I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 110 ศัตรูบุกถึงหน้าประตู

| Dragon-Marked War God | 1417 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทยโดย     Subaru-Kyun


ตรวจทาน           Subaru-Kyun


=====================================================


          สิ่งแรกที่เจียงเฉินต้องการจะทำเมื่อเขากลับมาถึงนิกายทมิฬนั่นก็คือ ได้รับการสนับสนุนของเหล่าศิษย์ในนิกาย ในชีวิตนี้ของเขาเจียงเฉินต้องการที่จะได้รับการยกย่องนับถือจากผู้คนทั้งหมดอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่อยากทำมันเพียงลำพังอีกต่อไป ตั้งแต่เขาได้เข้าร่วมนิกายทมิฬ เขาต้องการชี้นำนิกายทมิฬ ให้ประสบความสำเร็จและมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไป การอาศัยอยู่แต่เพียงแคว้นฉีนั้นยังห่างไกลจากการพอเพียง


          สิ่งที่เจียงเฉินได้ทำลงไปในวันนี้ได้ชนะใจพวกเขาโดยสมบูรณ์ แม้กระทั่งหวังหยุนยังยอมรับในตัวเขา นอกจากนี้ศิษย์นิกายเช่นหวังหยุนเป็นผู้ที่มีผลงานดีพอสมควรในนิกายทมิฬ ความนอบน้อมของเขาก็เป็นดั่งตัวแทนของศิษย์นอกทุกคน


          ในส่วนหวงเจิ้งและศิษย์คนอื่น นอกเหนือจากความรู้สึกขอบคุณแล้วใจของพวกเขาก็ถูกเติมเต็มไปด้วยความนับถือต่อเจียงเฉิน มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะเปลี่ยนความคิดของใครสักคน โดยเฉพาะจากความหวาดกลัวกลายเป็นความนับถือ


” พอแล้ว เจ้าทั้งหมดกลับไปได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเหตุการณ์ในวันนี้อีกต่อไป “


พวกเขาโค้งคำนับเจียงเฉินก่อนที่พวกเขาจะหันหลังแล้วจากไป


ณ ด้านล่างของหุบเขา!


” ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าศิษย์พี่เจียงที่ใครๆก็รู้ว่าเขาโหดเหี้ยมและอำมหิตขนาดไหนจะยอมให้อภัยพวกเรา แถมยังคืนยาฟื้นพลังมนุษย์ให้เราอีกด้วย ! “


” เจ้าไม่รู้อะไรซะเลย ศิษย์พี่เจียงเขาเป็นบุคคลพิเศษ เขาไม่สนใจเกี่ยวกับยาฟื้นพลังมนุษย์เพียงเล็กน้อยแค่นี้ นอกจากนี้ศิษย์พี่เจียงยังรู้สึกเจ็บปวดแทนพวกเรา เขารู้ดีว่ายาฟื้นพลังมนุษย์พวกนี้สำคัญต่อพวกเรามากแค่ไหน! “


” วิธีการที่ศิษย์พี่เจียงปฏิบัติกับศัตรูกับคนของเขาต่างกันโดยสิ้นเชิง! หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ ข้าตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าศิษย์พี่เจียงจะขอให้ช่วย หรือสั่งข้าเช่นไร ข้าจะไม่ปฏิเสธเขา 


ทุกคนได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ เจียงเฉินในความคิดพวกเขาได้เปลี่ยนไปโดยสมบูรณ์


” ในอนาคต ข้าได้เป็นกำลังให้ศิษย์พี่เจียงเฉิน ข้ามั่นใจว่าข้าจักต้องทำประโยชน์ได้แน่ “


หวังหยุนกล่าวออกมา   ผลประโยชน์ที่เขาได้รับในวันนี้มันไม่สามารถเทียบได้กับความร่ำรวยใดๆ ในความเป็นจริง ไม่ว่าจะร่ำรวยมากเท่าไรก็ไม่อาจซื้อชีวิตคืนกลับมาได้


………………………………………………………………………


          วันต่อมา ช่วงฟ้าสาง มีเสียงดังครึกโครมออกมาจากหุบเขาทมิฬ และหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงตะโกนดังสนั่นออกมาเหนือน่านฟ้าของนิกายทมิฬ


” เจียงเฉิน! ไสหัวเขาเจ้าออกมาเดี๋ยวนี้! “


” ไสหัวออกมาซะ! “


” ออกมาซะ! “


” ออกมา! “


………………………………..


เสียงสะท้อนดังออกมา ทำให้ความสงบสุขภายในนิกายทมิฬกลายเป็นเดือดพล่าน


” บัดซบ! ใครมันช่างโอหังถึงเพียงนี้ กล้ามาท้าศิษย์พี่เจียงเฉินที่หน้านิกายทมิฬ?! มันคงรนหายที่ตาย! “


” มาสิ ไปดูกันว่าใครกันที่มันกล้าพอที่จะทำเช่นนี้! “


          หลายคนต่างไปยังส่วนนอกของนิกายทมิฬ พวกเขาเห็นชายหนุ่มสวมชุดคลุมสีเหลือง ลอยอยู่บนท้องฟ้า ผมสีดำของมันโบกสะบัดตามกระแสลม และจิตสังหารที่รุนแรง ได้ไหลทะลักออกมา ที่กลางอกของมันมีสัญลักษณ์รูปกระบี่ แน่นอนว่ามันมาจากนิกายกระบี่สวรรค์


” มันมาจากนิกายกระบี่สวรรค์! บัดซบ คนจากนิกายกระบี่สวรรค์มาที่นี่ท้าพวกเราอยู่หน้าประตู ไม่ใช่ว่ามันกำลังรนหาที่ตาย? “


” เ*ยไรวะเนี่ย มันคิดว่าไม่มีใครในนิกายทมิฬสู้มันได้? แค่ส่งศิษย์พี่สองคนจากศิษย์ชั้นใน มันก็ได้ตายอย่างอนาจเป็นแน่ “


” ข้ารู้จักมัน ชื่อของมันคือ หลี่หวู่หลิง พี่ของหลี่หวู่ซวง! ชายคนนี้มีความสามารถธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ไม่อาจเทียบกับน้องชายของมันได้ มันเป็นศิษย์นอกของนิกายกระบี่สวรรค์ แต่ช่างน่าแปลกใจยิ่งนัก มันสามารถทะลวงเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์ได้! ข้าคิดว่ามันมาที่นี่เพื่อล้างแค้นให้น้องชายของมัน “


          บางคนจำคนผู้นี้ได้ ทันใดนั้นฝูงชนก็แตกตื่นขึ้นมา แม้ว่า หลี่หวู่หลิง จะเป็นอัจฉริยะของศิษย์นอก ความสามารถของมันยังด้อยกว่าน้องชายของมัน แต่อย่างไรก็ตาม ในวันนี้มันได้มาที่นี่ การบ่มเพาะของมันได้ไปถึงแก่นแท้สวรรค์ นั่นทำให้ผู้คนงุนงงไปตามๆกัน


” เจียงเฉิน ออกมาซะ! “


          หลี่หวู่หลิงช่างขี้อวดและโอหัง จิตสังหารของมันเห็นได้ชัดเจนว่ามันต้องการสังหารเจียงเฉินล้างแค้นให้น้องชายของมัน ชายคนนี้กล้ามาเพียงลำพัง ด้วยความกล้าของมันก็คู่ควรแก่การนับถือ


” บัดซบ ! ไอ้เก๋าเจ้งนี่มันโอหังเสียจริง! มันคิดว่าไม่มีใครในนิกายทมิฬสู้กับมันได้? “


หวงเจิ้งออกมายังส่วนนอกของนิกายทมิฬ พูดอย่างกราดเกรี้ยว


” ศิษย์พี่หวง พวกเราจำเป็นต้องแจ้งศิษย์พี่เจียงหรือไม่? “


          ศิษย์คนหนึ่งถามออกมา ศิษย์ทั้งหมดปฏิบัติกับเจียงเฉินเหมือนเป็นผู้นำของพวกเขา และตั้งแต่หลี่หวู่หลิงมา พวกเขาต้องแจ้งเจียงเฉินให้ทราบในทันที


” แจ้งไปเพื่ออะไร? เสียงตะโกนดังขนาดนี้ยังจำเป็นต้องแจ้ง? ศิษย์พี่เจียงไม่ได้หูหนวกซะหน่อย “


หวงเจิ้ง จ้องไปยังศิษย์คนนั้น


          ภายในนิกายทมิฬ เจียงเฉินที่กำลังนอนพักผ่อนอยู่ ตาของเขาที่ปิดอยู่พลันเปิดขึ้นมา และขมวดคิ้วของเขา ในขณะเดียวกันชายสามคนบินออกไปยังหน้าทางเข้า พวกเขาเป็นศิษย์ชั้นใน


” เจ้ากล้าดีอย่างไร ถึงได้มาก่อปัญหาที่นิกายทมิฬ? “


          เมื่อทั้งสามมาถึง ได้ตะโกนออกมาอย่างพร้อมเพรียง ชายที่เป็นผู้นำเป็นชายรูปร่างหล่อเหลา ด้วยการปรากฏตัวอย่างสง่างาม และพลังงานที่ไหลออกมาจากร่างของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจนั้นทำให้ผู้คนนับถือเขา แม้ว่าชายอีกสองคนจะมีพลังด้อยกว่าแต่ทั้งคู่นั้นเป็นยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้น


” ดูนั่นสิ นั่นมันศิษย์พี่ต้วนลี่ จากส่วนใน! เขาไปถึงแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลาง! ยากจริงๆที่จะได้พบเขาเช่นนี้! “


” หลี่หวู่หลิงมันมีความกล้ายิ่งนัก ถึงได้มาสร้างปัญหาหน้าทางเข้าของนิกายทมิฬเรา! หากพวกเราไม่สั่งสอนบทเรียนให้มัน พวกเรานิกายทมิฬต้องถูกผู้คนเยาะเย้ยเป็นแน่! แต่ศิษย์พี่ต้วนลี่อยู่ที่นี่แล้ว เขาต้องฆ่ามันได้ด้วยกระบวนท่าเดียวแน่นอน! “


” เจ้าพูดถูก หลี่หวู่หลิงมาที่นี่เพื่อหาที่ตาย! “


          การปรากฏตัวของต้วนลี่ ทำให้ฝูงชนอยู่ไม่สุข ในสายตาของศิษย์ฝึกหัดและศิษย์นอก ศิษย์ชั้นในคือตัวตนที่สูงส่งไม่อาจเอื้อมถึง


” ไปเรียกเจียงเฉินออกมาซะ ข้าต้องการท้าประลองมัน! “


กระแสลมได้พัดผ่านผมที่ยุ่งเหยิงของหลี่หวู่หลิง มันช่างอวดดีจริงๆ


” ฮึ่ม! ศิษย์น้องเจียงเฉินไม่ได้อยู่ที่นี่ “


          ต้วนลี่แค่นเสียงออกมา ชื่อเจียงเฉินทุกคนในนิกายทมิฬต่างได้ยิน รวมถึงต้วนลี่ แน่นอนด้วยศักยภาพในการแข่งขันประจำแคว้นฉี ยากที่จะมีผู้ใดไม่รู้จักเขา นอกจากนี้กวนอี้หยุนยังจับตามองเจียงเฉินอีกด้วย


” ศิษย์พี่ต้วน ศิษย์พี่เจียงเฉินได้กลับมาถึงนิกายทมิฬเมื่อวานนี้ขอรับ “


ทันทีที่หวังหยุนมาถึงเขาได้บอกต้วนลี่ถึงการกลับมาของเจียงเฉิน


” โอ้? “


          ต้วนลี่มีท่าทีตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็แค่นเสียงออกมา ” หากข้าจำไม่ผิด จำเป็นน้องชายของหลี่หวู่ซวงใช่ ถูกต้องรึไม่? ความสามารถของเจ้าธรรมดา ไม่โดดเด่น ข้าคาดไม่ถึงว่าเจ้าจะมาถึงแก่นแท้สวรรค์ได้เร็วเช่นนี้ ช่างน่าตกตะลึงเสียจริง อย่างไรก็ตาม ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์เช่นเจ้าไม่ละอายบ้างหรือที่ท้าประลองกับเจียงเฉินที่เป็นเพียงยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์? “


          ต้วนลี่จ้องไปยังหลี่หวู่หลิง เขามั่นใจว่าเคยพบมันมาก่อน แต่เขาจดจำเกี่ยวกับมันไม่ได้ ด้วยสถานะของต้วนลี่ที่เป็นถึงยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลาง เขาไม่เคยสนใจหลี่หวู่ซวง ไม่ต้องพูดถึงน้องชายของมันหลี่หวู่หลิง


” เก็บลมหายใจของเจ้าไว้เถอะ ความตั้งใจของข้าที่มาในวันนี้ เพื่อล้างแค้นให้น้องชายของข้า! หากว่าเจียงเฉินมันยังเป็นชายอยู่ละก็ เรียกมันออกมาสู้กับข้าซะ! “


หลี่หวู่หลิงทำตัวราวกับคนบ้า เขาตะโกนออกมาเสียงดังด้านหน้าทางเข้า ทุกคนในนิกายทมิฬต่างได้ยินกันชัดเจน


” บัดซบ! มันคิดว่ามันเป็นใครกัน? มันบอกว่ามาฆ่างั้นรึ ช่างโอหังอะไรเช่นนี้? “


” มันเป็นแค่คนไร้ยางอายคนหนึ่งเท่านั้น! ด้วยพลังระดับอาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ ไม่เพียงแต่ท้าประลองศิษย์พี่เจียงเฉิน แต่มันยังมาที่นิกายทมิฬด้วยท่าทีแข็งกร้าวเช่นนี้ มันบ้าหรือเปล่า? “


ศิษย์ทั้งหลายต่างสบถสาปแช่งภายในใจของพวกเขา หลี่หวู่ซวงพูดว่ามันมาที่นี่ต้องการจะฆ่าใครสักคนเพื่อล้างแค้น ไม่จำต้องพูดถึงเกี่ยวกับการประลองอีกต่อไป


” หลี่หวู่หลิง เจ้าเป็นแค่เด็กน้อยที่เพิ่งจะทะลวงแก่นแท้สวรรค์มาได้ไม่ทันไร เจ้าช่างโอหังยิ่งนัก เจ้าคิดว่าพวกเรานิกายทมิฬ ไม่มีศิษย์คนไหนสามารถสู้เจ้าได้เช่นนั้นรึ? ถ้าเช่นนั้นเมื่อเจ้าท้าพวกข้า ข้าบิดาผู้นี้จะสู้กับเจ้าเอง “


ศิษย์ในอีกคนที่ยืนถัดจากต้วนลี่ตะโกนออกมา เหมือนกับว่าเขาพร้อมที่จะกระโจนเข้าไปสู้กับหลี่หวู่หลิง


” ข้าไม่สู้กับเจ้า เป้าหมายของข้าวันนี้ มีเพียงเจียงเฉินเท่านั้น! “


หลี่หวู่หลิงจ้องมองกลับไปยังศิษย์คนนั้น และแสดงท่าทีไม่อยากต่อสู้ด้วย   มันตัดสินใจก่อนที่จะมายังนิกายทมิฬแล้วว่ามีเพียงเจียงเฉินเท่านั้นคือเป้าหมายของมัน


” เจียงเฉินหากเจ้ายังมี***อยู่ ก็ไสหัวออกมาซะ! “


หลี่หวู่หลิงยังคงตะโกนต่อไป


” เจ้าบัดซบนี่! “


          เหล่าศิษย์ในของนิกายทมิฬต่างรู้สึกโกรธเกรี้ยว พฤติกรรมของหลี่หวู่หลิงแสดงถึงการไม่เห็นหัวพวกเขา แถมยังส่งเสียงดังรบกวนที่หน้าทางเข้านิกายทมิฬ หากวันนี้ข้าไม่ได้สั่งสอนบทเรียนให้มัน นิกายทมิฬต้องถูกผู้คนหัวเราะเยาะเป็นแน่


          ในตอนที่ศิษย์คนนั้นกำลังจะลงมือ ก็ได้ยินเสียงคนหนึ่งบินมาจากหุบเขาทมิฬ ไม่กี่วินาทีต่อมา เจียงเฉินพร้อมปีกโลหิตบนหลังเขาก็มาถึง


” นั่นศิษย์พี่เจียง ว้าว! เขาสามารถบินได้ด้วย และปีกสีโลหิตคู่นั้นน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก! “


” นี่มันเท่ห์สุดยอดไปเลย! เขาบินได้แม่ว่าเขามีพลังขั้นแก่นแท้มนุษย์เท่านั้น ข้าอิจฉาเขาเหลือเกิน “


” เขาคือศิษย์พี่เจียงเฉินผู้ชนะเลิศการแข่งขันประจำแคว้นฉี เขาช่างสง่างามเหลือเกิน! เขามาที่นี่เวลานี้ อย่าบอกนะว่า เขามาเพื่อตอบรับคำท้าประลองของหลี่หวู่หลิง? “


          เมื่อเจียงเฉินมาปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน เขาก็ได้ตกเป็นจุดสนใจ แม้แต่ต้วนลี่กับศิษย์ในอีกสองคนก็มองไปยังเขา หลังจากการแข่งขันจบลง เจียงเฉินก็ได้กลายเป็นคนที่มีชื่อเสียง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้คนมากมายได้เห็นใบหน้าของเขา


” ชายหนุ่มคนนี้ มีลักษณะที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ข้าไม่แปลกใจเลยว่าศิษย์พี่กวนอี้หยุนถึงได้ตีค่าเขาไว้สูงเช่นนี้! “


ต้วนลี่ ผงกศีรษะของเขา


” เจ้าคือเจียงเฉิน? “


หลี่หวู่หลิงมองไปยังเจียงเฉินด้วยสายตาที่คมกริบ จิตสังหารจำนวนมากได้ไหลออกมาจากร่างกายของมัน


” ข้านี่แหละ แล้วเจ้าเป็นใครกัน? “


เจียงเฉิน ถาม


” ข้าคือหลี่หวู่หลิง! หลี่หวู่ซวงคือน้องชายของข้า เจ้าเป็นคนฆ่าเขา! ตอนนี้ข้าขอท้าประลองเจ้าแก้แค้นให้น้องชายข้า! “


หลี่หวู่หลิง ตะโกนอีกครั้ง


          ในตอนนี้เจียงเฉินเข้าใจแล้วว่าทำไมชายคนนี้ถึงตามหาเขา อีกทั้งยังเสี่ยงชีวิตมายังนิกายทมิฬเพียงเพราะต้องการที่จะล้างแค้นให้น้องชาย


” เจียงเฉิน ข้าท้าประลองเป็นตายกับเจ้า!  หากเจ้ายังเป็นชาย และยังมีสิ่งที่เป็นเอกพจน์อยู่ส่วนล่างของเจ้า จงยอมรับการประลองซะ! “


หลี่หวู่หลิง กล่าวด้วยท่าทีดุดัน


” ศิษย์น้องเจียง ไม่ต้องไปสนใจคนเช่นนี้ ปล่อยให้พวกเราจัดการเอง “


ต้วนลี่ กล่าวขึ้น


” ตกลง ข้ารับคำท้าของเจ้า “


เจียงเฉินยิ้มให้ต้วนลี่ และตอบตกลงรับคำท้าหลี่หวู่หลิง 


” ว่าไงนะ? ศิษย์พี่เจียงเฉินรับคำท้าหลี่หวู่หลิง? เขาวู่วามเกินไปแล้ว! “


” เจ้าพูดถูก เขาวู่วามเกินไป! แม้ว่าเขาจะสังหารหลี่หวู่ซวงกับหลิงอ้าวได้ แต่หลี่หวู่หลิงเป็นถึงยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ ระหว่างแก่นแท้มนุษย์กับแก่นแท้สวรรค์มันแตกต่างกันมากนัก! “


” เขาไม่ควรรับคำท้านั่นเลย มันไม่ยุติธรรม! “


ศิษย์นิกายทมิฬหลายคนเริ่มบ่นออกมา ไม่มีใครคาดคิดว่าเจียงเฉินจะรับคำท้าของหลี่หวู่ซวง


” เงียบก่อน ศิษย์พี่เจียงคงมีเหตุผลของเขา เราต้องเชื่อมั่นในตัวเขา “


          หวังหยุนทำให้ฝูงชนเริ่มสงบลง ตั้งแต่เจียงเฉินได้ช่วยเขาจากปัญหาใน ‘จุดเคลื่อนพลัง’ เจียงเฉินก็กลายเป็นคนที่ลึกลับและแข็งแกร่งในใจเขา นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่มั่นใจ คนเช่นเขาไม่เคยทำอะไรที่คิดว่าเขาทำไม่ได้ เมื่อเขาตอบรับคำท้าของหลี่หวู่หลิง นั่นหมายความว่าเขามีวิธีจัดการกับหลี่หวู่หลิง


เมื่อตอบรับคำท้าแล้วจะเป็นเช่นไรต่อไป เจียงเฉินมีวิธีการอะไรกันแน่นะ โปรดติดตามต่อได้ในตอนต่อไป


=====================================================


          จบไปแล้วนะครับ กับตอนนี้ พบกันใหม่ตอนหน้าครับ



ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments