I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 92 อี้ชิงจื่อขอยอมรับความพ่ายแพ้

| Dragon-Marked War God | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

 

แปลโดย   Takumi Kun

ตรวจทาน Subaru Kyun

====================================

เมื่อเจียงเฉินแทงดาบยาวเข้าไปในอกของหลิงอ้าว ทั้งจตุรัสเงียบกริบ ทุกๆคนในจตุรัสต่างเบิกตากว้างและกลั้นหายใจ มันเหมือนกับว่าพวกเขาไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น

หลังจากนั้น พายุได้โหมเข้ามา

“โอ้พระเจ้า ข้าเพิ่งเห็นอะไรไปนี่? เขาสังหารหลิงอ้าว เขาสังหารหลิงอ้าวจริงๆ!”

“ชายผู้นี้กล้าหาญอะไรเช่นนี้? หนานเป่ยเฉาได้ตะโกนหาเขาแล้ว บอกให้เขาหยุด แต่เขาก็ยังสังหารหลิงอ้าว! เขาไม่แม้จะให้โอกาสหลิงอ้าวได้ยอมแพ้! นี่มันบ้าแล้ว!”

“โหดเหี้ยมมาก! ข้าเติบโตมาจนแก่ขนาดนี้ และในที่สุดข้าได้เป็นพยานพบเห็นคนที่โหดร้ายอย่างแท้จริง! ข้าล่ะนับถือเขาเลย”

“น่าตื่นเต้นจริงๆ! คนที่เป็นตัวแทนของนิกายอัคคีผลาญฟ้าถูกสังหารบนเวทีประลอง! นี่เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของนิกายอัคคีผลาญฟ้า! หากไม่มีสิ่งใดผิดพลาดในสิ่งที่เจียงเฉินทำก่อนหน้า หลิงอ้าวที่ต่อสู้มีเจตนาฆ่า เขาจะไม่ให้เจียงเฉินรอดไปได้หากว่าตำแหน่งของพวกเขาแปรผันกันล่ะ ตั้งแต่ที่เขาพยายามที่จะฆ่าเจียงเฉิน เจียงเฉินนั้นไม่สามารถที่จะพยายามฆ่าเขาได้งั้นรึ? นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างความเป็นและความตาย เมื่อเจ้าได้ลงประลอง เจ้าต้องนำชีวิตมาเดิมพัน นอกจากนี้เจียงเฉินได้ล่วงเกินหนานเป่ยเฉาไปแล้ว และด้วยบุคลิกของหนานเป่ยเฉา เขาไม่มีวันยกโทษให้เจียงเฉิน ดังนั้นไม่ว่าเขาจะสังหารหลิงอ้าวหรือไม่ เจียงเฉินก็ไม่สามารถเปลี่ยนโชคชะตาของเขาได้ เขามีความกล้าที่จะสังหารหลิงอ้าว ข้าล่ะชื่นชมเขาจริงๆ”

…………………………………………………………….

จตุรัสเริ่มเดือด ฉากนี่มันน่าตื่นเต้นมาก อัจฉริยะอันดับหนึ่งของศิษย์นอกของนิกายอัคคีผลาญฟ้าได้ถูกสังหาร นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นยิ่งนัก

ในตอนนั้นเอง มุมมองที่ทุกคนมองเจียงเฉินเปลี่ยนไปอีกครั้ง นอกเหนือจากการชื่นชมนับถือ ยังมีหวาดกลัว คนผู้นี้ช่างโหดเหี้ยมอย่างไม่น่าเชื่อ

ผู้ที่ยืนถัดจากเวทีประลอง ฮันหยาน หลี่หวู่ซวงและอี้ชิงจื่อ ท่าทีได้เปลี่ยนไป พวกเขาวางลำดับของเจียงเฉินไว้สูงในใจ โดยเฉพาะฮันหยานที่รู้สึกว่าเจียงเฉินสามารถสู้ได้สูสีกับหลิงอ้าว แต่ไม่เคยคิดว่าเจียงเฉินสามารถที่จะสังหารหลิงอ้าวได้ด้วยลักษณะที่โหดร้ายและเด็ดเดี่ยวเช่นนี้

“เจ้าหมอนี่………….มีผู้ใดหนุนหลังอยู่กันแน่?”

ฮันหยานยิ้มอย่างขมขื่น ในที่สุดตอนนี้ฮันหยานก็ได้เห็นตัวตนแท้จริงของเจียงเฉิน ช่วยไม่ได้ที่เขาจะนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่ภัตตาคารจันทราสีเงิน หากมองถึงฉากนั้นก่อนหน้า แม้ว่าเขาจะไม่ได้ไปช่วยเจียงเฉินในวันนั้น เจียงเฉินก็สามารถที่จะช่วยเหลือตนเองได้

แน่นอนว่า หากราชาปีศาจน้อยรู้ว่าเจียงเฉินได้ทำอะไรไว้หลังจากที่เขากลับออกไปแล้ว เขาคงกระอักเลือดเป็นแน่

ในอีกด้านหนึ่ง หวงต้าเดินรอบๆด้วยความภูมิใจ และผิวปากใส่ผู้ที่ลงพนัน พวกเขาทั้งหมดหน้าทะมึนตอนนี้ พวกเขาหวังไว้ว่าจะจับหวงต้ามาแขวนไว้และถลกหนังมันทั้งเป็น

“เจ้าจะมีความสุขเรื่องอะไร? การแข่งขันยังไม่จบสักหน่อย เขาแค่สังหารหลิงอ้าวแค่นั้นเอง”

“ใช่แล้ว หลิงอ้าวไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับราชันย์ปีศาจน้อยและหลี่หวู่ซวง เจ้าจะมีความสุขอะไรเจ้าหมาเดนตาย! หลังจากเมื่อเจ้าเด็กนั่นพ่ายแพ้ เจ้าจะต้องคายยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์ออกมาทั้งหมด!”

เหล่าผู้ชมพูดอย่างดุร้าย

“แน่ใจรึ? เมื่อเจ้าทั้งหมดมั่นใจแล้วล่ะก็ มาเริ่มพนันกันอีก! ครั้งนี้พวกเราจะพนันกันอัตราส่วน 1:100”

หวงต้ายิ้มน่าเกลียดให้ผู้ชมและพูด “ผู้ใดต้องการพนัน? รีบๆวางพนันตอนนี้เลย! อัตรา 1: 100! เจ้าจะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกในอนาคตนะ”

หยานเฉินหยู่ที่ยืนอยู่อีกด้านได้หัวเราะ ความคิดชั่วร้ายของหมาตัวนี้ช่างน่าอายเสียจริง

แต่แย่หน่อย ครั้งนี้ไม่ว่าหวงต้าจะพยายามผลักดันแค่ไหน ไม่มีใครหลงกลอีกแล้ว ทุกๆคนไม่ได้โง่ เมื่อพวกเขาได้เห็นถึงความสามารถของเจียงเฉิน ได้สูญเสียความมั่นใจในการพนันไป แม้แต่หลิงอ้าวยังถูกสังหาร มันยากที่จะบอกว่าราชันย์ปีศาจน้อยหรือหลี่หวู่ซวงสามารถที่จะเอาชนะเจียงเฉินได้

พวกเขาจะไม่ยอมโดนเจ้าหมานี่หลอกอีก ไม่ต้องเอ่ยถึงอัตราส่วน 1:100 แม้ 1:1000 พวกเขาก็จะไม่ลงพนันอีก เจ้าหมานี่ร้ายกาจยิ่งนัก

บนสนามประลอง หลิงอ้าวได้หยุดหายใจโดยสมบูรณ์ เจียงเฉินดึงดาบออกช้าๆและร่างของหลิงอ้าวร่วงหล่นลงมาจากลานประลอง อัจฉริยะแห่งยุคสมัยนี้ได้จบการเดินทางเพียงแค่นี้

ใบหน้าของหนานเป่ยเฉาซีดจากความกราดเกรี้ยว หน้าของเขาบิดเบี้ยวเขาได้ปลดปล่อยจิตสังหารใส่เจียงเฉิน

“เมื่อข้าบอกให้เจ้าหยุด เจ้าไม่ได้ยินคำข้ารึอย่างไร? เจ้ากล้าดีอย่างไรที่ขัดคำสั่งของข้า?!”

เสียงของหนานเป่ยเฉาเย็นยะเยือกส่งผลให้ทุกคนหนาวจนถึงไขสันหลัง ทุกๆคนสามารถบอกได้ว่าอัจฉริยะที่หายากนั้นสามารถพบได้ทุกร้อยปีได้จากไปแล้ว เมื่อครู่ ก่อนที่เจียงเฉินจะสังหารหลิงอ้าว หนานเป่ยเฉาได้ตะโกนบอกเขาแล้ว ให้เขาหยุด

เจียงเฉินสะบัดดาบช้าๆเพื่อให้คราบเลือดที่ติดอยู่หลุดออก เขาได้จ้องหนานเป่ยเฉากลับไปอย่างไม่เกรงกลัว “เหตุใดข้าต้องฟังเจ้าด้วยล่ะ? เจ้าสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงกฎการแข่งขันเองได้รึ? หลิงอ้าวไม่ได้ยอมแพ้ และตามกฎแล้ว ข้าสามารถที่จะสังหารเขาได้ มันเกี่ยวอันใดกับเจ้า?”

สิ่งที่เจียงเฉินพูดทำให้หนานเป่ยเฉาพูดไม่ออก ถูกต้องแล้ว แม้เขาจะเป็นบุคคลสำคัญที่สุดในหมู่ผู้จัดงาน เขายังคงไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงกฎหรือแทรกแซงได้ หลิงอ้าวไม่ได้ยอมแพ้ ดังนั้นเจียงเฉินจึงมีเหตุอันควรที่จะสังหารเขา

“เจียงเฉินถูกแล้ว หนานเป่ยเฉา การแข่งขันประจำแคว้นฉีนี่โปร่งใสและยุติธรรมต่อทุกคน เจ้าไม่สามารถที่จะห้ามไม่ให้สังหารหลิงอ้าวได้หรอกนะ”

กวนอี้หยุนเปิดปากพูดออกมา แม้ว่าเขาจะไม่สามารถสู้หนานเป่ยเฉาได้ ในฐานะหน้าตาของนิกายทมิฬ เขายังมีความกล้าที่จะพูดออกมาอย่างมาก

“ประเสริฐ งั้นเริ่มการแข่งขันต่อได้!”

หนานเป่ยเฉาพูดอย่างไม่แยแส เขาไม่แม้จะมองไปยังเจียงเฉินเป็นครั้งที่สอง แต่ทุกคนสามารถบอกได้ว่าหนานเป่ยเฉากราดเกรี้ยวจริงๆในตอนนั้น หลังจากจบการแข่งขัน เขาจะต้องแก้แค้นกับเจียงเฉินแน่

เจียงเฉินหันกลับและกระโดดออกจากเวทีประลอง ศิษย์จากนิกายอัคคีผลาญฟ้าได้วิ่งเข้าไปยังเวทีประลองนำร่างของหลิงอ้าวออกไป เมื่อเหล่าศิษย์ได้ออกจากเวทีแล้วพวกเขาหันมามองเจียงเฉินเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

วันนี้นิกายอัคคีผลาญฟ้าได้พบกับความสูญเสียอันใหญ่หลวง หลิงอ้าวเป็นผู้มีพรสวรรค์ และไม่นานเขาก็จะทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์และได้เข้าเป็นศิษย์ใน แม้ว่าเขาจะไม่ประสบความสำเร็จเทียบเท่าหนานเป่ยเฉา อย่างน้อยเขาก็จะเป็นคนสำคัญของภายในนิกายของเขา คนที่เป็นอัจฉริยะทั่วๆไปไม่สามารถที่จะเทียบกับเขาได้ หากไม่กล่าวหยาบคาย อัจฉริยะแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายสิบคนไม่สำคัญเท่ากับหลิงอ้าวแห่งนิกายอัคคีผลาญฟ้า

เมื่อการต่อสู้ได้มาถึงจุดตรงนี้ มันจะถือว่าเป็นคู่หลักของการแข่งขันนี้ เหล่าอัจฉริยะทั่วไปต่างตกรอบกันหมดแล้ว และที่เหลือคือยอดเยี่ยมที่สุดในหมู่ยอดเยี่ยมที่สุด อัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ

ด้านล่างเวทีการประลอง เหลืออยู่สี่คน เจียงเฉิน ฮันหยาน หลี่หวู่ซวงและอี้ชิงจื่อ

การยืนเรียงกันนี่ทำให้ผู้คนตื่นเต้น ในเวลาเดียวกัน มันยังทำให้บางคนถอนหายใจออกมา ตามการคาดการ์ณของทุกคน ผู้ที่ยืนอยู่ตอนนี้ควรจะเป็น หลิงอ้าวและอีกสามคน อย่างไรก็ตามหลิงอ้าวได้ตายไปแล้วและได้แทนที่ด้วยม้ามืด สำหรับนิกายใหญ่ทั้งสี่นี่เป็นการตบหน้าพวกเขาชัดๆ

“หยิบแผ่นของเจ้าซะ”

หนานเป่ยเฉาได้โบกมือของเขาและโยนแผ่นไม้ออกมาสี่แผ่น ด้านบนแผ่นมีเขียน ‘หนึ่ง’ ‘สอง’ ทั้งสี่ได้หยิบแผ่นขึ้นมา เจียงเฉินหันแผ่นมาดู และด้านบนแผ่นพิมพ์นั้นเขียนว่า ‘หนึ่ง’

ทั้งสองคนได้กระโดดขึ้นเวทีประลองสนามแรกพร้อมๆกัน ทั้งสองคนนี้คือเจียงเฉินที่สวมชุดสีขาว และอี้ชิงจื่อที่สวมชุดที่แทบไม่ปิดบังร่างกายของนาง อี้ชิงจื่อยั่วยวนใจนัก และทุกๆการเคลื่อนไหวของนางเพียงพอที่จะทำให้ใจพวกเขาถอนตัวลำบาก

เจียงเฉินและอี้ชิงจื่อจับได้หมายเลขเดียวกัน โดยทั่วไปแล้ว ราชาปีศาจน้อยและหลี่หวู่ซวงผู้ที่เป็นปรปักษ์กันเป็นเวลายาวนานจับได้หมายเลขเดียวกัน พวกเขาได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของเวทีประลองที่สองตอนนี้

“มีสิ่งที่น่าตื่นเต้นกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว ทั้งสี่ไม่ใช่ผู้ที่สามารถจะจัดการได้อย่างง่ายดาย! โดยเฉพาะราชาปีศาจน้อยและหลี่หวู่ซวง ทั้งคู่ทรงพลังมากและมีไพ่ตายซ่อนอยู่ นี่มันน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆนะนี่!”

ทุกๆคนต่างเร่าร้อนอย่างแท้จริง หลายๆคนมาที่นี่เพื่อมาชมการแข่งขันระหว่างราชันย์ปีศาจน้อยและหลี่หวู่ซวง และตอนนี้พวกเขากำลังที่จะสู้กันเองอยู่ นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างมังกรและพยัคฆ์

“พวกเจ้าคิดว่าผู้ใดจะเป็นผู้ชนะ?”

“ราชาปีศาจน้อยและหลี่หวู่ซวงต่างมีความสามารถของตัวเอง มันยากที่จะบอกว่าผู้ใดจะชนะ…แต่นั่งร่านอี้ชิงจื่อนั้นไม่ใช่คู่มือของเจียงเฉินหรอก! ที่สำคัญที่สุดคืออี้ชิงจื่ออยู่ระดับเดียวกับหลิงอ้าว และเจียงเฉินสามารถที่จะฆ่าหลิงอ้าวได้โดยไม่ต้องพยายามมากมาย ข้าแน่ใจว่าเขาสามารถฆ่าอี้ชิงจื่อได้เช่นกัน”

“มันยากที่จะพูดนะ ทักษะยั่วยวนของหุบเขาสุขสันต์ไร้เทียมทานในโลก! มันดูแก่ที่จะพูดว่าเหล่าวีรบุรุษมักจะดึงดูดสาวงาม และทักษะยั่วยวนของอี้ชิงจื่อและความสามารถของนางทำให้สับสนได้นั้นไม่ใช่สิ่งที่บุรุษทั่วไปสามารถที่จะขัดขืนได้”

……………………………………………………………….

การพูดคุยสามารถได้ยินทุกๆที่ ไฮไลท์ที่แท้จริงของการแข่งขันที่ยังไม่ได้มาจนถึงตอนนี้กำลังจะเริ่มแล้ว การต่อสู้ระหว่างอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุด การต่อสู้ที่จะทำให้เหล่าผู้ชมลุ้นจนกลั้นหายใจ

ในสนามประลองแรก อี้ชิงจื่อได้ยืนด้านตรงข้ามเจียงเฉิน ร่างของนางดูอ่อนนุ่มและโค้งเว้า ราวกับว่าแทบไม่มีกระดูกในร่างกายของนาง ดวงตาที่ยั่วยวนได้จับจ้องไปที่เจียงเฉิน นางตรวจสอบร่างกายเขาตั้งแต่ล่างขึ้นบน อีกครู่หนึ่ง อี้ชิงจื่อไม่สามารถช่วยอะไรได้นอกจากถอนหายใจ นางได้บอกเจียงเฉิน “พี่ชายเจียงมีความสามารถล้ำเลิศ อี้ชิงจื่อขอชื่นชม! ข้าขอยอมแพ้!”

อี้ชิงจื่อยอมรับความพ่ายแพ้ทันทีก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ทุกๆคนตกใจ

“เกิดสิ่งใดขึ้น? ไหงอี้ชิงจื่อได้ยอมแพ้ทันที? นางยังไม่ทันได้ขยับมือ?”

“เจียงเฉินมีเวทมนต์อันใดกัน? แม้แต่อัจฉริยะจากหุบเขาสุขสันต์ยังยอมแพ้ในทันที!”

ความวุ่นวายได้บังเกิดขึ้นที่จตุรัสอีกครา หลายๆคนไม่เข้าใจถึงสาเหตุเบื้องหลังของการยอมแพ้ของอี้ชิงจื่อ แม้หากอี้ชิงจื่อจะอ่อนแอ แต่นางไม่น่าจะยอมแพ้ก่อนที่การแข่งขันเริ่มต้น

เจียงเฉินประสานหมัดต่ออี้ชิงจื่อพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อย ผู้อื่นอาจไม่รู้ว่าเหตุใดนางถึงยอมแพ้แต่เขารู้

อี้ชืงจื่อไม่ได้ยอมแพ้ก่อนที่จะพยายามสู้ เมื่อนางลงมาถึงเวทีประลอง นางได้ใช้ทักษะยั่วยวนต่อเจียงเฉินทันที พยามที่จะทำให้เขาสับสน แต่นางไม่เคยคาดคิดว่าทักษะยั่วยวนของนางจะไร้ผลกับเจียงเฉิน ศักยภาพของเจียงเฉินเหนือกว่าที่นางจินตนาการไว้

และนี่คือสาเหตุที่แท้จริงว่าเหตุใดอี้ชิงจื่อถึงได้ยอมแพ้ พละกำลังในการต่อสู้ของนางพอๆกับหลิงอ้าวและสิ่งเดียวที่ช่วยให้นางสามารถที่จะเอาชนะได้ คือทักษะยั่วยวน หากทักษะยั่วยวนของนางไร้ประโยชน์ จึงไม่มีเหตุที่ต้องพยายามสู้ต่อ

นอกจากนั้นอี้ชิงจื่อได้เห็นเจียงเฉินในระยะประชิดแล้ว เขาไม่ใช่คนที่จะปราณีเนื่องจากนางเป็นเด็กสาว หากเขาได้สังหารนางในการต่อสู้ มันไม่คุ้มเสีย

“ฮิฮิ พี่เจียงเป็นคนที่พิเศษจริงๆ! หากว่าเจ้ามีเวลาในภายหน้า โปรดมาเยือนหุบเขาสุขสันต์และมาหาน้องสาวคนนี้ด้วยนะ! ไม่ว่าท่านจะขอเรื่องอันใด น้องสาวคนนี้จะเติมเต็มให้!” [ปล.นางเรียกแทนตัวของนางว่า น้องสาว นะครับ]

อี้ชิงจื่อหัวเราะและกระโดดลงจากเวทีประลอง คำพูดของนางเป็นการยั่วยวนอย่างเปิดเผย

นางได้ยอมแพ้ง่ายๆ นางมีความสุขด้วยซ้ำไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย บางทีอาจจะมีเพียงแค่หุบเขาสุขสันต์ที่สามารถทำเช่นนี้ได้

เจียงเฉินไม่มองไปยังอี้ชิงจื่อเป็นครั้งที่สอง นางเป็นเพียงแค่ผู้หญิงเกรดต่ำ เขาไม่เคยมองมากกว่าครั้งหนึ่ง เมื่อเทียบกับหยานเฉินหยู่ เหล่าหญิงสาวจากหุบเขาสุขสันต์เป็นเพียงแก่ไก่ป่า

“บัดซบ! อย่าบอกนะว่าเจียงเฉินจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง?! ข้าวางพนันกว่าสองร้อยยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์…บัดซบ! ข้าโดนไอ้หมาระยำนั่นหลอกเอาได้!”

“ข้าคิดว่าเจียงเฉินมีโอกาสชนะในรอบต่อไปอย่างต่ำแปดสิบเปอร์เซนต์! ในการต่อสู้ระหว่างราชันย์ปีศาจน้อยและหลี่หวู่ซวงทั้งคู่จะจบลงด้วยการบาดเจ็บแน่นอน และไม่ว่าผู้ใดจะชนะ พละกำลังในการต่อสู่ตกลงอย่างมาก และเขาไม่สามารถที่จะสู้กับเจียงเฉินที่อยู่สภาพดีที่สุดได้”

“บัดซบ! ข้าโดนไอ้หมาโง่นั่นหลอก! ข้าหวังว่าคงจะมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นนะ หากไม่ ข้าได้สูญเสียครั้งใหญ่แน่”

เหล่าคนที่พนันกับหวงต้าต่างอารมณ์เสียและอยากที่จะเอาหัวโขกกับพื้น

****************************************

จบจ้า โปรดติดตามตอนต่อไปนะ รับเละเลยนะแกไอ้เจ้าลูกหมา

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments