I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 86 ม้ามืดอีกตัว

| Dragon-Marked War God | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

 

แปลไทยโดย Takumi Kun / Subaru Kyun

ตรวจทาน Subaru Kyun

******************************************
ทุกๆคนต่างพยายามอย่างหนักที่จะปีนขึ้นด้วยกำลังทั้งหมดของพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถขึ้นสู่ศิษย์สามสิบอันดับแรกได้ พวกเขาไม่ต้องการให้ตัวเองต้องอับอายขายหน้า โดยเฉพาะตอนนี้ที่บรรดาศิษย์จากสี่นิกายใหญ่อยู่ที่นี่ ไม่มีผู้ใดต้องการเป็นภาระในการแข่งขันระหว่างนิกายเช่นนี้ การที่พ่ายแพ้แก่ศิษย์จากนิกายเดียวกันนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าอับอายหากได้แพ้แก่ผู้ที่ไม่ได้มาจากนิกายเดียวกัน ตอนนั้นคือสิ่งที่น่าอับอาย

“ฮ่าฮ๋า พวกเศษสวะทั้งหมดจากนิกายกระบี่สวรรค์ ดูสีหน้าที่น่าสมเพชของเจ้าสิ! ข้าแน่ใจว่าพวกเจ้าจะได้ที่โหล่อย่างแน่นอน!”

ศิษย์จากนิกายทมิฬได้หันมาบอกแก่ศิษย์นิกายกระบี่สวรรค์ที่อยู่ด้านหลังเขา ขณะที่หัวเราะออกมาเสียงดัง ในการเย้ยหยันและหัวเราะเยาะ

“สั*ว์หมา! พวกเจ้าทุกคนจากนิกายทมิฬนั่นแหละสวะ! ครั้งนี้หลี่หวู่ซวงจะเป็นอันดับหนึ่ง ราชันย์ปีศาจน้อยอะไรนั่นไม่มีทางที่จะเอาชนะเขาได้หรอก! คอยดูแล้วกัน!”

ไม่ต้องการที่จะแสดงความอ่อนแอออกมา ศิษย์จากนิกายกระบี่สวรรค์ได้สู้กลับ

“ไสหัวไป ไอ้เศษเดนจากนิกายอัคคีผลาญฟ้า หยุดล่วงเกินข้า!”

“เx็ดแx่ หลีกไปซะไอ้บ้านิกายทมิฬ! หากเจ้ากล้าเบียดมาอีก ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!”

“ฮี่ๆ ศิษย์น้องจากหุบเขาสุขสันต์ ไว้มีปฎิสัมพันธ์กันหลังจากนี้นะ!”

…………………………………………

เส้นทางสู่สวรรค์นั้นตกอยู่ในความยุ่งเหยิง คนจำนวนมากเป็นเพียงแค่ก้อนหินไว้สำหรับเหยียบข้ามไป ทั้งผลักทั้งกระแทกกันและกัน พวกเขาทั้งหมดต่างกัดฟันแน่น หากไม่ใช่เพราะว่าการต่อสู้นั้นได้ถูกห้ามไว้บนเส้นทางสู่สวรรค์ สถานที่แห่งนี้คงเป็นสนามรบ

การแข่งขันนั้นไม่อนุญาตให้ใช้กำลังในการต่อสู้ ดังนั้นจึงมีศิษย์จำนวนมากที่ได้ยั่วยุผู้ที่อยู่ถัดจากพวกเขา และศิษย์หยาบช้าบางคนมีแม้กระทั่งต่อว่าถึงบรรพบุรุษของอีกฝ่ายโดยไม่สนถึงภาพลักษณ์ของนิกายตนเอง

สำหรับผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริง พวกเขาทุกคนต่างปิดปากของตัวเองขณะที่พวกเขากำลังปีนขึ้นด้วยความพยายามทั้งหมดของพวกเขา ระยะห่างจากผู้ที่นำอยู่กว้างมากขึ้นเมื่อเวลาได้ผ่านไป นี่เป็นช่องว่างที่กว้างใหญ่ระหว่างยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ที่แข็งแกร่งและคนอื่นๆ

ที่น่ากลัวที่สุดยังคงเป็นราชันย์ปีศาจน้อย หลี่หวู่ซวงและอีกสองคน ทั้งสี่พุ่งตรงไปเหมือนจรวด พวกเขาได้ไปถึงหินขั้นที่ห้าสิบและยังคงพุ่งตรงไปโดยที่ไม่แสดงความอ่อนแอออกมา

เมื่อศิษย์ทั้งสี่ไปถึงหินชั้นที่ 60 อาการของพวกเขาได้เปลี่ยนไปและความเร็วของพวกเขาช้าลง แรงกดดันบนหินขั้นถัดไปเพิ่มขึ้นทวีคูณ แม้ว่าคนอย่างราชันย์ปีศาจน้อยยังไม่สามารถก้าวอย่างมั่นคงได้ภายใต้แรงกดดันของหนานเป่ยโจวและอีกสามคน

ขณะนั้นชายหนุ่มชุดขาวได้ก้าวสู่เส้นทางสู่สวรรค์ ท่าทีของเขาดูสงบนิ่งและด้วยเพียงก้าวเดียวของเขาเขาได้ไปถึงหินชั้นที่สาม และเขาพุ่งไปอีกสามก้าวเขาไปถึงขั้นที่สิบ เขาเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยดั่งนกนางแอ่นเพียงพริบตาเดียวเขาไปถึงขั้นที่ยี่สิบ หน้าของเขามีรอยยิ้มที่อบอุ่น มันเหมือนกับว่าแรงกดดันจากเส้นทางสู่สวรรค์เป็นเพียงแค่สายลมอันอ่อนโยน

“ดูนั่น! ชายหนุ่มคนนั้นเป็นใครกัน?! ความเร็วของเขาน่าเหลือเชื่อมาก!”

“มีคนที่ไม่ได้มาจากนิกายใหญ่ทั้งสี่กล้าที่จะเข้าร่วมการแข่ง! แต่ชายหนุ่มผู้นี้ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่มีความสามารถนะ…..ข้าสงสัยว่าเขาจะขึ้นไปได้สักกี่ขั้น?”

หลายคนได้ให้ความสนใจกับเจียงเฉิน โดยทั่วๆไปแล้วจะไม่มีผู้ใดที่อยู่ด้านล่างของเส้นทางสู่สวรรค์ ดังนั้นการปรากฎตัวของเจียงเฉินจึงเห็นได้ชัดเจน

เหล่าผู้ที่เดิมพันกับหวงต้าต่างรอเป็นพยานในการแสดงความโง่ของเขาต่างตื่นตระหนก โดยเฉพาะผู้ที่คิดว่าเจียงเฉินไปได้เพียงแค่ขั้นที่สิบหรือยี่สิบ พวกเขาเริ่มสงสัยในการตัดสินใจของพวกเขาเมื่อเห็นเจียงเฉินได้แสดงออกอย่างโดดเด่นเช่นนี้

“ข้าไม่เคยคาดว่าชายหนุ่มผู้นี้แท้จริงแล้วจะมีทักษะบ้าง…..มันดูเหมือนว่าเขาไม่ได้โม้”

“มันเหมือนกับว่าไม่มีแรงกดดันในยี่สิบขั้นแรก มันดูพอใช้ได้สำหรับเขานะ….ข้าคาดว่าเขาจะหยุดที่ขั้นที่สี่สิบ!”

เมื่อคำพูดได้ออกมาจากปาก เจียงเฉินกระโดดขึ้นอย่างใจเย็นสู่อากาศขึ้นไปอีกสิบขั้นไปถึงขั้นที่สามสิบ ที่จุดนั้น ศิษย์จำนวนมากจากนิกายใหญ่ทั้งสี่ที่กำลังปีนด้วยทั้งมือทั้งเท้า อย่างไรก็ตาม เจียงเฉินยังสามารถยืนอยู่ได้อย่างเฉยเมยด้วยแขนข้างหนึ่งอยู่ด้านหลังเขา ใบหน้าของเขาไม่แสดงออกถึงความตึงเครียดใดๆ

“บัดซบ!”

ผู้ที่พูดว่าเจียงเฉินสามารถไปหยุดขั้นที่สี่สิบ เกือบกระอักเลือดออกมา หลายๆคนที่ได้พนันกับหวงต้า ทันใดนั้นหัวใจของพวกเขาได้เต้นถี่ขึ้น

ตึก!

เจียงเฉินเริ่มเดินอีกครั้ง เขาได้ไปถึงขั้นที่สามสิบห้า และความเร็วขอเขารวดเร็วอย่างมากดั่งพยัคฆ์กำลังล่าเหยื่อ

“บัดซบ! เจ้าหมอนั่นเป็นใครกัน? เขารวดเร็วเช่นนั้นได้อย่างไร?”

“ชายผู้นี้มาจากที่ใดกัน? เขามานี่เพื่อเอาชนะพวกเราทั้งหมด? เขาไม่ได้มาจากนิกายใหญ่ทั้งสี่ และข้าไม่เคยพบเขามาก่อนด้วย”

“อย่าบอกนะว่าเขาไม่แม้จะอยู่ในสี่นิกายใหญ่…..เคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่าพี่ชายเสียอีก พ่ายแพ้แก่คนนอกนี่มันน่าอับอายอย่างใหญ่หลวง”

ทันทีที่เจียงเฉินได้ปรากฎตัวได้เกิดความวุ่นวายบนเส้นทางสู่สวรรค์ มีหลายต่อหลายคนที่ต้องกัดฟันของพวกเขา ขณะที่ไล่ตามเขา น่าเศร้าที่ แรงกดดันนั้นรุนแรงมากและพวกเขาก็ถึงขีดจำกัดแล้ว พวกเขาทำได้เพียงแค่ดูด้วยตาตัวเองว่าเจียงเฉินได้ขึ้นไปก้าวเดียวรอบนี้

เจียงเฉินหันไปและยิ้มให้ผู้ที่อยู่ด้านหลังเขา หน้าของพวกเขาแข็งค้างในเวลาเดียวกัน

“บัดซบ! โลกนี้มันเล็กจริงๆ”

เจียงเฉินต้องการจริงๆที่จะถีบหน้าคนส่งตัวเขาบินขึ้นไปที่เส้นทางสู่สวรรค์

“นี่มันเจ้า? เป็นเจ้าจริงๆงั้นรึ?”

ชายคนหนึ่งตะโกนออกมาและชี้นิ้วไปที่เจียงเฉิน เขาได้สั่นไปทั้งตัว เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากศิษย์จากนิกายกระบี่สวรรค์ที่เจียงเฉินปล่อยไปที่ภูเขาต้นกำเนิด

เจียงเฉินไม่เคยคาดมาก่อนว่าเขาจะพบชายคนนี้ที่นี่ วันที่เขาได้อนุญาตให้ชายคนนี้หลบหนี พวกเขาได้ออกจากเขาต้นกำเนิดในเวลาเดียวกัน และแม้ว่าพวกเขาเสียเวลาที่เมืองจันทราสีเงินบ้าง แต่ความเร็วของเขาไม่ใช่สิ่งที่ชายคนนี้จะสามารถเทียบได้ เจียงเฉินได้มาถึงเมื่อวาน อย่างไรก็ตามชายคนนี้ถึงช้ากว่า ได้เข้าร่วมการแข่งขัน และมีแนวโน้มว่าจะมาถึงก่อนเขา นั่นทำให้เขาตกใจจริงๆ

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่อธิบายได้ไม่ยาก นิกายกระบี่สวรรค์มีสาขาอยู่ทั่วแคว้นฉี และศิษย์จากนิกายกระบี่สวรรค์ไม่ว่าเขาจะไปยังที่แห่งใด เขาก็จะได้รับการสนับสนุน การสนับสนุนง่ายที่สุดคือสัตว์อสูรที่บินได้

“จางหลิน เจ้ารู้จักชายผู้นี้ด้วยรึ?”

ศิษย์นิกายกระบี่สวรรค์อีกคนถาม

“ไม่เพียงแค่รู้จักชายคนนี้ ศิษย์พี่เหลียงตงและเฉินซวงต่างถูกเขาสังหาร! เขาและเจ้าหมาสีเหลืองนั่นเป็นสหายกัน”

ชายคนนี้มีนามว่าจางหลิน เมื่อเขาเห็นหน้าของเจียงเฉิน เขาได้บอกศิษย์คนอื่นทันทีเกี่ยวกับเขาขณะที่กัดฟันตัวเอง เขากว่าจะลืมความอับอายขณะที่ได้คุกเข่าและปัสสาวะรดกางเกงต่อหน้าเจียงเฉินในวันนั้นที่ภูเขาต้นกำเนิด

“อะไรนะ! เป็นมันงั้นรึ? เป็นชายที่ใจกล้าดี มันกล้าดีอย่างไรมาเข้าร่วมการแข่งขันในวันนี้? วันนี้พวกเราจะสับมันให้เป็นชิ้นๆ”

ตัวตนของเจียงเฉินได้แพร่กระจายทันที เขาได้ดึงดูดสายตาเกลียดชังจากศิษย์นิกายกระบี่สวรรค์ทันที

เฮ้อ…….

เจียงเฉินส่ายหัวของเขาและถอนหายใจออกมาในขณะที่คิดว่าวันนี้เป็นวันที่แย่ แต่เขาไม่ได้เกรงกลัว วันนี้แตกต่างกัน มันเป็นการแข่งขันระหว่างนิกายใหญ่ทั้งสี่ ไม่ใช่สถานที่ที่นิกายกระบี่สวรรค์สามารถทำอะไรได้ตามใจชอบ

เจียงเฉินโชว์นิ้วกลางให้แก่เหล่าศิษย์นิกายกระบี่สวรรค์และหันกลับไปปีนต่อ

“สั* ไอ้หมอนี่กล้าดีอย่างไรมาเหยียดหยามพวกเรานิกายกระบี่สวรรค์?! ฆ่ามัน! พวกเราต้องฆ่ามัน!”

“เขาช่างกล้าจริงๆ ไม่มีผู้ใดกล้าดูหมิ่นนิกายกระบี่สวรรค์และสังหารศิษย์? ไม่ว่าเขาจะไปที่ใด มันก็เป็นทางตันสำหรับเขา”

“ฮ่าฮ๋า นิกายกระบี่สวรรค์ของพวกเจ้าจบแล้วล่ะ! แม้ว่าไม่มีใครไปดูถูกเจ้าก็ตาม!”

“ข้าเห็นด้วย ชายหนุ่มคนนี้ใช้ได้เลย! ข้าชักถูกใจเข้าแล้วสิ!”

เหล่าศิษย์จากนิกายกระบี่สวรรค์ต่างเดือดจากความโกรธ แต่ทว่าศิษย์จากนิกายทมิฬต่างหัวเราะปิติยินดีและเห็นว่าน่าพอใจมาก ศัตรูของศัตรูคือสหายและเหล่าศิษย์จากนิกายทมิฬได้เห็นว่าเจียงเฉินเป็นที่ชื่นชอบในสายตาพวกเขาอย่างแท้จริง

ในขณะนั้น ราชันย์ปีศาจน้อยและคนอื่นๆได้ก้าวผ่านขั้นที่เจ็ดสิบ ที่จุดนั้นๆพวกเขามีเหงื่อท่วมทุกๆก้าวนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างมากและใช้เวลามากแรงกดดันจากเหล่าอัจฉริยะแก่นแท้สวรรค์ทั้งสี่ทำให้พวกเขาตัวสั่น

จริงอยู่ว่าศักยภาพและพรสวรรค์ของพวกเขาไม่ด้อยกว่าทั้งสี่ที่อยู่ด้านบนสุด ยังสามารถที่จะไล่ตามทันได้สักวันหนึ่ง หรืออาจจะเหนือกว่าพวกเขา แต่ว่าตอนนี้การบ่มเพาะของพวกเขานั้นยังด้อยกว่า

ตึก…

ราชันย์ปีศาจน้อยและหลี่หวู่ซวงได้ปีนขึ้นมาอีกขั้นในเวลาเดียวกัน แต่ในตอนนั้นอี้ชิงจื่อและหลิงอ้าวทั้งคู่ช้ากว่า ความแตกต่างนี้ชัดเจนมาก

ฟิ้ววว ฟิ้วววว….

ในตอนนั้นเอง ทั้งสี่ต่างรู้สึกถึงสายลมพัดมาจากด้านหลังของพวกเขา ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะหันหลังไปดู สิ่งที่พวกเขาเห็นคือชายหนุ่มในชุดสีขาวได้ตรงมายังพวกเขาด้วยความรวดเร็วดั่งสายลม ความเร็วของเขาสุดยอดมาก และดูเหมือนว่าเขาจะต้านทานแรงกดดันใดๆอีกด้วย

เพียงแค่พริบตาเดียว เจียงเฉินมาถึงตรงหน้าราชันย์ปีศาจน้อยฮันหยาน เขายิ้มและประสานมือต่อฮันหยาน “พี่น้องฮัน ไม่ได้พบกันเสียนาน”

“พี่ชาย ท่านแข็งแกร่งนัก ข้าขอทราบนามท่านได้ไหม?”

ฮันหยานถามอย่างกระหืดกระหอบ เมื่อเขาเห็นเจียงเฉินสงบ เขาได้รู้สึกด้อยกว่าครั้งแรก แม้ว่าเขาจะสังเกตุเห็นถึงความโดดเด่นของเจียงเฉิน เขาไม่เคยคาดว่ามันจะเกินกว่าที่เขาได้จินตนาการเอาไว้ เมื่อเขาได้ช่วยเหลือเจียงเฉินในวันนั้น มันอยู่ในช่วงที่ต้องรีบร้อนและเขาไม่ได้ถามนามของเจียงเฉิน ตอนนี้เท่านั้นที่เขาได้เห็นเจียงเฉินได้ไล่ตามจากด้านหลัง เขาได้ให้ความสนใจกับเจียงเฉินอย่างแท้จริงและถามถึงนามของเขา

“เจียงเฉิน”

เจียงเฉินเอามือวางบนบ่าของฮันหยานและพูด “ปีนต่อไปนะน้องฮันหยาน ข้าจะไปก่อน”

หลังจากพูดคำนี้ไป เจียงเฉินก็หมุนตัวกลับไปกระโดดต่ออีกครั้ง แรงกดดันไม่ส่งผลใดๆต่อเขาเลย

“นี่ มันเป็นไปได้อย่างไร”

ดวงตาของหลี่หวู่ซวงเบิกกว้าง ใบหน้าของเขาแสดงว่าไม่อยากจะเชื่อเลย

“เจ้าเด็กนั่นเป็นใครกันแน่? พลังหยวนของเขาเพียงแค่แก่นแท้มนุษย์ขั้นต้นเท่านั้นเอง เขาทนแรงกดดันนั่นได้อย่างไร”

“เขาไม่ได้มาจากสี่นิกายใหญ่ เขาช่างน่าตกตะลึงเสียจริง”

แม้กระทั่งอี้ชิงจื่อกับหลิงอ้าวต่างมองไปยังเขา

“ฮึ่มมม….! หลี่หวู่ซวง มีคนแข็งแกร่งกว่าเจ้าอยู่มากมาย เก็บใบหน้าอันหยิ่งผยองของเจ้าซะ ถ้าไม่อยากทำให้ผู้คนเกลียดชังเจ้า”

ฮันหยานส่งเสียงเย็นชาบอกหลี่หวู่ซวงอย่างหยาบคาย

“ก็แค่ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น เพื่อให้ผ่านเข้ารอบมันต้องโกงเป็นแน่ ถ้าข้าเจอมันในการต่อสู้รอบสองละก็ ข้าสามารถบดขนี้มันให้เละด้วยนิ้วเท้าของข้า”

ใบหน้าของหลี่หวู่ซวงปกคลุมไปด้วยความหยิ่งผยองอีกครั้ง

“ปีนต่อไปสิ ถ้าเจ้าเจ๋งจริงละก็นะ”

ฮันหยานยิ้มเยาะ เขาหันตัวกลับไปและไปต่อข้างหน้า เพียงแค่เห็นเจียงเฉินกระโดดไปอย่างสบายๆถึงขั้นที่แปดสิบ เขารู้สึกว่าตัวเองตกต่ำและอยากเอาหัวของเขาโขกกับบันไดหินนี่ เขาอดที่จะพูดไม่ได้ว่า “นี่มันตัวอะไรฟะเนี่ย!”

“ดูนั่น! เจ้าคนใหม่นั่นเป็นอันดับหนึ่งแล้ว! เขาได้เหนือกว่าราชันย์ปีศาจน้อยและหลี่หวู่ซวงและเขายังปีนขึ้นไปด้วยความเร็วสูงอีก!”

“สวรรค์ นี่มันเรื่องจริงหรือ?! ชายหนุ่มผู้นี้เป็นใครกัน? และเขารวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร?”

“ม้ามืดอีกตัวได้ปรากฎขึ้นแล้ว! ระหว่างการแข่งขันภายใน ก็มีม้ามืดและข้าไม่เคยคาดคิดว่าจะเจออีกหนึ่งในวันนี้! เขาไม่แม้จะมาจากนิกายใหญ่ทั้งสี่อีกด้วย!”

หลายต่อหลายคนตะโกนขึ้นด้วยความแปลกใจ ทันใดนั้นเจียงเฉินได้เป็นศูนย์กลางของความสนใจ จะมีผู้ใดที่จะคิดว่าจะมีม้ามืดได้ปรากฎขึ้นที่การแข่งขันภายนอก?และม้ามืดตัวนี้ยอดเยี่ยมกว่าหนานเป่ยเฉา หนานเป่ยเฉาเป็นอัจฉริยะจากนิกายใหญ่ทั้งสี่ แต่ชายหนุ่มตรงหน้าทุกๆคนไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน

******************************************

จบจ้า  ไม่น่าจะค้างนะ อิอิอิ

หากชอบนิยายเรื่องนี้สามารถติดตามการอัพเดทได้ที่  

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments