I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 111 การต่อสู้เพื่อเกียรติยศอีกการต่อสู้หนึ่ง

| Dragon-Marked War God | 1438 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทยโดย    Takumi Kun


ตรวจทาน         Subaru-Kyun


=======================================================


” ประเสริฐ เจ้ายังพอมีความกล้าอยู่บ้าง! “


เมื่อหลี่หวู่หลิงได้ยินว่าเจียงเฉินตกลงรับคำท้าง่ายๆ เขารู้สึกประหลาดใจ เขามาที่นี่โดยไม่สนใจชีวิตของตน นอกจากนั้น นี่คือศูนย์บัญชาการของนิกายทมิฬ เจียงเฉินสามารถที่จะไม่สนใจเขาก็ได้


เจียงเฉินมองสำรวจหลี่หวู่หลิง หลังจากที่ได้สัมผัสถึงความถี่ของพลังงานของเขา ช่วยไม่ได้ที่เขาจะส่ายหัวและหัวเราะออกมา


” เจ้าจะหัวเราะหาพระแสงอันใด? “


ม่านตาดำของหลี่หวู่หลิงหดตัวลง


” ข้าหัวเราะเพราะว่าเจ้ามันปัญญาอ่อนน่ะสิ “


เจียงเฉินแสดงออกถึงการเหยียดหยาม


” เจ้าว่าเช่นไรนะ? “


หลี่หวู่หลิงกราดเกรี้ยวในทันที


” ข้าก็เข้าใจการตัดสินใจที่จะมาแก้แค้นให้น้องชายของเจ้า แต่เจ้าไม่ควรที่จะเลือกหนทางที่มันยากจนเกินไป ความถี่พลังของเจ้ายังไม่เสถียร แต่ข้าขอคาดเดาว่าเจ้าเพิ่งทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ ดังนั้นมีปราณมารมาจากตัวเจ้า ข้าคิดว่าเจ้าทำการบ่มเพาะทักษะอสูร! ด้วยพรสวรรค์ระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเนี่ย เจ้าช่างแตกต่างจากน้องชายของเจ้าโดยสิ้นเชิง การบ่มเพาะด้วยทักษะบ่มเพาะอสูรจะช่วยให้ระดับการบ่มเพาะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วก็จริงอยู่ ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยที่เจ้าได้ทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้นๆได้ อย่างไรก็ตามมันเลวร้ายมาก เจ้าไม่รู้หนทางในการบ่มเพาะทักษะอสูรได้อย่างถูกต้องและเจ้าได้ฝืนตัวเองทำการบ่มเพาะ ตอนนี้เจ้าได้ทำลายอนาคตของตัวเองไปแล้ว แต่แน่นอนว่า ตั้งแต่ที่เจ้าได้ตัดสินใจมาท้าข้า เจ้าได้ละทิ้งอนาคตของเจ้าไปแล้ว “


เจียงเฉินพูดขณะที่ก้าวช้าๆ แต่ละคำพูดและทุกๆคำพูดที่ออกจากปากของเขาดั่งหนามแหลมแทงเข้าไปที่ใจของหลี่หวู่หลิง ดวงตาของหลี่หวู่หลิงเบิกกว้าง ท่าทางที่ไม่น่าเชื่อได้ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขา


ชายหนุ่มตรงหน้าเขาพบว่าเขาทะลวงเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์ได้เนื่องจากการบ่มเพาะทักษะอสูรได้อย่างไร? อยู่ต่อหน้าเขารู้สึกเหมือนว่าเขากำลังเปลือยราวกับว่าไม่มีความลับใดสามารถที่จะซ่อนจากตาเขาได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้!


นอกจากนี้สิ่งที่เจียงเฉินพูดนั้นถูกต้องที่สุด หลี่หวู่หลิงได้รับทักษะอสูรก่อนหน้านี้ไม่นาน และเขาได้ทำสมาธิในที่เงียบสงบเพื่อที่จะศึกษามัน นี่เป็นเหตุที่ว่าทำไมเขาถึงไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันประจำแคว้นฉี เมื่อเขาได้ยินว่าน้องชายของเขาถูกสังหาร เขานั้นกราดเกรี้ยวอย่างมากและฝืนทะลวงสู่อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ด้วยทักษะบ่มเพาะอสูรและยาบางอย่าง แล้วเขารีบมายังนิกายทมิฬเพื่อมาหาเจียงเฉิน อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คาดไว้ว่าเจียงเฉินจะสามารถมองได้ทะลุปรุโปร่งเช่นนี้


” แล้วเป็นเช่นไร? ระดับการบ่มเพาะของข้าก็เพียงพอที่จะสังหารเจ้าได้! “


จิตสังหารที่เขาปล่อยใส่เจียงเฉินนั้นมีความรุนแรงมากขึ้น หลี่หวู่หลิงรู้สึกได้ว่าเจียงเฉินเป็นคนที่น่ากลัว เขาเป็นเพียงแค่ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์วัยสิบห้าถึงสิบหกปี แต่เขาไม่แม้แต่จะเป็นกังวลเมื่อเผชิญซึ่งๆหน้ากับเขา หน้าของเขามีเพียงความสงบและท่าทีที่มั่นใจเพียงเท่านั้น

” อย่างนั้นรึ? บางทีเจ้าอาจจะไม่เข้าใจถึงสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้? ดี… ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟัง เจ้าจะได้ไม่ต้องตายในความมืดมิด ดูเผินๆเจ้าอาจดูเหมือนนักสู้แก่นแท้สวรรค์ เจ้าสามารถที่จะควบคุมพลังธรรมชาติได้และบินบนอากาศได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าไม่สามารถที่จะปฎิเสธได้ว่า การบ่มเพาะของเจ้ายังไม่เสถียร การบ่มเพาะของเจ้านั้นบุ่มบ่ามเกินไป และเจ้ายังไม่แตกฉากในทักษะอสูร ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ของเจ้า ข้าสามารถที่จะหายอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้นและเขาก็จะสามารถที่จะเอาชนะเจ้าได้อย่างง่ายได้ หากถ้าจะให้ชัดเจนกว่านี้ เจ้าอาจจะแข็งแกร่งกว่าน้องชายเจ้าที่ตายไปแล้วเพียงเล็กน้อย หากว่าเจ้าต้องการที่จะแก้แค้นให้น้องชายเจ้าจริง ข้าแนะนำเจ้าให้ใช้เวลาไม่กี่ปีในการเก็บตัวบ่มเพาะเสีย “

เจียงเฉินพูดอย่างไม่แยแส ด้วยประสบการณ์ของเขาและการตัดสิน เขาสามารถที่จะรู้ตื้นลึกหนาบางของหลี่หวู่หลิงได้อย่างง่ายดาย ด้วยสภาพของหลี่หวู่หลิงในตอนนี้ เขาไม่สามารถที่จะเทียบกับยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์อย่างหยินจงเฉิงได้ ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงเหล่าศิษย์ในของนิกายใหญ่ทั้งสี่


ด้วยพละกำลังและความสามารถของเจียงเฉินในตอนนี้ หลี่หวู่หลิงไม่มีโอกาสที่จะได้รับชัยแม้แต่น้อย


” เก็บลมหายใจของเจ้า และคำพูดด้วยการต่อสู้เสีย!แสดงให้ข้าได้เห็นว่าพลังระดับแก่นแท้มนุษย์ที่สามารถสังหารน้องชายข้าเป็นอย่างไร! “


วู้มมม…


สายลมได้ออกมาจากร่างของหลี่หวู่หลิง เขาได้โคจรทักษะอสูรและดวงตาเขาได้กลายเป็นสีแดง ริมฝีปากของเขากลายเป็นสีดำเนื่องจากปราณของอสูร เขาได้ซัดหมัดไปยังเจียงเฉิน


การโจมตีนี้มีพลังอสูรอัดแน่นอย่างรุนแรง พลังงานนี้ได้กลายเป็นมังกรอสูรดั่งคลื่นยักษ์ลอยมายังเจียงเฉิน


ทุกๆคนในนิกายทมิฬต่างเกร็งขึ้นมา พวกเขาไม่ได้มีประสบการณ์และการตัดสินที่เจียงเฉินมี แม้แต่ต้วนหลี่ยังไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าสภาพของหลี่หวู่หลิงในตอนนี้เป็นเช่นไร เขาสามารถที่จะบอกได้แค่อย่างเดียวคือหลี่หวู่หลิงได้ทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์และฐานรากของเขายังไม่เสถียร


อย่างไรก็ตาม ในความคิดของพวกเขานั้น ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์จะไม่มีทางที่จะพ่ายแพ้แก่ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ เจียงเฉินเป็นยอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่ มันยากที่จะบอกได้ว่าหากเขาสามารถทนต่อการโจมตีของยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ได้จริง

” ฮึ่ม! ข้าไม่มีอารมณ์ที่จะมาเล่นกับเจ้า เมื่อเจ้าคิดถึงน้องชายเจ้ามากนัก ข้าจะให้เจ้าได้ไปพบกับเขา “

สายตาของเจียงเฉินดูเหี้ยมโหด ในความคิดเขานั้น หลี่หวู่หลิงมาที่นี่และได้ท้าเขาสู้ที่หน้าทางเข้านิกายทมิฬ หลี่หวู่หลิงได้ตายไปแล้ว

เจียงเฉินจะไม่ปล่อยให้ผู้ที่ต้องการที่จะสังหารเขามีชีวิตอยู่ต่อ นอกจากนี้สถานที่แห่งนี้เป็นของนิกายทมิฬ และผลสรุปของการต่อสู้นั้นส่งผลกระทบต่อเกียรติยศของนิกายทมิฬ เขาจะต้องรักษาเกียรติยศของนิกายทมิฬเอาไว้

” ดัชนีสุริยะทั้งหก “


เจียงเฉินตะโกนออกมาด้วยเสียงที่่ทุ้มต่ำ และได้ใช้ดัชนีสุริยะทั้งหก และปลายนิ้วของเขาได้เรืองแสง เขาได้ชี้ไปยังหลี่หวู่หลิง


เปรี้ยง!


แผ่นดินสั่นสะเทือน เสียงระเบิดดังสนั่นกวาดรอบๆและท้องฟ้าได้สั่นสะเทือน  ตอนนั้นทุกๆคนได้เห็นถึงทันใดนั้นดัชนีสีทองขนาดยักษ์ได้ปรากฎขึ้นมา ทะลวงไปยังมังกรอสูรของหลี่หวู่หลิง


ตูม!


การโจมตีของทั้งคู่ได้ปะทะกันทำให้เกิดการระเบิดขนาดใหญ่ขึ้นอีก ไม่มีการต้านทานใดๆมังกรอสูรของหลี่หวู่หลิงได้แตกกระจายเป็นชิ้นๆในทันที เพราะผลกระทบของพลังอันมหาศาลของดัชนีสุริยะทั้งหก


พลังของดัชนีสุริยะทั้งหกไม่ได้ตกแม้แต่น้อย ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อและหางสีทองด้านหลังมันที่มีพลังทำลายล้างมหาศาลได้บินต่อไปยังหลี่หวู่หลิง


” อะไรกัน! “


ถึงกับตกตะลึง หลี่หวู่หลิงไม่เคยคาดว่าฝ่ายตรงข้ามจะแข็งแกร่งเช่นนี้ ทักษะอสูรของเขาที่ได้ทำการบ่มเพาะมาไม่สามารถจะต้านการโจมตีของเจียงเฉินได้แม้แต่ครั้งเดียว นี่มันไม่น่าเชื่อ!


อ๊าาาาาาาาาาาาา…..


หลี่หวู่หลิงเงยหัวขึ้นและเห่าหอน เขารวบรวมพลังทั้งหมดในร่างของเขาและรวบรวมเป็นโล่อสูรสีดำเพื่อป้องกันตัวเขาเองจากดัชนีสุริยะทั้งหกของเจียงเฉิน


ตูมมม!


การปะทะกันอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง ควันสีดำออกมาจากศูนย์กลางของการปะทะ


ตึก ตึก ตึก


หลี่หวู่หลิงได้ถอยหลังกลางอากาศ เพียงแค่สร้างความสมดุลแก่ร่างกายได้หลังจากที่ลอยถอยไปไกลกว่าร้อยเมตร เขาหายใจหอบและได้กระอักเลือดออกมา ใบหน้าของเขาซีดลง


ท่าทางที่หลี่หวู่หลิงได้แสดงออกมามีเพียงอย่างเดียวคือตกตะลึง เขาไม่ได้คิดถึงผลลัพธ์เช่นนี้เลย เขาไม่อาจเข้าใจได้ว่าเหตุใดยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ถึงได้แข็งแกร่งเช่นนี้ได้


” โอ้ มาย ก็อดด นี่คือพลังที่แท้จริงของศิษย์พี่เจียงเฉินงั้นหรือ? เขาช่างแข็งแกร่ง เขาเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่ปกติสุดๆ เขาเป็นยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์แน่งั้นรึ? “


” ศิษย์พี่เจียงตอนนี้ได้แข็งแกร่งขึ้นกว่าตอนที่แข่งขันประจำแคว้นฉีเสียอีก ตอนนี้เขาอยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลาง! ไม่แปลกใจที่เขาสามารถเอาชนะหลี่หวู่หลิงได้! “


” แม้ว่าเขาจะได้ทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลาง การที่สามารถที่จะเอาชนะผู้ที่อยู่ระดับแก่นแท้สวรรค์ได้นั้นก็น่าตกตะลึงมาก ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่ามีสัตว์ประหลาดที่ผิดปกติในโลกอย่างศิษย์พี่เจียงเฉิน! ด้วยพลังของแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางเขาสามารถเอาชนะระดับแก่นแท้สวรรค์อย่างหลี่หวู่หลิงได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว! หากข้าไม่ได้เห็นด้วยตัวเองข้าคงไม่เชื่อแม้ว่าเจ้าจะสังหารข้าก็ตามที! “


” พวกเจ้าได้เห็นทักษะดัชนีของศิษย์พี่เจียงเฉินเมื่อครู่ไหม? มันเป็นทักษะขั้นปฐพีอย่างแน่นอน!มันช่างทรงพลังเหลือเกิน! “


” ในที่สุดข้าก็เข้าใจว่าเหตุใดศิษย์พี่เจียงเฉินสามารถที่จะสังหารหลี่หวู่ซวงและหลิงอ้าวได้! หลี่หวู่หลิงมาที่นี่และท้าศิษย์พี่เจียงเฉิน เขาได้หาเรื่องตายโดยแท้และตบหน้าตัวเองชัดๆ! “

 

………………………………………………………………………..


ศิษย์ทั้งหลายของนิกายทมิฬได้ตื่นเต้นอย่างมาก โดยเฉพาะหวังหยุนและหวงเจิง ความกังวลในใจเขาได้หายไปหมดแล้ว และแทนที่ด้วยความตื่นเต้น พวกเขาตื่นเต้นมันรู้สึกเหมือนได้รับการกระตุ้นบางอย่าง พวกเขากำลังกระโดดเชียร์เหมือนกับว่าพวกเขาเป็นผู้เอาชนะหลี่หวู่หลิงได้มิใช่เจียงเฉิน


” คนอะไรกันนี่! เมื่อตอนพวกข้าระดับการบ่มเพาะขั้นเดียวกับเขา มันไม่มีทางที่พวกข้าจะสามารถไปเทียบกับเขาได้! ไม่แปลกใจเลยว่าเขาได้กล้าท้าหนานเป่ยเฉาในอีกหนึ่งปีนับจากนี้! “


ต้วนหลี่ตกตะลึงเช่นกัน เขาเตรียมตัวที่จะจู่โจมทันทีที่หลี่หวู่หลิงเกือบที่จะเอาชนะเจียงเฉินได้ นอกจากนั้นหากว่าเขาปล่อยให้ศิษย์จากนิกายกระบี่สวรรค์ได้มาสังหารอัจฉริยะอันดับหนึ่งจากการแข่งขันประจำแคว้นฉีในอาณาเขตของนิกายทมิฬล่ะก็ นั่นเหมือนการตบหน้านิกายทมิฬฉาดใหญ่


เขาไม่ได้คาดว่าเจียงเฉินแข็งแกร่งเพียงนี้ ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ทำให้หลี่หวู่หลิงบาดเจ็บสาหัสได้แล้ว


” ข้าไม่เชื่อ! ข้าไม่เชื่อ! เหตุใดแก่นแท้มนุษย์ถึงแกร่งเพียงนี้ได้?! ข้าต้องการสังหารเจ้า! เจียงเฉิน ข้าจะสังหารเจ้าแก้แค้นให้แก่น้องชายของข้า! “


ดวงตาทั้งคู่กลายเป็นสีแดง หลี่หวู่หลิงคำรามออกมาและเข้าสู่สภาวะบ้าคลั่ง ในมือของเขายุทธภัณฑ์ที่เคลือบด้วยพลังอสูรได้ปรากฎขึ้น


เมื่อเห็นเช่นนี้ เจียงเฉินส่ายหัว ความคิดของหลี่หวู่หลิงเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว เขาตอนนี้ใกล้เป็นคนจิตวิปลาสแล้ว


” เจ้าไม่มีโอกาสอีกแล้วล่ะ “


เจียงเฉินพูดอย่างไม่แยแส    ปีกโลหิตของเขาได้กระพือและดูเหมือนเหยี่ยวปีกโลหิต เขาบินตรงไปด้วยความเร็วดุจฟ้าผ่า และปรากฎขึ้นเหนือหัวของหลี่หวู่หลิง


เจียงเฉินได้กลายเป็นเหยี่ยวใช้เสียงกรีดร้องของเหยี่ยวไปยังหลี่หวู่หลิง


เสียงกรีดร้องของเหยี่ยวทำให้โลกตกตะลึง มันเป็นความสามารถเฉพาะตัว คลื่นเสียงกรีดร้องของเหยี่ยว หลังจากที่เจียงเฉินได้ทะลวงขั้นถัดไป พลังของทักษะเฉพาะตัวก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน


เพียงพริบตา ระลอกคลื่นเสียงได้กลายเป็นรูปใยแมงมุมขนาดยักษ์คลุมหลี่หวู่หลิงเอาไว้


ดั่งอสรพิษ คลื่นเสียงได้เจาะเข้าไปยังสมองของหลี่หวู่หลิง


พรวด!


หลี่หวู่หลิงกระอักเลือดออกมาแล้วเขาได้โอดครวญด้วยความเจ็บปวดอย่างมาก คลื่นเสียงของเจียงเฉินได้ทำลายสัมผัสเทวะของเขา 


” ตายซะ! “


ปีกโลหิตของเจียงเฉินได้กลายเป็นเคียวอันแหลมคมตัดผ่านไปยังหลี่หวู่หลิงดั่งฟ้าผ่า หัวของหลี่หวู่หลิงได้ถูกตัดออกได้ถูกตัดในทันทีและลอยไปไกล ตามด้วยเสาโลหิตที่พุ่งออกมาจากเลือดของหลี่หวู่หลิง เสียงโอดครวญที่น่ากลัวพลันเงียบลง

การเคลื่อนไหวของเจียงเฉินรวดเร็วอย่างมาก แม้ว่าหลี่หวู่หลิงจะนำยุทธภัณฑ์ออกมา ก่อนที่เขาจะมีเวลาได้ใช้มัน เขาได้บาดเจ็บอย่างร้ายแรงจากคลื่นเสียงกรีดร้องของเหยี่ยว และถูกสังหารที่นั่นเลย

ในช่วงเวลานั้น บรรดาศิษย์นอกทั้งหมดต่างเงียบกริบ ทุกคนแหงนหน้ามองชายหนุ่มชุดสีขาวมีปีกสีโลหิตอยู่บนหลัง ดวงตาของพวกเขาปรากฎถึงความตกตะลึง

นี่มันช่างน่ากลัวยิ่งนัก เขายังถือว่าเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่?

ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าหลี่หวู่หลิงจะตกตายอย่างสมบูรณ์รวดเร็วเช่นนี้  ชายคนนี้มาล้างแค้นให้แก่น้องชายตั้งแต่รุ่งเช้า และในไม่กี่นาทีต่อมาเขาได้ถูกเจียงเฉินสังหาร


ไม่มีผู้ใดสามารถที่จะใจเย็นได้ เหล่าศิษย์นอกที่ได้เห็นเจียงเฉินสังหารหลิงอ้าวและหลี่หวู่ซวงสามารถรับในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่เหล่าศิษย์ที่ได้เห็นการต่อสู้ของเจียงเฉินครั้งแรกต่างตื่นตระหนก ไม่เพียงแค่เจียงเฉินมีความสามารถที่ทรงพลังแล้ว เขายังจัดการโดยไร้ความปราณีอีกด้วย และเขาไม่แม้แต่กระพริบตาในเวลาที่สังหาร ผู้คนเหล่านี้ไม่กล้าสบตาโดยตรงกับเขา

 

**************************************************************************


จบแล้วจ้า 


ติดตามชมตอนต่อไป



ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments