I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 134 สิ่งมีชีวิตที่ฟุ่มเฟือย

| Dragon-Marked War God | 1312 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทยโดย  Takumi Kun

 

ตรวจทาน        Takumi Kun

 

**************************************************************************

ณ ยอดเขาของกั๋วฉาน มีทัศนียภาพงดงาม อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของสมุนไพรนานาพันธุ์ ทำให้ผู้ที่ได้กลิ่นรู้สึกผ่อนคลายและจิตใจปลอดโปร่ง การทำการบ่มเพาะที่นี่เพียงแค่วันเดียวส่งผลดีมากกว่าการบ้มเพาะที่ภายนอกนับสิบวัน

 

โต๊ะที่สร้างมาจากคริสตัลทั้งตัวได้ตั้งอยู่ข้างๆแปลงปลูกสมุนไพร คนสามคนและหมาหนึ่งตัว นั่งอยู่คนละด้าน ดวงตาของหวงต้าเบิกกว้างขณะที่มันมองไปยังแปลงปลูกสมุนไพรที่อยู่ตรงหน้ามัน มันน้ำลายไหลไม่หยุดหกเลอะเต็มโต๊ะ เจียงเฉินเอามือเคาะไปที่หน้าผากมันพร้อมส่ายหัว เจ้าหมานี่สร้างความขายหน้าให้เขาจริงๆ

 

หากไม่ใช่เพราะว่าหวงต้าหวาดกลัวแรงกดดันของกั๋วฉานระดับแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ล่ะก็ มันคงกระโจนลงไปยังแปลงสมุนไพรและกลายเป็นอาหารอันโอชะของมันไปแล้ว

 

” น้องเจียง ให้ข้าเดาเด็กสาวผู้นี้คือหยานเฉินหยู่สินะ? “

 

กั๋วฉานมองไปยังหยานเฉินหยู่ แม้แต่คนเช่นเขาช่วยไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้ นางช่างงดงามจนน่าทึ่ง และเป็นเด็กสาวที่เหมาะสมกับอัจฉริยะที่ไร้ผู้เปรียบเฉกเช่นเจียงเฉิน

 

” ใช่แล้ว นี่คือคู่หมั้นของข้า หยานเฉินหยู่ เอ้า!หยู่น้อย ทักทายท่านผู้อาวุโสกั๋วฉานหน่อยสิ “

 

เจียงเฉินกล่าว

 

รอยยิ้มสดใสปรากฎขึ้นที่ใบหน้าของนาง นางผงกหัวต่อกั๋วฉานและทักทาย

” หยู่น้อยน้อมทักทายท่านผู้อาวุโสกั๋ว “

 

” มิจำเป็นต้องสุภาพหรอก หยู่น้อย   ในเมื่อเจ้าเป็นคู่หมั้นของน้องเจียง เจ้าสามารถเรียกข้าว่าพี่ชายเหมือนกับที่เจียงเฉินเรียกก็ได้ “

 

กั๋วฉานระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เขาเป็นคนสดใสและตรงไปตรงมาคล้ายกับเจียงเฉิน นั่นเป็นเหตุผลที่เขาและเจียงเฉินได้กลายเป็นสหายกันโดยไม่คำนึงถึงความต่างของอายุ หากไม่เป็นเพราะทักษะปรุงยาของเจียงเฉิน ความสัมพันธ์คงไม่ดีเช่นนี้แน่

 

” ขอบคุณพี่ชายสำหรับการช่วยเหลือ ข้า เจียงเฉินซาบซึ้งใจยิ่งนัก “

 

เจียงเฉินประสานมือต่อกั๋วฉาน สิ่งที่เขาพูดออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ หากกั๋วฉานไม่มาช่วยเหลือในวันนี้ เรื่องราวอาจเลวร้ายได้    ไม่ต้องเอ่ยถึงเฟินจงถัง ด้วยความสามารถในตอนนี้ของเขาเขายังไม่สามารถที่จะสู้กับเฟินคุนได้

 

” อย่าได้ใส่ใจเลย พวกเราเป็นพี่น้องกัน และเมื่อน้องชายข้ากำลังมีปัญหา   ในฐานะพี่ชาย ข้าไม่อาจที่จะนิ่งเฉยได้ “

 

กั๋วฉานโบกมือและขอให้เจียงเฉินไม่ต้องสุภาพนักตอนนั้นเขาพูด ” ไม่ว่าอะไรก็ตาม ทุกอย่างเป็นเพราะท่านผู้นำนิกาย เรื่องนี้จึงได้รับการแก้ไขได้อย่างง่ายดาย แต่ข้าเข้าใจเหตุที่เขาทำเช่นนั้น อัจฉริยะไร้ที่เปรียบเช่นเจ้าไม่เคยปรากฎขึ้นมาในประวัติศาตร์ของนิกายทมิฬ   นิกายอัคคีผลาญฟ้ามีหนานเป่ยเฉา ความแข็งแกร่งของเขาได้เป็นที่ประจักษ์ว่าสามารถสั่นสะเทือนปฐพีแคว้นฉีได้ และในอีกไม่กี่ปีเขาก็จะเป็นบุุคคลที่แข็งแกร่งสุดยอด สมดุลระหว่างนิกายใหญ่ทั้งสี่ก็จะพังทลาย นิกายใหญ่ทั้งสามจำต้องเผชิญกับภัยคุกคามของนิกายอัคคีผลาญฟ้า และพวกเขาอาจถูกทำลายสิ้น ตอนนี้เจ้าได้แสดงศักยภาพที่ไม่ด้อยกว่าหนานเป่ยเฉา หากว่ากันตามตรงเจ้าเป็นความหวังอนาคตของนิกายทมิฬ หากว่าข้าเป็นผู้นำนิกายเอง ข้าก็จะยืนข้างเจ้าและปกป้องเจ้าเช่นกัน “

 

แม้ว่ากั๋วฉานจะไม่สนใจเรื่องต่างๆของนิกายทมิฬ เขาได้สนใจเรื่องใหญ่ภายในแคว้นฉี เป็นระยะเวลานานที่นิกายใหญ่ทั้งสี่ของแคว้นฉีมีความขัดแย้งกันบ่อยครั้ง แต่พวกเขาต่างถ่วงดุลซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตามการปรากฎตัวของหนานเป่ยเฉาได้บอกทุกๆคนว่าสมดุลเหล่านั้นกำลังจะพังทลายลงไป ดังนั้นสำหรับนิกายทมิฬ การปรากฎตัวของเจียงเฉินนั้นเป็นจุดเปลี่ยน

 

” หนานเป่ยเฉาพรสวรรค์ของเขาเป็นของจริงและเป็นคนที่แข็งแกร่ง เขาถูกลิขิตให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ และเขามีศักยภาพมากพอที่จะครองโลกได้ เขาไม่ใช่คนทั่วๆไป หากชายเช่นเขายังคงเติบโตต่อไป แคว้นเล็กๆเช่นแคว้นฉีไม่ดีพอที่จะเป็นสนามเล่นของเขา “

 

เจียงเฉินผงกหัวเห็นด้วย เขาสามารถตัดสินได้ดีกว่ากั๋วฉาน ครั้งแรกที่พบหนานเป่ยเฉา เขารู้ว่าหนานเป่ยเฉามิใช่อัจฉริยะทั่วๆไป หนานเป่ยเฉาถูกเกิดมาพร้อมโชคชะตาที่ยิ่งใหญ่ รวมกับพรสวรรค์ที่น่าเหลือเชื่อ เขาอาจจะเทียบได้กับเหล่าอัจฉริยะต้องห้ามของทวีปศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้หนานเป่ยเฉาเป็นผู้ที่ทะเยอทะยาน คนเช่นนั้นไม่เพียงแค่แคว้นฉี แม้แต่ทวีปตะวันออกไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้นาน

 

” ข้าไม่รู้เลยว่าความคิดเห็นที่มีต่อหนานเป่ยเฉาจะดีเช่นนี้ “

 

กั๋วฉานแปลกใจในความคิดเห็นของเจียงเฉินเล็กน้อย แม้ว่าเจียงเฉินจะรู้จักอีกฝ่ายในระยะเวลาสั้นๆ เขารู้จักนิสัยของเจียงเฉินพอสมควร อัจฉริยะทั้งหมดล้วนมีความภาคภูมิใจของตนเองและความภาคภูมิใจของอัจฉริยะอย่างเจียงเฉินจักต้องยิ่งกว่าผู้อื่นใด ตอนนี้แม้ว่าเจียงเฉินจะประเมินหนานเป่ยเฉาไว้สูง แต่นี่บอกกั๋วฉานได้ว่าหนานเป่ยเฉาไม่ใช่คนทั่วๆไป

 

ด้วยรอยยิ้มบนหน้าเขา เจียงเฉินหยุดให้ความคิดเห็น หนานเป่ยเฉาเป็นของจริง เจียงเฉินไม่ได้กลัวเขา เมื่อหนานเป่ยเฉาเลือกที่จะเป็นศัตรูกับเจียงเฉิน โชคชะตาของเขาจะเปลี่ยนไปและเขาจะได้รับจุดจบอย่างอนาถ

 

” น้องชาย เจ้าได้ก่อเรื่องไว้มากในวันนี้ เจ้าได้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีเรื่องการปฎิบัติตามกฎ แม้ว่าท่านผู้นำนิกายจะอยู่ข้างเจ้าก็ตาม ข้าเกรงว่าเจ้าจะถูกผู้อาวุโสระดับสูงคนอื่นๆต่อว่าได้ “

 

กั๋วฉานกล่าว

 

” พี่ใหญ่รู้หรือไม่ว่าเหตุใดที่ข้าก่อความวุ่นวายในวันนี้? “

 

เจียงเฉินแสยะยิ้ม

 

” ข้าไม่รู้ มันเป็นเพราะเหตุใดรึ? “

 

เมื่อได้ยินสิ่งที่เจียงเฉินกล่าว กั๋วฉานก็ตกใจ มันดูเหมือนว่าจะมีสาเหตุที่แท้จริงเบื้องหลังทุกสิ่งที่เขาไม่รู้ สิ่งที่เจียงเฉินทำในวันนี้แน่นอนว่ามันไม่ใช่การทวงความยุติธรรมให้แก่ศิษย์ที่ติดตามเขา

 

” เมื่อไม่กี่วันก่อน ข้าได้เดินทางไปยังเขาหมื่นอสูรและได้ผจญภัย มีบางคนพยายามที่จะล่าสังหารข้าที่เขตที่สอง และหนึ่งในผู้ที่ต้องการสังหารข้าคือเจียงเหว่ยที่ข้าสังหารเขาในการประลองเป็นตาย สาเหตุที่ข้าได้ก่อความวุ่นวายขึ้นมาเพื่อหาคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ “

 

เจียงเฉินไม่ได้ปิดบังใดๆกับกั๋วฉาน นอกจากนี้การที่บอกเขาไม่ใช่สิ่งเลวร้ายนัก

 

” อะไรนะ? มีใครบางคนพยายามไล่สังหารเจ้า? พวกเจ้าทั้งสองมีความแค้นใดๆต่อกันงั้นรึ? “

 

กั๋วฉานตกตะลึง เขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

 

” ข้าไม่เคยพบเขามาก่อน  แล้วข้าจะไปมีความแค้นอันใดกับเขาได้ล่ะ? เมื่อเจียงเหว่ยไล่ล่าข้าในคืนนั้น เขาได้บอกว่าข้าได้ล่วงเกินคนผู้หนึ่งที่ไม่สมควรจะยุ่ง และได้ท้าทายผู้ทรงอำนาจซึ่งข้าไม่ได้ทำ ตอนนั้นเองเฟินคุนได้ออกมาหลังจากที่เรื่องเกิดความโกลาหลขึ้น และท่านก็เห็นถึงความแน่วแน่ที่จะสังหารข้า ข้าคาดเดาว่าเจียงเหว่ยถูกเฟินคุนส่งมาเพื่อล่าสังหารข้า เพราะว่าเมื่อตอนที่เจียงเหว่ยโดนเข็มพิษ เขาได้ขอให้เฟินคุนช่วยเหลือเขา ชัดเจนว่าเขาคิดว่าเฟินคุนมียาถอนพิษ “

 

เจียงเฉินอธิบายทุกอย่างแก่กั๋วฉาน เขาหลักแหลมอย่างมากและมีความคิดชัดเจน แม้มีแต่หลักฐานชิ้นเล็กที่สุด เขาสามารถหาได้ถึงผู้บงการเบื้องหลัง

 

” จากที่เจ้าวิเคราะห์มานั้น เฟินคุนที่พยายามจะสังหารเจ้าแต่ไม่มีสาเหตุ เจ้าเพิ่งเข้านิกายทมิฬมาได้เพียงไม่กี่วัน และเจ้าไม่เคยล่วงเกินเฟินคุน…..ไม่มีทางที่เจ้าจะท้าทายผู้มีอำนาจได้เลย “

 

กั๋วฉานขมวดคิ้ว

 

” ขอข้าคาดเดานะ เฟินคุนได้ทำงานให้กับหนานเป่ยเฉา และแม้แต่เฟินจงถังเองก็ทำงานให้เขาเช่นกัน “

 

เจียงเฉินตาเป็นประกาย

 

” อะไรนะ? น้องชาย อย่าคาดเดามั่วๆสิ เฟินจงถังเป็นคนเก่าคนแก่ของนิกายทมิฬ เป็นผู้อาวุโสระดับสูง เป็นยอดฝีมือแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง และเขาให้คำมั่นว่าจะภักดีต่อนิกายทมิฬอีกด้วย “

 

 กั๋วฉานตะโกนออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ

 

” อย่าได้ตื่นตูมเกินไปนักพี่ชาย   ข้าเพียงแค่คาดเดาเท่านั้น  ในความจริงแล้วข้าอยู่ที่นิกายทมิฬได้เพียงแค่ไม่กี่วัน และหนานเป่ยเฉาเป็นผู้เดียวที่ข้าได้ล่วงเกินตั้งแต่ที่ข้ามายังแคว้นฉี นั่นคือเหตุที่ข้าคาดเดา หากไม่เป็นเช่นนั้น ข้าก็คิดไม่ออกจริงๆว่าเหตุใดที่เฟินคุนต้องการที่จะสังหารข้า “

 

เจียงเฉินกล่าว

 

” นี่มัน …ข้าไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ “

 

กั๋วฉานยังขมวดคิ้ว แม้ว่าหนานเป่ยเฉาจะมีความสามารถที่โดดเด่น เขาไม่คิดว่ามันจะยื่นมือเข้ามายังนิกายทมิฬ

 

” นี่คือเรื่องทั้งหมดสำหรับวันนี้พี่ชาย เจียงเหว่ยได้ถูกข้าสังหารไปแล้ว สำหรับเฟินคุน มันไม่ง่ายที่เขาจะสังหารข้า โอ้ใช่แล้ว เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับไวน์ชั้นเลิศของพี่ชายเมื่อครั้งที่แล้ว ข้าได้นำไวน์ดีๆมาด้วยเพื่อพี่ชายเลยนะ “

 

เจียงเฉินพูด

 

” ฮ่าฮ่า น้องชายข้าไม่ได้โม้ แต่ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะนำไวน์ขวดใดที่ดีกว่าของข้าได้ “

 

กั๋วฉานระเบิดหัวเราะออกมา เขามั่นใจในทักษะการบ่มไวน์สมุนไพรของตนอย่างมาก

 

เจียงเฉินไม่ได้พูดสิ่งใด เขาได้โบกมือและแก้วไวน์ทั้งสี่ได้ปรากฎขึ้นมาบนโต๊ะด้านหน้าทุกคน ราวกับว่าหวงต้ารู้ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้น มันถอนสายตาจากแปลงสมุนไพรและแสดงท่าทางตื่นเต้น

 

เจียงเฉินพลิกฝ่ามือ ตอนนั้นเองกระชังสีมรกตได้ปรากฎขึ้นที่มือของเขา เขาชี้ไปที่กระชังสีมรกตด้วยนิ้วเดียว และทันใดนั้นเอง ของเหลวใสๆสี่สายได้พุ่งออกมาจากกระชังมรกตและพุ่งไปยังแก้วไวน์ทั้งสี่

 

กั๋วฉานมีสีหน้าไม่แยแส แต่เมื่อเขาได้กลิ่นอันรุนแรงที่ออกมาจากแก้วมรกต ความมั่นใจในตัวเองบนใบหน้าของเขาได้หายไปทันที

 

กั๋วฉานรีบมองไปยังแก้วไวน์ เขาสามารถที่จะเห็นว่ามันเต็มไปด้วยของเหลวสีขาว มันยังเปล่งหมอกพลังออกมา เมื่อเขาหายใจเข้าลึกและสูดอากาศที่เต็มไปด้วยหมอกพลัง ทันใดนั้นทำให้เลือดของเขาเดือดพล่าน ราวกับว่ามันได้เพิ่มพลังหยวนของเขา

 

” นี่มัน? วารีกำเนิดพลัง? “

 

ท่าทางของกั๋วฉานเปลี่ยนไปอย่างมาก แก้วของเหลวที่อยู่ตรงหน้าของเขาบรรจุวารีกำเนิดพลังที่หายากและล้ำค่า! วารีกำเนิดพลังจำนวนมากเช่นนี้จักต้องมีมูลค่ามากมายเป็นแน่ และหากนำไปใช้ในการปรุงยา มันจะช่วยเรื่องคุณภาพของยาชั้นเลิศได้

 

” ฉลองกัน พี่ชาย “

 

เจียงเฉินยกแก้วไวน์ขึ้น และดื่มอวยพรแก่กั๋วฉาน หวงต้าดื่มในส่วนของมันหมดแล้ว และมันได้จ้องไปยังกระชังมรกตที่เจียงเฉินถืออย่างน้ำตาจะไหล นอกจากนั้นเจียงเฉินดื่มวารีกำเนิดพลังเพียงแค่หนึ่งอึก

 

เมื่อมองทั้งสองดื่มวารีกำเนิดพลัง กั๋วฉานรู้สึกเหมือนจะกระอักเลือดออกมา คนอะไรกัน นี่มันวารีกำเนิดพลังเชียวนะ แต่เจ้าดื่มมันเหมือนไวน์? มันไม่สามารถที่จะอธิบายถึงความเสียของได้ พวกเขานี่มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฟุ่มเฟือยอย่างแท้จริง!

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้กั๋วฉานรู้สึกแย่ลงก็คือ หลังจากที่เจียงเฉินและหวงต้าได้ดื่มแก้วแรกไปพวกเขาได้ดื่มเพิ่มอีกสองแก้วเต็ม พวกเขาดื่มวารีกำเนิดพลังอย่างกับว่ามันเป็นนมอย่างนั้น! นอกจากนี้การที่มองหมาดื่มวารีกำเนิดพลังอย่างนี้มันทำให้เขารู้สึกเหมือนโลกกำลังจะบ้าคลั่ง

 

หากว่ากั๋วฉานรู้ว่าทั้งสองได้ดื่มวารีกำเนิดพลังไปกว่าครึ่งบ่อในถ้ำ เขาคงกระอักเลือดตายที่นี่เป็นแน่

 

” หืม? เหตุใดท่านถึงไม่มาดื่มล่ะ พี่ชาย? ท่านไม่ชอบไวน์ที่น้องชายท่านนำมาหรอกหรือ? ไม่เป็นไร หากว่าท่านไม่ชอบ ข้าจะนำไปให้หวงต้าล่ะ “

 

เจียงเฉินพูดขณะที่ส่ายหัว หวงต้าไม่รู้จักยางอาย มันได้ยืดมือออกมาหมายจะคว้าไปยังแก้วไวน์ของกั๋วฉาน 

 

หมับ!

 

การตอบสนองของกั๋วฉานรวดเร็วมาก เหมือนความเร็วแสงเขาได้หยิบแก้วไวน์แล้วดื่มวารีกำเนิดพลังทั้งหมดในทันที เขาไม่สามารถที่จะต่อต้านได้อีก

 

เมื่อวารีกำเนิดพลังได้เข้าไปยังร่างของเขา มันได้เปลี่ยนกลายเป็นพลังมหาศาลในทันทีและเริ่มไหลเวียนอย่างควบคุมไม่ได้ในร่างกายเขา หน้าของเขากลายเป็นสีแดง เขาได้โคจรทักษะบ่มเพาะของเขาเพื่อชี้นำพลังงาน เขาได้เปลี่ยนมันให้กลายเป็นพลังงานส่วนเล็กๆและดูดซึมเข้าไปยังทุกส่วนในร่างกาย

 

พลังงานที่รุนแรงจำนวนมากได้บรรจุภายในวารีกำเนิดพลังทำให้กั๋วฉานได้มองไปยังเจียงเฉินและหวงต้าเป็นครั้งที่สอง เขามองพวกเขาเหมือนเห็นผี ด้วยระดับการบ่มเพาะของกั๋วฉาน แม้วารีกำเนิดพลังเพียงแก้วเดียวเขาต้องใช้เวลาครู่หนึ่งในการดูดซับมัน แต่ทั้งสองนี่มันดื่มไปสามแก้วต่อเนื่องและพวกเขาไม่แสดงปฎิกิริยาใดๆออกมา มันเหมือนกับน้ำเปล่าสำหรับพวกเขา นี่ไม่เพียงทำให้เขาโกรธ แต่มันยังคงสิ้นเปลืองอย่างมากตอนกลางวันแสกๆ

 

สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ เจียงเฉินและหวงต้าได้ดื่มวารีกำเนิดพลังไปกว่าครึ่งบ่อและดังนั้นร่างกายพวกเขาเกิดภูมิต้านทานขึ้นมา

 

หยานเฉินหยู่เองก็เพิ่งดื่มในส่วนของตนเสร็จ ใบหน้าของนางแดงเหมือนแอปเปิ้ล และนางดูยั่วยวนมาก

 

**************************************************************************

 

จบตอนจ้า  

 

ตอนนี้ไม่ค้างกันน้า อิอิอิ ( ゚Д゚)b

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments