ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
แปลไทยโดย : Subaru-Kyun
ตรวจทาน : Subaru-Kyun
=====================================================
สนามประลองส่งเสียงดังครืน……
หลี่หวู่ซวงได้แสดงพลังอันมหาศาล และ ปลดปล่อยกลิ่นอายอันน่าเกรงขามออกมา โล่ห์สีทองที่สร้างจากพลังอันมหาศาลได้กดทับเจียงเฉินราวกับขุนเขา
หลี่หวู่ซวงได้ฝึกฝนทักษะบ่มเพาะ ‘ทรราชลิขิต’ ซึ่งเป็นทักษะฝึกฝนร่างกาย มันได้เสริมสร้างร่างกายให้มีพละกำลังมหาศาล ถ้าเทียบด้านความแข็งแกร่งและความทนทานของกล้ามเนื้อเพียงอย่างเดียว แทบจะไม่มีผู้ใดในระดับเดียวกันสามารถต่อกรกับเขาได้
ทักษะทรราชลิขิตนั้นได้รับตกทอดมากจากยอดฝีมือจิตวิญญาณยุทธ มันเป็นทักษะขั้นปฐพีระดับสูง ด้วยทักษะนี้ทำให้หลี่หวู่ซวงได้เปรียบเป็นอย่างมาก
แต่แย่หน่อย ที่ความได้เปรียบของทักษะนี้มันไม่มีความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้าทักษะร่างแปลงมังกร เมื่อเทียบกับทักษะลึกลับระดับสุดยอดอย่างร่างแปลงมังกร ทรราชลิขิตนั้นดูอ่อนด้อยเกินไป ดังนั้นเมื่อหลี่หวู่ซวงตัดสินใจใช้ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อนั้นโจมตีเจียงเฉิน เขาก็ได้ถูกกำหนดให้พ่ายแพ้ต่อเจียงเฉิน
เจียงเฉินได้บ่มเพาะทักษะร่างแปลงมังกร เขาได้ดูดซับสายเลือดของเหยี่ยวปีกโลหิต รวมทั้งเลือดกิเลนของหวงต้า ร่างกายของเขามีความทนทานเป็นพิเศษ แม้กระทั่งสัตว์อสูรบรรพกาลยังไม่อาจเทียบกับเขาได้ นับประสาอะไรกับหลี่หวู่ซวง
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของหลี่หวู่ซวง ใบหน้าของเจียงเฉินไม่ได้สับสนแม้แต่น้อย เมื่อโล่ห์สีทองมาถึงตัวเขา เจียงเฉินพุ่งตัวออกมาราวกับสายฟ้า เมื่อเผชิญหน้ากับยอดฝีมือที่แข็งแกร่งอย่างหลี่หวู่ซวง เขาไม่ก็ไม่กล้าที่จะประมาท เขาชกออกไปด้วยกำลังทั้งหมดของเขา ทันใดนั้นพลังงานได้พรั่งพรูขึ้น แขนของเขาพลันขยายใหญ่ขึ้น บนแขนเขาได้มีสัญลักษณ์มังกรสีทองไหลเวียนอยู่ เพียงแค่ชกออกไปตรงๆ มันทำให้ผู้คนรู้สึกว่ามันหนักราวกับขุนเขา
“เจ้าบ้า หวังจะชนะข้าเพียงแค่กำลังหมัดงั้นรึ”
หลี่หวู่ซวงมองตรงไปยังเจียงเฉินด้วยท่าทีสบประมาท
ปัง….!!
หมัดของเจียงเฉินปะทะเข้ากับโล่ห์สีทองของหลี่หวู่ซวง ถ้าฉากที่เห็นเป็นเจียงเฉินกระเด็นไปไกลต่างเป็นสิ่งที่ผู้คนคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น แต่ไม่ใช่อย่างนั้นตรงข้ามเจียงเฉินกลับได้แสดงฉากอันน่าอัศจรรย์ขึ้น
แกร๊ก……!
โล่ห์ของหลี่หวู่ซวงที่สร้างขึ้นมาด้วยพลังมหาศาลของเขาแตกกระจาย เพราะไม่สามารถทนหมัดของเจียงเฉินได้ หมัดของเจียงเฉินนั้นด้วยตราประทับมังกรยี่สิบห้าดวง ทำให้เขามีกำลังหมัดถึงสองแสนห้าหมื่นจิน ด้วยพลังหมัดของเขานั้นราวกับขุนเขาได้กดทับศัตรูของเขาจนสิ้นซาก อย่างไรก็ตามหลี่หวู่ซวงต้องการใช้พละกำลังของเขาเพียงอย่างเดียว ดูเหมือนว่าเขาต้องการทรมานตัวเขาเอง
ตึก ตึก ตึก …!
หลี่หวู่ซวงได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เขาได้กระเด็นถอยหลังไปกว่าสามก้าวก่อนที่จะทรงตัวยืนอยู่ได้ เขาได้ไปหยุดที่มุมของสนามประลอง ท่าทางสบประมาทของเขาได้หายไปจากใบหน้าของเขาโดยสิ้นเชิง มันได้แทนที่ไปด้วยความตกตะลึง
ห๊ะ..!!
ฉากเมื่อสักครู่ราวกับได้นำพาพายุเข้าสู่ฝูงชน เป็นฉากที่น่าตื่นเต้นมาก ถ้าพวกเขาไม่ได้เป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ในวันนี้ พวกเขาต้องไม่เชื่ออย่างแน่นอน
“โอ้ สวรรค์…!! เขาสามารถบังคับให้หลี่หวู่ซวงถอยหลังได้เพียงแค่ชกธรรมดา เหมือนตอนที่เขาได้จัดการหลิงอ้าว เจียงเฉินมันเป็นปีศาจอะไรกันแน่”
” ข้าต้องตาฝาดไปแน่ๆ หลี่หวู่ซวงได้บ่มเพาะด้วยทักษะลิขิตสวรรค์ เป็นทักษะขั้นปฐพีระดับสูง ที่ได้รับตกทอดมาจากนักรบจิตวิญญาณ และด้วยร่างกายที่มีความทนทานเหลือเชื่อนั้น แต่เขาแพ้การจากการดวลด้วยพละกำลังกับเจียงเฉิน ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ! “
“บัดซบ! อย่าบอกข้านะว่าหลี่หวู่ซวงกำลังจะพ่ายแพ้ ?! ยาฟื้นพลังมนุษย์สามร้อยเม็ดของข้า เจ้าหมานั่นมันโกงข้า…!”
“ปีศาจ! แบบนี้มันไม่ใช่คนแล้ว ข้าว่าความสามารถของเขาเหนือยิ่งกว่าหนานเป่ยเฉาเสียอีก เขาแค่แก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น และ เขาสามารถจัดการหลี่หวู่ซวงได้ เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ “
ทุกคนที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครสามารถควบคุมท่าทีของตนได้อีก แม้ว่าผู้ชนะจะยังไม่ได้ประกาศ และ หลี่หวู่ซวงแค่แพ้แลกหมัดเท่านั้น คนที่ถูกทำให้กระเด็นถอยหลัง เพียงแค่แลกหมัดครั้งแรก คือ หลี่หวู่ซวง
เหล่าผู้คนที่เล่นพนันกับหวงต้า พวกเขาได้พนันทุกสิ่งไว้กับหลี่หวู่ซวง และ เมื่อเห็นหลี่หวู่ซวงกระเด็นไป ใจของพวกเขาราวกับแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พวกเขาอยากจะร้องไห้ดังๆแต่ไม่สามารถทำได้เพราะดวงตาของพวกเขายังตกตะลึงอยู่
ศิษย์ทั้งหมดจากนิกายทมิฬต่างปิติยินดี ความโหดเหี้ยมของเจียงเฉินเหนือกว่าจิตนาการของพวกเขาไปมาก ฮันหยานนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น เขาพุ่งความสนใจทั้งหมดของเขาไปที่พระสูตรหัวใจโพธิสัตว์ เขาไม่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนลานประลอง ถ้าเขาได้เห็นเขาจะตกตะลึงยิ่งกว่าผู้ใด นั่นเพราะว่าเขารู้ว่าความทนทานของร่างกายหลี่หวู่ซวงมันน่าเหลือเชื่อขนาดไหน
“พ่อหนุ่มน้อยช่างน่ารักเสียจริง!”
บนหอคอย เสียงอันเซ็กซี่และมีเสน่ห์ของไป่หัวไต๋ดังขึ้น ดูเหมือนว่านางจะสนใจในตัวของเจียงเฉิน
“ไป่หัวไต๋ เจ้าชื่นชมคนอื่นไปทั่วเลยนะ”
เหลียงเซียวจ้องไปที่ไป่หัวไต๋“สิ่งที่หญิงสาวคนนี้ชื่นชม อย่างน้อยก็ดีกว่าตัวเจ้า”
ไป่หัวไต๋พูดต่อ “ข้าคิดว่าหลี่หวู่ซวงต้องพ่ายแพ้แน่”
“ยัยโง่อย่างเจ้าจะไปรู้อะไร ? ศิษย์น้องหลี่มีทักษะมากมายที่ทำให้เขาชนะได้”
เหลียงเซียวแค่นเสียงอย่างเย็นชา การต่อสู้ระหว่างหลี่หวู่ซวงกับเจียงเฉิน เกี่ยวพันไปถึงชื่อเสียงของนิกายกระบี่สวรรค์
“แล้วเจ้าเห็นเจียงเฉินใช้ทักษะหรือยังล่ะ?”
ไป่หัวไต๋ถามด้วยรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์
“เหลียงเซียว ทางที่ดีเจ้าควรภาวนาให้หลี่หวู่ซวงแค่พ่ายแพ้จะดีกว่านะ มิเช่นนั้นอาจจะเป็นเหมือนหลิงอ้าวก็เป็นได้ ดูเหมือนว่าเจียงเฉินจะไม่ใช่คนมีเมตตาซะด้วยสิ”
กวนอี้หยุนหัวเราะออกมา ศักยภาพของเจียงเฉินเหนือกว่าจินตนาการของพวกเขา ในวันนี้การแข่งขันประจำแคว้นฉีได้เปลี่ยนแปลงไปเพราะได้มีม้ามืดอย่างเจียงเฉิน
ปัง…..!!
ในเวลานี้ ได้มีเสียงดังก้องราวกับพายุบนสนามประลองอีกครั้ง หลี่หวู่ซวงเริ่มโจมตีอีกครั้ง หมัดสีทองขนาดยักษ์ได้พุ่งไปยังเจียงเฉิน หลังจากพ่ายแพ้การดวลด้วยพละกำลัง หลี่หวู่ซวงก็ได้ปลดปล่อยหมัดเบิกนภา เขาพยายามที่จะใช้ทักษะที่ทรงพลังที่สุดของเขาจัดการเจียงเฉิน เพื่อรักษาหน้าของเขาไว้
เมื่อเผชิญหน้ากับหมัดยักษ์ของหลี่หวู่ซวง เจียงเฉินไม่มีท่าทีสับสนกลับดูผ่อนคลายอีกต่างหาก เขาชี้นิ้วของเขา มีแสงออกมาดูราวกับดาบ ด้วยความแข็งแกร่งของหกดัชนีสุริยะนั้นเพียงพอต่อการทำลายหมัดเบิกนภา
ตามมาด้วยเสียงดังปัง! ดัชนีขนาดยักษ์สองสายได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากเจียงเฉิน และ ดัชนีสายที่สามที่จางๆพลันสดใสขึ้นและได้ถูกปลดปล่อยออกไป
แสงสว่างจากการต่อสู้ได้ปกคลุมอาณาเขตขนาดใหญ่ หกดัชนีสุริยะปะทะกับหมัดเบิกนภา การต่อสู้ของทั้งสองต่างใช้ทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดเข้าปะทะกัน หลายคนกลั้นหายใจขณะที่ได้พบเห็น
ปัง…..!
ในที่สุด ภายใต้ความคาดหวังของเหล่าคนดู ทักษะทั้งสองได้ปะทะกัน คลื่นพลังได้กระจายออกจากศูนย์กลางของพลังไปนับไมล์ ถ้าไม่ได้ม่านพลังที่ได้ถูกติดตั้งไว้ด้วยสุดยอดฝีมือ คงส่งผลให้สนามประลองถูกทำลาย
จากการปะทะกัน เจียงเฉินถอยไปก้าวเดียว แต่หลี่หวู่ซวงกระเด็นไปสองก้าว มันดูเหมือนว่าสูสีกัน แต่ความจริง เจียงเฉินแข็งแกร่งกว่า
ดวงตาของเจียงเฉินส่องประกาย หลี่หวู่ซวงแข็งแกร่งกว่าหลิงอ้าว ถ้าเขาไม่ได้ตราประทับมังกรเพิ่มอีกหกดวงก่อนหน้า คงยากที่จะเผชิญหน้ากับหลี่หวู่ซวง
“บัดซบ! เจ้าเด็กนี่มันเป็นปีศาจหรือไง? ร่างกายของมันแข็งแกร่ง ทนทานกว่าข้าเสียอีก มันเป็นแค่จุดสูงสุดแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น แต่พละกำลังของมันมากกว่าข้าเสียอีก”
หลี่หวู่ซวงสบถในใจ เขาตั้งใจจะเป็นอันดับหนึ่งของการแข่งขัน ตามที่เขาคาดไว้ ควรมีแค่ราชันย์ปีศาจน้อยฮันหยานเท่านั้นที่จะตัดสินกับเขา แต่เขาคาดไม่ถึงว่าท้ายที่สุด เขาต้องมาแข่งชิงอันดับหนึ่งกับเจ้าเด็กขี้โกงนี่
“ไม่ ถ้าข้าแพ้เจียงเฉิน อันดับหนึ่งมันก็จะตกไปยังมือของเจ้าเด็กขี้โกง ถ้าเป็นเช่นนั้นหลี่หวู่ซวงจะยังคงเชิดหน้าชูตาในแคว้นฉีได้อีกหรือ! ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปด้วยความสามารถและทักษะของเขา คงยากที่จะจัดการมันลงได้ ดูเหมือนว่าข้าจำต้องใช้สมบัติของข้าเสียตอนนี้”
ท่าทีของหลี่หวู่ซวงเปลี่ยนเป็นดำมืด เขาจะแพ้เจียงเฉินไม่ได้ ไม่ใช่แค่เพียงเกี่ยวพันธ์กับชื่อเสียงของนิกายกระบี่สวรรค์ แต่เขาเป็นหนึ่งในตัวแทนของแคว้นฉี ถ้ามาแพ้เจ้าเด็กขี้โกงนี่ ที่ควรจะอ่อนแอกว่าเขา ชื่อเสียงของเขาต้องสูญสิ้นเป็นแน่
“เจียงเฉิน เจ้ากำลังหาที่ตาย อย่ามาตำหนิข้าล่ะ!”
หลี่หวู่ซวงพูดอย่างเย็นยะเยือก
“ถ้าเช่นนั้นจงแสดงความสามารถที่เจ้ามีออกมาซะ”
เจียงเฉินไม่ได้โดนยั่วยุจากคำพูดที่โหดร้ายของหลี่หวู่ซวง
“ฮึ่ม!”
หลี่หวู่ซวงแค่นเสียงเย็นชาออกมา ทันใดนั้นยันต์สีทองได้ปรากฎขึ้นที่มือของเขา รูปแบบที่ซับซ้อนปกคลุมผิวหน้าของยันต์ หลี่หวู่ซวงบีบมันอย่างแรง แล้วยันต์ก็ระเบิดในทันทีกลายเป็นเศษเปลวสีทองรวมเข้ากับร่างกายเขา พลังของหลี่หวู่ซวงได้เพิ่มสูงขึ้น
“ดูสิ! หลี่หวู่ซวงนำยันต์บางอย่างออกมา และมันได้เพิ่มพละกำลังการต่อสู้ของเขา! เจียงเฉินพินาศแน่!”
“ช่างเป็นพลังที่มหาศาลเสียจริง! พลังของหลี่หวู่ซวงถึงขั้นอาณาจักรแก่นแท้สวรรค์แล้ว เขาได้รับสืบทอดจากนักสู้จิตวิญญาณ
จริงๆด้วย และเขายังคงเก็บงำทักษะลับที่ทรงพลังไว้อีก!”
“มาดูกันว่าเจียงเฉินจะรับมือเขาได้อย่างไร?”
………………………………………………………………………
ฉากที่เคยเปลี่ยนบนเวทีการประลองได้ทำให้คนดูตื่นเต้นอย่างมาก ทำให้เหล่าผู้ที่ดูอยู่รู้สึกตึงเครียดมากขึ้นกว่าทั้งสองที่อยู่บนเวทีเสียอีก
“ยันต์กำเนิดพลัง”
เจียงเฉินรู้ดี แม้ผู้อื่นอาจไม่รู้ว่ายันต์นั่นคือสิ่งใด แต่เจียงเฉินสามารถนึกออกได้ในทันที
ยันต์กำเนิดพลัง มันสร้างขึ้นเมื่อชายที่ได้ใช้พลังชีวิตของตนผนึกพละกำลังการต่อสู้ของเขาเอาไว้ในยันต์ก่อนที่จะตาย หากว่ามีคนเก็บยันต์นี้ได้ เขาสามารถที่จะใช้พลังที่เก็บสะสมไว้ด้านในได้
ชัดเจนว่ายันต์กำเนิดพลังในมือของหลี่หวู่ซวงเป็นสิ่งที่นักสู้จิตวิญญาณได้ทิ้งเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่การบ่มเพาะของหลี่หวู่ซวงต่ำเกินไป เขาจึงไม่สามารถที่จะใช้พละกำลังการต่อสู้ทั้งหมดที่ผนึกไว้ได้ เขาสามารถใช้ได้เพียงแค่เศษเสี้ยวของพลังที่อยู่ภายใน ขณะที่นอกนั้นจะสูญเปล่า
แต่แม้ว่าจะเพียงแค่นี้ มันก็ยังคงน่าหวาดหวั่น หลี่หวู่ซวงสามารถที่จะใช้ยันต์กำเนิดพลังเพิ่มพลังในการโจมตีไปสองระดับ เจียงเฉินไม่สามารถที่จะจัดการได้ในจักรวาลกำเนิดเซียน ยันต์ประเภทนี้หาได้ยากมาก มันถือว่าเป็นสิ่งที่ล้ำค่าอย่างมาก เนื่องจากไม่มีผู้ใดต้องการที่จะเสียสละพลังชีวิตของตน
ดังนั้น แม้ว่ายันต์กำเนิดพลังจะทรงพลังยิ่ง มันยังคงมีจุดอ่อนอยู่ ยันต์นี้สามารถใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียว และ มันหมายความว่าหลี่หวู่ซวงสามารถที่จะปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังได้เพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นพลังงานของเขาเองก็จะหมดไป และเขาก็จะเป็นดั่งศรที่บินไปได้สุดๆแล้วกำลังตก
แต่สำหรับหลายๆคน ด้วยพลังงานที่มากมายเช่นนี้ การโจมตีเพียงครั้งเดียวเกินพอ
“ช่างเป็นพละกำลังการต่อสู้ที่ทรงพลังยิ่งนัก!พลังของหลี่หวู่ซวงอยู่ขั้นอาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลาง! เจียงเฉินจบแล้วล่ะ..เขาไม่สามารถรับมือขนาดนี้ได้”
บางคนพูดด้วยท่าทางสยดสยอง
“ท่านพี่เจียงเฉินจะไม่เป็นไร ใช่ไหม?”
ท่าทีกังวลของหยานเฉินหยู่ปรากฎขึ้นบนหน้าของนาง แม้แต่หวงต้าท่าทางดูเคร่งเครียด เจียงเฉินเป็นสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังก็จริง แต่การบ่มเพาะปัจจุบันของเขานั้นอ่อนแอเกินไป ไม่มีผู้ใดคาดคิดหรอกว่าหลี่หวู่ซวงจะมีไม้ตายก้นหีบที่ทรงพลังเช่นนี้อยู่
“ฮ่าฮ่า กวนอี้หยุน ข้าสงสัยจังว่าใครกันแน่ที่พบกับทางตัน! เจ้าสามารถคาดเดาอย่างไรว่าเจียงเฉินจะป้องกันตัวเองจากการโจมตีของศิษย์น้องหลี่!”
บนหอคอยเหลียงเซียวหัวเราะออกมาเสียงดังขณะที่กำลังมีจ้องกวนอี้หยุนที่กำลังกังวลอย่างมีความสุข
“ฮึ่ม!”
กวนอี้หยุนแค่นเสียงอย่างเย็นชา แล้วเขาก็คุยกับเจียงเฉินด้วยเซนส์ศักดิ์สิทธิ์ของเขา” เจียงเฉินยอมแพ้เถอะ ไม่จำเป็นต้องเสียสละชีวิตเช่นนี้!”
ในขณะนั้นเอง พลังของหลี่หวู่ซวงได้ไต่ขึ้นถึงระดับสูงสุดของแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลาง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม้หากมีโอกาสที่จะโจมตีเพียงครั้งเดียว เจียงเฉินจะสามารถป้องกันตัวเขาเองได้หรือ?
************************************************************************
โปรดติดตามตอนต่อไปกับ Dragonba…. Dragon Marked War God ตอนที่ 96 นะครับ