I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 95 ยันต์กำเนิดพลัง

| Dragon-Marked War God | 1226 | 2359 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 

แปลไทยโดย : Subaru-Kyun


ตรวจทาน       : Subaru-Kyun


=====================================================


สนามประลองส่งเสียงดังครืน……


      หลี่หวู่ซวงได้แสดงพลังอันมหาศาล และ ปลดปล่อยกลิ่นอายอันน่าเกรงขามออกมา    โล่ห์สีทองที่สร้างจากพลังอันมหาศาลได้กดทับเจียงเฉินราวกับขุนเขา


      หลี่หวู่ซวงได้ฝึกฝนทักษะบ่มเพาะ ‘ทรราชลิขิต’ ซึ่งเป็นทักษะฝึกฝนร่างกาย     มันได้เสริมสร้างร่างกายให้มีพละกำลังมหาศาล    ถ้าเทียบด้านความแข็งแกร่งและความทนทานของกล้ามเนื้อเพียงอย่างเดียว    แทบจะไม่มีผู้ใดในระดับเดียวกันสามารถต่อกรกับเขาได้


   ทักษะทรราชลิขิตนั้นได้รับตกทอดมากจากยอดฝีมือจิตวิญญาณยุทธ    มันเป็นทักษะขั้นปฐพีระดับสูง    ด้วยทักษะนี้ทำให้หลี่หวู่ซวงได้เปรียบเป็นอย่างมาก


แต่แย่หน่อย    ที่ความได้เปรียบของทักษะนี้มันไม่มีความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้าทักษะร่างแปลงมังกร   เมื่อเทียบกับทักษะลึกลับระดับสุดยอดอย่างร่างแปลงมังกร    ทรราชลิขิตนั้นดูอ่อนด้อยเกินไป   ดังนั้นเมื่อหลี่หวู่ซวงตัดสินใจใช้ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อนั้นโจมตีเจียงเฉิน    เขาก็ได้ถูกกำหนดให้พ่ายแพ้ต่อเจียงเฉิน


      เจียงเฉินได้บ่มเพาะทักษะร่างแปลงมังกร เขาได้ดูดซับสายเลือดของเหยี่ยวปีกโลหิต    รวมทั้งเลือดกิเลนของหวงต้า    ร่างกายของเขามีความทนทานเป็นพิเศษ    แม้กระทั่งสัตว์อสูรบรรพกาลยังไม่อาจเทียบกับเขาได้    นับประสาอะไรกับหลี่หวู่ซวง


      เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของหลี่หวู่ซวง ใบหน้าของเจียงเฉินไม่ได้สับสนแม้แต่น้อย    เมื่อโล่ห์สีทองมาถึงตัวเขา    เจียงเฉินพุ่งตัวออกมาราวกับสายฟ้า    เมื่อเผชิญหน้ากับยอดฝีมือที่แข็งแกร่งอย่างหลี่หวู่ซวง    เขาไม่ก็ไม่กล้าที่จะประมาท    เขาชกออกไปด้วยกำลังทั้งหมดของเขา ทันใดนั้นพลังงานได้พรั่งพรูขึ้น   แขนของเขาพลันขยายใหญ่ขึ้น   บนแขนเขาได้มีสัญลักษณ์มังกรสีทองไหลเวียนอยู่    เพียงแค่ชกออกไปตรงๆ มันทำให้ผู้คนรู้สึกว่ามันหนักราวกับขุนเขา


“เจ้าบ้า หวังจะชนะข้าเพียงแค่กำลังหมัดงั้นรึ”


หลี่หวู่ซวงมองตรงไปยังเจียงเฉินด้วยท่าทีสบประมาท


ปัง….!!


      หมัดของเจียงเฉินปะทะเข้ากับโล่ห์สีทองของหลี่หวู่ซวง    ถ้าฉากที่เห็นเป็นเจียงเฉินกระเด็นไปไกลต่างเป็นสิ่งที่ผู้คนคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น    แต่ไม่ใช่อย่างนั้นตรงข้ามเจียงเฉินกลับได้แสดงฉากอันน่าอัศจรรย์ขึ้น


แกร๊ก……!


      โล่ห์ของหลี่หวู่ซวงที่สร้างขึ้นมาด้วยพลังมหาศาลของเขาแตกกระจาย  เพราะไม่สามารถทนหมัดของเจียงเฉินได้    หมัดของเจียงเฉินนั้นด้วยตราประทับมังกรยี่สิบห้าดวง    ทำให้เขามีกำลังหมัดถึงสองแสนห้าหมื่นจิน   ด้วยพลังหมัดของเขานั้นราวกับขุนเขาได้กดทับศัตรูของเขาจนสิ้นซาก อย่างไรก็ตามหลี่หวู่ซวงต้องการใช้พละกำลังของเขาเพียงอย่างเดียว    ดูเหมือนว่าเขาต้องการทรมานตัวเขาเอง


ตึก ตึก ตึก …!


      หลี่หวู่ซวงได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก    เขาได้กระเด็นถอยหลังไปกว่าสามก้าวก่อนที่จะทรงตัวยืนอยู่ได้    เขาได้ไปหยุดที่มุมของสนามประลอง ท่าทางสบประมาทของเขาได้หายไปจากใบหน้าของเขาโดยสิ้นเชิง    มันได้แทนที่ไปด้วยความตกตะลึง


ห๊ะ..!!


      ฉากเมื่อสักครู่ราวกับได้นำพาพายุเข้าสู่ฝูงชน เป็นฉากที่น่าตื่นเต้นมาก    ถ้าพวกเขาไม่ได้เป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ในวันนี้    พวกเขาต้องไม่เชื่ออย่างแน่นอน


“โอ้ สวรรค์…!! เขาสามารถบังคับให้หลี่หวู่ซวงถอยหลังได้เพียงแค่ชกธรรมดา    เหมือนตอนที่เขาได้จัดการหลิงอ้าว    เจียงเฉินมันเป็นปีศาจอะไรกันแน่”


” ข้าต้องตาฝาดไปแน่ๆ    หลี่หวู่ซวงได้บ่มเพาะด้วยทักษะลิขิตสวรรค์    เป็นทักษะขั้นปฐพีระดับสูง   ที่ได้รับตกทอดมาจากนักรบจิตวิญญาณ     และด้วยร่างกายที่มีความทนทานเหลือเชื่อนั้น    แต่เขาแพ้การจากการดวลด้วยพละกำลังกับเจียงเฉิน   ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ! “


“บัดซบ! อย่าบอกข้านะว่าหลี่หวู่ซวงกำลังจะพ่ายแพ้ ?!  ยาฟื้นพลังมนุษย์สามร้อยเม็ดของข้า เจ้าหมานั่นมันโกงข้า…!”


“ปีศาจ! แบบนี้มันไม่ใช่คนแล้ว  ข้าว่าความสามารถของเขาเหนือยิ่งกว่าหนานเป่ยเฉาเสียอีก   เขาแค่แก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น และ เขาสามารถจัดการหลี่หวู่ซวงได้  เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ “


      ทุกคนที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครสามารถควบคุมท่าทีของตนได้อีก   แม้ว่าผู้ชนะจะยังไม่ได้ประกาศ และ หลี่หวู่ซวงแค่แพ้แลกหมัดเท่านั้น   คนที่ถูกทำให้กระเด็นถอยหลัง   เพียงแค่แลกหมัดครั้งแรก คือ หลี่หวู่ซวง


      เหล่าผู้คนที่เล่นพนันกับหวงต้า พวกเขาได้พนันทุกสิ่งไว้กับหลี่หวู่ซวง และ เมื่อเห็นหลี่หวู่ซวงกระเด็นไป    ใจของพวกเขาราวกับแตกออกเป็นเสี่ยงๆ    พวกเขาอยากจะร้องไห้ดังๆแต่ไม่สามารถทำได้เพราะดวงตาของพวกเขายังตกตะลึงอยู่


      ศิษย์ทั้งหมดจากนิกายทมิฬต่างปิติยินดี    ความโหดเหี้ยมของเจียงเฉินเหนือกว่าจิตนาการของพวกเขาไปมาก    ฮันหยานนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น เขาพุ่งความสนใจทั้งหมดของเขาไปที่พระสูตรหัวใจโพธิสัตว์    เขาไม่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนลานประลอง ถ้าเขาได้เห็นเขาจะตกตะลึงยิ่งกว่าผู้ใด   นั่นเพราะว่าเขารู้ว่าความทนทานของร่างกายหลี่หวู่ซวงมันน่าเหลือเชื่อขนาดไหน


“พ่อหนุ่มน้อยช่างน่ารักเสียจริง!”


      บนหอคอย เสียงอันเซ็กซี่และมีเสน่ห์ของไป่หัวไต๋ดังขึ้น ดูเหมือนว่านางจะสนใจในตัวของเจียงเฉิน


“ไป่หัวไต๋ เจ้าชื่นชมคนอื่นไปทั่วเลยนะ”


เหลียงเซียวจ้องไปที่ไป่หัวไต๋

“สิ่งที่หญิงสาวคนนี้ชื่นชม อย่างน้อยก็ดีกว่าตัวเจ้า”


ไป่หัวไต๋พูดต่อ “ข้าคิดว่าหลี่หวู่ซวงต้องพ่ายแพ้แน่”


“ยัยโง่อย่างเจ้าจะไปรู้อะไร ? ศิษย์น้องหลี่มีทักษะมากมายที่ทำให้เขาชนะได้”


      เหลียงเซียวแค่นเสียงอย่างเย็นชา การต่อสู้ระหว่างหลี่หวู่ซวงกับเจียงเฉิน    เกี่ยวพันไปถึงชื่อเสียงของนิกายกระบี่สวรรค์


“แล้วเจ้าเห็นเจียงเฉินใช้ทักษะหรือยังล่ะ?”


ไป่หัวไต๋ถามด้วยรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์


“เหลียงเซียว   ทางที่ดีเจ้าควรภาวนาให้หลี่หวู่ซวงแค่พ่ายแพ้จะดีกว่านะ   มิเช่นนั้นอาจจะเป็นเหมือนหลิงอ้าวก็เป็นได้   ดูเหมือนว่าเจียงเฉินจะไม่ใช่คนมีเมตตาซะด้วยสิ”


      กวนอี้หยุนหัวเราะออกมา   ศักยภาพของเจียงเฉินเหนือกว่าจินตนาการของพวกเขา   ในวันนี้การแข่งขันประจำแคว้นฉีได้เปลี่ยนแปลงไปเพราะได้มีม้ามืดอย่างเจียงเฉิน


ปัง…..!!


      ในเวลานี้   ได้มีเสียงดังก้องราวกับพายุบนสนามประลองอีกครั้ง หลี่หวู่ซวงเริ่มโจมตีอีกครั้ง   หมัดสีทองขนาดยักษ์ได้พุ่งไปยังเจียงเฉิน   หลังจากพ่ายแพ้การดวลด้วยพละกำลัง    หลี่หวู่ซวงก็ได้ปลดปล่อยหมัดเบิกนภา   เขาพยายามที่จะใช้ทักษะที่ทรงพลังที่สุดของเขาจัดการเจียงเฉิน   เพื่อรักษาหน้าของเขาไว้


      เมื่อเผชิญหน้ากับหมัดยักษ์ของหลี่หวู่ซวง เจียงเฉินไม่มีท่าทีสับสนกลับดูผ่อนคลายอีกต่างหาก เขาชี้นิ้วของเขา    มีแสงออกมาดูราวกับดาบ   ด้วยความแข็งแกร่งของหกดัชนีสุริยะนั้นเพียงพอต่อการทำลายหมัดเบิกนภา


      ตามมาด้วยเสียงดังปัง!    ดัชนีขนาดยักษ์สองสายได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากเจียงเฉิน และ ดัชนีสายที่สามที่จางๆพลันสดใสขึ้นและได้ถูกปลดปล่อยออกไป


      แสงสว่างจากการต่อสู้ได้ปกคลุมอาณาเขตขนาดใหญ่ หกดัชนีสุริยะปะทะกับหมัดเบิกนภา   การต่อสู้ของทั้งสองต่างใช้ทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดเข้าปะทะกัน   หลายคนกลั้นหายใจขณะที่ได้พบเห็น


ปัง…..!


      ในที่สุด   ภายใต้ความคาดหวังของเหล่าคนดู ทักษะทั้งสองได้ปะทะกัน   คลื่นพลังได้กระจายออกจากศูนย์กลางของพลังไปนับไมล์   ถ้าไม่ได้ม่านพลังที่ได้ถูกติดตั้งไว้ด้วยสุดยอดฝีมือ    คงส่งผลให้สนามประลองถูกทำลาย


      จากการปะทะกัน เจียงเฉินถอยไปก้าวเดียว แต่หลี่หวู่ซวงกระเด็นไปสองก้าว    มันดูเหมือนว่าสูสีกัน   แต่ความจริง เจียงเฉินแข็งแกร่งกว่า


      ดวงตาของเจียงเฉินส่องประกาย หลี่หวู่ซวงแข็งแกร่งกว่าหลิงอ้าว    ถ้าเขาไม่ได้ตราประทับมังกรเพิ่มอีกหกดวงก่อนหน้า    คงยากที่จะเผชิญหน้ากับหลี่หวู่ซวง


“บัดซบ! เจ้าเด็กนี่มันเป็นปีศาจหรือไง? ร่างกายของมันแข็งแกร่ง ทนทานกว่าข้าเสียอีก มันเป็นแค่จุดสูงสุดแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น แต่พละกำลังของมันมากกว่าข้าเสียอีก”


      หลี่หวู่ซวงสบถในใจ   เขาตั้งใจจะเป็นอันดับหนึ่งของการแข่งขัน    ตามที่เขาคาดไว้    ควรมีแค่ราชันย์ปีศาจน้อยฮันหยานเท่านั้นที่จะตัดสินกับเขา แต่เขาคาดไม่ถึงว่าท้ายที่สุด   เขาต้องมาแข่งชิงอันดับหนึ่งกับเจ้าเด็กขี้โกงนี่


“ไม่   ถ้าข้าแพ้เจียงเฉิน   อันดับหนึ่งมันก็จะตกไปยังมือของเจ้าเด็กขี้โกง ถ้าเป็นเช่นนั้นหลี่หวู่ซวงจะยังคงเชิดหน้าชูตาในแคว้นฉีได้อีกหรือ!   ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปด้วยความสามารถและทักษะของเขา คงยากที่จะจัดการมันลงได้   ดูเหมือนว่าข้าจำต้องใช้สมบัติของข้าเสียตอนนี้” 


      ท่าทีของหลี่หวู่ซวงเปลี่ยนเป็นดำมืด    เขาจะแพ้เจียงเฉินไม่ได้    ไม่ใช่แค่เพียงเกี่ยวพันธ์กับชื่อเสียงของนิกายกระบี่สวรรค์    แต่เขาเป็นหนึ่งในตัวแทนของแคว้นฉี ถ้ามาแพ้เจ้าเด็กขี้โกงนี่    ที่ควรจะอ่อนแอกว่าเขา    ชื่อเสียงของเขาต้องสูญสิ้นเป็นแน่


“เจียงเฉิน เจ้ากำลังหาที่ตาย อย่ามาตำหนิข้าล่ะ!”

หลี่หวู่ซวงพูดอย่างเย็นยะเยือก

“ถ้าเช่นนั้นจงแสดงความสามารถที่เจ้ามีออกมาซะ”

เจียงเฉินไม่ได้โดนยั่วยุจากคำพูดที่โหดร้ายของหลี่หวู่ซวง

“ฮึ่ม!”

      หลี่หวู่ซวงแค่นเสียงเย็นชาออกมา ทันใดนั้นยันต์สีทองได้ปรากฎขึ้นที่มือของเขา    รูปแบบที่ซับซ้อนปกคลุมผิวหน้าของยันต์    หลี่หวู่ซวงบีบมันอย่างแรง    แล้วยันต์ก็ระเบิดในทันทีกลายเป็นเศษเปลวสีทองรวมเข้ากับร่างกายเขา    พลังของหลี่หวู่ซวงได้เพิ่มสูงขึ้น

“ดูสิ! หลี่หวู่ซวงนำยันต์บางอย่างออกมา และมันได้เพิ่มพละกำลังการต่อสู้ของเขา! เจียงเฉินพินาศแน่!”

“ช่างเป็นพลังที่มหาศาลเสียจริง! พลังของหลี่หวู่ซวงถึงขั้นอาณาจักรแก่นแท้สวรรค์แล้ว เขาได้รับสืบทอดจากนักสู้จิตวิญญาณ
จริงๆด้วย และเขายังคงเก็บงำทักษะลับที่ทรงพลังไว้อีก!”

“มาดูกันว่าเจียงเฉินจะรับมือเขาได้อย่างไร?”

………………………………………………………………………

      ฉากที่เคยเปลี่ยนบนเวทีการประลองได้ทำให้คนดูตื่นเต้นอย่างมาก ทำให้เหล่าผู้ที่ดูอยู่รู้สึกตึงเครียดมากขึ้นกว่าทั้งสองที่อยู่บนเวทีเสียอีก

“ยันต์กำเนิดพลัง”

เจียงเฉินรู้ดี แม้ผู้อื่นอาจไม่รู้ว่ายันต์นั่นคือสิ่งใด แต่เจียงเฉินสามารถนึกออกได้ในทันที

      ยันต์กำเนิดพลัง   มันสร้างขึ้นเมื่อชายที่ได้ใช้พลังชีวิตของตนผนึกพละกำลังการต่อสู้ของเขาเอาไว้ในยันต์ก่อนที่จะตาย   หากว่ามีคนเก็บยันต์นี้ได้ เขาสามารถที่จะใช้พลังที่เก็บสะสมไว้ด้านในได้

      ชัดเจนว่ายันต์กำเนิดพลังในมือของหลี่หวู่ซวงเป็นสิ่งที่นักสู้จิตวิญญาณได้ทิ้งเอาไว้    อย่างไรก็ตาม    ตั้งแต่การบ่มเพาะของหลี่หวู่ซวงต่ำเกินไป เขาจึงไม่สามารถที่จะใช้พละกำลังการต่อสู้ทั้งหมดที่ผนึกไว้ได้    เขาสามารถใช้ได้เพียงแค่เศษเสี้ยวของพลังที่อยู่ภายใน   ขณะที่นอกนั้นจะสูญเปล่า

      แต่แม้ว่าจะเพียงแค่นี้ มันก็ยังคงน่าหวาดหวั่น หลี่หวู่ซวงสามารถที่จะใช้ยันต์กำเนิดพลังเพิ่มพลังในการโจมตีไปสองระดับ เจียงเฉินไม่สามารถที่จะจัดการได้

      ในจักรวาลกำเนิดเซียน ยันต์ประเภทนี้หาได้ยากมาก มันถือว่าเป็นสิ่งที่ล้ำค่าอย่างมาก เนื่องจากไม่มีผู้ใดต้องการที่จะเสียสละพลังชีวิตของตน

      ดังนั้น แม้ว่ายันต์กำเนิดพลังจะทรงพลังยิ่ง มันยังคงมีจุดอ่อนอยู่   ยันต์นี้สามารถใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียว และ มันหมายความว่าหลี่หวู่ซวงสามารถที่จะปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังได้เพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นพลังงานของเขาเองก็จะหมดไป  และเขาก็จะเป็นดั่งศรที่บินไปได้สุดๆแล้วกำลังตก

แต่สำหรับหลายๆคน ด้วยพลังงานที่มากมายเช่นนี้ การโจมตีเพียงครั้งเดียวเกินพอ

“ช่างเป็นพละกำลังการต่อสู้ที่ทรงพลังยิ่งนัก!พลังของหลี่หวู่ซวงอยู่ขั้นอาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลาง! เจียงเฉินจบแล้วล่ะ..เขาไม่สามารถรับมือขนาดนี้ได้”

บางคนพูดด้วยท่าทางสยดสยอง

“ท่านพี่เจียงเฉินจะไม่เป็นไร ใช่ไหม?”

      ท่าทีกังวลของหยานเฉินหยู่ปรากฎขึ้นบนหน้าของนาง แม้แต่หวงต้าท่าทางดูเคร่งเครียด   เจียงเฉินเป็นสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังก็จริง   แต่การบ่มเพาะปัจจุบันของเขานั้นอ่อนแอเกินไป   ไม่มีผู้ใดคาดคิดหรอกว่าหลี่หวู่ซวงจะมีไม้ตายก้นหีบที่ทรงพลังเช่นนี้อยู่

“ฮ่าฮ่า กวนอี้หยุน ข้าสงสัยจังว่าใครกันแน่ที่พบกับทางตัน! เจ้าสามารถคาดเดาอย่างไรว่าเจียงเฉินจะป้องกันตัวเองจากการโจมตีของศิษย์น้องหลี่!”

      บนหอคอยเหลียงเซียวหัวเราะออกมาเสียงดังขณะที่กำลังมีจ้องกวนอี้หยุนที่กำลังกังวลอย่างมีความสุข

“ฮึ่ม!”

      กวนอี้หยุนแค่นเสียงอย่างเย็นชา แล้วเขาก็คุยกับเจียงเฉินด้วยเซนส์ศักดิ์สิทธิ์ของเขา” เจียงเฉินยอมแพ้เถอะ ไม่จำเป็นต้องเสียสละชีวิตเช่นนี้!”

      ในขณะนั้นเอง พลังของหลี่หวู่ซวงได้ไต่ขึ้นถึงระดับสูงสุดของแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลาง    ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้   แม้หากมีโอกาสที่จะโจมตีเพียงครั้งเดียว   เจียงเฉินจะสามารถป้องกันตัวเขาเองได้หรือ?

************************************************************************

โปรดติดตามตอนต่อไปกับ Dragonba…. Dragon Marked War God ตอนที่ 96 นะครับ

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments