ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปในทันที สีหน้าที่เย่อหยิ่งของ’ถานเยว่’กลายเป็นมืดครึ่ม ‘หลงยี่’หันตัวจากไปโดยไม่แม้แต่จะเห็นนางอยู่ในสายตา ชัดเจนว่ามันทำให้นางเสียหน้าเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อพิจารณาจากนิสัยเอาแต่ใจแล้ว นางจะทนได้หรือ?
“พวกเจ้าไปเอามันกลับมา คนที่กล้าเมินข้าคนนี้ต้องถูกตบสั่งสอน!”
‘ถานเยว่’พูดเสียงเย็นกับกลุ่มผู้ติดตามที่ยืนอยู่ด้านหลัง คนกลุ่มนั้นได้รับหน้าที่ให้คุ้มกันนางจากตระกูลถานมายังนิกายเจิ้นเทียน
“ค…คุณหนู แต่มันเขาไปในหุบเขาเจิ้นเทียนแล้ว ข้าเกรงว่าจะเป็นการยากที่พามันกลับมา”
ผู้ฝึกยุทธ์สูงวัยคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ ถ้าเพียงแค่จับตัวมันนอกหุบเขา นั้นย่อมไม่เรื่องยาก แต่ตอนนี้มันเข้าสู่หุบเขาไปแล้ว ภายในหุบเขาเจิ้นเทียน ถ้าพวกเขาลงมือแก่มัน ย่อมเป็นการละเมิดกฏของนิกายเจิ้นเทียนโดยแท้
ต่อให้อิทธิพลของตระกูลถานในเมืองยี่กวนจะมากเพียงใด ก็มิอาจล่วงเกินนิกายเจิ้นเทียนได้ หนึ่งในเจ็ดนิกายใหญ่ของแคว้นถังนี้ มีความอำนาจและทรัพยากรเกินกว่าที่คนทั่วไปจะจินตนาการได้ เทียบกันแล้ว ตระกูลถานย่อมไม่ต่างอันใดกับฝุ่นผง
“ฮึ่ม เจ้าพวกไร้ประโยชน์”
‘ถานเยว่’ส่งเสียงต่ำในลำคอ และมุ่งหน้าไปยังหุบเขาเจิ้นเทียนพร้อมกับพูดว่า
“พวกเจ้ารออยู่ที่นี่ จากวันนี้ ข้าจะเข้าเป็นศิษย์ชั้นนอกของนิกายแล้ว สำหรับเจ้าคนอวดดีนั่น วันใดที่มันออกมาจากหุบเขา ให้หักแขนหักขามันทิ้งซะ!”
“ทราบแล้วคุณหนู”
เหล่าผู้ติดตามรับคำสั่งและยืนมอง’ถานเยว่’เดินเข้าไปในหุบเขา โดยรู้สึกเย็นเยือกเข้าไปในหัวใจ พวกเขารู้ดีว่า ‘เซียวเจี๋ย’อยู่ในอารมณ์เดือดดาลเพียงใด เจ้าหนุ่มชุดดำนี่ล่วงเกินคุณหนูของพวกเขา ไม่ว่าตอนนี้มันจะสามารถเข้าสู่นิกายเจิ้นเทียนได้หรือไม่ มันคงไม่อาจหลีกหนีจากชะตากรรมที่น่าอนาถไปได้ …………….
‘หลงยี่’ก้าวเข้าสู่หุบเขาเจิ้นเทียน และกำลังจดจ่ออยู่กับการปีนป่ายในหุบเขา เกี่ยวกับเรื่องของ’ถานเยว่’แล้ว เขาย่อมมิเก็บมาคิดให้รกสมอง ‘หลงยี่’มองขึ้นไปยังหุบเขาที่แคบและยาวออกไป มีหน้าผาสูงชั้นอยู่ทั้งสองข้าง และโขดหินหลายขั้นอยู่ตรงกลาง นำไปสู่ทางเข้าของนิกายเจิ้นเทียนที่ตั้งอยู่เหนือสุด
โขดหินรวมแล้วประมาณ 300 ขั้น อาจพูดได้ว่า ใครก็ตามที่พยายามปีนป่าย คนๆนั้นจะต้องพบกับแรงกดดันอย่างมหาศาล จนไม่สามารถไปต่อได้ เรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปีนขึ้นไปถ้าไม่มีความแข็งแกร่งและความเข้าใจมากพอ มีเพียงผู้ที่สามารถปีนขึ้นไปได้สำเร็จเท่านั้น จึงจะสามารถเข้าสู่นิกายเจิ้นเทียนได้และกลายเป็นศิษย์ชั้นนอก
“อันดับแรก ข้าคงต้องลองดูก่อนสินะ”
‘หลงยี่’คิดในใจ และเริ่มปีนป่ายโขดหินเหล่านั้น ขณะเขาปีนขึ้นไปยังโขดหินขั้นแรก ทันใดนั้นเกิดแรงกดดันกดทับตัวเขาไว้ ถ้าระดับวรยุทธ์ของเขาไม่แข็งแกร่งพอ บางที อาจโดนแรงกดดันนี้บดทับจนตายอย่างอนาถ
ตอนนี้ ‘หลงยี่’อยู่ในวู่เต้าลำดับที่ 3 ที่มอบความแข็งแกร่งให้ถึง 4000 จิน ดังนั้น เขายังสามารถต้านทานได้ชั่วคราว เมื่อ’หลงยี่’เริ่มปีนป่ายต่อไป ในแต่ละโขดหิน แรงกดดันที่กระทำใส่เขานั้นหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เขาเริ่มปีนได้ช้าลง
จนในที่สุด เขาก็มาถึงยังโขดหินขั้นที่ 100 ที่จุดนี้ ‘หลงยี่’ต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาล! แรงกดดันนี้ยังถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง เขารู้สึกราวกับปีนขึ้นน้ำตกที่ไหลเชี่ยว และตอนนี้มันช่างเป็นเรื่องยากยิ่งในการปีนขึ้นไปในแต่ละขั้น
เขาขบกรามแน่น แล้วพยายามต้านแรงกดดันที่หนักหน่วงนี่เพื่อปืนขึ้นไป แต่ทั้งตัวเขาของตอนนี้เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ และดูเหมือนว่าขาเขาจะไร้เรี่ยวแรงแล้ว
“จุดนี้ แรงกดดันมากเกินไป แค่หยุดอยู่กับที่ก็เกือบจะตานท้านไม่ไหวอยู่แล้ว คงเป็นไปไม่ได้ซินะที่จะไต่ขึ้นไปด้วยระดับวรยุทธ์เพียงแค่วู่เต้าลำดับที่ 3”
เขามองขึ้นไปข้างบน ตอนนี้’หลงยี่’ปีนขึ้นมาได้เพียงสองถึงสามส่วนของระยะทางทั้งหมดเท่านั้น! ชัดเจนว่า การทดสอบเพื่อเข้าสู่เจ็ดนิกายใหญ่ของแคว้นถังนั้นยากและมีความเข้มงวดเป็นอย่างยิ่ง ผู้ที่เข้าทดสอบได้นั้นต้องมีอายุไม่เกิน 18 ปี และควรมีวรยุทธ์อย่างน้อยในระดับวู่เต้าลำดับที่ 4
แต่ตอนนี้ ‘หลงยี่’มิอาจยอมแพ้ได้ เขามาถึงที่นี่ด้วยความยากลำบาก แล้วถ้าเขายอมแพ้ง่ายๆ เขาจะมีหน้ากลับไปหาพ่อบุญธรรมได้อย่างไร?
“บททดสอบของนิกายเจิ้นเทียน แม้จะดูยากจนเหมือนกับเป็นไปไม่ได้ แต่ข้าไม่เชื่อว่าทางนิกายจะต้องการแค่เพียงศิษย์ที่มีระดับวรยุทธ์สูงเท่านั้น พวกเขาต้องการผู้ที่มีพรสวรรค์ด้วยอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น การทดสอบนี้ มันต้องมีทางอื่น…”
‘หลงยี่’กดฟันแล้วขบคิด ขณะนั้นเอง เขาพบว่ามีหินยักษ์รูปร่างคล้ายดาบอยู่บนหน้าผาทั้งสองด้านของหุบเขา เพราะพวกมันดูเหมือนจัดวางอยู่ในลักษณะพิเศษ หินยักษ์ที่ดูแหลมคมนี้ ถูกวางอยู่รูปแบบพิเศษและดูเหมือนมันได้ปลดปล่อยกลิ่นอายลึกลับอกมา
ในตอนแรก เขาต้องเผชิญแรงกดจนเกือบจะต้านทานน้ำหนักตัวเองไม่ไหว แต่เมื่อเขาเพ่งกระแสจิตไปยังก้อนหินทั้งสอง แรงกดดันเริ่มเบาบางลง และจิตเขารู้สึกเหมือนถูกดูดไปยังที่แห่งหนึ่ง
ในตอนนั้นเอง ‘ถานเยว่’ เด็กสาวที่เย่อหยิ่ง เข้ามาในหุบเขาแล้วเช่นกัน นางมองเห็นร่าง’หลงยี่’ปีนป่ายมาถึงยังโขดหินขั้นที่ 100 ก็เกิดรอยยิ้มที่ดูถูกขึ้นบนใบหน้านาง
“ข้าก็นึกว่าจะเป็นคนที่มีฝีมือ ที่ไหนได้ เป็นเพียงขยะที่มีระดับวู่เต้าแค่ลำดับที่ 3 เท่านั้นเอง”
‘ถานเยว่’เชิดหัวขึ้นอย่างวางท่า แล้วเริ่มปีนป่ายโขดหินขึ้นไป ตัวนางในชุดสีแดงช่างดูนิ่มนวลและงดงาม ก่อนหน้านี้ พี่ชายของนาง’ถานเจียน’ ที่เป็นศิษย์ชั้นในของนิกายเจิ้นเทียนได้บอกเอาไว้ว่า ผู้ที่มีระดับวู่เต้าลำดับที่ 4 เท่านั้นจึงจะสามารถปีนป่ายโขดหินทั้ง 300 ขั้นได้ ถ้าอยู่ในวู่เต้าลำดับที่ 3 จะปีนขึ้นไปได้เพียง 100 ก้อนเท่านั้น
นางหยุดอยู่โขดหินที่ 100 ที่’หลงยี่’ยังคงยืนอยู่ แล้วเดาว่าระดับวรยุทธ์ของเขาคงอยู่แค่เพียงวู่เต้าลำดับที่ 3 เท่านั้น แต่ตัวนางที่เป็นถึงหลานรักของผู้นำตระกูลถาน อยู่ในวู่เต้าลำดับที่ 4 การไต่โขดหินขึ้นไปทั้ง 300 ก้อนย่อมไม่ใช่เรื่องยาก วู่เต้าลำดับที่ 3 เรียกได้ว่าเป็นคอขวดของการบ่มเพาะวรยุทธ์อย่างแท้จริง
หากไม่อาจก้าวข้ามคอขวดนี้ไปได้ ไม่ว่าจะฝึกวรยุทธ์อีกนานเท่าไหร่ ก็ไม่อาจบรรลุขึ้นเป็นวู่เต้าลำดับที่ 4 ได้ เหมือนกับคุณชายตระกูลเฟิง ‘เฟิงหลัว’
แต่ถ้าหากก้าวข้ามคอขวดนี้ไปได้ จะสามารถนำพลังฉีออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ไม่เพียงเพิ่มกำลังภายในอย่างมากแล้ว ยังส่งเสริมความสามารถในการการจู่โจมหรือการตั้งรับอีกด้วย วู่เต้าลำดับที่ 4 นี้จะมอบความแข็งแกร่งให้ถึง 8000 จิน!
‘ถานเยว่’นั้นอยู่วู่เต้าลำดับที่ 4 ดังนั้นการต้านทานแรงกดดันนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก นางมาถึงยังโขดหินที่ 100 โดยใช้เวลาไม่นาน และชำเลืองมอง’หลงยี่’อย่างเย้ยยัน
“เจ้าขยะ มีวรยุทธ์แค่เพียงวู่เต้าลำดับที่ 3 ยังกล้าทำให้ข้าต้องขายหน้า มันจะอวดดีเกินไปไหม?”
‘ถานเยว่’หัวเราะอย่างดูถูก
“เจ้าทำให้สาวงามคนนี้ต้องเสียหน้า แต่ข้าก็ไม่อยากจัดการเจ้าให้เปื้อนมือหรอกนะ หึ เมื่อใดก็ตามที่เจ้าออกจากหุบเขานี้ไป คนติดตามของข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าระดับชนชั้นน่ะ สำคัญอย่างไร!”
เมื่อพูดจบ นางคิดว่าจะได้เห็นท่าทีตื่นตระหนกและหวาดกลัวของ’หลงยี่’ แต่นางต้องผิดหวัง ระหว่างที่นางพูดนั้น ‘หลงยี่’อยู่ในอารมณ์ครุ่นคิด เขาหลับตาและกำลังทำความเข้าใจกับบางสิ่งอยู่ เพราะงั้น’หลงยี่จึง’ไม่ได้ยินคำพูดของ’ถานเยว่’เลยแม้แต่น้อย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางมายืนอยู่ใกล้กับเขา
นางถูกเมินเฉยเหมือนไม่ได้มีตัวตนอยู่ในที่แห่งนี้
“เจ้าขยะนี่!”
‘ถานเยว่’ถลึงตาและมอง’หลงยี่’ด้วยอารมณ์โมโห นางหลับตาทั้งคู่ลงครู่หนึ่งแล้วจึงปีนป่ายต่อไป ในหุบเขาเจิ้นเทียน นางไม่กล้าทำอะไรต่อ’หลงยี่’ แต่นางมั่นใจว่ามันมีระดับแค่วู่เต้าลำดับที่ 3 มันไม่สามารถเข้าร่วมนิกายเจิ้นเทียนได้แน่ ดังนั้นเมื่อใดที่มันกลับออกจากหุบเขานี้ไป มันต้องพบกับความตายอย่างแน่นอน
ในตอนแรกที่’หลงยี่’เมินนาง นางแค่อยากจะหักกระดูกมัน แต่ตอนนี้มันยังกล้าเมินนางเป็นครั้งที่สอง นางจึงตัดสินใจจะสังหารมัน!
‘หลงยี่’ไม่ได้รู้เรื่องอะไรภายนอกเลยแม้แต่น้อย สติของเขาจมอยู่ในความคิดที่ลึกลับซับซ้อน ไม่นานหลังจากนั้น ‘ถานเยว่’ปีนป่ายโขดหินทั้ง 300 ก้อนได้สำเร็จโดยไม่ยากเย็นนัก ตามธรรมเนียม นางถือว่าเป็นศิษย์ชั้นนอกของนิกายเจิ้นเทียนแล้ว ศิษย์ชั้นนอกสองคนของนิกายเจิ้นเทียนเดินออกมายินดีกับศิษย์ใหม่ และได้รับคำสั่งให้เตรียมการต้อนรับ
“ศิษย์น้องถานเยว่ แสดงความยินดีด้วยที่ได้เป็นศิษย์ชั้นนอกแล้ว”
ชายร่างผอมตาเล็กพูดด้วยท่าทียกยอ
“ข้ามีนามว่าวู่ฉิง ศิษย์พี่ถานเจียนมอบหน้าที่จัดเตรียมสิ่งต่างๆให้แก่ศิษย์น้องถานเยว่ ข้าได้รับคำสั่งให้รออยู่ที่นี่นานแล้ว”
“วู่ฉิง”
‘ถานเยว่’มองไปยังชายร่างผอมนามว่า’วู่ฉิง’แล้วพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เพราะฟังจากคำเยินยอของเขา แล้วนางรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหญิงสาวผู้สูงศักดิ์
“ข้ามีนามว่าหานเจียน ข้ารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้พบกับศิษย์น้องถานเยว่”
ศิษย์นิกายอีกคนที่ดูเด็ดเดี่ยวและมั่นคงพร้อมด้วยโครงหน้าดุดันรูปสี่เหลี่ยม แต่เมื่อมองไปยัง’ถานเยว่’ ตาของเขาเป็นประกาย พร้อมด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว ตัวนางอยู่ในสถานะที่สูงส่งและมีความงามเป็นเลิศ ในสายตาของนางแล้ว ‘หานเจียน’ดูเหมือนหลงไหลในตัวนางเข้าแล้ว
“ดี พวกเจ้ามีระดับวรยุทธ์เท่าใด?”
‘ถานเยว่’ผยักหน้า และถามอย่างหยิ่งยะโสด้วยน้ำเสียงที่เหมือนเป็นเจ้านายของพวกเขา
“ข้ามีระดับวู่เต้าลำดับที่ 4 ส่วนศิษย์พี่หานเจียนอยู่ในลำดับที่ 5”
‘วู่ฉิง’รีบตอบด้วยน้ำเสียประจบประแจ
“ลำดับ 4 และลำดับ 5 เยี่ยมมาก”
‘ถานเยว่’พยักหน้า แต่ทันใดนั้น สายตาประสงค์ร้ายก็ปรากฏขึ้นในตานาง
“พวกเจ้ารออยู่นี่กับข้าสักครู่ ตอนนี้มีเจ้าขยะกำลังยืนอยู่บนโขดหินที่ 100 ข้าอยากจะเห็นว่ามันจะยอมแพ้แล้วกลับไปอย่างไร”
“โอ มีคนกล้าลวงเกินศิษย์น้องถานเยว่งั้นรึ? ดี เมื่อมันขึ้นมา ข้าจะให้บทเรียนมัน และทำให้มันรู้ว่าใครคือคนที่มันไม่ควรล่วงเกิน!”
ในตอนนี้ สายตาของ’วู่ฉิง’ส่องประกายเมื่อเขาพบหนทางเอาอกเอาใจนาง เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะมีคนที่ทำให้เขาสามารถมีโอกาสได้ใกล้ชิดหัวใจนางได้!
“พวกเจ้า ประเมินมันสูงไป มันแค่ขยะที่มีระดับวู่เต้าลำดับที่ 3 เท่านั้น มันจะปีนป่ายขึ้นมาบนนี้ได้อย่างไร?”
‘ถานเยว่’พูดด้วยสายดูถูก
“วู่เต้าลำดับที่ 3? งั้นข้าจะอยู่รอดูฉากที่น่าสนุกด้วยเช่นกัน”
ใกล้นั้น ‘หาญเจียน’พูดขึ้นพร้อมยิ้มเล็กน้อย
“ข้าได้ยินว่าแรงกดดันที่มหาศาลของหุบเขาเจิ้นเทียนได้สังหารพวกที่มีความทะเยอทะยานเกินไปมามากแล้ว ใครก็ตามที่พยายามไต่ขึ้นมาโดยไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอจะต้องพบจุดจบที่น่าอนาถ”
เมื่อ’ถานเยว่’ได้ยินดังนั้น ใบหน้าของนางกลายเป็นยินดีอย่างยิ่ง เมื่อนางได้ยินดังนั้น หากนางนำเจ้าขยะนั่นขึ้นมาบนนี้ คงมีโอกาสได้เห็นมันถูกบดขยี้ด้วยแรงกดดันมหาศาล ซึ่งไม่รู้ว่าจะน่ารื่นรมย์เพียงใด?
ทั้งสามเดินมายังโขดหินชั้นที่ 300 และมองลงไปเห็นหลงยี่ในชุดสีดำยังคงยืนอยู่ที่โขดหินชั้นที่ 100
“จริงด้วย เจ้าขยะนั้นอยู่ในวู่เต้าลำดับที่ 3 จริงๆ”
‘วู่ฉิง’พูดอย่างเย้ยยัน แม้เขาจะมีระดับเหนือกว่าแค่ลำดับเดียว แต่ความแข็งแกร่งนั้นแตกต่างกันอย่างมหาศาล!
ในตอนนั้นเอง ‘หลงยี่’ที่จมลึกไปในความคิดตัวเอง ในที่สุดก็ลืมตาขึ้นมา เขารู้สึกเหมือนเข้าใจบางสิ่งอย่างลึกซึ้งแล้ว
“ความรู้สึกนี้มัน….เหมือนกับตัวข้าได้เป็นหนึ่งเดียวกับโลกใบนี้ไปแล้ว!”
และตอนนี้ เมื่อเขาเข้าใจทุกสิ่งแล้ว เขาเริ่มปีนขึ้นไปยังโขดหินขั้นถัดไป
ที่มา: