I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 140 ความรุนแรงจักต้องเจอกับความรุนแรง

| Dragon-Marked War God | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

แปลไทยโดย  Takumi Kun

ตรวจทาน        Takumi Kun


******************************************


หมอกโลหิตที่รุนแรงได้ปกคลุมทั่วเมืองสุริยันสีชาด ด้วยความสามารถของเจียงเฉิน แม้ว่าจะอยู่ห่างออกไป เขาก็ยังเห็นถึงความโกลาหลและฉากที่น่ากลัวภายในเมืองสุริยันสีชาด



จางเหว่ยและสหายของเขามีท่าทีไม่น่าดู แม้ว่าเมืองสุริยันสีชาดจะเป็นเพียงเมืองเล็กๆ มันก็เป็นบ้านของพวกเขา สถานที่ที่พวกเขาถือกำเนิดและเติบโตมา ความรู้สึกของพวกเขาที่มีต่อเมืองแห่งนี้ไม่สามารถที่จะแทนที่ด้วยสิ่งใดได้  ตอนนี้เมื่อพวกเขาได้เห็นบ้านเกิดของพวกเขาห้อมล้อมด้วยเพลิงและชาวบ้านถูกสังหาร มันยากที่ผู้อื่นจะเข้าใจความรู้สึกเช่นนี้



มันยังอยู่ช่วงราตรี แต่เปลวเพลิงได้ทะยานสู่ท้องฟ้าเกิดขึ้นในเมืองสุริยันสีชาด ทำให้มันสว่างไสวราวช่วงกลางวัน บริเวณบ้านต่างๆและอาคารกำลังลุกไหม้ นี่เป็นเมืองเล็กๆที่มีระยะโดยรอบเพียงไม่กี่โหลไมล์ แต่ประชากรที่อาศัยอยู่ที่นี่มีจำนวนมาก


ภายในเมือง มีคนชุดดำจำนวนมากได้วิ่งรอบๆขณะทำหัวเราะอย่างชั่วร้าย พวกมันคือปีศาจโลหิตที่โหดเหี้ยมนั่นเอง


อ๊าาาาาาาาาาา


เสียงกรีดร้องที่น่ากลัวและเสียงร้องไห้สามารถได้ยินในทุกๆที่ ชายที่ถูกปีศาจโลหิตกัดเข้าไปที่คอ และทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นมัมมี่ ฉากที่คล้ายๆกันมีอยู่ทั่วทั้งเมือง


“รีบๆเข้า ไปรวมตัวกันที่แถวๆเจ้าเมือง”



“ทุกๆคน เร็วเข้า พวกเราจะปลอดภัยหากไปอยู่ที่เจ้าเมือ…..อ๊ากกกกก”



ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ทุกคนต่างตะโกนแผดเสียงออกมา  บางคนได้กวัดแกว่งดาบและสู้กับเหล่าปีศาจโลหิต แต่พวกเขาอ่อนแอไปเมื่อเทียบกับเหล่าปีศาจโลหิต พวกเขาจำนวนมากได้ตายอย่างอนาถ



ตอนนี้ที่จุดศูนย์กลางของเมือง มีจตุรัสที่คับคั่งด้วยผู้คน และพวกเขาทุกคนต่างมีท่าทีตื่นตระหนกและเคร่งขรึม มียอดฝีมือไม่กี่คนที่มีอาวุธอยู่ในมือ ยืนอยู่รอบๆคอยปกป้องฝูงชน  พวกเขาทุกคนเป็นยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ และมีกระทั่งบางคนเป็นยอดฝีมือฉีไห่



ผู้ที่วิ่งมาอย่างตื่นตระหนกได้วิ่งมายังจตุรัสแห่งนี้



“เร็วๆเข้า รีบเข้ามายังด้านใน!”



ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์บางคนรีบพาชาวเมืองเข้าไปยังจตุรัสและเตรียมพร้อมปกป้องด้วยร่างกายของพวกเขา ตรงหน้าของทุกๆคนในจตุรัสมีชายแก่สองคนยืนอยู๋ด้วยท่าทีภาคภูมิใจ พวกเขาทุกคนถือยุทธภัณฑ์อยู่  ในหมู่ชายแก่ มีชายแก่ที่มีระดับการบ่มเพาะสูงที่สุดคือ แก่นแท้สวรรค์ขั้นต้น เขาคือเจ้าเมืองนั่นเอง



ตูม……..



เคี้ยกเคี้ยกเคี้ยก……



อ๊าาาาา………….


บ้านเรือนได้ถูกทำลายและถูกเพลิงแผดเผา และเสียงหัวเราะของปีศาจโลหิตได้ใกล้เข้ามา และปีศาจโลหิตได้มายังทิศทางแห่งนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และเสียงกรีดร้องของชาวบ้านดั่งเข็มทิ่มแทงใจของทุกๆคน ทำให้พวกเขารู้สึกโกรธแค้นมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ ความเกลียดชังและความหวาดกลัวมากขึ้น แต่พวกเขาส่วนใหญ่รู้สึกทำตัวไม่ถูก



“ท่านเจ้าเมือง ให้พวกข้าออกไปสู้กับพวกปีศาจโลหิตเถอะ!”



“ท่านเจ้าเมือง พวกข้าจะสู้จนตัวตายกับเจ้าบ้าพวกนั้น!”



บางคนฮึกเหิม พวกเขากำอาวุธของพวกเขาแน่นขณะที่หน้าของพวกเขาเป็นสีแดงอย่างมาก


“ไม่มีทาง!”


เจ้าเมืองตะโกนออกมาอย่างดัง “ไม่มีผู้ใดรับอนุญาตให้ออกจากที่นี่ ความแข็งแกร่งเมืองพวกเรานั้นอ่อนด้อยอย่างมาก พวกเราจำเป็นต้องรวมพลังกันเท่านั้นที่สามารถจะป้องกันต่อพวกปีศาจโลหิต ข้ากลัวว่าครั้งนี้มีปีศาจโลหิตมาไม่กี่โหลแต่เป็นไปได้สูงว่าหัวหน้าหน่วยแก่นแท้สวรรค์จะอยู่เบื้องหลังพวกมัน พวกเราทำได้เพียงรวมตัวกันที่นี่และให้ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์และฉีไห่ปกป้องทุกๆคน กลุ่มยอดฝีมือต่างยืนคุ้มกันอยู่ด้านนอก”


เสียงของเจ้าเมืองดังกังวาลและชัดเจน มันสามารถแน่ใจได้ว่าทุกๆคนได้ยินชัดเจน ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้มาอยู่ที่จตุรัสแห่งนี้ และพวกเขาที่เหลือคงต้องขึ้นอยู่กับโชคชะตาว่าพวกเขาจะสามารถมาถึงหรือไม่


เจ้าเมืองไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้อำนาจเด็ดขาด ฐานะที่เขาดูแลความปลอดภัยโดยรวม การรวบรวมทุกๆคนอยู่ด้วยกันเป็นเพียงทางเดียวที่พวกเขาจะสู้กับปีศาจโลหิต หากว่าพวกเขาเลือกที่จะแยกกันสู้กับปีศาจโลหิต ความเสี่ยงมันจะสูงกว่า นอกจากนี้ชาวบ้านทั้งหลายได้เป็นเพียงแกะที่แสนอ่อนแอรอให้มาสังหาร


เฮ้ออออออ…..!


หลายคนต่างถอนหายใจออกมา  พวกเขาต่างทำสิ่งใดไม่ถูกและเกลียดชังต่อเหล่าปีศาจโลหิต แต่ว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่ทุกคนต้องเผชิญในอีกประเดี๋ยว ในระหว่างช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ทำให้พวกเขายากที่จะตัดสินใจ การตัดสินใจของผู้นำล้วนส่งผลต่อความปลอดภัยและการอยู่รอดของทุกคนในเมือง เจ้าเมืองได้ตัดสินใจได้ถูกต้องช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ในเมืองสุริยันสีชาด นี่เป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้



ชายแก่กลุ่มนี้ มีระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางและแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลาย ไม่มีผู้ใดหลบหนีจากเมืองด้วยตัวพวกเขาเอง พวกเขาต่างยืนอยู่ตรงหน้าของทุกๆคน พร้อมที่จะป้องกันทุกคนจนกระทั่งเลือดหยดสุดท้ายของเขาได้ไหลริน พวกเขาก็จะยืนอยู่เพื่อปกป้องความปลอดภัยของทุกๆคน



“เคี้ยกเคี้ยก…”



ในตอนนั้นเอง เสียงหัวเราะอย่างร้ายกาจดังเหนือท้องฟ้า ปีศาจโลหิตตัวสูงใหญ่สองตนได้ปรากฎตัวขึ้น และพวกมันมองไปยังชาวบ้านจากด้านบน



“ปีศาจโลหิตระดับแก่นแท้สวรรค์!”



ตาดำของชาวบ้านหดตัวลง และสีหน้าของทุกๆคนที่อยู่ในจตุรัสต่างซีดขาว พวกเขาต่างแสดงท่าทางหมดหวังออกมา การมาของปีศาจโลหิตขั้นแก่นแท้สวรรค์ทั้งสองตนทำให้พวกเขาหมดหวัง ที่เมืองสุริยันสีชาดนั้นมียอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์เพียงแค่คนเดียว และคนผู้นั้นคือตัวเจ้าเมืองเอง เขาอาจสู้กับปีศาจโลหิตแก่นแท้สวรรค์ได้อย่างยากลำบากหากสู้เพียงตนเดียว แต่นี่หนึ่งคนต่อสองตน


“เสร็จกัน! พวกเราพินาศแล้ว!ปีศาจโลหิตแก่นแท้สวรรค์ถึงสองตนแล้วพวกเราจะป้องกันตัวได้อย่างไร?”


“พวกเราถูกลิขิตให้ตายในครั้งนี้สินะ!”


ชาวบ้านอาวุโสทั้งหมดต่างร่ำร้องออกมา เมื่อพวกเขาได้คิดถึงชาวบ้านทั้งหมดที่จะถูกปีศาจโลหิตสังหารและถูกดูดเลือดทั้งหมดของร่างกายพวกเขา ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะรู้สึกเจ็บปวดใจ ชาวบ้านอาวุโสก็เหมือนดั่งเจ้าเมือง พวกเขาไม่กลัวตาย แต่พวกเขาไม่ต้องการที่จะตายโดยเปล่าประโยชน์



“มีเนื้อสดๆอยู่มากมาย ฮ่าฮ๋า!หากว่าพวกเราดื่มเลือดของพวกมันทั้งหมด ระดับการบ่มเพาะของพวกเราจะขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย!นี่มันการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่เลยนะนี่!”



ปีศาจโลหิตตนหนึ่งหัวเราะออกมาเสียงดัง



“พวกเราถูกลิขิตให้ตายแน่ครั้งนี้!”



เจ้าเมืองแหงนหน้าขึ้นและตะโกนออกมาทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาจากหางตาเขา



ตูม!



ช่วงเวลานั้นเอง แรงระเบิดขนาดใหญ่ดังมาจากด้านหลังของปีศาจโลหิต แรงระเบิดดังมากทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน แสงสว่างสีทองอยู๋บนท้องฟ้าและสว่างจ้าทั่วเมืองสุริยันสีชาด ชาวบ้านทุกคนรวมถึงหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตทั้งสองตนได้หันไปมองยังทิศทางนั้น สิ่งที่พวกเขาเห็นคือชายหนุ่มที่มีปีกโลหิตบนหลังของเขา เขาถือขวานสีทองในมือ ด้วยการเหวี่ยงขวานเพียงครั้งเดียวปีศาจโลหิตห้าตนได้ถูกตัดขาดและระเบิดกลายเป็นเถ้าถ่าน



ในเวลาเดียวกัน หวงต้าที่ส่องแสงสีทองได้มายังจตุรัสและมันได้พาคนทั้งสิบอยู่ถัดจากมันด้วย



“ดูนั่น!เจียงเหว่ยและคนอื่นๆ พวกเขากลับมาแล้ว”



“เซียวเอ๋อร์ก็มากับพวกเขาด้วย เด็กสาวเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่!”



ทุกๆคนเริ่มเร่าร้อนขึ้น



“นี่คือเจียงเฉินจากนิกายทมิฬ! เจ้าปีศาจโลหิตที่เน่าเฟะ มานี่มาหาที่ตายซะ!”



เสียงของเจียงเฉินดังและชัดเจน และมันดังก้องทุกๆพื้นที่ในเมืองสุริยันสีชาด เขาลงมือด้วยขวานของเขา และการลงมือแต่ละครั้งได้พรากชีวิตของปีศาจโลหิตไปสองสามตน พวกมันได้แตกสลายกลายเป็นเถ้าถ่านด้วยการลงมือของเจียงเฉิน



“เขามาจากนิกายทมิฬ! ท่านเจ้าเมือง ชายหนุ่มผู้นั้นมาจากนิกายทมิฬและเขาทรงพลังอย่างมาก!”



“ฮ่าฮ๋า คนจากนิกายทมิฬมาที่นี่แล้ว พวกเรารอดแล้ว!”



ชาวบ้านที่หมดหวังต่างชื่นชมยินดี ในแคว้นฉีแห่งนี้ นิกายทมิฬมีชื่อเสียงอย่างมากและเมื่อศิษย์ของนิกายทมิฬมายังที่แห่งนี้ พวกเขาแน่ใจว่าพวกเขาจะต้องปลอดภัยจากภัยพิบัตินี้เป็นแน่



อ๊าาาาาาาาาาา



ค่ำคืนมืดเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องอย่างน่ากลัวภายในเมืองสุริยันสีชาดอีกครั้งหนึ่ง แต่เวลานี้ มันไม่ใช่เสียงร้องของชาวบ้านที่กรีดร้อง มันเป็นของปีศาจโลหิตที่เหี้ยมโหด เจียงเฉินแข็งแกร่งมาก เหล่าปีศาจโลหิตขั้นแก่นแท้มนุษย์ได้กลายเป็นเถ้าถ่านเมื่อพบกับเจียงเฉิน



“ฮึ่ม! เจ้ากำลังรนหาที่ตาย ถึงแม้ว่าเจ้ามาจากนิกายทมิฬก็ตาม!”



หนึ่งในหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตผู้ที่กำลังจะเริ่มสังหารหมู่ชาวเมืองในจตุรัสแค่นเสียงเย็นชา มันเคลื่อนตัวแทงไปยังเจียงเฉิน และหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตอีกตนได้ตามไปแต่โดนหวงต้าขวางทางเอาไว้


“ก่ะก่ะก่ะ เจ้าโง่ จงคุกเข่าและโขกหัวต่อหน้าปู่เจ้าซะ!หากไม่ล่ะก็ ข้าจะกัดหัวเจ้าให้ขาดซะ!”



หวงต้าเชิดหัวมันขึ้นด้วยความภาคภูมิ



“ไอ้หมาเวรนี่มันมาจากไหนกัน?! เตรียมตัวตายซะ!”



หัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตได้ปลดปล่อยจิตสังหารออกมา มันลงมือด้วยฝ่ามือแดงโลหิตขนาดยักษ์ไปยังหวงต้า แต่หวงต้าไม่แสดงสัญญาณออกมาถึงความหวาดกลัว ร่างของมันเปล่งแสงสีทองออกมา หวงต้าใช้หัวของมันพุ่งกระแทกไปยังฝ่ามือแดงโลหิตนั่น



ตูม!



หัวของหวงต้าแข็งอย่างมาก ฝ่ามือแดงโลหิตขนาดยักษ์ได้แตกกระจายเป็นชิ้นๆเมื่อปะทะกับหัวของหวงต้า



ด้วยความเร็วสูง หวงต้าไม่แสดงความปราณีใดๆ หลังจากบดขยี้ฝ่ามือแดงโลหิตแล้ว มันไม่ได้ช้าลงแม้แต่น้อย แต่มันพุ่งเข้าไปกระแทกกับหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิต



ตูม!



ในที่สุดเมื่อหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตมีปฎิกิริยาจากการตกตะลึง หัวของหวงต้าได้ปะทะกับอกของหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตด้วยแรงมหาศาล



กร้อบ!



อกของหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตได้ยุบเป็นหลุมจากแรงปะทะอย่างรุนแรง มันได้กระอักเลือดออกมาอย่างมากจากปากของมัน  ปีศาจโลหิตเหล่านี้มีร่างกายที่แข็งแกร่งสามารถเทียบได้กับสัตว์อสูรบางประเภท แต่มันไม่เคยคาดมาก่อนว่าหัวของเจ้าหมานี่จะแข็งแกร่งเช่นนี้ ราวกับว่ามันเป็นอาวุธชั้นยอด



ฮู่ม!



หวงต้ารวดเร็วอย่างมาก ปากของมันอ้ากว้าง มันได้กัดหัวของหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตขาด ด้วยพละกำลังของหวงต้าในตอนนี้ การสังหารยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้นใช้เวลาเพียงไม่มาก



“โอ้ สวรรค์!”



“ข้าได้เห็นสิ่งใดไป? เจ้าหมาตัวนี้น่าสะหรึงกลัวมาก! มันสามารถสังหารหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตได้!”



“ช่างเป็นหมาที่ไม่ธรรมดาเสียจริง ข้าไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็นเลย!”



…………………………………………………………………….



ชาวบ้านจากเมืองสุริยันสีชาดทั้งหมดต่างมึนงง พวกเขาต่างมีท่าทีประหลาดใจ แม้กระทั่งจางเหว่ยและคนอื่นๆอีกไม่กี่คนที่ได้เห็นความโหดเหี้ยมของหวงต้ายังคงตกตะลึงในสิ่งที่เห็น นอกจากนั้นมันเป็นหัวหน้าหน่วยของปีศาจโลหิตอีกด้วย!



“ลงมือได้!”



เจ้าเมืองได้ชูดาบของเขาขึ้นและตะโกนดังก้อง เขาเป็นคนแรกที่พุ่งออกจากจตุรัสและลงมือ เหล่ายอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ทั้งหมดได้กลายเป็นเสือที่ดุร้ายที่กำลังล่าเหยื่อ พวกเขาวิ่งออกจากจตุรัสและเริ่มการลงมือของพวกเขา



“สังหารพวกปีศาจโลหิตให้สิ้น ล้างแค้นให้ผู้ที่จากไป!”



“ฆ่าพวกมันให้หมด ให้พวกมันตายทรมานถึงที่สุด!”



ชาวบ้านได้ทำเหมือนกับว่าพวกเขาได้ถูกกระตุ้นบางอย่าง และพวกเขาพุ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง



ในอีกด้านหนึ่ง หัวหน้าหน่วยปีศาจที่มาอยู่ตรงหน้าของเจียงเฉิน เมื่อมันมาถึง มันได้ปลดปล่อยแสดงสีแดงใส่เจียงเฉิน



ฮึ่ม!



เจียงเฉินแค่นเสียงเย็นชา ด้วยพลังมหาศาลจากการเหวี่ยงขวานของเขา เขาได้จัดการหัวหน้าหน่วยตนนั้นได้อย่างสมบูรณ์



ขวานรบของเจียงเฉินนั้นทั้งเหี้ยมโหดและโหดร้าย และหัวหน้าหน่วยได้ถูกผ่าเป็นสองซีกก่อนที่มันจะได้ส่งเสียง มันตายอย่างอนาถในทันที เจียงเฉินยืดมือของเขาหยิบแก่นแท้ปีศาจออกมา ในเวลาเดียวกัน หวงต้าได้โยนแก่นแท้ปีศาจขั้นแก่นแท้สวรรค์มาอีกลูก เจียงเฉินได้ดูดซับพวกมันพร้อมโคจรทักษะร่างแปลงมังกร



“หวงต้า สังหารพวกปีศาจโลหิตทั้งหมด อย่าให้มีตนไหนรอดไปได้!”



……………………………………………………………………………



ขณะที่ดูดซับแก่นแท้ปีศาจ เจียงเฉินตะโกนใส่หวงต้า เมื่อได้ยินสิ่งที่เจียงเฉินบอก หวงต้าเริ่มสังหารหมู่ขณะที่มันกระดิกหางไปมา หัวของมันเป็นอาวุธที่ดีที่สุด ไม่มีปีศาจโลหิตตนไหนที่สามารถที่จะทนต่อการลงมือของหวงต้าได้แม้เพียงกระบวนท่าเดียว พวกมันตายอนาถทั้งหมด



เมื่อปีศาจโลหิตที่เหลือกว่าสามสิบตนเห็นหัวหน้าหน่วยโดนสังหาร พวกมันตื่นตระหนกในทันทีและเริ่มหลบหนีไปยังทุกทิศทาง พยายามที่จะหนีจากเมืองสุริยันสีชาด อย่างไรก็ตามภายใต้การลงมือของหวงต้าและความกราดเกรี้ยวของชาวบ้าน มันมันทั้งหมดถูกสังหารและไม่มีผู้เหลือรอด



ไม่เหลือผู้รอดชีวิต นี่คือสิ่งที่เจียงเฉินต้องการที่จะลงมือต่อพวกปีศาจโลหิตเหล่านี้ ความรุนแรงต้องสยบด้วยความรุนแรง




******************************************



จบตอนจ้า อิอิอิ

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments