I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 82 เคลื่อนย้ายมิติ

| Dragon-Marked War God | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

 


แปลไทยโดย Takumi Kun


ตรวจสอบ เรียบเรียง Subaru-Kyun


====================================================


      ปีกของหวงต้านั้นรวดเร็วมาก นี่เป็นความสามารถดั้งเดิมของสัตว์เทวะดังนั้นไม่ใช่สิ่งที่สัตว์อสูรทั่วไปจะสามารถเปรียบได้ ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้นไม่มีโอกาสที่จะไล่ตามความเร็วมันได้


      หลังจากที่ได้ถล่มจวนเจ้าเมือง หวงต้าได้ปลดปล่อยอารมณ์ทั้งหมดไปและบินต่อและเต้นกลางอากาศ ในไม่ช้ามันก็บินออกจากเมืองจันทราสีเงิน


ฮ่าฮ่า……


      เจียงเฉินหัวเราะดังลั่น ปีกโลหิตของเขาได้กระพืออย่างคึกคักและเขาได้ตามหวงต้าไปด้วยความเร็วสุดยอด ด้วยการผสานกำลังของพวกเขา พวกเขามีความสามารถที่จะสู้กับหยินจงเฉิง แต่ไม่ได้ตั้งใจที่จะ..มันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะสังหารหยินจงเฉิง อย่างไรก็ตามเป้าหมายที่จะทำลายจวนเจ้าเมืองนั้นประสบผลสำเร็จ สิ่งที่พวกเขาต้องทำตอนนี้คือหนีออกจากที่นี่


      เจียงเฉินมีกำลังใจดีมาก เขาได้ทำเรื่องใหญ่หลังจากที่เพิ่งเข้ามายังแคว้นฉี และเลือดของเขากำลังเดือนพล่าน ทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าเขาได้ย่างก้าวเข้าสู่โลกฝึกตนอีกครั้งหลังจากที่ได้กำเนิดใหม่ แม้ว่าเขาได้ทำการบ่มเพาะคนละทักษะกัน เขาต้องการที่จะประสบความสำเร็จเฉกเช่นเดียวกับที่เขาได้เป็นเมื่อครั้งอดีต เขาต้องการที่จะเดินไปตามทางของผู้มีชัย และเมืองจันทราสีเงินนี่เป็นเพียงเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น!


“หยุดเดี๋ยวนี้! ทิ้งชีวิตของเจ้าไว้ที่นี่!”


หยินจงเฉิงคำราม เขาไม่สามารถควบคุมโทสะของเขาได้อีกแล้ว มันเกือบที่จะเป็นหากความกราดเกรี้ยวของเขาจะเผารอบๆเขา หากเขาปล่อยให้เจียงเฉินและเจ้าหมาสีเหลืองนั่นหนีไปได้วันนี้ เขาก็จะจบลงที่อาเจียนเป็นเลือดเป็นถังๆจากความกราดเกรี้ยวของเขา


ชิ้ง!!


      หยินจงเฉิงถือขวานในมือของเขา และใช้พลังทั้งหมดของเขาไล่ตามเจียงเฉินและหวงต้าไป


      ลำแสงสีทองทั้งสามได้บินผ่านท้องฟ้าและในไม่ช้าพวกเขาจะหายไปจากสายตาของทุกคน ทิ้งซากคฤหาสน์เอาไว้และเศษขี้เถ้ามากมายลอยในอากาศ ครั้งหนึ่งที่เคยเป็นบริเวณจวนที่หรูหราได้สูญเสียความรุ่งโรจน์ไปหมดสิ้น ตอนนี้ช่างน่าสงสารนัก


“หยุดเดี๋ยวนี้!”


      หยินจงเฉิงเหวี่ยงขวานยักษ์ของเขาปลดปล่อยลำแสงจากขวานออกมา ฉีกอากาศออก มันพุ่งตรงไปยังเจียงเฉินและหวงต้าขณะที่พวกเขาบินด้วยความเร็วสุดยอดนำหน้าเขา โชคไม่ดีที่ เมื่อลำแสงเข้าใกล้เจียงเฉิน มันสูญเสียพลังเกือบทั้งหมดไปแล้วเจียงเฉินใช้หลังมือซัดใส่มันอย่างเฉยเมยและมันได้หายไป


“ฮ่าฮ๋า หยินจงเฉิง ข้าคิดว่าเจ้ายอมแพ้จะดีกว่านะ! ไร้ปีก ไม่มีทางที่จะไล่ตามพวกข้าทันได้”


เจียงเฉินหันหัวไปหาขณะที่หัวเราะดังลั่น


“วะฮ่าฮ่า โฮ่ง โฮ่ง….ไอ้นกแก่ กำลังไล่ตามมาล่ะ! กำลังไล่ตามพวกเราอย่างเร่าร้อน!”


      หวงต้าตะโกนด้วยความตื่นเต้นสุดๆ ยั่วโมโหหยินจงเฉิงด้วยคำเหยียดหยาม


      ควันออกจากจมูกของหยินจงเฉิง หน้าของเขาบิดเบี้ยว เขายังไล่ตามทั้งสาม ความเกลียดชังในใจของเขาสามารถเกือบทะลุฟ้าได้ เขาสัญญากับตนเองไว้ว่าเขาจะต้องฆ่าเจียงเฉินและเจ้าหมาสีเหลืองให้ได้


“ข้าไม่อยากเชื่อว่าพลังแก่นแท้สวรรค์ของข้า ข้าจะไม่สามารถไล่ตามยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์มีปีกพวกนี้ทัน พลังหยวนของข้าแข็งแกร่งกว่าพวกมันอย่างเห็นได้ชัด และตราบที่ข้ายังไม่โดนทิ้งห่าง ข้ายังสามารถจะไล่ตามพวกมันได้จนกว่าพลังหยวนของข้าจะเหือดแห้ง!”


      หยินจงเฉิงมีแผนไว้ในใจ ไม่ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นวันนี้ เขาจะไม่มีทางปล่อยทั้งสามไปได้!


ตูม!ตูม!ตูม!


      หยินจงเฉิงยังคงเหวี่ยงขวานยักษ์ขณะที่ไล่ตามทั้งสาม แต่ไม่เคยสร้างความเสียหายให้แก้เจียงเฉินและหวงต้า ครู่ถัดมาเขาได้ยอมแพ้เรื่องการโจมตีไปและมุ่งที่จะออมพลังงานของเขา


“เจ้าลูกหมา เจ้ารู้วิธีการบินด้วย สุดยอดเลย!”


      หยานเฉินหยู่นั่งบนหลังของหวงต้า ได้ลูบหัวมันและชมมัน


“เฮะเฮะ แน่นอนอยู่แล้ว! เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใครน่ะ?”


      หวงต้าได้แสดงด้านหลงตัวเองออกมาอีกครั้งหนึ่ง หากเจียงเฉินเป็นคนลูบหัวมัน มันก็จะกราดเกรี้ยวกัดมือเขาทิ้ง มันไม่เคยแสดงความไม่พอใจเมื่อหยานเฉินหยู่เป็นคนทำ


“หวงต้าเจ้าสามารถไปเร็วกว่านี้ได้หรือไม่? เล่นกับเขามาพอแล้ว งั้นรีบทิ้งเขาได้แล้ว พวกเราต้องไปยังเมืองสุริยันโคจรอีก หากพวกเราปล่อยให้ไล่ตามต่อ ข้าเกรงว่าอาจไปพบปัญหาอื่นที่ไม่คาดคิดได้”


      เจียงเฉินพูด หลังจากที่พวกเขาได้มายังแคว้นฉีและในวันแรกที่มาพวกเขาได้ทำลายคฤหาสน์เจ้าเมือง นี่ถือว่าเกิดเรื่องวุ่นวาย กลุ่มนี้มีสองคนและหมาหนึ่งตัวได้เป็นที่รู้จักของหลายๆคน


      ดังนั้นเจียงเฉินจึงไม่อยากเปิดเผยมากเกินเมื่อพวกเขามาถึง อย่างแรกคือเขาต้องการไปเป็นสักขีพยานการแข่งขันประจำแคว้นฉีที่เมืองสุริยันโคจรเพื่อเป็นมารยาทและความแข็งแกร่งของผู้ที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะแห่งนิกายใหญ่ทั้งสี่ อย่างที่สอง พวกเขายังอ่อนแออยู่ พวกเขายังไม่ได้อยู่ในระดับที่จะสามารถสู้กับยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ได้


“ก็ได้ ทิ้งไอ้นกแก่นั้นง่ายนิดเดียว!”


      หวงต้าส่ายหัวของมัน ปีกบนหลังของมันกระพืออย่างดุเดือดและความเร็วของมันเพิ่มเป็นเท่าตัว


“บัดซบ ไอ้หมานั่นประหลาดนัก! ลูกหลานของกิเลนช่างมหัศจรรย์ยิ่ง!”


      เจียงเฉินถอนหายใจ หวงต้าไม่ใช่สัตว์อสูรสายอากาศ มันสามารถที่จะบินได้ขณะที่อยู่เพียงอาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ ความเร็วของมัน รวดเร็วมาก แม้เจียงเฉินจะมีปีกโลหิตคู่นี้ก็ยังไม่สามารถเทียบกับความเร็วนั่นได้


“ดูเหมือนว่าทักษะเคลื่อนย้ายมิติเป็นเพียงทักษะเดียวที่ข้าสามารถไล่ตามเจ้าหมานั่นทัน…..แต่ทักษะเคลื่อนย้ายมิติเป็นทักษะเคลื่อนไหวอย่างลึกซึ้ง ด้วยกำลังของข้าในตอนนี้ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้มันโดยปราศจากการรับรู้ถึงพลังงานมิติ ข้ารู้สึกได้เมื่อข้าถึงขั้นอาณาจักรราชันย์ยุทธ นอกจากนี้ ทักษะข้ามมิตินั้นสิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก หากข้าใช้ร่วมกับปีกโลหิต ข้าสามารถใช้ได้ในระยะเวลาสั้นๆ แต่มันก็เพียงพอที่จะทิ้งห่างหยินจงเฉิง”


      เจียงเฉินตาวาวโรจน์ เขาเคลื่อนไหวท่าแปลกๆ และพายุปริศนาเกิดจากร่างกายเขา ร่างกายของเขาส่องสว่างขึ้น ประสานกับปีกโลหิต ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเช่นกันนั่นทำให้เขาไล่ตามหวงต้าได้ทันทันที


“บัดซบ! เจ้าเป็นปีศาจประเภทใดกัน?! เจ้าไล่ตามความเร็วข้าทันได้อย่างไร?! นี่มันเป็นเรื่องโกหก!!”


      หวงต้าขบฟันของมันรู้สึกหงุดหงิด มันดูเหมือนว่าเป็นไปไม่ได้สำหรับมันที่จะมีความสำเร็จเหนือกว่าเจียงเฉิน


      ทักษะเคลื่อนย้ายมิติเป็นทักษะเคลื่อนไหวที่ลึกซึ้ง มันหายากที่เพียงแค่ระดับเทพยุทธที่จะเข้าใจถึงพลังมิติและสามารถใช้มันได้ ในชีวิตที่แล้วของเจียงเฉิน เมื่อเขาใช้ทักษะเคลื่อนย้ายมิติ เขาสามารถที่จะเคลื่อนย้ายได้กว่าไม่กี่แสนไมล์ในพริบตา มันยากที่จะจินตนาการถึงฉากนี้


แว้บ! แว้บ!


      เจียงเฉินและหวงต้ากลายเป็นลำแสงสองสายและหายไป หยินจงเฉิงผู้กำลังเดือดจากโทสะด้านหลังพวกเขาตื่นตระหนก ดวงตาของเขาดูเหมือนกับเพิ่งเห็นผี


“นี่มันอะไรวะเนี่ย?!”


      หลังจากที่ได้อยู่นิ่งๆสักพัก หยินจงเฉิงก็สบถสาปแช่ง ในขณะนั้นเอง เพียงแค่คำพูดนี้สามารถที่จะอธิบายถึงใบหน้าที่บิดเบี้ยวของเขาและดูหดหู่ วันนี้เขาได้เปิดหูเปิดตาโลกทัศน์ของเขา พวกนี้มันเป็นตัวประหลาดประเภทใดกัน? ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์บินได้นั่นเพียงพอทำให้ผู้คนพูดไม่ออก และความเร็วของพวกเขานั้นยิ่งกว่าไม่น่าเชื่อ แม้แต่ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ยังไม่สามารถไล่ตามทัน นี่มันเรื่องเหลวไหลชัดๆ


      สุดท้ายแล้วหยินจงเฉิงก็ล้มเลิกที่จะตามล่า เขาจะตามล่าได้อย่างไร? จุดหมายที่จะตามต่อคืออะไร?


“ข้าไม่ยอมให้พวกเจ้าคนใดมาขวางเขาได้!”


      หยินจงเฉิงคำรามสะท้อนไปทั่วภายในไม่กี่ไมล์ หยินจงเฉิงไม่ยอมให้เรื่องนี้จบง่ายๆแน่ เขาจะต้องหาหนทางที่จะแก้แค้นสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้


      พันไมล์ห่างจากหยินจงเฉิง เจียงเฉินและหวงต้าลงไปยังเนินเขาเล็กๆสกปรกๆ ชายคนหนึ่งและหมาได้หายใจถี่ พวกเขาได้ใช้พลังหยวนมากเกินไป


“เจ้าหนู ทักษะเคลื่อนที่นั่นมันอะไรกัน?! เจ้าสามารถไล่ตามความเร็วของช้าทันได้ด้วยปีกโลหิตได้อย่างไร?”


หวงต้ามองเจียงเฉินด้วยท่าทีตกตะลึง


“ข้าใช้ทักษะนามว่า เคลื่อนย้ายมิติ ข้าไม่สามารถที่จะใช้มันได้นานขณะที่ข้าอยู่แค่เพียงอาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ มันสิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก ดูเหมือนว่าข้าไม่สามารถใช้มันได้ง่ายดายในอนาคต”


เจียงเฉินไม่ได้ปิดบังพวกเขา


“เจ้าหนู เจ้านี่มีความลับมากมายเสียจริง! เป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้ทักษะเคลื่อนที่ขั้นปาฎิหารย์นั่นภายในเมืองขยะเฉกเช่นเมืองสีชาด”


      หวงต้าพูดไม่ออก แต่สภาพของมันในตอนนี้ก็ไม่ดีเช่นกัน มันแลบลิ้นออกมาแล้วพูด “บัดซบ ปีกของบิดาเจ้าเองก็เหมือนกัน ปีกคู่นี้เป็นความสามารถดั้งเดิมของข้า และข้าก็ได้มันมาตอนข้าขึ้นอาณาจักรแก่นแท้มนุษย์! ด้วยกำลังในตอนนี้ของข้าข้าไม่สามารถที่จะใช้มันเป็นเวลานานได้ โดยเฉพาะเมื่อเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วอย่างที่เพิ่งทำไป มันทำให้ข้าเจ็บหลัง….ข้าไม่สามารถใช้ปีกนี้ได้อย่างน้อยครึ่งเดือน….เดินไปเมืองสุริยันโคจรกันเถอะ….เว้นแต่ว่าเจ้าจะแบกหยู่น้อยและข้าไว้บนหลังเจ้า!”


      หวงต้าหัวเราะด้วยความตั้งใจที่ไม่ดีของมัน ไม่ว่าหากมันเป็นสัตว์ป่าหายาก สัตว์เทวะหรือกายศักดิ์สิทธิ์อย่างชีพจรเก้าหยินของหยานเฉินหยู่ มันอาจมีขีดจำกัดบางอย่างของทักษะดั้งเดิมของพวกเขา เมื่อพวกเขาได้อยู่เหนือขีดจำกัด มันจะเป็นอันตรายต่อพวกเขา ตราบที่ความเสียหายไม่ได้มากเกินไป อย่างไรก็ตาม พวกเขาสามารถที่จะรักษาตัวพวกเขาเองได้ การรักษานั้นต้องใช้เวลาระยะหนึ่งและในช่วงเวลานี้พวกเขาจะไม่สามารถใช้ความสามารถดั้งเดิมได้


“แบกปู่เจ้าไปซะ! เดินไปเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา เป้าหมายของพวกเราคือการแข่งขันประจำแคว้นฉีอย่าได้สร้างปัญหาเพิ่ม!”


เจียงเฉินจ้องหวงต้า


“ท่านพี่เจียงเฉิน พวกเราได้ถล่มคฤหาสน์เจ้าเมือง! หยินจงเฉิงไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆเป็นแน่!”


หยานเฉินหยู่พูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล


“ไม่จำเป็นต้องกลัว!”


หวงต้าได้พูดออกมาด้วยความมั่นใจของมัน


“ไม่จำเป็นต้องซีเรียสหรอก นี่เป็นโลกฝึกตน เป็นเรื่องปกติที่จะมีศัตรูสองสามคน นอกจากนี้หยินจงเฉิงไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไรนัก เขาไม่ได้ถึงระดับที่พวกเราไม่สามารถที่จะสู้กลับได้ อย่างน้อยหากเทียบกับนิกายกระบี่สวรรค์ ระยะห่างมีมากนัก!”


      เจียงเฉินอธิบาย ระหว่างการเดินทางเขาได้บอกคตินิยมแก่หยานเฉินหยู่สำหรับโลกแห่งการฝึกตน ความคิดของนางเริ่มที่จะเป็นผู้ใหญ่เล็กน้อย และนางไม่ใช่ไร้เดียงสาและอ่อนต่อโลกเหมือนตอนที่อยู่ในเมืองสีชาด


“เจ้าค่ะ! ตราบที่ข้าอยู่กับท่านพี่เจียงเฉิน หยู่น้อยก็ไม่กลัวสิ่งใด!”


      หยานเฉินหยู่พูดด้วยรอยยิ้มที่สามารถทำให้โลกเป็นบ้าได้


“นี่เป็นสิ่งที่สามารถนำพาปัญหามากมายมาให้ เช่นรำคาญที่จะให้นางตามพวกเรามา”


หวงต้าพูดพร้อมขดริมฝีปากมัน


“เจ้าลูกหมาเมื่อครู่เจ้าพูดสิ่งใดนะ?”


หยานเฉินหยู่ดึงหูหวงต้า


“ไอ้หยาหยา ปล่อยมือของเจ้านะ! ข้าเพียงแค่ชมเจ้าว่าเจ้าดูดีน่ะ! เสี่ยวหยู่่เจ้าหยาบคายเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน? เจ้าต้องอ่อนโยนกว่านี้นะ!”


หวงต้าพูด มันรู้สึกต่ำต้อย


“เมื่อเทียบกับทั้งคู่แล้ว ข้าอ่อนโยนมากแล้วล่ะ”


หยานเฉินหยู่แค่นเสียง


      หวงต้ามองท้องฟ้าด้วยน้ำตาที่อยู่ในตามัน เขาไม่สามารถที่จะหาคำมาตอกกลับได้ในทันที การเปลี่ยนแปลงของหยานเฉินหยู่เกิดเพราะอิทธิพลของเจียงเฉิน ไปๆมาๆมันเป็นเพราะตัวมันเองที่สอนนางให้แสดงออกแบบที่นางเป็นตอนนี้….เฮ้อ…..กรรมตามสนองมันแล้ว


 “หยู่น้อย หวงต้ามันพูดตามที่มันรู้สึกน่ะ ข้าคิดว่ามันจะดีกว่าหากเจ้าสวมผ้าคลุม มันจะช่วยพวกเราจากปัญหาได้มากมาย “


      เจียงเฉินแนะนำ เขาเองก็คิดว่าหยานเฉินหยู่เองก็เป็นส่วนหนึ่ง ความขัดแย้งในเมืองจันทราสีเงินที่เกิดขึ้นนั้นมีสาเหตุมาจากความงดงามของหยานเฉินหยู่ และเส้นทางนี้เป็นแค่จุดพักจุดแรกของแคว้นฉี ยังคงเหลือกว่าแสนไมล์ระหว่างพวกเขาและเมือสุริยันต์โคจร และปัญหาที่พวกเขาต้องเผชิญตลอดทางนั้นมีมากมาย หากชายทุกๆคนได้เห็นถึงโฉมของหยานเฉินหยู่


“เข้าใจแล้วค่ะ ข้าจะฟังคำของท่านพี่เจียงเฉิน! เมื่อพวกเราไปถึงเมืองถัดไป ข้าจะซื้อผ้าคลุม!”


      หยานเฉินหยู่ผงกหัวเห็นด้วย นางรู้สึกว่าเจียงเฉินและหวงต้าได้เป็นกังวลอย่างมาก หากไม่เป็นเพราะนาง ก็คงจะไม่เกิดความขัดแย้งใดๆในเมืองจันทราสีเงิน




***********************************************************************


จบจ้า 


ความงามเป็นเหตุโดยแท้  สวยๆอย่างนี้มาเป็นแฟนพี่ดีกว่าน้องสาว อย่าไปอยู่กับหน้าเห้ยอย่างเจ้า

หมอนั่นเลย ^^

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments