I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 90 วิธีการอันโหดร้าย

| Dragon-Marked War God | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

 

แปลไทยโดย  Takumi Kun


ตรวจทาน        Subaru-Kyun


====================================================


“ผู้ใดหาญกล้าที่จะมาสู้กับข้า? ข้าจะให้มันตายทั้งที่คุกเข่าอยู่!”


ศิษย์นิกายกระบี่สวรรค์หยิ่งยโสอย่างมาก แม้ร่างกายของเขาจะไม่แข็งแกร่งเทียบเท่าหลี่หวู่ซวง แต่มันยังคงมีกล้ามเนื้อและอย่างน้อยเขาสูงกว่าเจียงเฉิน หน้าของเขามีผมปิดหน้าอยู่ และเคลื่อนพลังไหนเวียนรอบๆร่างกายเขา


มองไปที่นี่ เจียงเฉินได้ยิ้มเล็กน้อย เขากระโดดลงไปยังเวทีประลองสูงสองเมตร เขายืนตรงข้ามศิษย์นิกายกระบี่สวรรค์


เมื่อชายคนนั้นเห็นคู่ต่อสู้ตนเป็นเจียงเฉิน เขาตกใจและตื่นเต้น “ฮ่าฮ่า เป็นเจ้างั้นรึ! ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าใช้กลอะไรในการแข่งขันเส้นทางสู่สวรรค์ แต่แย่หน่อยโชคของเจ้าหมดในรอบสอง! มาเจอข้าเป็นคู่ต่อสู้คนแรก เจ้านี่มันโชคร้ายจริงๆ!”


“ศิษย์พี่หวงเฟิง ชายคนนี้ไม่ง่ายที่จะจัดการนะขอรับ ขอให้ระวังตัวด้วย! แม้แต่ศิษย์พี่เหลียงตงยังถูกเขาสังหาร! และเขาได้สังหารศิษย์คนอื่นอีกด้วย!”


ไม่ไกลจากเวทีการประลอง จางหลิงตะโกนออกมาเสียงดัง


จางหลินไม่ได้ออมเสียงแต่น้อย ดังนั้นหลายๆคนจึงได้ยินอย่างชัดเจน ฉากนี้เกิดความวุ่นวายอีกครั้ง


“อะไรนะ! เขาได้สังหารศิษย์นิกายกระบี่สวรรค์? เขากล้าดีอย่างไร?”


“เขาจบแล้วล่ะวันนี้! วันนี้ทั้งหลี่หวู่ซวงและเหลียงเซียวต่างอยู่ที่นี่ แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่มีทางที่จะปล่อยไปแน่! ไอ้ผู้ฝึกตนนอกรีดที่สังหารศิษย์จากนิกายกระบี่สวรรค์ เขากำลังมองหาที่ตาย!”


“เขามีนามว่าเจียงเฉิน ข้าเพิ่งได้ยินชื่อของเขานี่เอง เขาเองก็มีความโหดร้ายอยู่บ้าง และเขามีความกล้าอีก! เขากล้าที่จะเข้าร่วมการแข่งขันหลังจากที่ได้สังหารศิษย์นิกายกระบี่สวรรค์และเขาได้ล่วงเกินหนานเป่ยเฉา…..ข้าแน่ใจว่าเขาคงอยู่ไม่ถึงวันพรุ่งนี้แน่!”


…………………………………………………………………..


หลายๆคนถอนหายใจออกมา นามของเจียงเฉินแพร่กระจายในหมู่ผู้ชมอย่างรวดเร็ว จากเริ่มต้นการแข่งจนถึงตอนนี้ ชายหนุ่มนามเจียงเฉินที่ไม่รู้ว่ามาจากที่ใดได้เป็นศูนย์กลางความสนใจ


เหลียงเซี่ยวก็ได้ยินเช่นกัน ท่าทีของเขากลายเป็นเย็นยะเยือก เขาแค่นเสียงเย็นชาออกมาเงียบๆ


“เจ้าเหลียงตงไร้ประโยชน์ไม่สามารถจัดการได้แม้แต่เจ้าเด็กแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น เขานำความอับอายมาสู่นิกายกระบี่สวรรค์เสียจริง เจียงเฉิน เจ้ากล้าที่จะสังหารศิษย์นิกายกระบี่สวรรค์ หมายความง่ายๆว่าเจ้ากำลังรนหาที่ตายของตัวเอง ข้าจะทำให้ชีวิตของเจ้าได้จบลงที่เวทีประลอง!”


ความยโสของหวงเฟิงดูเหมือนจะทะลุฟ้าไปแล้ว


“ศิษย์พี่หวงเฟิงฆ่ามันเลย!”


“ใช่แล้ว ฉีกมันให้เป็นชิ้นๆ!”


เหล่าศิษย์ทั้งหมดของนิกายกระบี่สวรรค์ต่างตะโกนออกมาดังสนั่น พวกเขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยมในตัวหวงเฟิง แม้ว่าเหลียงตงจะแข็งแกร่งที่สุดในหมู่ศิษย์นอก แต่พละกำลังในการต่อสู้เขาด้อยกว่าหวงเฟิง พวกเขาไม่เชื่อว่ายอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายจะไม่สามารถฆ่าไอ้เด็กเวรที่อยู่แค่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้นได้


มีเพียงแค่ชานหลินที่ไม่สบายใจ เขาได้เป็นพยานความแข็งแกร่งอันน่ากลัวของเจียงเฉินมาก่อน


ตูม……(เสียงกลองสงคราม)


ถึงเวลาอันสมควร เหล่าศิษย์ในแต่ละเวทีการประลองต่างเริ่มการต่อสู้ของพวกเขา ไม่เคยมีสันติสุขในหมู่นิกายใหญ่ทั้งสี่ เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น ดั่งน้ำมันเข้าหาไฟ ทักษะในการสังหารได้ถูกนำมาใช้ทันที และทุกคนพยายามเต็มที่เพื่อที่จะสังหารฝ่ายตรงข้าม


“เจียงเฉิน รับความตายซะ!”


บนสนามประลองที่แปด หวงเฟิงตะโกนเสียงดัง แต่แย่หน่อย การตะโกนเสียงดังนั้นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่หวงเฟิงสามารถทำได้ในสนามประลอง นอกเหนือจากนั้น มันยังเป็นคำสุดท้ายก่อนที่เขาจะจากโลกนี้


ฉัวะ!


เมื่อหวงเฟิงตะโกน เจียงเฉินได้เคลื่อนไหว เขาโยกตัวเล็กน้อย จากนั้นเขาได้ไปอยู่หน้าของหวงเฟิงดั่งดาบคมกริบ บนนิ้วมือของเขา มีแสงสีทองเล็กๆเหมือนดาบแหลมคมและเขาได้ตัดคอของหวงเฟิงด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาด


ฉูด!


ฉากที่น่าหวาดกลัวได้ปรากฎขึ้นต่อหน้าทุกๆคน หวงเฟิงที่หยิ่งยโสไม่มีโอกาสได้แม้แต่กรีดร้อง หัวของเขาลอยสูงบนอากาศ มันถูกตัดโดยแสงที่อยู่บนมือของเจียงเฉิน 


เลือดได้พุ่งออกมาจากคอและพุ่งขึ้นสู่อากาศสูงกว่าหนึ่งเมตรดั่งน้ำพุ ภายใต้แสงอาทิตย์ มันดูเหมือนปีศาจ นี่เป็นสีที่โหดร้ายที่สุดในโลก มันเป็นปีศาจ และมันทำให้หนาวไปถึงไขสันหลัง


ตุบ ตุบ ตุบ….


หัวของหวงเฟิงได้ลอยจากอากาศร่วงหล่นสู่พื้นสนามประลอง และกลิ้งจากเวทีประลองสู่จตุรัส ตาของเขายังเปิดอยู่ และลักษณะท่าทางหวาดกลัวได้เห็นบนหน้าเขา เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะมาตายใน

สถานการณ์เช่นนี้จนกระทั่งเขาได้ตายจริงๆ


ในความคิดของเขา การแข่งขันประจำแคว้นฉีจะไม่ทำให้เขาต้องเสียชีวิต แม้เขาไม่สามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ มันยังมีโอกาสให้เขาได้ยอมแพ้ได้อยู่ แต่เขาได้ลืมไปว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าบางคน เขาไม่มีแม้โอกาสได้ยอมแพ้


หวงเฟิงไม่มีแม้แต่โอกาสจะโจมตี เขาไม่มีเวลาที่จะแสดงทักษะต่อสู้ของเขาออกมาและยุทธภัณฑ์ การตะโกนเสียงดังเป็นเพียงอย่างเดียวที่เขาได้แสดงบนเวทีการต่อสู้


ริมฝีปากเจียงเฉินยกขึ้นด้วยรอยยิ้มที่โหดเหี้ยม เขาไม่แม้จะดูร่างไร้วิญญาณที่นอนอยู่บนพื้น เขาไม่สนใจสายตานับพันที่กำลังตกตะลึงแล้วเขาหันกลับกระโดดลงจากเวทีประลอง สำหรับเขานั้น การสังหารคนเป็นเรื่องง่ายดาย การปล่อยเพียงแค่คนเดียวจากนิกายกระบี่สวรรค์ไป ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์กับนิกายกระบี่สวรรค์ได้ ดังนั้นการที่จะสังหารอีกสักคนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย


“สวรรค์! เมื่อครู่ข้าได้เห็นสิ่งใด?! เขารวดเร็วเช่นนั้นได้อย่างไรกัน?”


“คนผู้นั้นเป็นถึงอัจฉริยะจากนิกายกระบี่สวรรค์ ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายและเขาโดนสังหารก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้โจมตี! นี่มันน่าประหลาดใจมาก! ชายหนุ่มผู้นี้ทรงพลังขนาดไหนกันนี่?!”

“เหี้ยมโหด! วิธีการของเขาโหดเหี้ยมยิ่งนัก! เขาไม่แม้ให้โอกาสคู่ต่อสู้ หวงเฟิงไม่มีโอกาสแม้แต่จะยอมแพ้ก่อนที่จะโดนตัดหัว!”

“พวกเจ้าได้เห็นนั่นหรือไม่? เจียงเฉินไม่ได้กระพริบตาเลยตอนที่เขาฆ่า เขาได้ดูถูกนิกายกระบี่สวรรค์โดยแท้! แค่เพียงทัศนคติและความกล้าหาญเท่านั้น ข้าได้นับถือเขา”

ทุกคนยังคงตกตะลึง และจตุรัสเมืองสุริยันโคจรตกอยู่ในความวุ่นวายอีกครั้ง มีเพียงไม่กี่คนที่คิดว่าหวงเฟิงจะตาย และน้อยคนนักที่คิดว่าเขาจะตายในสภาพเช่นนี้ ความคิดของผู้ชมที่มีต่อเจียงเฉินได้เปลี่ยนไปอีกครั้งหนึ่ง

 การแสดงออกของผู้ที่พนันกับหวงต้าไว้ได้ดูแย่อีกครั้งหนึ่ง พวกเขารู้สึกกระวนกระวายใจ ปีศาจหนุ่มนี่มากจากหนแห่งใดกัน? เขาบ้าเช่นนี้ได้อย่างไร?


ศิษย์จากนิกายกระบี่สวรรค์ต่างกราดเกรี้ยว พวกเขาหวังที่จะฉีกเจียงเฉินออกเป็นชิ้นๆตอนนี้ เหล่าศิษย์ที่เชียร์หวงเฟิงต่างทำหน้าเxี้ย ในการแข่งรอบแรก มีเพียงนิกายกระบี่สวรรค์เท่านั้นที่สูญเสียคน และเขาโดนไอ้ขี้โกงสังหาร เจียงเฉินได้ตบหน้านิกายกระบี่สวรรค์ต่อหน้าทุกคนในการแข่งขันประจำแคว้นฉี


“บัดซบ! พวกเราจะต้องฆ่ามันให้ได้วันนี้!”


“ฆ่ามัน! อย่าให้มันออกจากเมืองสุริยันโคจรเป็นๆได้!”


ทุกๆคนในนิกายกระบี่สวรรค์ต่างหงุดหงิด


หลี่หวู่ซวงโบกมือของเขา เป็นสัญญาณให้ทุกๆคนเงียบ เมื่อมองไปที่หลี่หวู่ซวง ศิษย์จากนิกายกระบี่สวรรค์ต่างมองเห็นความหวังอีกครั้ง


“พวกเรายังมีศิษย์พี่หลี่! มันไม่ใช้คู่ต่อสู้ของศิษย์พี่หลี่!”


“มันแน่นอนอยู่แล้ว! ศิษย์พี่หลี่ได้รับสืบทอดมรดกจากยอดฝีมือนักสู้จิตวิญญาณ และไอ้เวรนั่นไม่สามารถมาเทียบได้! ศิษย์พี่หลี่จะต้องแก้แค้นแทนหวงเฟิงแน่นอน!”


หลี่หวู่ซวงเป็นหน้าตาของศิษย์นอกและเขาได้รับมรดกของยอดฝีมือนักสู้จิตวิญญาณ ความสามารถของเขาเหนือกว่าคนทั่วไปและมันไม่ใช่สิ่งที่เจียงเฉินคนเดียวสามารถรับมือได้


ราชันย์ปีศาจน้อยเดินมาหาเจียงเฉิน “ท่านโหดเหี้ยมเสียจริง แต่ข้าชอบมัน! ข้าแปลกใจว่าท่าจะจัดการสถานการณ์ในวันนี้อย่างไร?”


“ข้าจะเอาชนะ”


เจียงเฉินยักไหล่ ดูเหมือนว่าเขาไม่สนใจแม้แต่น้อย เขามีประสบการณ์ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก่อน การแข่งขันของแคว้นเล็กๆอย่างแคว้นฉี การแข่งขันที่จัดปีละครั้งและเขาได้เข้าร่วมการแข่งขัน สังหารคนโดยไม่ผิดกฎ และหากนิกายกระบี่สวรรค์ต้องการที่จะตอแยเขา พวกมันจะต้องรอจนกว่าการแข่งขันจะจบลง 


การแข่งขันรอบแรกสิ้นสุดแล้ว สิบห้าคนตกรอบ อีกสิบห้าคนจะต้องสู้ต่อ สิบห้าคนนี้จะต้องจับแผ่นไม้ในหมู่พวกเขา ผู้ใดจับได้แผ่นว่างเปล่าก็จะชนะผ่านที่เหลืออีกสิบสี่คนจะต้องสู้ต่อ


ราชันย์ปีศาจน้อยฮันหยานโชคดีมากวันนี้จับได้แผ่นเปล่า แต่ในการเผชิญหน้ากับเขานั้นในรอบนี้ถือเป็นข่าวดีของศิษย์คนอื่นๆ ไม่มีผู้ใดต้องการที่จะเผชิญหน้ากับราชันย์ปีศาจน้อย


ในเวลานั้นคู่ต่อสู้ของเจียงเฉินเป็นยอดฝีมือระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายจากนิกายทมิฬ เมื่อศิษย์ผู้นั้นพบเจียงเฉิน เขาส่ายหัวและประสานมือ “พี่น้องเจียง เป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาแม้แต่หวงเฟิงยังถูกสังหารด้วยกระบวนท่าเดียว ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่าน ข้าชื่อหวังหวู่ ข้าขอยอมแพ้”


หลังจากหวังหวู่พูดจบ เขาหันกลับและกระโดดออกจากเวทีประลอง เขาชื่นชมเจียงเฉินโดยแท้จริง สถานการ์ณนี้ชัดเจนต่อทุกๆคน เจียงเฉินได้ล่วงเกินนิกายกระบี่สวรรค์และนิกายอัคคีผลาญฟ้าและเหลือเพียงนิกายเดียวที่อยู่ข้างเจียงเฉินคือนิกายทมิฬ นอกจากนี้ราชันย์ปีศาจน้อยและเจียงเฉินได้รู้จักกันมาก่อนด้วย และดูเหมือนว่าค่อนข้างสนิทกันด้วย ในการโปรดปรานคนของตนนั้น ศิษย์จากนิกายทมิฬนั้นมีความประทับใจที่ดีต่อเจียงเฉิน


หลังจากรอบที่สอง จะเหลือเพียงแปดคน ฮันหยานจากนิกายทมิฬ หลี่หวู่ซวงจากนิกายกระบี่สวรรค์ หลิงอ้าวจากนิกายอัคคีผลาญฟ้า และอี้ชิงจื่อ จากนิกายหุบเขาสุขสันต์ ทั้งสี่เป็นศิษย์ที่เป็นหน้าตาของศิษย์นอกจากนิกายใหญ่ทั้งสี่ รวมถึงเจียงเฉินและยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายอีกสามคน


เมื่อถึงเวลา ศิษย์สามคนมีท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกบนหน้าพวกเขา ทั้งห้าที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาไม่ใช่คนที่สามารถที่จะจัดการได้ แม้เจียงเฉินจะอยู่เพียงอาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น แต่พละกำลังในการต่อสู้ของเขานั้นสามารถที่จะสังหารหวงเฟิงและทิ้งไว้เพียงความประทับใจไว้ลึกๆในใจ พวกเขาได้ใส่เจียงเฉินลงระดับเดียวกับราชันย์ปีศาจน้อยและอีกสามคนแล้ว


“เริ่มการต่อสู้ต่อเลย”


หนานเป่ยเฉาพูดเสียงแข็ง เขาโบกมือและโยนแผ่นไม้แปดอันออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้คู่ต่อสู้ของเจียงเฉินคือหลิงอ้าว จากนิกายอัคคีผลาญฟ้า


เจียงเฉินและหลิงอ้าว กระโดดลงไปที่สนามประลองพร้อมกัน พวกเขายืนประชันหน้ากัน


“การต่อสู้ของเจียงเฉินและหลิงอ้าว! พวกเราจะได้เป็นพยานการแสดงที่ยอดเยี่ยมนี้! การบ่มเพาะของหลิงอ้าวอยู่ที่ อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นสูงสุด อีกเพียงก้าวเดียวก็จะขึ้นสู่อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์! เขายังมีทักษะที่สุดยอดอีก! เป็นคนที่หวงเฟิงไม่สามารถที่จะเทียบได้! ข้าสงสัยว่าเจียงเฉินจะสามารถที่จะรับมือเขาได้ไหม…”


“มันยากที่จะพูด แม้เจียงเฉินจะเป็นแค่ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น เขานั้นเป็นคนลึกลับ และเขาเหี้ยมโหดและโหดเหี้ยม….เขายังไม่ได้แสดงความสามารถที่แท้จริง การต่อสู้ระหว่างเขาและหลิงอ้าว นี่เป็นการต่อสู้ที่เหมือนกับเพลิงและน้ำมัน! ผู้ใดจะเป็นคนที่ยืนคนสุดท้าย มันยากที่จะบอกตอนนี้!”


“มาดูกันดีกว่า นี่คือเวลาที่จะชมการแสดงแล้ว! เจียงเฉินล่วงเกินหนานเป่ยเฉา เท่ากับล่วงเกินนิกายอัคคีผลาญฟ้าและตัดสินจากวิธีการสังหารหวงเฟิง ข้าเชื่อว่าเขาคงไร้ความปราณีต่อหลิงอ้าวเช่นกัน”



………………………………………………………………………


การแข่งขันได้ดำเนินมาสู่รอบสุดท้าย และที่ตื่นเต้นคือ การต่อสู้ระหว่างอัจฉริยะ เพียงแค่นี้ก็สามารถทำให้ผู้คนเลือดเดือนพล่านได้ และการต่อสู้อีกสามสนาม หลี่หวู่ซวง ราชันย์ปีศาจน้อยและอี้ชิงจื่อ พวกเขาต้องสู้กับยอดฝีมือระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายทั้งสาม ไม่มีการบังเอิญอย่างแน่นอน เป็นการจงใจที่จะจัดเช่นนี้ ศิษย์ทั้งสามนี้รู้ถึงขีดจำกัดของตนและความสามารถของตน พวกเขาเลือกที่จะยอมแพ้และออกจากเวทีไป


เพราะเป็นเช่นนี้ การแข่งขันระหว่างเจียงเฉินและหลิงอ้าวได้เป็นศูนย์กลางความสนใจในรอบที่สาม สายตาของทุกๆคนได้มุ่งไปยังเจียงเฉินและหลิงอ้าว การต่อสู้ระหว่างพวกเขาทั้งสอง ผู้ใดจะเป็นคนที่ยืนอยู่คนสุดท้าย? แม้แต่ราชันย์ปีศาจน้อยและเหล่าอัจฉริยะทั้งสามต่างดูด้วยท่าทีจริงจัง พวกเขาต้องการที่จะรู้ถึงความสามารถแท้จริงของเจียงเฉิน




***********************************************************************


จบจ้า มะค้างกันใช่ปะครับ  ไว้พบกันตอนหน้านะครับ

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments