานเฉินหยู่ และทันใดนั้นเขาได้คึกคักขึ้นมา
เมื่อเห็นฉากนี้ ชายหนุ่มในชุดสีครามที่อยู่ไม่ไกลจากนี้ไม่สามารถช่วยสิ่งใดได้ แต่เขาหัวเราะออกมา เขาพึมพัมกับตัวเขา “ไอ้ปัญญาอ่อน…..”
นายน้อยหยินเร็นผู้นี้ปัญญาอ่อนอย่างแท้จริง เขาไม่สามารถบอกได้ว่าเจียงเฉินไม่ได้กลัวเขา หากเขาฉลาดกว่านี้อีกสักนิด เขาน่าจะออกจากที่นี่และไปพาคนมาช่วยเขาเพิ่ม
โชคไม่ดี นายน้อยคนนี้เย่อหยิ่งเกินไป ในใจของเขาคงถูกความคิดนี้ครอบงำโดยสมบูรณ์’ในเมืองจันทราสีเงิน ข้าคือราชา!’ แต่เขาได้ลืมสิ่งหนึ่งไปคือสถานะนั่นเขาเป็นคนคิดเองเออเอง
“ไอ้เด็กเวร เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงมาหาเรื่องข้า?!วันนี้ข้าจะไม่ให้เจ้าเดินออกจากภัตตาคารจันทราสีเงิน!”
ไขมันบนหน้าหยินเร็นกระเพื่อมขณะที่ขู่เจียงเฉิน ดวงตาราคะของเขาไม่ลืมโอกาสที่จะมองไปยังร่างกายของหยานเฉินหยู่ ทำให้หยานเฉินหยู่ขมวดคิ้วของนาง
“ไอ้อ้วน เอาตาของเจ้าออกไปซะ หากไม่เจ้าจะต้องได้รับผลที่ตามมาต้องทุกข์ทรมานอย่างน่ากลัวแน่”
หวงต้าที่กำลังกินและดื่มอยู่ได้เตือนเขา ฉากนองเลือดที่น่าหวาดกลัวไม่ส่งผลต่อความอยากอาหารมัน
“ไอ้หมานี่มากจากไหนกัน?! เจ้ากล้าดีอย่างไรมาพูดกับข้าเช่นนี้?!”
หยินเร็นมีกำลังใจมากขึ้นอีกครั้งและสายตาหันกลับไปมองหยานเฉินหยู่
เฮ้อ!
เจียงเฉินถอนหายใจ เขารู้ว่าเขาไม่สามารถที่จะปราณีกับคนเช่นนี้ได้ เมื่อได้มีเรื่องราวกับคนประเภทนี้ เขาจะเป็นดั่งปูนปลาสเตอร์ที่ไม่สามารถเอาออกได้ไม่ว่าจะพยายามหนักแค่ไหน คนประเภทนี้ เขาจะไม่ยอมปล่อยจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย ดังนั้นเจียงเฉินไม่แม้จะคิดก่อนที่จะโจมตี
เจียงเฉินขยับนิ้วไปหยิบตะเกียบบนโต๊ะคู่หนึ่งและแทงไปยังดวงตาของหยินเร็น
ฉึก!
ฉึก!
เสียงแทงอย่างนุ่มนวลดังออกมา ตะเกียบของเจียงเฉินได้เสียบทะลุดวงตาของหยินเร็น เสียงของดวงตาที่ทะลุสามารถได้ยินชัดเจน ครึ่งหนึ่งของตะเกียบได้เข้าไปในหัวของหยินเร็น และเลือดไหลทะลักออกมาจากแผลที่เกิดจากตะเกียบ นี่เป็นฉากที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
อ๊าาาาาาาาาาา!
เจ้าอ้วนหยินเร็นกรีดร้องและร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด กำลังคืบคลานไปยังทุกคนที่กำลังดู ในฐานะนายน้อยจวนเจ้าเมือง เขาได้มีชีวิตอย่างหรูหรา เขาไม่เคยพบกับความทุกข์ทรมานจากบาดแผลเช่นนี้ ความเจ็บปวดจากการที่โดนตะเกียบแทงทะลุดวงตาทั้งสองข้าง มันไม่ใช่สิ่งที่สามารถยืนอยู่ได้
“อ๊าาาาา ฆ่าข้าเถอะ!”
ตอนนี้หยินเร็นได้กลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นด้วยความเจ็บปวด เขาหยิบเครื่องรางสีทองในกระเป๋ากางเกงและทำลายมัน เจียงเฉินเลิ่กคิ้วขึ้นเมื่อเขาเห็นสิ่งนี่ เขารู้ว่ามันเป็นเครื่องรางสัมผัสเทวะ ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์สามารถที่จะสร้างเครื่องรางนี้ได้อย่างง่ายดาย ภายในเครื่องรางจะมีสัมผัสเทวะของยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ และนี่เป็นสิ่งที่เจ้าเมืองได้ให้แก่บุตรชายอย่างแน่นอน เมื่อเครื่องรางถูกทำลาย เจ้าเมืองก็จะรู้สึกได้ในทันที
“หวงต้า หยุดกินและไปได้แล้ว”
เจียงเฉินลุกขึ้นจากที่ของเขา ในตอนนั้นเอง ผู้จัดการได้พากลุ่มคนมาขวางทางออกของเจียงเฉิน หยินเร็นได้ทุกข์ทรมานจากบาดแผลร้ายแรง หากเขาปล่อยให้คนร้ายหลบหนีไปได้ เจ้าเมืองจะสังหารพวกเขาเป็นแน่
“พวกเขาจบเห่แล้ว! ตอนนี้ได้กลายเป็นเรื่องร้ายแรงจริงๆแล้ว! ชายหนุ่มผู้นี้ไม่ลังเลที่จะโจมตีเลย เขามันคนไร้ปราณี! ตอนนี้เขาได้ทำให้หยินเร็นตาบอด เจ้าเมืองไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆแน่”
“ถูกต้องแล้ว ท่านเจ้าเมืองเป็นยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์! ข้าสงสัยว่าเขาจะใช้วิธีใดในการชำระแค้น”
“ยังต้องคาดเดาอึกรึ? ข้าแน่ใจว่าท่านเจ้าเมืองจะแก้แค้นให้แก่หยินเร็นด้วยตัวเขาเอง! ชายหนุ่มผู้นี้มาจากที่แห่งใด? เขาไร้ความปราณีช่างน่ากลัวยิ่งนัก”………………………………………………………………………
ทุกๆคนต่างกล่าวถึงกันอย่างลับๆ นายน้อยหยินเร็นผู้ฉาวโฉ่โดนทำให้ตาบอดด้วยฝีมือของคนหนึ่งในภัตตาคารจันทราสีเงิน นี่เป็นข่าวใหญ่ของเมืองจันทราสีเงินและมันส่งผลให้เกิดความวุ่นวายขึ้น ทุกๆคนต่างมองไปยังเจียงเฉินมีความหวาดกลัวในดวงตาพวกเขา ชายหนุ่มผู้เหี้ยมโหด ไร้ความปราณีและน่าหวาดหวั่น
“ไสหัวไปซะ ข้าจะสังหารทุกคนที่ขวางทางข้า!”
เจียงเฉินจ้องผู้จัดการและกลุ่มคนของเขาด้วยสายตาเย็นชา พวกเขาทุกคนรู้สึกหนาวยันไขสันหลัง แม้พวกเขาทุกคนจะอยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์ พวกเขาไม่สามารถยืนอยู่ได้ต่อการจ้องมองของเจียงเฉิน เพียงแค่การมองเพียงครั้งเดียวของเจียงเฉินทำให้วิญญาณของพวกเขาสั่นสะเทือน มันเหมือนถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
************************************************************************
จบจ้า