I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 94 การต่อสู้ครั้งสุดท้าย

| Dragon-Marked War God | 1081 | 2372 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 

แปลไทยโดย       Subaru-Kyun


ตรวจทาน             Subaru-Kyun


************************************************************************

      นี่เป็นช่วงที่อันตรายที่สุด หากว่าฮันหยานหยานได้รับสืบทอดพลังปีศาจบรรพกาลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เจียงเฉินคงไม่ต้องกระวนกระวายใจ หากเป็นกรณีนั้น ตอนนั้นฮันหยานสามารถที่จะใช้การตื่นขึ้นของพลังทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์และจัดการหลี่หวู่ซวงได้


      อย่างไรก็ตามต้นกำเนิดของปีศาจบรรพกาลอยู่ในร่างของฮันหยาน นั่นหมายความว่าฮันหยานได้รับการสืบทอดสายเลือดของปีศาจบรรพกาลอย่างสมบูรณ์    ในสถานการณ์ปัจจุบัน  ไม่มีทางที่เขาจะสามารถควบคุมการตื่นขึ้นของส่ายเลือดปีศาจบรรพกาลได้ กับที่ถูกบอกว่า     แม้เขาจะสามารถใช้พลังที่ตื่นขึ้นจัดการหลี่หวู่ซวงลงได้    ตัวเขาเองจะต้องทุกข์ทรมานกับผลกระทบของลักษณะเฉพาะของปีศาจ เขาอาจจะตายที่นี่หรืออาจจะพิการได้


ก๊าซซซซซซ!


      ฮันหยานเงยหัวขึ้นแล้วเริ่มที่จะเห่าหอนอย่างหยิ่งทะนง  คลื่นพลังปีศาจที่แข็งแกร่งได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขา พลังของเขากำลังเพิ่มขึ้น และร่างของเขาสูงขึ้นและสูงขึ้นอีก เสียงแตกร้าวได้ยินมาจากร่างกายของเขา แม้แต่กระดูกก็ได้ประสบกับการเปลี่ยนแปลงด้วย


      ในเวลาเดียวกัน กลิ่นอายของปีศาจบรรพกาลได้กวาดข้ามผ่าน ทุกๆคนต่างหวาดกลัว เสียงเห่าหอนของฮันหยานทำให้ทุกคนเหมือนพวกเขากำลังเข้าไปยังหุบเหวไร้ที่สิ้นสุด


“สวรรค์! พลังของปีศาจบรรพกาลแข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร?! พลังของเขาขึ้นไประดับอาณาจักรแก่นแท้สวรรค์! หลี่หวู่ซวงตกอยู่ในอันตราย!”


“เขาได้พิสูจน์แล้วจริงๆว่าเหตุใดเขาถึงมีฉายา ราชันย์ปีศาจน้อย”


      ทุกๆคนต่างตื่นตระหนกกับการเปลี่ยนแปลงในทันใดของฮันหยาน นี่มันน่าหวาดกลัวมาก มันเหมือนกับว่าวิญญาณของปีศาจบรรพกาลได้มาถึง


      บนเวทีประลอง หน้าโอหังของหลี่หวู่ซวงทันใดนั้นได้ซีด เขาไม่เคยคาดว่าฮันหยานสามารถที่่จะเปลี่ยนร่างของเขาในทันใดที่เขาคับขัน


ฮันหยานสติแตกโดยสมบูรณ์ ฉากนี้ทำให้ทุกคนที่ดูอยู่ตกใจมาก


“แย่แล้ว! อาการของศิษย์น้องฮันไม่ดีแล้ว!”


      กวนอี้หยุนที่ยืนบนจุดสูงสุดของหอคอยท่าทีได้เปลี่ยนไปเช่นกัน พลังของฮันหยานเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกมีความสุข ความจริงแล้ว มันทำให้เขาเป็นกังวล แม้ว่าเขาไม่สามารถที่จะประเมินสถานการณ์ได้ชัดเจนเหมือนเจียงเฉิน เขายังคงรู้สึกถึงอันตรายที่ฮันหยานประสบได้อย่างชัดเจนตอนนี้


      ผลลัพธ์ของการแข่งขันรอบสุดท้ายไม่สำคัญ แต่หากเขาได้เสียสละอนาคตของเขาไป   หรือบางทีอาจเป็นชีวิตของเขาแล้วมันไม่คุ้มค่าเลย


โอร่าาาาาาา!


ลักษณะปีศาจของฮันหยานยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เขาไม่สามารถกดได้อีก


“หยุดนะ!”


      กวนอี้หยุนและเหลียงเซียวตะโกนออกมาในเวลาเดียวกัน นี่เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์การแข่งขันประจำแคว้นฉีที่การต่อสู้ได้ถูกแทรกแซงการแข่งขันที่ผ่านมาครึ่งทาง กวนอี้หยุนมีความเกี่ยวข้องกับฮันหยาน และเหลียงเซี่ยวมีความเกี่ยวข้องกับหลี่หวู่ซวง ทุกๆคนต่างรู้ว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นตอนนี้ พละกำลังของฮันหยานได้ทะยานขึ้นสู่อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์และเขาสามารถที่จะจัดการหลี่หวู่ซวงได้อย่างง่ายดาย หลังจากที่สังหารหลี่หวู่ซวงแล้ว ผลกระทบที่ตามมานั้นใหญ่หลวงนัก


“ไม่ทันเวลาเป็นแน่ ข้าจำเป็นต้องหยุดเขาตอนนี้!”


      ร่างกายของเจียงเฉินได้เคลื่อนไหว และเขากระโดดขึ้นไปบนเวทีประลองด้วยความเร็วดุจสายฟ้า เขาชี้นิ้วไปยังหน้าผากของฮันหยาน ปลายนิ้วส่องแสงสีเหลืองอำพันทอง


ก๊าซซซซ!


      ฮันหยานโหมกระหน่ำพยายามโจมตี สติของเขาไม่ได้สูญเสียไปทั้งหมด เขารู้ว่าเจียงเฉินอยู่ตรงหน้าเขา


“หลีกไป”


เสียงของฮันหยานเกรี้ยวกราด เขาได้คายควันปีศาจสีดำออกมา


“พี่ฮัน ฟังข้านะ ลักษณะเฉพาะของปีศาจบรรพกาลนั้นรุนแรงอย่างมาก!    พี่จำเป็นต้องควบคุมมันทีละน้อยทีละน้อย!    ด้วยอาการตอนนี้ของท่าน การบังคับปลุกสายเลือด และ กำลังของปีศาจบรรพกาลจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง!  ข้าจะสอนพี่ ‘พระสูตรหัวใจของพระโพธิสัตว์’ พี่สามารถที่จะใช้สูตรในการกดข่มลักษณะปีศาจในร่างกายเจ้า! ชนะ หรือ แพ้ ไม่ต้องไปสนเรื่องนั้น พี่ได้รับสืบทอดสายเลือดของปีศาจบรรพกาลมา พี่ไม่จำเป็นต้องใช้ของรางวัลเหล่านี้ สำหรับหลี่หวู่ซวงเดี๋ยวข้าจะจัดการเอง”


      เจียงเฉินโคจรสัมผัสเทวะควบคู่กับทักษะรากวิญญาณยอดเยี่ยมเข้าไปในสัมผัสเทวะของฮันหยาน    ทะลวงเข้าสู่วิญญาณของเขาโดยตรงทำให้ร่างของเขาสั่น    ฮันหยานได้สติของเขากลับคืนมา ในเวลาเดียวกันพระสูตรหัวใจของพระโพธิสัตว์ได้เข้าไปสู่สัมผัสเทวะของฮันหยานดั่งกระแสน้ำใส


“พระสูตรที่ดี!   นี่คือพระสูตรหัวใจของพระโพธิสัตว์ เป็นศัตรูของปีศาจทั้งปวง!   ด้วยพระสูตรนี้ ข้าสามารถควบคุมลักษณะปีศาจในร่างได้!”


ฮันหยานประหลาดใจ ควันปีศาจรอบๆกายเขาเริ่มหดลงทีละน้อยทีละน้อย


      พระสูตรหัวใจของพระโพธิสัตว์เป็นพระสูตรขั้นสูงที่สุด เจียงเฉินได้มาจาก มหาโพธิสัตว์ผู้ยิ่งใหญ่    ณ ทวีปตะวันตกในชีวิตที่แล้วของเขา เขาใช้เวลาทั้งชีวิตกับการสังหารในชีวิตที่แล้วของเขา ดังนั้นเขาไม่เคยบ่มเพาะพระสูตรของพระโพธิสัตว์    ในชีวิตนี้เขาได้บ่มเพาะด้วยทักษะร่างแปลงมังกรและเลือกทางเดินเฉพาะที่เหมาะสมกับเขา    ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้พระสูตรหัวใจของพระโพธิสัตว์    อย่างไรก็ตามสำหรับฮันหยานผู้ที่อยู่ตรงหน้าเขา มันเป็นปัจจัยสำคัญของการอยู่รอดของเขา


      หลังจากที่ฮันหยานได้รับพระสูตรหัวใจของพระโพธิสัตว์ไป เขารีบทำการบ่มเพาะมันเป็นไปตามบันทึกของพระสูตร    ลักษณะปีศาจของเขาถูกกดข่มในทันที และ แม้แต่เครื่องหมายปีศาจบรรพกาลระหว่างคิ้วของเขาก็หายไปด้วย


แฮ่ก แฮ่ก…..


      ฮันหยานหายใจหอบและเหงื่อไหลจากหน้าผากของเขา เขามองไปยังเจียงเฉินด้วยท่าทางขอบคุณ “น้องเจียง เจ้าได้ช่วยชีวิตของข้าไว้จริงๆวันนี้ และเจ้ายังให้พระสูตรขั้นสูงสุดแก่ข้า! ฮันหยานรู้สึกตื้นตันใจยิ่งนัก!”


      แน่นอนว่า ฮันหยานตื้นตันใจ ไม่มีผู้ใดรู้ถึงสถานการณ์เกี่ยวกับอาการของเขาดีเท่ากับตัวเขาเอง    เขาได้เข้าใจแจ่มแจ้งถึงอันตรายที่เขาประสบมาก่อนหน้า และ หากไม่ใช่เจียงเฉิน เขาคงจากไปแล้วตอนนี้


“ข้าชอบคนเช่นท่าน”


เจียงเฉินเอามือวางบนบ่าของฮันหยาน


ฮันหยานยิ้ม เขามองไปยังหลี่หวู่ซวงที่กำลังหวาดกลัวอยู่ที่ยืนอยู่ด้านตรงข้าใของเขาบนเวที และพูดด้วยเสียงที่ชัดเจนว่า “ข้าขอยอมแพ้”


      หลังจากพูดจบ เขาได้มองไปยังเจียงเฉินอีกครั้งหนึ่งและพูดว่า “เขาเป็นของเจ้า! โปรดระมัดระวัง ไอ้หมอนี่ไม่ได้เป็นคนที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายๆ”


      ฮันหยานขอยอมแพ้ การแข่งขันรอบนี้ได้ทำให้มีช่วงเวลาที่น่าตกใจอย่างมาก มันทำให้คนดูระทึก ไม่มีผู้ใดสามารถจินตนาการได้ว่าจะมีสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนที่พวกเขาได้กระทำเมื่อครู่ และเพราะเหตุนี้ การแข่งขันจึงน่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้น


“เจียงเฉิน เจ้ากล้าดีอย่างไรไปแทรกแซงการแข่งขัน?! เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!”


      เหลียงเซียวตะโกนอย่างเย็นยะเยือก เขาโบกมือปลดปล่อยแสงระยิบระยับและบินตรงไปยังเจียงเฉิน เขาพยายามที่จะสังหารเจียงเฉินด้วยการโจมตีนี้


ตูม!


      แน่นอนว่ากวนอี้หยุนไม่ยอมให้เกิดขึ้น เขาได้ยื่นฝ่ามือปัดป้องการโจมตีของเหลียงเซียว แล้วเขาพูดด้วยเสียงที่กราดเกรี้ยว “เหลียงเซียว เจ้ากำลังทำอะไร?!  เจียงเฉินเป็นผู้เข้าแข่งขันในการแข่งขันและตอนนี้เขายังคงอยู่ในการแข่งขัน!  เจ้าเป็นผู้จัดงาน   เจ้าไม่รู้สึกอับอายในสิ่งที่ทำรึ?”


      กวนอี้หยุนปกป้องเจียงเฉิน เขารู้ว่าหากว่าไม่ใช่เพราะเจียงเฉินได้ลงมืออย่างรวดเร็ว ฮันหยานคงตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง


“การต่อสู้ของหลี่หวู่ซวงและฮันหยานยังไม่จบ และเจียงเฉินมันได้ลงไปยังสนามประลองด้วยตัวมันเอง มันได้ละเมิดกฎ”


เหลียงเซียวยังไม่ยอมแพ้


“ฮ่าฮ่า นี่มันตลกสิ้นดี! หากไม่ใช่เพราะข้าเมื่อครู่ หลี่หวู่ซวงก็จะโดนฮันหยานสังหารไปแล้ว ไม่ใช่ว่าต้องขอบคุณข้าหรอกรึ?”


      เจียงเฉินหัวเราะเสียงดัง เขาจ้องมองไปที่หลี่หวู่ซวงและพบเขามีท่าทางอับอายและเมื่อเขามองอีกมุมมองหนึ่ง เจียงเฉินได้ช่วยชีวิตเขาไว้


“พอได้แล้ว! ฮันหยานยอมแพ้ เจียงเฉินจะสู้กับหลี่หวู่ซวงเพื่อค้นหาว่าผู้ใดจะเป็นอันดับหนึ่ง!”


      หนานเป่ยเฉาในที่สุดก็พูดขึ้น เป็นครั้งแรกที่เขาไม่พยายามที่จะโจมตีเจียงเฉินด้วยคำพูด    สำหรับคนอย่างเขา มันผิดปกติอย่างไม่น่าเชื่อ มันทำให้ผู้คนรู้สึกงุนงง


      คนอื่นๆไม่สามารถเข้าใจได้ แต่ว่าเจียงเฉินสามารถเข้าใจได้เป็นอย่างดี    หนานเป่ยเฉาผู้นี้ต้องการที่จะเห็นถึงทักษะความสามารถและทักษะลับของคนอื่นๆ และ หากเขาสามารถที่จะสู้กับทรราชลิขิตของหลี่หวู่ซวง


“ฮึ่ม!”


      เหลียงเซี่ยวแค่นเสียงเย็นชาและไม่พูดอะไรอีก แม้แต่หนานเป่ยเฉายังเห็นด้วยที่จะเริ่มการแข่งขันต่อ นี่เป็นสิ่งที่เขาสามารถพูดได้อีกหรือ?


      ในจตุรัสไม่มีผู้ใดสามารถที่จะสงบอยู่ได้ การแข่งขันวันนี้มันไม่ได้เรียบง่ายเหมือนที่ทุกๆคนคิด การมาของม้ามืดเจียงเฉินได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในการแข่งขัน    มันอยู่นอกเหนือการคาดการณ์ของทุกคน!


“บ้าจริง! เจียงเฉินมันได้มาถึงก้าวสุดท้ายแล้ว ข้าช่างโชคร้ายเสียจริง! เจ้าหมานั่นโกงยาฟื้นพลังมนุษย์ข้าไปสามร้อยเม็ด!”


“ไม่เร็วไปหน่อยหรือ ราชันย์ปีศาจน้อยขอยอมแพ้ไป หลี่หวู่ซวงยังคงมีพละกำลังเต็มเปี่ยม เจียงเฉินไม่สามารถที่จะสู้กับหลี่หวู่ซวงได้หรอก! ตราบที่เจียงเฉินแพ้ พวกเราจะได้ยาฟื้นพลังกลับมาเป็นเท่าตัวของที่พวกเราได้พนันไป!”


“ใช่แล้ว หลี่หวู่ซวงยังอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ดังนั้นเจียงเฉินอาจจะไม่สามารถเอาชนะเขาได้! ดูไอ้หมาตัวเหลืองนี่ดีกว่า อย่าให้มันหนีไปไหนได้!”


…………………………………………………………


      การต่อสู่ของหลี่หวู่ซวงและฮันหยานไม่ได้จบอย่างที่ทุกคนคาดว่าจะบาดเจ็บหนัก ผู้คนเริ่มเห็นความหวังอีกครั้ง พวกเขาต่างเกลียดชังหวงต้าอย่างมากและพวกเขาหวังจะจับหวงต้ามาตุ๋นทั้งเป็น


“ลูกหมาน้อย เจ้าคิดว่าท่านพี่เจียงเฉินสามารถชนะได้ไหม?”


หยานเฉินหยู่ถามอย่างกังวล


“อย่ากังวลไป ไอ้หนูไม่เคยต่อสู้ที่เขาไม่มั่นใจว่าจะชนะหรอก!    หากเจ้าถามข้าเมื่อวันก่อนมันคงตอบลำบาก    อย่างไรก็ตาม   พละกำลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเส้นทางสู่สวรรค์    ดังนั้นไม่มีปัญหาหรอกที่เขาจะเอาชนะหลี่หวู่ซวง”


หวงต้าพูดออกมา เขามั่นใจในตัวเจียงเฉินเต็มเปี่ยม


ในอีกด้านหนึ่ง เหล่าศิษย์นิกายทมิฬรายล้อมฮันหยาน


“ศิษย์พี่ฮันหยานเป็นอะไรรึเปล่า?”


บางคนที่เป็นห่วงได้ถามออกมา


“ข้าไม่เป็นไร ต้องขอบคุณเจียงเฉินเขา”


ฮันหยางพูด


“ข้าสงสัยว่าหากว่าเจียงเฉินสามารถที่จะเอาชนะหลี่หวู่ซวงได้”


“ข้าไม่เห็นว่ามันเป็นปัญหา แน่นอนว่าเจียงเฉินเป็นม้ามืดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยปรากฎในการแข่งขันประจำแคว้นฉี แม้แต่สีมืดกว่าหนานเป่ยเฉาเสียอีก”


      เหล่าศิษย์จากนิกายทมิฬต่างมีความประทับใจที่ดีต่อเจียงเฉิน    บวกกับความจริงที่พวกเขาได้เป็นศัตรูตลอดกาลกับสำนักกระบี่สวรรค์    เห็นได้ชัดพวกเขาหวังว่าเจียงเฉินสามารถที่จะจัดการกับหลี่หวู่ซวงและกลายเป็นอันดับหนึ่ง


      นอกจากนี้ ศิษย์จำนวนมากจากนิกายทมิฬต่างคิดจะเชิญชวนเจียงเฉินเข้าร่วมกับนิกายทมิฬด้วยศักยภาพจากการแข่งขันในวันนี้ คุ้มค่ากับความพยายามของเขาแล้ว


      บนเวทีประลอง เจียงเฉินดูหลี่หวู่ซวงที่ยืนตรงข้ามกับเขาอย่างใจเย็น เสื้อสีขาวของเขาพริ้วไหวกับสายลม และเขามีออร่าของผู้ไร้พ่าย ด้วยกลิ่นอายนี้ทำให้เขาดูตัวใหญ่ยักษ์ในสายตาคนอื่น แค่เพียงปลดปล่อยกลิ่นอายของเขานั้นทำให้ผู้คนไม่กล้าที่จะมองเจียงเฉินนาน


“เจียงเฉิน แม้ว่าเจ้าจะสามารถสังหารหลิงอ้าวได้ แต่เจ้ายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าหรอก”


หลี่หวู่ซวงพูด


“จริงรึ?”


เจียงเฉินยิ้มเล็กน้อย เขาไม่จริงจังกับคำพูดของหลี่หวู่ซวง


“ฮึ่ม! เจียงเฉิน อย่าหยิ่งผยองนัก! เจ้ามันไม่ได้ดีกว่าผู้ฝึกตนพเนจรหรอก!    เจ้ากล้าที่จะลงแข่งขันประจำแคว้นฉีและสู้กับนิกายใหญ่ทั้งสี่    นี่เป็นการตัดสินใจที่โง่มาก!    การสู้กับข้าเหมือนการรนหาที่ตาย!”


      หลี่หวู่ซวงแค่นเสียงเย็นชา คำพูดที่เยือกเย็นของเจียงเฉินได้เป็นการดูถูกในความภาคภูมิใจลึกๆของเขา


      เขาได้เติบโตมาโดยที่ทุกคนมองเขาด้วยความเคารพและความชื่นชม ในนิกายกระบี่สวรรค์ เขาเป็นดาวทอแสง และไม่มีผู้ใดกล้าดูหมิ่นเขา แต่ตอนนี้เขาโดนเจ้าผู้ฝึกตนพเนจรนี่ดูถูก    เขาสามารถที่จะบอกได้ว่าเจียงเฉินมันไม่ได้ดูตัวมันเองเลย   และ มันไม่ได้มากกว่ายอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้นเพียงเท่านั้น   นี่มันทำให้หลี่หวู่ซวงอารมณ์เสีย


“ข้าได้ช่วยชีวิตเจ้าก่อนหน้า และเจ้าพูดกับผู้มีพระคุณของเจ้าอย่างนี้หรือ? ดูท่าว่าคนจากนิกายกระบี่สวรรค์จะตอบแทนคุณด้วยการแก้แค้น เจ้ามันแย่ยิ่งกว่าสัตว์เสียอีก…..”


เจียงเฉินแกล้งถอนหายใจออกมา และส่ายหัวของเขา


“บัดซบ! ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นหากไปดูถูกนิกายกระบี่สวรรค์!”


      หลี่หวู่ซวงอารมณ์เสียสุดๆ พลังอันแข็งแกร่งกำลังเวียนอยู่รอบร่างกายเขา    เขากระทืบเท้าส่งผลให้เวทีประลองสั่นสะเทือน พลังงานที่ทรงพลังอย่างมากกำลังวนอยู่รอบๆเขา    เขาสร้างโล่ห์พลังขึ้นตรงหน้าเขา และ ได้วิ่งตรงไปยังเจียงเฉิน เขาใช้กลยุทธ์เดียวกับที่ใช้กับฮันหยานก่อนหน้า….

************************************************************************

โปรดติดตามตอนต่อไป

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments