I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 78 ราชันย์ปีศาจน้อย ฮันหยาน

| Dragon-Marked War God | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                


แปลไทยโดย : Subaru-Kyun

ตรวจทาน      : Subaru-Kyun

=====================================================

ภายใต้แรงกดดันจากสายตาของเจียงเฉิน ท่าทีของผู้จัดการและพวกนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก ตัวของพวกเขากำลังสั่น ไม่มีใครสงสัยในสิ่งที่เจียงเฉินพูด ถ้าเผลอไปขวางทางเขา สิ่งที่รออยู่นั้นมีเพียงแค่ความตายเท่านั้น เขาเป็นคนที่กล้าทำร้ายนายน้อยหยินเร็น


อ้ากกกกกกก !!……..


หยินเร็นร้องโอดครวญเหมือนกับหมูที่กำลังถูกเชือด เขาอยากเอามือดึงตะเกียบออกจากตาของเขา แต่ก็ทำไม่ได้ ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงนี้ทำให้ร่างกายของเขาเป็นตะคริวขึ้นมา และเขาทำได้เพียงร้องโอดครวญหวังแต่เพียงปลดปล่อยความเจ็บปวดของเขาเท่านั้น


บรรยากาศภายในภัตตาคารทั้งน่าสยดสยองและหดหู่ใจ


“ใครกล้ามาทำร้ายลูกชายข้า?!”


ทันใดนั้นมีเสียงตะโกนดังมาจากภายนอกภัตตาคาร เป็นเสียงที่ลึกล้ำอันทรงพลัง หลังจากนั้นก็มีชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นในภัตตาคารพร้อมกับลมกระโชกแรง


ชายที่เข้ามานี้ดูลักษณะแล้ว คงอายุประมาณสี่สิบปี ตัวของเขาไม่ได้สูงใหญ่ รูปร่างของเขาอ้วน ดูคล้ายกับหยินเร็น แต่พลังของเขาแข็งแกร่งกว่าหยินเร็นนับร้อยเท่า เขาคือเจ้าเมืองจันทราสีเงิน “หยินจงเฉิง”


เมื่อเห็นท่านเจ้าเมืองมา ความรู้สึกของผู้จัดการก็ผ่อนคลายลง พวกเขารีบขยับตัวในทันทีคฤหาสน์เจ้าเมือง อยู่ไม่ไกลไปจากภัตตาคาร ดังนั้นเมื่อหยินจงเฉิง รู้สึกถึงเครื่องรางแตกร้าวไป เขาก็รีบพุ่งมาโดยทันที ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์สามารถเหินบนอากาศได้ ระยะทางระหว่างคฤหาสน์เจ้าเมืองกับภัตตาคารห่างกันไม่มาก เป็นธรรมดาที่เขาจะมาถึงได้เพียงพริบตา


เมื่อหยินจงเฉิงมาถึง เขาเห็นหยินเร็นกลิ้งไปมาอยู่กับพื้นร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด เมื่อเขาเห็นบาดแผลของหยินเร็น กับ ศพที่นอนตายอยู่ข้างๆ เขาก็รู้สึกเคียดแค้นอย่างมาก


หยินจงเฉิงใช้ฝ่ามือของเขาสับเข้าที่ต้นคอของหยินเร็นให้สลบไป จากนั้นใช้พลังหยวนในการรักษาบาดแผลที่ตา และช่วยหยุดเลือดที่ไหลเจิ่งนองเสร็จ เขาถามด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะ


“ใคร?!……..ใครมันเป็นคนทำเช่นนี้?”


หยินจงเฉิงโกรธอย่างมาก ใครไม่รู้มาทำร้ายลูกของเขา แถมยังในภัตตาคารจันทราสีเงินอีก เขายังสามารถทนได้อีกงั้นรึ การกระทำเช่นนี้กระตุ้นความโกรธของเขาเป็นอย่างมาก เขาสัญญากับตนเอง เขาจะให้คนที่ทำเช่นนี้ต้องชดใช้ให้ได้


“ท่านเจ้าเมือง….นายท่าน เป็นมันขอรับที่ทำร้ายนายน้อย”


ผู้จัดการชี้นิ้วไปยังเจียงเฉิน


เจียงเฉินขมวดคิ้ว ด้วยความแข็งแกร่งและความสามารถของเขาในตอนนี้ ยากที่จะหาใครเทียบได้ในอาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ แต่ศัตรูของเขาเป็นยอดฝีมืออาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ เขาค่อนข้างที่จะเสียเปรียบ สถานการณ์เช่นนี้ไม่ง่ายที่จะต่อกรด้วย แต่เขาไม่ได้กลัวแต่อย่างใด ด้วยความสามารถของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ชนะการต่อสู้ แต่ก็สามารถหนีไปได้ด้วยปีกสีเลือด


นอกจากว่า ร่วมมือกับหวงต้า และหยานเฉินหยู่ ที่อยู่แก่นแท้มนุษย์ขั้นกลาง พวกเขาอาจจะต่อกรกับหยินจงเฉิงได้ ด้วยพลังเก้าหยินของหยานเฉินหยู่นั้นทำให้พวกเขาได้เปรียบมากขึ้น

ยังมีปีกโลหิต อีกทั้งเจียงเฉินยังคงมีไพ่ตายที่ยังซุกซ่อนอยู่


เจ้าเด็กเหลือขอ ข้าไม่สนว่าเจ้าเป็นใคร และมีเหตุผลอะไร แต่เจ้าทำลายดวงตาของลูกชายข้า ดังนั้นเจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิต


จิตสังหารไหลทะลักออกมาจากร่างของหยินจงเฉิง พลังหยวนของเขาหมุนรอบฝ่ามือ และพร้อมที่ลงมือ


“หยุดก่อน !!”


ทันใดนั้น มีเสียงดังมาจากมุมของภัตตาคาร ทุกคนต่างหันไปมองยังต้นเสียงนั่น ก็พบกับชายหนุ่มชุดสีครามนั่งอยู่แถวริมหน้าต่าง ค่อยๆลุกขึ้น

เขาเดินอย่างมั่นคงมาข้างหน้าเจียงเฉิน


ไม่มีใครสังเกตชายหนุ่มชุดครามคนนี้มาก่อน แต่ในตอนนี้สายตาทุกคนต่างจองมองไปยังเขา คนที่กล้ายุ่งเรื่องของท่านเจ้าเมืองตอนนี้ ถ้าเขาไม่ได้บ้า แสดงว่าเขาต้องมีคนหนุนหลังเป็นแน่ ดูชายหนุ่มคนนี้ทั้งรูปโฉมหล่อเหลา ดูมีความสามารถ เขาคงไม่ใช่คนบ้าอย่างแน่นอน


เจียงเฉินมองไปยังชายหนุ่มคนนั้น เขาได้สังเกตเห็นตั้งแต่แรกเริ่มที่เข้ามายังภัตตาคารแห่งนี้ แต่เขาไม่ได้หวังว่าชายหนุ่มคนนี้จะมาพูดและพยายามที่จะช่วยเขาตอนนี้


“เจ้าเป็นใครกัน ? กล้าดีอย่างไรมาแส่ยุ่งเรื่องของข้า”


หยินจงเฉิง คำรามอย่างเกรี้ยวกราด เสียงดัง


“ข้าเป็นโรคที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นซะด้วยสิ เมื่อไรข้าเห็นใครทำอะไรไม่ได้ดังใจ ข้าจะทำอะไรบางอย่างเอง สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้จะโทษน้องชายคนนี้ไม่ได้ หัวสมองเขาลูกชายเจ้ามีแต่เรื่อง**** กลายเป็นคนหื่นกระหาย ถามมันดูสิ เจ้าควรขอบใจน้องชายคนนี้ดีกว่านะ เพียงแค่ตาบอดสองข้าง แต่ถ้าข้าลงมือละก็ ป่านนี้มันคงเป็นศพไปแล้ว”


ชายหนุ่มพูดอย่างไม่แยแสสักนิด ว่าหยินจงเฉิงจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อได้ยินเช่นนั้น


“เจ้าพูดว่าอะไรนะ? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน ? กล้าดียังไงมายุ่งเรื่องของข้า ? ในเมืองจันทราสีเงินนี้ไม่มีใครกล้าพูดจาเช่นนี้กับข้า”


หยินจงเฉิง เกรี้ยวกราดเป็นอย่างมาก แต่ด้วยประสบการณ์ของเขา เขาบอกได้เลยว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาเป็นแน่ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงยับยั้งตนมิให้ลงมือ


ไม่เพียงแค่เมืองเล็กๆอย่างจันทราสีเงิน ไม่ว่าจะเป็นที่อื่นข้าก็ไม่สนใจ ข้าฮันหยานผู้นี้ทำเช่นนี้เสมอ หยินจงเฉิงถ้าเจ้ากล้าแตะต้องน้องชายผู้นี้ เจ้าต้องเป็นศัตรูกับข้า ฮันหยานแห่งนิกายทมิฬ


ชายหนุ่มพูดอย่างเถรตรง


หลังจากได้ยินว่า ‘ฮันหยานแห่งนิกายทมิฬ’ ผู้คนก็เริ่มแตกตื่น


“อะไรนะ?! เขาคือราชันย์ปีศาจน้อยฮันหยานจากนิกายทมิฬงั้นรึ? ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่ละ เขาน่าจะตรงไปยังพื้นที่จัดการแข่งขันประจำแคว้นฉีนิ”


“สวรรค์ นั่นคือราชันย์ปีศาจน้อย ข้าโชคดีจริงๆที่ได้มาทานอาหารที่เดียวกับราชันย์ปีศาจน้อย! เขาเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งของนิกายทมิฬเชียวละ

ข้าได้ยินมาว่าเขาอยู่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นสูงสุด และอีกไม่นานเขาจะทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ ด้วยความสามารถของเขา เขาต้องประสบความสำเร็จได้ไม่น้อยไปกว่ากวนอี้หยุน จากนิกายทมิฬ”


“แน่นอน ศักยภาพของเขานั้นเหนือกว่ากวนอี้หยุน ข้าได้ยินมาว่าเขามีสายเลือดปีศาจที่สูงส่ง และพลังของปิศาจบรรพกาลได้ถูกสะกดอยู่ในร่างกายของเขา เขาเป็นคนที่พิเศษ นอกจากนั้น หาได้ยากที่เขาจะลงมือใครสักคน แต่ว่าถ้าเกิดว่าเขาลงมือขึ้นมา คนๆนั้นจักต้องตายอย่างแน่นอน เพราะเหตุนั้นเขาจึงถูกขนานนามว่า ‘ราชันย์ปีศาจน้อย’ “


“ราชันย์ปีศาจน้อย ต้องการมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ ข้าเกรงว่าท่านเจ้าเมืองต้องยอมก้มหัวให้ ฮันหยานเป็นอัจฉริยะหาตัวจับยากในนิกายทมิฬ เป็นไปได้สูงว่าเขาจะได้เป็นศิษย์หลักผู้อาวุโสของนิกายทมิฬต่างให้ความสนใจเขา เขาไม่ใช่คนที่เมืองเล็กๆอย่างจันทราสีเงินจะขัดใจได้!”


…………………………………………………


ในตอนนี้ทุกคนต่างพูดถึงฮันหยาน ราชันย์ปีศาจน้อยช่างโด่งดังเสียจริง ใบหน้าของเขาไม่ค่อยปรากฏในที่สาธารณะ ดังนั้นจึงไม่มีใครคาดคิดว่าราชันย์ปีศาจน้อยจะมานั่งจิบไวน์อยู่ที่ภัตตาคารสีเงิน


“เจ้าคือราชันย์ปีศาจน้อยอย่างงั้นหรือ?”


เมื่อทราบเช่นนั้น หยินจงเฉิงก็อึ้งทำอะไรไม่ถูก ความกลัวเข้าครอบงำเขา เขาจะล่วงเกินใครต่อใครก็ได้แต่มิใช่ราชันย์ปีศาจน้อย แม้ฮันหยานจะยังเป็นเพียงยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะล่วงเกิน ถ้าเขาไปยั่วยุราชันย์ปีศาจน้อย อาจเป็นการก่อสงครามกับนิกายทมิฬ เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไม่มีอะไรที่เขาจะสามารถทำได้อีกต่อไป

ถ้าเขาทำเช่นนั้นการช่วยชีวิตลูกชายของเขาก็ลืมไปได้เลย แม้แต่ตัวเขาเองก็ตกอยู่ในความเสี่ยง


“อย่าให้ข้าต้องพูดอีกครั้ง! ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ล้วนเป็นความผิดของลูกชายเจ้า เจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไรกับน้องชายคนนี้”


ฮันหยาน พูด


“แต่ว่า ดวงตาของลูกชายของข้ามัน……”


หยินจงเฉิงก็ยังไม่พอใจ


“ข้าเคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าหากนั่นเป็นข้า ข้าจะสังหารเขา ณ ตรงนั้น! หยินจงเฉิง นี่เจ้ากล้าดีเช่นไรที่ไม่ไว้หน้าข้าแบบนี้”


ฮันหยานเปล่งเสียงอย่างเย็นชา ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาดูเหมือนผู้ที่น่ายำเกรง


“ข้าน้อยมิกล้าขอรับ”


หยินจงเฉิง ไม่กล้าที่จะเสียมารยาท ราชันย์ปีศาจน้อยมิใช่ผู้ใดที่เขาจะล่วงเกินได้ ถ้าเขาไม่เปลี่ยนความคิดและสังหารเจียงเฉินกับพรรคพวก

นั่นหมายความว่าเขาได้ล่วงเกินราชันย์ปีศาจน้อย และเขาก็จะไม่มีที่อยู่ในแคว้นฉีอีกต่อไป


“ถ้าเช่นนั้นก็ดี เอาละไปกันเถอะน้องชาย”


ฮันหยานยิ้มให้กับเจียงเฉิน สะบัดผมสีดำยาวของเขา และเขาก็เดินไปยังทางออกของภัตตาคาร


เจียงเฉินไม่สนใจสายตาอาฆาตแค้นของหยินจงเฉิง และเดินตามหลังฮันหยานออกจากภัตตาคารไป หลังจากนั้นกลุ่มของเขาได้หายเข้าไปในฝูงชน


ภายในภัตตาคาร ผู้จัดการได้ถามอย่างระมัดระวัง


“ท่านเจ้าเมือง พวกเราจะเอาไงต่อดีขอรับท่าน”


“ไสหัวไปซะ !!”


หยินจงเฉิงตวาดผู้จัดการ ก่อนที่เขาจะนำร่างของหยินเร็นที่ยังไม่รู้สึกตัวขึ้นจากพื้น จากนั้นก็เหินขึ้นฟ้าไป วันนี้เป็นวันที่แย่จริงๆสำหรับเขา เขาเป็นถึงเจ้าเมือง แต่ไม่อาจล้างแค้นให้ลูกชายตนเองได้ นอกจากนี้ยังอยู่ภายในดินแดนของเขา ราชันย์ปีศาจน้อยนั่นจะมาเมื่อไรก็ได้ แต่ทำไมถึงพึ่งปรากฏตัวเอาวันนี้? นิกายทมิฬนั้นกว้างใหญ่ ไม่คิดว่าเขาจะมายังเมืองเล็กๆอย่างเมืองจันทราสีเงินเพียงแค่มาดื่ม?


“เสือดาวที่สง่างามถึงอย่างไรมันก็คือเสือ ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้ เมื่อศัตรูของเขาคือราชันย์ปีศาจน้อย ท่านเจ้าเมืองจึงทำได้เพียงเก็บท่าทีของเขาไว้เท่านั้น “


“ใช่เลย แต่ชายหนุ่มคนนั้นก็โหดร้ายจริงนะ เจ้าไม่สังเกตรึไง ชายหนุ่มนั่นไม่มีสีหน้าหวาดกลัวแม้แต่น้อย ท่าทีใจเย็นของเขาเป็นของจริง

ตามความคิดของข้า แม้ว่าราชันย์ปีศาจน้อยจะไม่ทำอะไร แต่เด็กนั่นต้องรอดเป็นแน่”


“อย่าพูดมากน่า ท่านเจ้าเมืองจนจะระเบิดออกมาแล้ว อย่ากระโดดเข้ากองไฟสิ”


…………………………………………………


ภายนอกเมืองจันทราสีเงิน


“ขอบคุณพี่ฮันที่ช่วยเหลือ”


เจียงเฉินประสานมือของเขา เพื่อแสดงความนับถือต่อฮันหยาน ไม่มีเหตุผลที่ชายคนนี้ต้องเข้ามาช่วยเหลือเขา เจียงเฉินต้องการแสดงความขอบคุณเขา นอกจากนี้เขายังมีความรู้สึกที่ดีต่อฮันหยาน


“เจ้าไม่ต้องคิดมากหรอกน่า แล้วนี่เจ้าชื่อว่าอะไรละ”


ฮันหยานถามด้วยรอยยิ้ม


“ข้า เจียงเฉินนี่เป็นครั้งแรกที่มายังที่แห่งนี้ ไม่คิดเลยว่าจะเจอเหตุการณ์เยี่ยงนี้”


เจียงเฉินยิ้มเล็กน้อย


“ใช่แล้ว บ้าจริงให้ข้าได้กินอย่างสงบก็ไม่ได้”


หวงต้า กระโจนเข้าสู่วงสนทนา เจียงเฉินกรอกตาไปยังหวงต้า เจ้าหมานี่มันกินตั้งแต่เพิ่งเข้าภัตตาคาร จนถึงตอนนี้ยังจะมาบ่นว่าไม่ได้กินอย่างสงบงั้นหรือ


เมื่อนึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่หวงต้ากินไปแล้ว เขานึกขึ้นได้ว่าลืมจ่ายค่าอาหาร แต่ก็ดีแล้วมิใช่หรือ พวกนั้นมาหาเรื่องกันก่อน เรื่องอะไรถึงต้องจ่ายค่าอาหารอีก


“น้องเจียง เป็นคนที่มีความสามารถไม่ธรรมดา สนใจที่จะเข้าร่วมการแข่งขันประจำแคว้นฉีที่กำลังจะจัดขึ้นที่เมืองสุริยันต์โคจร หรือไม่”


ฮันหยานถาม


“การแข่งขันสำหรับศิษย์ชั้นนอกของสี่นิกายใหญ่มิใช่หรือ”


ตาของเจียงเฉินส่องสว่างขึ้นมา เขาย่อมสนใจเกี่ยวกับการแข่งขันประจำแคว้นฉี


“ใครก็ตามที่อยู่ในแคว้นฉีสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ ด้วยความสามารถของน้องเจียงเฉิน ต้องได้อันดับดีๆเป็นแน่ แต่ข้ามีบางสิ่งที่จำเป็นต้องทำอยู่ ข้าต้องขอตัวก่อน ไว้พบกันที่เมืองสุริยันต์โคจร”


หลังจากพูดเช่นนั้น ฮันหยานก็หันหลังแล้วจากไปด้วยความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ เขาก็หายตัวไป เห็นได้ชัดว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ แต่ถึงเช่นนั้นราชันย์ปีศาจน้อยสร้างความประทับใจที่ดีต่อเจียงเฉิน


“เจ้าหนู เจ้าควรไปเมืองสุริยันต์โคจร และเข้าร่วมการแข่งขันนั่น”


หวงต้าพูด


“ก็ดีเหมือนกัน ยังไงพวกเราก็ไม่รู้จะไปที่ไหนดีอยู่แล้ว ลองไปเมืองสุริยันต์โคจรกันเถอะ”


เจียงเฉินพยักหน้า เขาพร้อมที่จะไปเมืองสุริยันต์โคจรแล้ว


“ท่านพี่เจียงเฉินคะ รีบออกจากที่นี่เร็วๆเถอะ เดี๋ยวบังเอิญพบเจ้าเมืองเข้า พวกเราจะมีปัญหาเอาได้นะคะ “


หยานเฉินหยู่ พูด


“ไม่ต้องห่วงไปหยู่น้อย ถ้าหยินจงเฉิงต้องการสังหารพวกเราละก็ เขาคงทำตั้งแต่อยู่ในภัตตาคารแล้วละ เพราะเขากลัวราชันย์ปีศาจน้อยยังไงละ ถ้าเขากล้าไล่ตามเรา ก็เหมือนกับเขาได้ล่วงเกินราชันย์ปีศาจน้อย เขาไม่กล้าที่จะล่วงเกินราชันย์ปีศาจน้อย นอกจากนี้ข้ายังไม่ได้สังหารลูกชายเขาเพียงแต่ทำให้ตาบอดเท่านั้น”


เจียงเฉินพูดด้วยสีหน้าผ่อนคลาย นอกจากนี้แม้ว่าหยินจงเฉิงจะอยู่ที่นี่ เขาก็ไม่กลัวด้วยการร่วมมือของทั้งสามนั่นก็เพียงพอที่จะต่อกรกับยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้นแล้ว


“ฮ่าฮ่า……ถ้ายังงั้นไปกันเลย เมืองสุริยันต์โคจร!!”


หวงต้าชอบที่จะเห็นสถานที่เหล่านั้นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง สถานที่จัดงานใหญ่ นั้นแน่นอนที่ดึงดูดมัน การแข่งขันประจำแคว้นฉีกำลังจะจัดขึ้นที่เมืองสุริยันต์โคจร ซึ่งเป็นเมืองที่จัดกิจกรรมมากมาย


=====================================================

To be Continue……


จะเข้าสู่บทของการแข่งขันแล้ว จะเป็นยังไงติดตามใหม่ตอนต่อไปจ้า (>///<)/

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments