I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 112 เข้าพบผู้นำนิกาย

| Dragon-Marked War God | 1496 | 2367 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทยโดย  Subaru-Kyun

 

ตรวจทาน        Subaru-Kyun

=======================================================

          ภายใต้แสงตะวันยามเช้าที่สาดส่องลงมา มันเป็นฉากที่น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง ศพของหลี่หวู่หลิงร่วงหล่นจากฟากฟ้าพร้อมกับเลือดสาดกระจายเป็นจำนวนมาก    หลี่หวู่หลิงที่เพิ่งจะทะลวงผ่านแก่นแท้สวรรค์พร้อมทั้งบ่มเพาะทักษะอสูร กับ เจียงเฉินที่มีตราประทับมังกรสี่สิบดวง เพียงเท่านี้ทั้งสองก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเสียด้วยซ้ำ แม้เจียงเฉินจะไม่ใช้ขวานอัสนีบาตเลยก็ตาม

” สุดยอด! “

ท่ามกลางผู้คน หวงเจิ้งตะโกนออกมาเสียงดัง

” ศิษย์พี่เจียงจงเจริญ! “

หวังหยุนตะโกนออกมาเสียงดัง ไม่เพียงแต่สองคนนี้เท่านั้น ในเวลานี้ เหล่าศิษย์ทุกคนที่ได้เป็นพยานที่เจียงเฉินได้สังหารหลี่หวู่หลิง ก็ไม่สามารถเก็บอาการตื่นเต้นไว้ได้ ศิษย์นอกจากนิกายทมิฬได้สังหารศิษย์ในของนิกายกระบี่สวรรค์ ช่างเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับนิกายทมิฬเสียเหลือเกิน

หลังจากที่กวนอี้หยุน ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของนิกายทมิฬได้พ่ายแพ้ให้กับหนานเป่ยเฉาเพียงกระบวนท่าเดียว ความมืดมิดก็ได้แผ่เข้าปกคลุมในจิตใจของศิษย์นิกายทมิฬทุกคน เมื่อพวกเขาได้พบเจอใครสักคนในนิกายอัคคีผลาญฟ้า พวกเขาจะรู้สึกต่ำต้อยกว่าพวกมัน

อย่างไรก็ตาม ศักยภาพที่เจียงเฉินได้แสดงออกมาในวันนี้ พวกเขาได้เห็นถึงแสงแห่งความหวังในอานาคตของนิกายทมิฬ ความมืดมิดได้ถูกลบเลือนออกไปจากจิตใจของพวกเขา นี่มันสุดยอดอัจฉริยะ แม้แต่หนานเป่ยเฉาก็ไม่สามารถสังหารยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ได้ขณะที่อยู่แก่นแท้มนุษย์

ดังนั้นแม้ว่าเจียงเฉินจะเป็นเพียงศิษย์นอก แต่เขาได้จุดประกายจิตวิญญาณของศิษย์นิกายทมิฬทุกคน และเขาก็ได้เป็นหนึ่งในตัวแทนของนิกายทมิฬ ภายในใจของศิษย์ทั้งหลาย ในที่สุดนิกายทมิฬก็พบคนที่สามารถสู้กับหนานเป่ยเฉาได้สักที

 

 

” อนาคตของชายคนนี้ไร้ขอบเขต ข้าไม่เคยพบเห็นใครเช่นเขามาก่อน “
 
 
ต้วนลี่บ่นพืมพำกับตัวเอง ในตอนนี้มีเพียงแต่คนบ้าเท่านั้นที่ไม่สามารถเห็นความสามารถอันยิ่งใหญ่ที่ซ่อนเร้นอยู่ในเจียงเฉิน
 
 
” เหล่าศิษย์ทั้งหลาย ข้าขอให้พวกเจ้าช่วยกระจายคำพูดเหล่านี้ออกไป! จากนี้ไปไม่ว่าศิษย์คนไหนของนิกายสวรรค์กล้ามายั่วโทสะข้า ข้าจะสังหารมันผู้นั้น! “
 
 
ขณะที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ เสียงของเจียงเฉินก็ส่งผ่านไปยังศิษย์นิกายทมิฬได้อย่างชัดเจน จากนั้นเจียงเฉินกระพือปีกสีเลือดของเขาบินกลับไปในนิกายทมิฬ หายไปต่อหน้าพวกเขาทั้งหมด
 
 
สังหารใครก็ตามที่มายั่วโทสะเขา นี่มันกดขี่กันชัดๆ โอหังเกินไปแล้ว! แต่ไม่มีใครสักคนในแคว้นฉี กล้าพูดเช่นนี้กับเขา ตั้งตนเป็นศัตรูกับทั้งนิกาย คำสั่งเช่นนี้มีเพียงเจียงเฉินเท่านั้นที่กล้าทำเช่นนี้
 
 
” ช่างสง่างามอะไรเช่นนี้! เขาสุดยอดมาก! จากนี้ไปศิษย์พี่เจียงจะเป็นแบบอย่างของข้า!
 
 
” ก่อนหน้านี้ข้ามีเพียงศิษย์พี่ฮันหยานเป็นแบบอย่างเท่านั้น แต่จากนี้ไปข้าได้แบบอย่างเพิ่มอีกคน! ในอนาคต ทั้งสองจะเป็นเป้าหมายของข้า “
 
 
” พวกเรา รีบไปกระจายคำพูดของศิษย์พี่เจียงเร็วเข้า! ให้พวกนิกายกระบี่สวรรค์ได้รู้ว่าอย่ามาทำให้นิกายทมิฬของเราโกรธ “
 
 
…………………………….
 
 
          ภายใต้การนำของหวังหยุนและหวงเจิ้ง บรรยากาศของเหล่าศิษย์นิกายทมิฬได้ร้อนระอุยิ้งขึ้น แม้เจียงเฉินจะมีท่าทีโอหังและเผด็จการเพียงใดแต่ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกรังเกียจแม้แต่น้อย ความจริงมันได้ทำให้เขาได้กลายเป็นแบบอย่างของใครหลายคน
 
 
” ศิษย์พี่ต้วน ความแข็งแกร่งของศิษย์น้องเจียงเฉินเหลือเชื่อยิ่งนัก เขาสังหารหลี่หวู่หลิงได้อย่างไรก็ตามในความคิดของข้า หลี่หวู่หลิงเพิ่งจะทะลวงผ่านอาณาจักรแก่นแท้สวรรค์มาได้ และพลังของมันยังไม่เสถียรดี ดังนั้นเขาจึงไม่อาจเทียบได้กับยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ที่แท้จริง หากพวกเราสู้กับเจียงเฉิน ท่านคิดว่าเราจะชนะหรือไม่? “
 
 
หนึ่งในศิษย์แก่นแท้สวรรค์ขั้นต้นมาหาต้วนลี่แล้ว จึงถามออกมา
 
 
ต้วนลี่จ้องไปยังศิษย์คนนั้นแล้วพูดว่า ” หากสู้กับเจียงเฉิน ข้าไม่อาจบอกได้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ แต่ทางที่ดีอย่าได้ไปยั่วโทสะเขา ชายคนนี้ไม่ธรรมดา “
 
 
ต้วนลี่เตือนเขา จากนั้นเขาก็บินกลับไปยังนิกายทมิฬ ศิษย์แก่นแท้สวรรค์อีกสองคนต่างมองกันและกันจากนั้นก็บินกลับไปนิกายทมิฬ
 
 
” หวงเจิ้ง เจ้าบอกใครสักคนให้จัดการเผาศพหลี่หวู่หลิง ส่วนที่เหลือแล้วแต่เจ้า จะทำอะไรก็ทำ “
 
 
หวังหยุนบอกหวงเจิ้ง จากนั้นเขาก็โบกมือของเขาให้กับคนที่ยังคงรวมอตัวอยู่ที่นี่ สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ก็ได้มาถึงจุดสิ้นสุดลง
 
 
การแข่งขันประจำแคว้นฉีได้สร้างชื่อเสียงให้เจียงเฉิน และการต่อสู้ในวันนี้เจียงเฉินแสดงให้ศัตรูของเขาได้เห็นถึงอำนาจของนิกายทมิฬ เหล่าผู้คนที่ได้เป็นสักขีพยานในการต่อสู้ครั้งนี้ส่งผลกระทบได้ดียิ่งกว่าได้ยินจากผู้อื่นเสียอีก หลังจากวันนี้ที่สังหารหลี่หวู่หลิง สถานะของเจียงเฉินในนิกายทมิฬก็ไม่อาจมีผู้สั่นคลอนมันได้อีก
 
 
หลังจากสังหารหลี่หวู่หลิงแล้ว เจียงเฉินได้มุ่งตรงกับไปยังที่พักของเขา เขาได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของหุบเขา ลมโชยพัดผ่านเสื้อสีขาวของเขา เขาอยู่ในท่าทีสงบเยือกเย็นทั้งๆที่เขาเพิ่งจะสังหารคนมาหมาดๆ เจียงเฉินรู้เส้นทางที่เขาจะเดินต่อไปและในอนาคตต้องมีคนอีกมากมายที่เขาต้องสังหาร
 
 
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ได้มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวข้างเจียงเฉิน เขาคือกวนอี้หยุน
 
 
” ศิษย์น้องเจียง ดูจากคลื่นพลังงานของเจ้า เจ้าคงทะลวงแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางแล้วสิ! ข้าเพิ่งได้ยินมาว่าเจ้าได้สังหาร หลี่หวู่หลิง ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์มาได้! เจ้าช่างวิเศษยิ่งนัก เจ้าได้กลายเป็นแบบอย่างให้ศิษย์ทั้งหลายอย่างรวดเร็ว “
 
 
ข่าวการต่อสู้ของเจียงเฉินกับหลี่หวู่หลิง ได้กระจายไปทั่วทั้งนิกายทมิฬ แม้แต่ศิษย์ในที่ไม่สนใจเรื่องภายนอกยังได้รับทราบข่าวนี้
 
 
” ศิษย์พี่กวน ไม่ใช่ว่าท่านกำลังอยู่ระหว่างเก็บตัวเพื่อทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์มิใช่หรือ? ทำไมท่านถึงได้หยุดการบ่มเพาะไวยิ่งนัก? “
 
 
เจียงเฉินถึงกับตกใจ เขาได้ตรวจสอบกวนอี้หยุนแต่ก็พบว่าเขายังคงอยู่อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ขั้นสูงสุด แสดงว่าการเก็บตัวบ่มเพาะพลังของเขาคงจะไม่สำเร็จ
 
 
” การทะลวงผ่านแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นนั้น ข้าได้คิดอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าการเก็บตัวบ่มเพาะพลังเพียงลำพังไม่อาจช่วยข้าได้ ในการที่จะทะลวงผ่านไปได้ ข้าจำเป็นต้องอาศัยโอกาสและจังหวะที่เหมาะสม ข้าจะออกเดินทางไปจากนิกายทมิฬในวันรุ่งขึ้นเพื่อหาโอกาสที่จะทะลวงผ่านไปให้จนได้ “
 
 
กวนอี้หยุน กล่าวด้วยรอยยิ้ม
 
 
” ศิษย์พี่กวนมีแผนเช่นไรหรือ? “
 
 
เจียงเฉินถามด้วยความอยากรู้
 
 
ท่าทีที่สง่างามพลันปรากฏที่ใบหน้าของกวนอี้หยุน เขาพูดว่า ” ข้าจะไปยังนรกอเวจี “
 
 
” นรกอเวจี? มันเป็นสถานที่เช่นไรกัน? “
 
 
เจียงเฉิน ถามด้วยท่าทีงุนงง
 
 
นี่ไม่อาจตำหนิเจียงเฉินได้ เนื่องจากเขาไม่คุ้นเคยกับแคว้นฉี มันก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับนรกอเวจี หากมีใครสักคนได้ยินชื่อนี้ เพียงแค่ชื่อเท่านั้นก็เพียงพอแล้วที่จะให้พวกเขาหน้าซีดราวกับกระดาษ
 
 
” ศิษย์น้องเจียงคงไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับนรกอเวจีมาก่อน เช่นนั้นข้าจะบอกแก่เจ้าเอง ในความจริงข้าก็รู้เกี่ยวกับมันมาบ้าง แต่ไม่เคยที่จะเข้าไปมาก่อน ทั่วทั้งแคว้นฉียังไม่มีใครที่จะกล้าเข้าไป “
 
 
ด้วยท่าทีที่เข้มงวดของกวนอี้หยุนแสดงให้เห็นว่าเขากลัวขุมนรกนั่น ” นรกอเวจีนั้นตั้งอยู่ในสถานที่พิเศษในเขตทวีปตะวันออก มีจุดหนึ่งเชื่อมต่อเข้ากับทั้งยี่สิบแปดแคว้นในทวีปตะวันออก โดยนิกายใหญ่ทั้งหมดของทุกแคว้น ต่างมีประตูโบราณที่สามารถส่งคนเข้าสู่นรกอเวจีได้ แต่อย่างไรก็ตาม หาได้ยากที่จะมีใครจงใจเข้าไปฝึกตนในนรกอเวจี นรกอเวจีใกล้เคียงกับความตายสมชื่อของมัน มีข่าวลือมาว่าที่นั่นสภาพแวดล้อมย่ำแย่อย่างมาก มีกลิ่นเน่าเหม็นและเต็มไปด้วยเหล่าปีศาจในดินแดนเหล่านั้น ความจริงที่แห่งนี้เป็นดินแดนที่ไร้ซึ่งความหวัง ด้วยการบ่มเพาะของข้าในตอนนี้ เมื่อได้เข้าสู่นรกอเวจีก็แทบจะตายในทันที ไม่เพียงแต่ข้าเท่านั้น ยังหมายถึงความตายของเหล่ายอดฝีมือแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย “
 
 
นรกอเวจีแห่งนี้ เป็นสถานที่พิเศษในทวีปตะวันออก และยังเป็นสถานที่ฝึกฝนสำหรับหนึ่งร้อยนิกายและตระกูลทั้งหมดในยี่สิบแปดแคว้นทวีปตะวันออก อย่างไรก็ตาม มันเหมือนกับชื่อนรกอเวจี นั้นเป็นนรกที่แท้จริงสำหรับผู้ฝึกตน
 
 
ไม่มีศิษย์ทั่วไปคนไหนจะก้าวเท้าเข้าไปยังนรกอเวจีโดยไร้เหตุผล พวกที่เข้าไปทั้งหมดมีแต่พวกบ้าระห่ำ ในนิกายใหญ่บางนิกาย ศิษย์ที่ทำความผิดใหญ่หลวงจะถูกส่งไปยังนรกอเวจี นี่เป็นการลงทัณฑ์ที่โหดเหี้ยมที่สุด
 
 
อย่างไรก็ตามเหล่าผู้คนที่สามารถออกมาจากนรกอเวจีได้ ทั้งหมดคือเหล่าผู้ที่ก้าวผ่านบททดสอบของชีวิตและความตายมาได้ อนาคตของพวกเขาต้องประสบความสำเร็จอย่างไร้ที่สิ้นสุดเป็นแน่
 
 
” ข้าไม่คาดคิดมาก่อนว่ามีที่พิเศษเช่นนี้อยู่ในทวีปตะวันออกด้วย “
 
 
เจียงเฉินพืมพำกับตัวเอง นรกอเวจีเป็นสถานที่คนทั่วไปไม่ควรไป แต่กวนอี้หยุนมีความกล้าที่จะเผชิญกับมัน ด้วยความกล้าหาญนี้ เขาได้ทำให้เจียงเฉินนับถือ
 
 
” ศิษย์พี่กวน นรกอเวจีเป็นสถานที่อันตรายอย่างมาก ท่านจะไม่ลองคิดดูอีกครั้งก่อน ที่จะเข้าไป”
 
 
เจียงเฉิน กล่าวเตือน
 
 
“ฮ่าฮ่า ศิษย์น้องเจียง เจ้าก็รู้ว่าโอกาสกับอันตรายมันเป็นของคู่กัน แน่นอนว่านรกอเวจีเป็นสถานที่อันตราย แต่มันก็มีโอกาสมากมายเช่นกัน ข้ากวนอี้หยุน ไม่อยากเป็นคนทั่วไปที่ไม่ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ การเดินทางไปยังนรกอเวจีครั้งนี้ช่างหัวมันปะไร หากข้าตายหรือกลับมาโดยยังมีชีวิตรอด ข้าไม่เสียใจซักนิด”
 
 
กวนอี้หยุน กล่าวด้วยรอยยิ้ม
 
 
เจียงเฉินผงกศีรษะของเขาอย่างเงียบๆ ในระหว่างการแข่งขันประจำแคว้นฉี เขาก็ได้พบกับกวนอี้หยุน เขาเป็นคนหัวแข็งไม่ยอมใครและยังมีชายที่มีเสน่ห์ การตัดสินใจที่จะเข้าไปยังนรกอเวจีไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถทำได้
 
 
” ท่านพูดถูก เกิดเป็นชายชาตรีควรมีความฝันที่ยิ่งใหญ่! ชีวิตธรรมดาช่างน่าเบื่อหน่าย! ไม่ต้องพูดถึงชีวิตที่ยืนยาว พวกเราต้องการชีวิตที่มีเกียรติ! แม้ว่าชีวิตของเราจะเหมือนกับดาวตกที่ส่องประกายแสงสว่างเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่เราก็ได้มีชีวิตที่แสนวิเศษในโลกใบนี้ ! “
 
 
เจียงเฉินสนับสนุนการตัดสินใจของกวนอี้หยุน เพราะว่าเขาก็สนใจในนรกอเวจีเช่นกัน แต่อย่างไรการบ่มเพาะพลังของเขาตอนนี้ยังอ่อนแอยิ่งนัก ในอนาคตหากเขามีโอกาสเขาจะต้องเข้าไปยังนรกอเวจีแน่นอน
 
 
” ฮ่าฮ่า จิตวิญญาณเจ้านั้นยอดเยี่ยมนักศิษย์น้องเจียง ความสามารถและศักยภาพของเจ้า ไม่ด้อยไปกว่าหนานเป่ยเฉา ข้ามั่นใจในการต่อสู้ของเจ้าในอีกหนึ่งปีจากนี้!”
กวนอี้หยุนวางมือบนไหล่ของเจียงเฉิน จากนั้นเขาก็พูด “อ้อ จริงสิ ข้ามาที่นี่เพื่ออะไรบางอย่าง “
 
 
” อะไรหรือ ศิษย์พี่กวน? “
 
 
เจียงเฉินตื่นตกใจ
 
 
” ท่านผู้นำนิกายต้องการพบเจ้า ข้าเลยมาที่นี่เพื่อพาเจ้าไปหาเขา “
 
 
กวนอี้หยุน กล่าว
 
 
” ท่านผู้นำนิกาย? “
 
 
เจียงเฉินตกใจอีกครั้ง เขาเป็นเพียงศิษย์ตัวเล็กๆจากส่วนนอก ท่านผู้นำนิกายไม่ควรที่จะสนใจเขา
 
 
” ศิษย์น้องเจียง นี่เป็นข่าวดีและมีเกียรติอย่างมาก เจ้าควรรู้ว่า ท่านผู้นำนิกายเป็นชายผู้อยู่จุดสูงสุดของนิกายเรา คนเช่นเขาโดยปกติศิษย์นอกไม่อาจได้พบ แต่เจ้าต่างออกไป! เจ้าเป็นถึงผู้ชนะเลิศการแข่งขันประจำแคว้นฉี และเจ้ายังจะต้องสู้กับหนานเป่ยเฉาในปีถัดไปอีกด้วย เจ้าได้รับการยอมรับของท่านผู้นำนิกาย! วันนี้เจ้ายังได้สังหารหลี่หวู่หลิงที่อยู่อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ด้วยความสามารถของแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางเท่านั้น! ด้วยความสำเร็จทั้งหมดนี้ แน่นอนว่านิกายทมิฬต้องสนับสนุนทรัพยากรบ่มเพาะพลังให้เจ้ามากมายแน่ “
 
 
กวนอี้หยุน อธิบายให้เจียงเฉินฟัง
 
 
เจียงเฉินผงกหัวของเขา สิ่งที่กวนอี้หยุนพูดมา ดูเหมือนว่าการต่อสู้ของเขาในวันนี้จะดึงดูดความสนใจของท่านผู้นำนิกายมาได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไปพบท่านเป็นการส่วนตัว    อัจฉริยะไร้ที่เปรียบเมื่อได้รับการสนับสนุนอย่างดีเยี่ยม เขาจะต้องเป็นความหวังของนิกายเป็นแน่
 
 
” ตกลง ข้าจะตามท่านไปทักทายท่านผู้นำนิกาย “
 
 
ตั้งแต่ที่เขาได้เข้ามาอยู่ในนิกายทมิฬ เขาจำเป็นก้าวไปพร้อมกัน การพบกับผู้นำนิกายที่นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้นำ ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรนัก
 
 
” ไปกันเถอะ หลังจากส่งเจ้าแล้ว ข้าจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางไปยังนรกอเวจี มันอาจจะเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายของเราก็เป็นได้ “
 
 
รอยยิ้มได้ปรากฏบนใบหน้าของกวนอี้หยุน
 
 
” ท่านไม่ต้องกังวลไป พวกเราต้องได้พบกันอีกแน่ “
 
 
เจียงเฉิน ตอบ
 
=======================================================
 

จบแล้วจ้าโปรดติดตามตอนต่อไป :p

 

 
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments