ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
แปลไทยโดย Subaru-Kyun
ตรวจทาน Subaru-Kyun
=======================================================
ทั้งสี่ปรากฏกายขึ้นรอบตัวเจียงเฉินกับหวงต้า ความแข็งของชายทั้งสี่หาที่เปรียบไม่ได้ พวกมันมีความสามารถในการเหาะเหินกลางอากาศเช่นนั้นพวกมันคงเป็นยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ เมื่อหนึ่งในพวกมันมองเห็นเจียงเฉินกับหวงต้า มันได้คำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
” ไอ้สารเลวน้อย เจียงเฉิน! วันนี้คือวันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าให้ตายโดยไม่มีที่ฝังศพ “
คนที่พูดคำโหดร้ายออกมานั่นก็คือเจ้าเมืองของเมืองจันทราสีเงิน ‘ หยินจงเฉิง ‘
ในตอนนี้เจียงเฉินตระหนักได้ว่า ไม่มีทางที่ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์จะดักรอเขาในที่มืด เมื่อเขาเห็นหยินจงเฉิน เขาก็เข้าใจได้ในทันที เพราะความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไม่อาจฟื้นฟูได้อีก เมื่อเร็วๆนี้มันก็ได้ไล่สังหารเขา
ส่วนอีกสามคนพวกมันมาช่วยหยินจงเฉิง พวกมันได้มาดักรอที่นี่แล้ววางกับดักพยายามที่จะสังหารเขาเพื่อแก้แค้น
” ท่านเจ้าเมืองหยิน ท่านนี่ช่างรอบคอบเสียงจริง ท่านได้วางกับดักที่นี่เพื่อที่จะจับข้า? “
ใบหน้าของเจียงเฉินเต็มไปด้วยรอยยิ้มสบายๆ ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เขาคงหันหลังกลับและหนีไปในทันทีที่เขาเห็นหยินจงเฉิง แต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้มันต่างกัน หลังจากที่เขาได้ทะลวงเข้าสู่แก่นแท้มนุษย์ขั้นกลาง พละกำลังการต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก กระทั่งยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ทั่วไปก็ไม่ใช่คู่มือของเขา นอกจากนี้มีเพียงสี่คนตรงหน้าของเขาแถมทั้งหมดยังเป็นเพียงยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้น เจียงเฉินมั่นใจว่าจะจัดการพวกมันได้
” เฮอะ..! เจียงเฉิน ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะลงประลองในการแข่งขันประจำแคว้นฉี แถมยังได้อันดับหนึ่งอีกด้วย! ข้าได้ยินชื่อเจ้ามาไม่น้อย ไม่เลว! นี่มันไม่เลวเลยจริงๆ! ข้าอยากขอบคุณที่เจ้าทำแบบนั้น ถ้าเจ้าไม่ลงแข่งขัน และกระจายชื่อเสียงของเจ้า ข้าคงยากที่จะหาเจ้าพบ! และถ้าเจ้าได้ติดตามศิษย์นิกายทมิฬกลับไปยังฐานที่มั่น ข้าคงหมดโอกาสที่จะได้แก้แค้นเจ้า! แต่ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะไม่ไปกับพวกเขา พวกเราก็เลยดักรอเจ้าอยู่ที่นี่เป็นเวลานานเลยทีเดียว ! “
ใบหน้าของหยินจงเฉิงมีรอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏขึ้น วันนั้นเมื่อเจียงเฉินกับหวงต้าไม่ได้หนีไป มันก็ไปพบเพื่อนสนิทของมันและออกตามหาเจียงเฉินในทุกๆที่ ลูกชายของมันถูกมันฆ่าตาย สิ่งก่อสร้างทั้งหมดในคฤหาสน์เจ้าเมืองก็กลายเป็นซาก ทั้งหมดมันเป็นเพราะคนและหมาข้างหน้าเขา เขาเกลียดชังพวกมันอย่างมากจนเก็บเอาไปฝัน เขาฝันว่าได้ฆ่าเจียงเฉิน ฉีกมันเป็นชิ้นๆ
ด้วยความสามารถของชายทั้งสี่ มันใช้เวลาไม่นานก่อนที่พวกมันจะระบุที่อยู่ของเจียงเฉินได้ เมื่อพวกมันพบว่าเจียงเฉินไม่ได้กลับนิกายทมิฬไปพร้อมกับกวนอี้หยุนและคนอื่น แน่นอนมันไม่กล้าที่จะโจมตีหอการค้าของนิกายทมิฬในเมืองสุริยันโคจร ดังนั้นมันจึงได้วางกับดักที่เส้นทางไปนิกายทมิฬ เพื่อดักรอเจียงเฉิน
” หยินจงเฉิง เจ้าปล่อยวางซะเถอะ ถ้าหากเจ้าทำได้มันจะช่วยรักษาชีวิตของเจ้า และระหว่างเราจะไม่มีอะไรติดค้างกัน ข้าขอแนะนำเจ้าอย่าทำอะไรโง่ๆจะดีกว่าหยินจงเฉิง มาหาที่ตายมันไม่ใช่เรื่องสนุกหรอกนะ “
เจียงเฉินชำเลืองมองพวกมัน แล้วพูดอย่างไม่แยแส
” ฮ่าฮ่า… ปากกล้าดีนี่! เมื่อเจ้าได้อันดับหนึ่งของการแข่งขันแสดงว่าเจ้าต้องมีความสามารถบางอย่าง แต่อย่างไรก็ตามความสามารถของเจ้ามันไร้ค่านัก เจ้าเป็นเพียงยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ เมื่อเผชิญกับการผสานของยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ เด็กเหลือขอขั้นแก่นแท้มนุษย์เยี่ยงเจ้าต่อให้เจ้ามีปีกงอกออกมาอีกหกปีก เจ้าก็ยังต้องตาย! “
ชายแก่หนวดสีขาวหัวเราะออกมาเสียงดัง มันคิดว่าเจียงเฉินล้อมันเล่น มียอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์อยู่ถึงสี่คนที่นี่ ถ้าหากพวกมันไม่สามารถฆ่ายอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ตัวเล็กๆได้พวกมันคงถึงจุดจบไปแล้ว
” ข้าเตือนพวกเจ้าทั้งหมดแล้ว หากยังยืนยันที่จะโจมตีเข้ามา ข้าก็จะตอบโต้เต็มกำลัง ข้าเจียงเฉินคนนี้ไม่เคยให้โอกาสใครซ้ำสอง “
ใบหน้าเจียงเฉินพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา ศัตรูของเจียงเฉินทั้งหมดพบแต่เพียงอย่างเดียวคือจุดจบของพวกมัน
” พล่ามมากอยู่ได้! เจ้าเด็กเหลือขอนี่มันเจ้าเล่ห์นัก จู่โจมพร้อมกัน ฆ่ามัน อย่าให้มันหนีไปได้! “
หยินจงเฉิงพูด พวกมันมุ่งเป้าไปยังเจียงเฉิน พวกมันจู่โจมรอบด้านจากทุกมุม ฉะนั้นตัดทางหนีไปได้เลย
” สหาย…. ข้ายกให้เจ้า “
เมื่อทั้งสี่คนต่างมุ่งเป้าไปยังเจียงเฉิน หวงต้าพาหยานเฉินหยู่บินขึ้นสู่ท้องฟ้าไป
” เจ้าหมาเวร เจ้าอย่าหนีนะ! “
ใครบางคนยื่นมือที่ใหญ่ของมันพยายามจะจับหวงต้าไว้ แต่หวงต้าหลบมันได้อย่างง่ายดาย
” ไม่ต้องสนใจเจ้าหมานั่น ตอนนี้มุ่งความสนใจมาฆ่าเจียงเฉินก่อน! “
ดวงตาของหยินจงเฉิงส่องประกายที่แหลมคม ศักยภาพของเจียงเฉินในการแข่งขันประจำแคว้นฉีทำให้มันตกตะลึง วันนี้มันไม่ยอมปล่อยอัจฉริยะเช่นนี้หนีไปได้เป็นแน่ ถ้าหากให้เวลามันเติบโตขึ้นไปอีก เมื่อนั้นหยินจงเฉิงจะไม่สามารถแก้แค้นได้แน่นอน
” มาลงมือพร้อมกันเถอะ! “
ชายแก่หนวดสีขาวตะโกนออกมา ดูเหมือนว่าทั้งสี่จะเข้าใจตรงกัน ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ทั้งสี่รุมเด็กหนุ่มแก่นแท้มนุษย์เพียงคนเดียว แม้ว่าไม่ได้เป็นสิ่งที่พวกมันภูมิใจเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ตราบเท่าที่สามารถฆ่าเจียงเฉินได้ ทุกๆสิ่งมันจะดีไปเอง พวกมันไม่จำต้องสนใจสถานะของพวกมัน
ปัง…!
ชายทั้งสี่ต้องการที่จะสังหารเจียงเฉิน ดังนั้นพวกมันจึงโจมตีเต็มกำลัง พลังงานที่ทรงพลังทั้งสี่ได้ยิงออกมาพุ่งขึ้นไปปกคลุมท้องฟ้า ก่อให้เกิดพายุไต้ฝุ่นไปในทุกพื้นที่ การโจมตีของพวกมันทั้งสี่นั้นเชื่อมต่อกัน พลังงานได้ก่อตัวเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ เส้นใยได้พุ่งไปยังเจียงเฉินเพื่อฉีกเขาให้เป็นชิ้นๆ
ฮึ่มมม!
เจียงเฉินแค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา ท่าทีที่สง่างามปรากฏบนใบหน้าของเขา การโจมตีของยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้น กับการผสานการโจมตีของสี่ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้นมันต่างกันโดยสิ้นเชิง
แต่อย่างไรก็ตาม เจียงเฉินนั้นแข็งแกร่งอีกทั้งยังมีทักษะหลากหลาย ไม่มีความกลัวใดๆปรากฏบนหน้าของเขา
” หกดัชนีสุริยะ! “
ทันใดนั้นเจียงเฉินได้ตะโกนออกมา เขาได้ปลดปล่อยทักษะหกดัชนีสุริยะ ดัชนีขนาดยักษ์สามสายปรากฏออกมามันได้สร้างหลุมขึ้นบนท้องฟ้าแทงไปยังชายสองในสี่คน ในขณะเดียวกันเจียงเฉินได้ปลดปล่อยคลื่นเสียงกรีดร้องของเหยี่ยว คลื่นเสียงที่ทรงพลังได้ก่อตัวขึ้นเป็นคมมีดที่มองไม่เห็น พุ่งไปยังชายอีกสองคน
ปัง…!
การปะทะกันของพลังงานจำนวนมหาศาล ในตอนนี้ท้องฟ้าทั้งหมดได้เกิดเสียงระเบิดดังกระหึ่ม อากาศเริ่มที่จะเผาไหม้เนื่องจากแรงเสียดทานที่เกิดขึ้น ประกายไฟจำนวนมากได้ตกลงมาในทุกแห่งหน การโจมตีผสานของยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ทั้งสี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
เจียงเฉินดุร้ายราวกับพยัคฆ์ ด้วยการบ่มเพาะของเขาได้เข้าสู่แก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางต่อกรกับศัตรูทั้งสี่ภาพลักษณ์ของเขาอยู่เหนือกว่านั้นมาก ไม่ต้องพูดถึงหกดัชนีสุริยะ หรือคลื่นเสียงกรีดร้องของเหยี่ยว ทั้งสองต่างเป็นทักษะที่ทรงพลัง ความสามารถในการโจมตีของทักษะที่สำคัญเหล่านี้พลังชีวิตดั่งมังกร ความแข็งแกร่งดั่งพยัคฆ์ มีเพียงเจียงเฉินที่ได้บ่มเพาะด้วยทักษะร่างแปลงมังกรเท่านั้นที่จะทำเช่นนี้ได้ ในตอนนี้เจียงเฉินมีตราประทับมังกรอยู่สี่สิบดวงในทะเลลมปราณของเขา เขาไม่เคยกังวลว่าพลังหยวนของเขาจะลดต่ำลง
เมื่อการปะทะกันของพลังสิ้นสุดลง เจียงเฉินเพียงคนเดียวสามารถต้านทานการโจมตีผสานของยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์สี่คน ช่างเป็นฉากที่น่าสะพรึงกลัวถ้าหากคนอื่นรู้คงจะแปลกใจเป็นแน่ ถ้าหากสำรวจทั่วทั้งแคว้นฉีมีเพียงเจียงเฉินเท่านั้นที่สามารถทำเช่นนี้ได้
” มันเลื่อนระดับอีกแล้ว ตอนนี้มันอยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลาง “
” นี่มันเป็นไปได้หรือเนี่ย?! มันเป็นเพียงยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ตัวเล็กๆ แต่สามารถต้านทานการโจมตีผสานของพวกเราทั้งสี่ได้? เจ้าเด็กนี่มันยังเป็นมนุษย์อยู่ใช่ไหม?! “
” ปีศาจ เจ้าเด็กนี่มันต้องเป็นปีศาจในประวัติการณ์แน่ ร่วมมือกันเราต้องฆ่ามันให้ได้ในวันนี้ ถ้าหากเราไม่ทำตอนนี้เราคงหมดโอกาสอีกต่อไป และครั้งหน้าที่เจอมัน ข้ากลัวว่าพวกเราจะเป็นฝ่ายถูกฆ่าเสียเอง “
ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ต่างมีสีหน้าตกตะลึง ศักยภาพของเจียงเฉินนั้นมากเกินกว่าจินตนาการของพวกมัน
ชิ้ง ….!
ในเวลาเดียวกันยุทธภัณฑ์ได้ปรากฏขึ้นมาในมือของพวกมัน หยินจงเฉิงใช้ขวานสีทองอันเดิม เป็นยุทธภัณฑ์ระดับกลาง ส่วนอีกสามคนใช้ยุทธภัณฑ์ระดับต่ำ
ยุทธภัณฑ์นั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ทั่วไปยากที่จะหาได้เว้นแต่ศิษย์ของสี่นิกายใหญ่ เหตุผลที่หยินจงเฉิงมียุทธภัณฑ์ระดับกลาง เพราะว่ามันเป็นเจ้าเมือง
พลังของทั้งสี่ทะยานขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของพวกมัน เตรียมพร้อมที่จะสังหารเจียงเฉินในครั้งเดียว
ใบหน้าเจียงเฉินนั้นเยือกเย็นดุจสายธารา นัยน์ตาของเขาเฉียบแหลม หากเขาเผชิญหน้ายอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์เพียงหนึ่งคนเขานั้นมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมที่สามารถสังหารมันได้ แต่เขาได้เผชิญหน้ากับกลุ่มยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ถึงสี่คนร่วมมือกัน มันทำให้ยากขึ้นมาก
” ฮ่าฮ่า ! เข้ามาสิ ข้าอยากรู้จริงว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน! “
เจียงเฉินหัวเราะเสียงดัง เขาสะบัดแขนออกมา จากนั้นปรากฏขวานยาวถึงสามเมตรบนมือของเขา ขวานสีทองได้สร้างเสียงเสียดแทงขึ้น ส่งผลให้อากาศเริ่มสั่นสะเทือน
” ยุทธภัณฑ์ระดับสูง ! “
พวกมันทั้งสี่อุทานขึ้นมา ทั้งสามคนที่ถือยุทธภัณฑ์ระดับต่ำแทบกระอักเลือดออกมา มันทำให้พวกมันหน้าเสียหน้าเป็นอย่างมาก ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่แต่อาวุธในมือเป็นเพียงยุทธภัณฑ์ระดับต่ำ ส่วนศัตรูเป็นเพียงแค่ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์แต่กับถืออาวุธที่หายากสุดยอดอย่าง ยุทธภัณฑ์ระดับสูง เมื่อนำมาเทียบกัน มันช่างน่ารังเกียจซะเหลือเกิน
แม้แต่หยินจงเฉิงก็รู้สึกสิ้นหวัง มันมองไปที่ขวานอัสนีบาตในมือเจียงเฉิน จากนั้นมองไปที่ขวานของตนเอง มันแตกต่างกันอย่างชัดเจน
” ฆ่ามัน! เจ้าเด็กนี่มันคงมีสมบัติอีกมากมาย จากนั้นค่อยมาแบ่งกัน! “
หลังจากสิ้นคำพูดของหยินจงเฉิง ชายแก่หนวดสีขาวพุ่งไปข้างหน้าเป็นคนแรก ดาบยาวในมือของมันได้เปลี่ยนเป็นเส้นแสงเรืองรอง ขณะเดียวกันการโจมตีจากอีกสามคนได้ตามหลังมา
” ทำลายพวกมันหนึ่งต่อหนึ่ง ฆ่าสักคนก่อนดีกว่า! “
ประสบการณ์ต่อสู้ของเจียงเฉินนั้นมากมายนัก เขาผ่านการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน เขาจับตามองไปยังตาแก่หนวดสีขาว ปีกสีเลือดบนหลังของเขากระพือขึ้นด้วยทักษะเคลื่อนย้ายมิติ เขาปรากฏตัวมาด้านข้างซ้ายของตาแก่หนวดสีขาว ในจุดนี้เป็นจุดที่การโจมตีของอีกสามคนไปไม่ถึงเขา
” อัสนีบาต! “
เจียงเฉินเรียกใช้ทักษะขึ้นมา เขายกขวานในมือของเขาขึ้นบนอากาศ กระแสพลังหยวนธรรมชาติได้เปลี่ยนเป็นคลื่นหมุนวนรอบๆขวานอัสนีบาต มันส่องแสงสีทองประกายเปล่งปลั่ง พลังงานจำนวนมากได้กระจายออก เล็งไปที่ตาแก่หนวดสีขาวในทันที
” ตายซะ ! “
เจียงเฉินพูดออกมาด้วยใบหน้าที่น่าหวาดกลัว เจียงเฉินรู้สึกโชคดีที่ได้ฝึกทักษะอัสนีบาตมาก่อนหน้านี้ มันใช้ได้ดีเยี่ยมจริงๆ
ซู่มมมม…..!
ขวานอัสนีส่งเสียงคำรามก้อง เมื่อฟาดฟันไปข้างหน้าชายแก่หนวดสีขาวไม่อาจต่อต้าน มันได้ทิ้งรอยไว้เป็นทางยาวและลึก พลังงานเข้มข้นจำนวนมากได้ก่อให้เกิดเสียงดังราวกับคลื่นยักษ์โหมกระหน่ำ!
” อะไรกัน! “
ชายแก่หนวดสีขาวได้ร้องออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ มันไม่คาดคิดว่าเจียงเฉินจะใช้ยุทธภัณฑ์ระดับสูงได้ถึงระดับนี้ แค่เพียงไม่กี่วินาที มันก็รู้สึกได้เลยว่าความตายก็ได้ย่างกรายเข้าไปหามัน
ชายแก่หนวดสีขาวปฏิกริยาตอบสนองค่อนข้างไว มันพยายามปัดป้องการโจมตีด้วยดาบยาวของมัน น่าเสียดายที่พลังของขวานอัสนีบาตแข็งแกร่งเกินไป เพราะว่าเจียงเฉินได้โจมตีด้วยกำลังทั้งหมดของเขา เป็นเรื่องปกติที่ตาแก่หนวดสีขาวไม่อาจต้านทานได้
ฉัวะ…!
อัสนีบาตของเจียงเฉินได้ตัดดาบยาวออกเป็นสองส่วนได้อย่างง่ายดาย โดยไม่สูญเสียพลังแม้แต่นิดเดียว อีกทั้งมันได้ผ่าหัวของชายแก่หนวดสีขาวออกเป็นสองส่วน
หัวครึ่งนึงได้ลอยอยู่บนฟ้า เลือดได้สาดกระเซ็นลงราวสายพิรุณ ตาแก่ได้ตกตายทั้งๆที่ยังไม่ได้กรีดร้องเสียด้วยซ้ำ
=======================================================
จบจ้า คงไม่ค้างหรอกเนอะวันนี้ 🙂