I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 85 แผนการอันชั่วร้ายของเจ้าหมาน้อย

| Dragon-Marked War God | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

 

แปลไทยโดย    Subaru-Kyun


ตรวจทาน          Subaru-Kyun

=====================================================


      ณ ด้านล่างเส้นทางสู่สวรรค์ ศิษย์ทั้งหมดของสี่นิกายใหญ่ต่างเตรียมตัวพร้อม จิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขาลุกโชน ดวงตาของพวกเขาส่องประกายความดุร้าย นิกายใหญ่ทั้งสี่ต่างเป็นศัตรูกัน แม้ว่าการแข่งขันนี้เกิดขึ้นจากการร่วมมือของทั้งสี่นิกาย แต่ก็ยังคงเกิดการกระทบกระทั่งกันเป็นจำนวนมาก


      เห็นได้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างนิกายกระบี่สวรรค์ กับนิกายทมิฬนั้นช่างเลวร้ายยิ่งนัก อาจเป็นเพราะว่า หลี่หวู่ซวงกับราชันย์ปีศาจน้อยเป็นศัตรูกัน ดังนั้นศิษย์ของทั้งสองนิกายต่างโจมตีใส่อีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม


      ศิษย์ของนิกายอัคคีผลาญฟ้าแสดงความเกลียดชังต่อหน้านิกายทมิฬ ไม่นานก่อนหน้านี้ ศิษย์ชั้นในของนิกายอัคคีผลาญฟ้าได้ถูกกวนอี้หยุนจากนิกายทมิฬจัดการ ศิษย์ทั้งหลายของนิกายอัคคีผลาญฟ้าต่างรู้สึกโศกเศร้าจากเรื่องนี้ แต่ยังโชคดีที่หนานเป่ยโจวได้นำเกียรติคืนมา อย่างไรก็ตามนั่นยังไม่เพียงพอที่จะแก้ปัญหาความเกลียดชังของพวกเขาได้ ความเกลียดชังนี้ได้ส่งผลให้การแข่งขันนี้ทวีความเข้มข้นยิ่งขึ้น


      แม้กระทั่งสี่อัจฉริยะที่อยู่บนยอดของเส้นทางสู่สวรรค์ต่างมองกันอย่างดูแคลน ถ้าพวกเขาไม่ได้ผลตอบแทนจากการจัดการแข่งขันนี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่สี่อัจฉริยะนี้จะสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติ เพียงพวกเขาพบหน้ากันก็ต่อสู้กันอยู่เสมอ


      ด้านล่างเส้นทางสู่สวรรค์ เหล่าศิษย์ของทั้งสี่นิกายต่างมองไปยังคนสี่คนที่ยืนอยู่บนยอด ด้วยความอิจฉา


“ศิษย์พี่หนานเป่ย ช่างหล่อเหลาเหลือเกิน แถมเขายังเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของแคว้นฉีอีกด้วย..! เขาเป็นฮีโร่ของข้าเลย สักวันหนึ่งถ้าข้าไปถึงระดับเดียวกับเขา มันคงเยี่ยมจริงๆ”


“ไสหัวของเจ้าไปซะ..! เจ้าไปส่องกระจกดูดีๆนะไอ้*** กล้าดียังไงถึงได้เอาตนไปเทียบกับศิษย์พี่หนานเป่ย เจ้ามันหน้าไม่อาย…!!”


“ส่งเสียงเอะอะอะไรกัน..! นั่นมันหนานเป่ยเฉาไม่ใช่รึ..? หากไม่ใช่เพราะว่าศิษย์พี่กวนอยู่ในสภาพแย่ ป่านนี้เจ้าคงไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก หนานเป่ยเฉา..!


“เจ้าตัวบัดซบน้อย..!! พูดออกมาอีกครั้งสิ?! เจ้ากล้าดีเช่นไรถึงกล้าดูหมิ่นต่อหน้าศิษย์พี่หนานเป่ยของเรา? เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าภายหลัง ข้าจะไปทำลายนิกายทมิฬของเจ้า!”


………………………………………………………………


      สถานการณ์เริ่มกลายเป็นตึงเครียด ดูเหมือนพวกเขาจะเริ่มปะทะกันแล้ว อี้ชิงจื่อ และ หลิงอ้าวตอบสนองต่างออกไป พวกเขาเป็นอัจฉริยะ อีกไม่นานพวกเขาก็จะได้เข้าเป็นศิษย์ชั้นในแล้ว ศิษย์ชั้นในเป็นตำแหน่งที่สำคัญ พวกเขามองไป่หัวไต๋ กับหนานเป่ยเฉาอย่างชมเชย


      ผู้ที่เยือกเย็นที่สุดคือราชันย์ปีศาจน้อยฮันหยาน และหลี่หวู่ซวง มันไม่สำคัญว่าจะเป็นกวนอี้หยุน เหลียงเซียว หรือแม้กระทั่งหนานเป่ยเฉา พวกเขาทั้งคู่ไม่สนใจคนเหล่านี้ ความหยิ่งทะนงได้ฝังรากลึกลงไปภายในร่างกายของเขา ถึงเป็นเช่นนั้นพวกเขายังคงนับถือหนานเป่ยเฉา กับอีกสามคน แต่พวกเขาไม่ได้นับถืออย่างหน้ามืดตามัว ในความคิดของฮันหยานและหลี่หวู่ซวงมั่นใจว่าสักวันหนึ่ง พวกเขาจะเหนือกว่าได้


“เริ่มได้” หนานเป่ยเฉาพูดเสียงดัง เป็นสัญญาณการเริ่มต้นการแข่งขันรอบแรก พร้อมเสียงกลองได้หยุดลง


      ผู้คนเกือบเจ็ดร้อยคนขึ้นไปบนบันไดโดยทันที เส้นทางสู่สวรรค์กว้างอย่างไม่น่าเชื่อ แม้มีคนเพิ่มขึ้นอีกกว่าพันคนในตอนนี้ไม่นับว่าแออัด

      มีขั้นบันไดหินกว่าร้อยขั้นบนเส้นทางสู่สวรรค์ โดยแต่ละขั้นมีความสูงประมาณหนึ่งเมตร ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์คนไหนก็ปีนขึ้นได้โดยง่าย มันไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเขาแม้แต่นิดเดียว


      หลังจากที่หนานเป่ยเฉาพูดจบ ผู้คนวิ่งไปข้างหน้าเหมือนแมว ปีนทีละสามขั้นเหมือนดังมังกรศึก พุ่งกระโจนราวกับเสือ ราวกับมีแรงผลักดันเต็มเปี่ยม


      แต่เมื่อมีคนเหยียบถึงขั้นที่สี่ ในทันที พวกเขาต่างรู้สึกถึงแรงกดดัน ความเร็วของพวกเขาลดลง แรงกดดันมาจากการร่วมมือของยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายทั้งสี่


      นอกจากนั้น ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายทั้งสี่นั้น ไม่ใช่เพียงยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ธรรมดาทั่วไป ถ้าพวกเขาร่วมมือกัน แม้แต่ยอดฝีมือแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้นยังไม่อาจต้านทานได้


      แรงกดดันบนเส้นทางสู่สวรรค์นั้นมาจากแรงกดดันจากแรงผลักดัน แรงกดดันจากพลังหยวน และที่สำคัญที่สุดคือแรงกดดันวิญญาณ ทำให้การศิษย์ที่เข้าแข่งขันปีนขึ้นไปได้ยากขึ้น พูดได้ว่าการแข่งขันในปีนี้ยากกว่าการแข่งขันใดๆในปีที่แล้วเสียอีก


      กวนอี้หยุน สวมชุดสีขาว มองไปที่ฝูงชน ใบหน้าที่หล่อเหลามีสีหน้าเยือกเย็น “นอกเหนือจากสี่นิกายใหญ่ ผู้ใดปรารถนาเข้าร่วมการแข่งขัน และสามารถติดหนึ่งในสามสิบได้ ผู้นั้นสามารถเข้าร่วมนิกายใดในสี่นิกายใหญ่ได้ในทันที”


      หลังจากคำพูดหลุดจากปากกวนอี้หยุน ฝูงชนต่างกระสับกระส่าย ทุกคนต่างมองไปยังคนอื่น ต่างมองกันและกัน ไม่มีใครก้าวออกมาข้างหน้า เพราะว่าทุกคนรู้ว่าที่กวนอี้หยุนพูดอะไรอย่างนั้นทุกปี แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่กระโดดลงแข่งขันเช่นนั้น


      ทันใดนั้นสายตาไม่กี่คู่ก็จ้องมองไปยังเจียงเฉิน ใครบางคนล้ออกมาว่า “เฮ้ !! เจ้าหนูคนนั้นเจ้าไม่ใช่หรือที่จะจัดการราชันย์ปีศาจน้อย? ทำไมเจ้าถึงไม่ลงแข่งขันซะล่ะ”


“ฮ่าฮ่า  เขารู้กันไปทั่ว ว่าอย่างเขาไม่ไหวหรอก ในเมื่อเจ้าทำไม่ได้ ฉะนั้นอย่าทำตัวเหมือนเจ้าสามารถทำได้ ช่างไร้ยางอายเสียจริง”


“ใช่แล้ว พวกเรามาเยาะเย้ยเขาด้วยกันดีกว่า”


……………………………………………….


      เจียงเฉินเงียบในทันที เขายังไม่ทันได้ทำอะไร ผู้คนต่างเยาะเย้ยเขา เขามองตรงไปยังเจ้าหวงต้า เขาไม่ได้พูดอะไร แต่เจ้าหวงต้ามัน…….


อย่างไรก็ตามเจียงเฉินต้องการเข้าร่วมการแข่งนี้อยู่แล้ว


“ข้าจะลงแข่งขัน เคลียร์ทางให้บิดาเจ้าด้วย!”


แขนเสื้อยาวของเจียงเฉินพริ้วไหว เขาเดินไปข้างหน้าเส้นทางสู่สวรรค์ ทำให้ผู้คนต่างตกตะลึง


“อย่าบอกนะว่า เจ้าเด็กนี่เอาจริง? มันไม่รู้จักประมาณตน สู้กับศิษย์ของสี่นิกายใหญ่ ไม่ใช่ว่ามันรนหาที่หรอกหรือ?”


“ก็แค่พวกโง่ที่ลองลงแข่ง ข้าพนันว่าอย่างมันคงขึ้นไปไม่ถึงยี่สิบขั้น”


“ยี่สิบขั้น ? ข้าว่ามากไปมั้ง ดูเขาสิ ดูอ่อนแอปวกเปียกเสียขนาดนี้ ข้าว่าอย่างเขาคงไม่เกินสิบขั้น”


ด้านหลังเจียงเฉินมีคำพูดดูถูกเหยียดหยามเขามากมาย


“พวกเจ้าช่างไม่รูอะไรเสียแล้ว! เขาเป็นอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ เส้นทางสู่สวรรค์มันแค่เรื่องจิ๊บจ๊อย อย่างเขาต้องได้ที่หนึ่งเป็นแน่”


หวงต้าพูดอย่างอวดดี


“ไสหัวไปซะ! เจ้าหมานี่ไม่เคยพูดเรื่องจริงสักครั้ง ได้ที่หนึ่งงั้นหรือ ที่หนึ่งจากท้ายสิไม่ว่า”


ใครบางคนตวาดมัน พวกเขาอยากที่เข้าไปตบเจ้าหมานี่สักที


“บัดซบ..!! ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าพนันกับข้าไหมละ ยาฟื้นพลังมนุษย์หนึ่งร้อยเม็ด สัดส่วน 1 ต่อ 10เป็นไง มีใครกล้าพนันกับข้าบ้าง?


หวงต้า พูดอย่างจริงจัง นัยน์ตาของมันประกายไปด้วยความเจ้าเล่ห์


“มันบ้าอะไร ? สัดส่วน 1 ต่อ 10 งั้นรึ? เจ้าหมาเวร เจ้าเอาจริงรึ แล้วจะพนันยังไง?”


บางคนแสดงความรู้สึกสนใจ


“ง่ายๆ พวกเจ้าเดิมพันกันยาฟื้นพลังมนุษย์คนละหนึ่งร้อยเม็ด ถ้าเจ้าหนุ่มนั้นเข้าที่หนึ่งพวกเจ้าจะสูญเสียทุกอย่าง ยาฟื้นพลังมนุษย์ก็จะเป็นของข้า แต่ถ้ามันไม่ได้ที่หนึ่งข้าจะจ่ายพวกเจ้าคนละหนึ่งพันเม็ดเป็นอย่างไร”


หวงต้า พูดอย่างเป็นธรรม


“เจ้าหมานี่มันไม่เคยพูดจริงสักครั้ง เชื่อถือไม่ได้หรอก จะเกิดอะไรขึ้นละถ้าเจ้าไม่รักษาคำพูด”


ใครบางคน ถาม


“มองไปที่ใบหน้าของเจ้าพวกขี้แพ้นี่สิ หลายคนอยู่ที่นี่ เจ้ายังกลัวว่าข้าจะหนีไปไหนงั้นรึ? ข้าแทบจะจมน้ำลายที่พวกเจ้าพ่นมาอยู่แล้ว เอาสิ เอาเลย! ลงพนันสิถ้าอยากรู้ให้หายสงสัย ว่าเจ้าหนุ่มนั่นจะได้ที่หนึ่งจริงรึเปล่า!”


หวงต้ากระดิกหางของมันแล้วพูดว่า “ข้ากำลังมองไปยังพวกเจ้าทั้งหมด!”


“เจ้าลูกหมา เจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้าคงไม่ได้สร้างปัญหาอะไรอีกใช่ไหม”


      เสียงของหยานเฉินหยู่ดังขึ้นที่หูของหวงต้า เจ้าหมานี่กล้าดียังไง ถึงใช้ท่านพี่เจียงเฉินในการพนันกับคนอื่น มันพึ่งพาอะไรไม่ได้เลย


“มีเพียงคนบ้าเท่านั้น ที่ไม่รู้จักฉกฉวยโอกาสทำเงิน สาวน้อย! แค่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น วันนี้มาหาเงินก้อนใหญ่กันดีกว่า”


หวงต้า เป็นหมาที่น่ากลัวยิ่งนัก มันไม่พลาดโอกาสในการหาเงิน


” ฆ่าข้าให้ตายเสียยังดีกว่า ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าเด็กนั่นจะได้ที่หนึ่งหรอก ข้าเดิมพันสองร้อยเม็ด”


“ข้าบิดาเจ้า ลงเดิมพันสองร้อยเม็ด ถ้าเจ้าแพ้เจ้าต้องจ่ายให้ข้าสองพันเม็ด”


บางคนจงใจเตือนมัน


“ไม่ต้องกังวล ข้ามียาฟื้นพลังมนุษย์มากมาย ถ้าพวกเจ้ายังกังวล เจ้าก็มอบให้สาวน้อยคนนี้เป็นคนเก็บรักษาซะสิ”


หวงต้ามองไปที่หยานเฉินหยู่


      ทุกคนหันหัวของเขาและมองไปยังสาวน้อยที่สวยผ้าคลุมหน้าสีม่วง ตาของพวกเขาเป็นประกายเมื่อมองไปที่นาง พวกเขาทุกคนไม่ได้โง่ พวกเขาบอกได้ว่าแม้ว่ามีผ้าปกปิดใบหน้าอยู่ แต่สาวน้อยคนนี้งดงามเป็นอย่างมาก


“ตกลง…! สาวน้อยช่วยเก็บยานี่ไว้หน่อย ข้าลงเดิมพันหนึ่งร้อยเม็ด”


“ข้าลงด้วย!!”


“ฮ่าฮ่า เจ้าหมาเวร เตรียมจ่ายเราได้เลย ราชันย์ปีศาจน้อย กับหลี่หวู่ซวงอยู่ด้วย แม้ว่าเจ้าเด็กนั่นจะมีความสามารถมากแค่ไหน มันก็ไม่มีทางเข้าที่หนึ่งได้หรอก”


“เจ้าโง่ ที่หนึ่งงั้นรึ อย่างเด็กนั่นจะถึงขั้นที่ยี่สิบรึเปล่าก็ไม่รู้”


“บัดซบ! ถ้าเจ้าหมานี่ไม่ยอมจ่ายเราละก็จะจับมันถลกหนัง เอามันไปย่างทั้งเป็นเสียเลย “


………………………………………………………………..


      ในเวลานี้ หลายคนต่างวิ่งเข้ามาเดิมพัน เพียงไม่กี่นาที มีผู้คนหลายร้อยคนลงพนัน หยานเฉินหยู่เก็บยาฟื้นมนุษย์ได้กว่าหนึ่งหมื่นห้าพันเม็ด นอกจากนี้ที่นี่ก็เกิดความวุ่นวายขึ้น พวกเขาต่างรวมตัวกันรอบหาข้อมูลเกี่ยวกับการเดิมพันนี้ ในจุดนี้ทุกคนต่างอารมณ์ดี


“บัดซบ! ใครสักคนที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสี่นิกายใหญ่ ต้องการเข้าที่หนึ่ง? มันเพ้อฝันไปรึเปล่า? เร็วเข้าไปลงพนันกัน”


คนเจ้านวนมากต่างมาลงเดิมพันในสิ่งที่พวกเขาต้องการ


มุมปากทั้งสองข้างดูเหมือนกว้างจนจะฉีกถึงใบหูของมัน ตาของมันถูกเติมเต็มไปด้วยประกายดาวระยิบระยับ นี่มันโชคครั้งยิ่งใหญ่ ไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับเจียงเฉิน แต่หวงต้ารู้ เจ้าหนูนี่มันสัตว์ประหลาดชัดๆ เส้นทางสู่สวรรค์เล็กๆแค่นี้มันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเสียอีก แม้แต่ยอดฝีมือแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่สามารถหยุดเขาได้


“ฮะฮะ เจ้าลูกหมา เจ้าทำได้ไม่เลวเลย ท่านพี่เจียงเฉินต้องชอบยาฟื้นพลังมนุษย์พวกนี้เป็นแน่”


หยานเฉินหยู่ หัวเราะพร้อมลูบหัวเจ้าหวงต้า


      เจียงเฉินเอามือไขว้ไว้ที่หลังของเขา และเดินไปยังเส้นทางสู่สวรรค์ เขาดูใจเย็นและอดทน ขณะที่ศิษย์สี่นิกายใหญ่ต่างสู้กันแย่งกันปีน มีเพียงรอยยิ้มบนหน้าของเขา


      เมื่อหนานเป่ยเฉา และทั้งสามเห็นเจียงเฉิน ดวงตาของพวกเขาส่องประกาย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่ความใจเย็นของเขา ก็ทำให้เขาโดดเด่นกว่าคนอื่น


      บนเส้นทางสู่สวรรค์ เมื่อถึงขั้นที่สิบ แรงกดดันเริ่มที่จะมากขึ้น เหงื่อไหลเต็มหน้าผากพวกเขา ยิ่งปีนสูงขึ้น ก็จะต้องรับแรงกดดันมากยิ่งขึ้น


“แรงกดดันแข็งแกร่งอะไรเช่นนี้ ขาของข้าไม่ยอมทำตามคำสั่ง! แรงกดดันร่วมของอัจฉริยะทั้งสี่แข็งแกร่งเกินไปแล้ว แม้แต่จิตวิญญาณข้าก็สั่นสะเทือน ถ้าเป็นเช่นนี้ข้าคงขึ้นไปมากกว่าชั้นที่ยี่สิบไม่ไหว ช่างน่าละอายเสียจริง”


      ใครบางคนพูดขณะเช็ดเหงื่อของเขาออก เหล่ายอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายปีนได้อย่างรวดเร็ว พวกเขามาถึงขั้นที่ยี่สิบ ส่วนราชันย์ปีศาจน้อยกับอัจฉริยะทั้งสามยังดูใจเย็น พวกเขาไปถึงขั้นที่สี่สิบแล้ว แต่พวกเขาดูเยือกเย็นและผ่อนคลายอยู่เลย นี่สินะความแตกต่างระหว่างพวกเขากับยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์คนอื่น


=====================================================


จบจ้า


@ ตาลายแบ้ว !

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments