I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Martial Emperor ตอนที่ 9 จิตเร้นลับแห่งหุบเขาเจิ้นเทียน

| Dragon Martial Emperor | 708 | 2375 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

เหนือหุบเขาเจิ้นเทียนขึ้นไป ณ จุดสูงสุดของเทือกเขาที่อยู่สูงเหนือเมฆ นิกายเจิ้นเทียนได้สร้างศาลาที่งดงามและเงียบสงบเอาไว้ในที่แห่งนี้   เวลานี้ภายในศาลา ชายแก่สองคนในชุดคลุมสีดำและสีขาว นั่งอยู่ตรงข้ามกัน กำลังเล่นหมากรุกบนกระดาน

ทันใดนั้น มีความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้อาวูโสทั้งสอง พวกเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของ ‘จิตเร้นลับ’ จากด้านล่างของหุบเขาเจิ้นเทียน

“ผู้อาวุโสดำ ท่านก็รู้สึกเช่นกันสินะ”

ผู้อาวุโสในชุดสีขาวพูดขึ้น

“จิตเร้นลับ”

ผู้อาวุโสในชุดคลุมดำพูดขึ้น

“อายุเพียงน้อยนิด แต่กลับบรรลุจิตเร้นลับได้ ถึงแม้จะเพียงส่วนหนึ่งก็เถอะ แต่ก็ยังน่าชื่นชมอยู่ดี”

ผู้อาวุโสในชุดคลุมสีขาวพูดโดยปรากฏรอยยิ้มขึ้นบนหน้าของเขา   ผู้อาวุโสทั้งสองเริ่มเล่นหมากรุกต่อ จากภายนอก พวกเขาดูเหมือนกำลังจดจ่อเพียงแค่กระดานหมากรุก แต่ความจริงแล้ว พวกเขาทั้งคู่ล้วนถูกดึงดูดความสนใจโดยชายหนุ่มที่ปัจุจบันกำลังยืนอยู่บนโขดหิน

คนที่สามารถบรรลุถึงจิตเร้นลับได้   และชายหนุ่มที่น่าสนใจคนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก’หลงยี่’!   …………………

เมื่อ’หลงยี่’ลืมตาขึ้น เขารู้สึกว่าแรงกดดันในหุบเขาเจิ้นเทียนเบาบางลงมาก

“เอาละ แรงกดดันนี่คงไม่เป็นปัญหาแล้วสินะ”

ความมั่นใจปรากฏขึ้นในตาของเขา ตอนนี้’หลงยี่’สามารถไต่ขึ้นไปยังโขดหินที่ 300 ด้วยวรยุทธ์ที่อยู่ในระดับวู่เต้าลำดับที่ 3 ได้แล้ว

ถึงแม้’หลงยี่’จะมีความเข้าใจถึงจิตเร้นลับเพียงเล็กน้อย แต่เขามั่นใจว่ามันต้องมีประโยชน์ต่อการบ่มเพาะวรยุทธ์ของเขาในอนาคตอย่างแน่นอน   ‘หลงยี่’รู้สึกว่าตรามังกรฟ้าบนอกของเขาปล่อยไออุ่นออกมาตลอดเวลา ‘หลงยี่’รู้ดีว่าการที่เขาสามารถเข้าใจจิตเร้นลับได้นั้น ต้องขอบคุณตรามังกรฟ้า

และเขาไม่เคยลืมว่าตรานี้ได้ช่วยเหลือเขาในยามจำเป็นเสมอมา

ในเวลานี้ ‘หลงยี่’ค่อยๆปีนป่ายโขดหินขึ้นไปเรื่อยๆทีละขั้นทีละขั้น ด้วยที่เขาบรรลุถึงจิตเร้นลับได้แล้ว แรงกดดันก่อนหน้านี้ย่อมไม่เป็นอุปสรรคต่อเขาอีก   บนโขดหินขั้นที่ 300 ‘ถานเยว่’ ‘วู่ฉิง’ และ’หาญเจียน’ยืนอยู่ด้วยกัน พวกเขามองลงไปยังหลงยี่ด้วยสายตาดูถูก

“บอกข้าซิ ด้วยระดับวรยุทธ์ของมัน มันจะสามารถไต่ขึ้นมาได้ถึงไหน?”

‘ถานเยว่’ถามด้วยความสนใจ เหมือนกำลังรอดูฉากสนุก

“ตามความเห็นข้า ด้วยความแข็งแกร่งของวู่เต้าลำดับที่ 3 โขดหินขั้นที่ 150 ควรจะเป็นขีดจำกัดของมันแล้ว”

‘วู่ฉิง’กล่าวอย่างมั่นใจ

หลัง’วู่ฉิง’พูดจบ พวกเขาเห็น’หลงยี่’ได้ไต่ผ่านโขดหินขั้นที่ 150 มาแล้ว และยังคงไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ   ใบหน้าของ’วู่ฉิง’กลายเป็นน่าเกลียด นี่มิใช่เป็นการตบหน้าเขาจังๆหรอกหรือ?

“อาจจะเป็นขั้นที่ 200 ก็เป็นได้”

‘หาญเจียน’กล่าวด้วยน้ำเสียงสบายๆ เขาไม่ค่อยกังวลอะไรกับ’หลงยี่’ที่อยู่ในวู่เต้าลำดับที่ 3 เพราะถือว่าระดับวรยุทธ์ของมันห่างกับเขาถึง 2 ลำดับ และสำหรับระดับความแข็งแกร่งนั้น แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

แต่ขณะเขาพูดจบ ‘หลงยี่’ได้ไต่ผ่านโขดหินขั้นที่ 200 มาแล้วโดยไม่ยากเย็น และยังคงไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ   ในเวลานี้ ‘ถานเยว่’และอีกสองคนรู้สึกว่าพวกเขาคงประเมิณความสามารถของ’หลงยี่’ต่ำไปแล้ว

“มันก้าวข้ามระดับวรยุทธ์งั้นรึ?”

‘ถานเยว่’พูดขึ้นประหลาดใจ

“เป็นไปไม่ได้! จะมีใครสามารถเลื่อนระดับวรยุทธ์ได้ในสถานการณ์นี้? มันต้องโกงแน่ ต้องโกงแน่ๆ ถ้ามันขึ้นมายังขั้นที่ 300 ได้จริงๆ ข้าจะไม่มีทางปล่อยให้ไอขี้โกงนี่เข้าสู่นิกายเจิ้นเทียนได้!”

‘วู่ฉิง’พูดขึ้นด้วยใบหน้าประสงค์ร้าย   ‘ถานเยว่’พยักหน้าเห็นด้วย

‘วู่ฉิง’ดูเหมือนเป็นคนฉลาดและคงจะหาข้อแก้ตัวได้ถ้าพวกเขาลงมือต่อเจ้าขยะนี่   ต่อให้มันบรรลุขึ้นเป็นวู่เต้าลำดับที่ 4 จริง แต่พวกเขาไม่มีทางยอมให้มันเข้าสู่นิกายเจิ้นเทียนแน่!

ไม่นาน ‘หลงยี่’ก็ไต่ข้ามโขดหินขั้นที่ 250 และยังคงไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ   ขั้นที่ 280   ขั้นที่ 290   ขั้นที่ 300 !

ในที่สุด’หลงยี่’ก็สามารถไต่ขึ้นมายังขั้นที่ 300 ได้สำเร็จ เขารู้สึกว่าแรงกดดันของหุบเขาได้หายไปแล้ว ณ ตอนนี้ ตามกฏของนิกาย ถือว่าเขาได้เป็นศิษย์ชั้นนอกของนิกายเจิ้นเทียนเรียบร้อยแล้ว!

นอกจากนั้น ‘หลงยี่’ยังได้รับความสามารถพิเศษมาอีกหนึ่งอย่าง นั่นคือจิตเร้นลับ และมันจะช่วยในการพัฒนาวรยุทธ์ของเขาในอนาคต   หลังจากบรรลุจิตเร้นลับได้แล้ว ‘หลงยี่’รู้สึกเหมือนกับว่า เขาได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับโลกใบนี้ และตอนนี้ หมัดของเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้ทำความเข้าใจกับจิตเร้นลับมากพอ ‘หลงยี่’สังเกตเห็นร่างของคนทั้งสามกำลังเดินเข้ามา

“นั่นมัน….ถานเยว่?”

‘หลงยี่’ขมวดคิ้ว เขาเงยหน้าขึ้นมอง และเห็น’ถานเยว่’กับศิษย์นิกายเจิ้นเทียน กำลังเดินเข้ามาด้วยแววตาชั่วร้าย   ‘หลงยี่’มองเห็นชายทั้งคู่ พวกเขามองมาด้วยสายตาที่หยิ่งยโสเหมือนกับ’ถานเยว่’ และคงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเข้ามาแสดงความยินดีที่เขาผ่านบททดสอบ

หนึ่งในนั้นที่มีดวงตาเล็ก และรูปร่างเหมือนลิง กระโดดเข้ามายืนด้านหน้า’หยงยี่’ เขาคือ’วู่ฉิง’   ด้วยใบหน้าล้อเลียน

‘วู่ฉิง’ตะโกนเสียงดัง

“เป็นแค่ขยะ ยังมีหน้ามาเข้าร่วมกับนิกายเจิ้นเทียนอีกงั้นรึ?”

เมื่อพูดว่า “ขยะ” เขามองไปยัง’หลงยี่’ ถ้ามันเดือดดาลแล้วจู่โจมเขาก่อน ก็ย่อมเป็นเรื่องง่ายที่จะสอนบทเรียนให้มัน และเขายังมีโอกาสได้อวดฝีมือต่อหน้าถานเยว่อีกด้วย

“ขยะ?”

‘หลงยี่’ทวนซ้ำอย่างสงบ และมองไปยัง’วู่ฉิง’ด้วยสายตาแหล่มคม

“ถูกต้อง ถึงแม้ว่าแกจะผ่านบททดสอบของหุบเขาเจิ้นเทียน แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าแกมีคุณสมบัติพอที่จะเข้าสู่นิกายเจิ้นเทียนหรอกนะ”

ด้วยใบหน้าดูถูก ‘วู่ฉิง’พูดขึ้น

“ตอนนี้ข้าอยู่ในวู่เต้าลำดับที่ 4 และถ้าแกคิดว่าเอาชนะข้าไม่ได้ ก็รีบไสหัวไปให้พ้น จะได้ไม่ต้องเสียหน้า”

‘หลงยี่’ขมวดคิ้วขึ้นแล้วถามอย่างสงบ

“เจ้ามีคุณสมบัติพอที่จะตัดสินว่า ข้าควรได้เข้าสู่นิกายเจิ้นเทียนหรือไม่งั้นรึ?”

“แกว่าอะไรนะ?”

เมื่อ’วู่ฉิง’ได้ยินดังนั้นก็เกิดระลอกคลื่นแห่งความเกรี้ยวกราดขึ้นในใจ เจ้าขยะนี่ถึงกับกล้าลบหลู่เขา และพูดจาโอหังแบบนั้น   ระดับวรยุทธ์ของเขาต่ำสุดในนิกายเจิ้นเทียนก็จริง แต่เขาใช้เวลาอยากมากในการเรียนรู้วิทยายุทธ์ของนิกาย เจ้าขยะนี่เพิ่งจะเคยผ่านหุบเขาเจิ้นเทียนมาได้ แล้วมันมีคุณสมบัติอะไรถึงกล้าดูหมิ่นเขา?

“ข้าหมายถึงเจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะมาตัดสินว่าเข้าจะได้เข้าสู่นิกายหรือไม่ จริงไหม?”

‘หลงยี่’ก้าวเท้าไปข้างหน้าโดยไม่เกรงกลัว’วู่ฉิง’แม้แต่น้อย   ถึงแม้ว่า’วู่ฉิง’จะเป็นศิษย์ชั้นในของนิกายเจิ้นเทียน และเขาจะได้ฝึกวิทยายุทธ์ของนิกายมาแล้ว แต่’หลงยี่’ย่อมไม่เกรงกลัวมัน นอกจากนี่ยังปรากฏรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าของเขา เป็นรอยยิ้มที่ซ่อนเจตนาสังหารเอาไว้

ในชีวิตก่อน ‘หลงยี่’เชี่ยวชาญในการสังเกตุสภาวะแวดล้อมโดยรอบ และตอนนี้ เพียงแค่ลักษณะการก้าวเท้าของพวกมัน เขาก็สามารถทราบระดับวรยุทธ์ของทั้งสามได้แล้ว   ‘ถานเยว่’และ’วู่ฉิง’นั้น อยู่ในระดับวู่เต้าลำดับที่ 4 ส่วนอีกคนควรอยู่ในระดับสูงกว่าทั้งสอง บางที อาจจะเป็นวู่เต้าลำดับที่ 5

ตอนนี้ ‘วู่ฉิง’ต้องการแสดงความสามารถเพื่อเอาใจ’ถานเยว่’ แต่กลับต้องถูกหักหน้าโดย’หลงยี่’

ในตอนนี้ ‘หลงยี่’อยู่ในวู่เต้าลำดับที่ 3 ที่มอบความแข็งแกร่งให้ 4000 จิน และเมื่อปลดปล่อยตรามังกรฟ้า เขาจะได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มอีก 1000 จิน รวมแล้วคือ 5000 จิน

ถึงแม้เขาจะไม่มีความแข็งแกร่งมากถึง 8000 จินอย่าง’วู่ฉิง’ แต่ตอนนี้ เขายังบรรลุถึงจิตเร้นลับ ซึ่งผลมันสามารถช่วยเขาในการต่อสู้ได้มาก   เหนือไปกว่านัน ในชีวิตก่อน ‘หลงยี่’พาประสบการณ์ความเป็นความตายมานับไม่ถ้วน เขามีลูกเล่นที่ใช้หลอกล่อฝั่งตรงข้ามมากมาย

เมื่อพิจารณาแล้ว ‘วู่ฉิง’เปรียบเหมือนทารกที่เพิ่งเกิดใหม่

“เจ้าขยะ แกแกว่งเท้าหาเสี้ยนเองนะ”

ตาที่ดูเล็กของ’วู่ฉิง’เต็มไปด้วยความโมโห

“วันนี้ ข้าจะสอนให้แกรู้ว่า ผู้ที่แสดงความอวดดีในนิกายเจิ้นเทียน มันจะต้องรับผลอย่างไร!”

เมื่อพูดจบ ‘วู่ฉิง’ไม่รอนาน เขาควบแน่นซวนฉีในร่างแล้วพุ่งไปข้างหน้า   ซวนฉีปริมาณมากเริ่มสูบฉีดไปทั่วร่างและควบแน่นในกำปั้นทั้งสองของเขา   หลังจากบรรลุถึงวู่เต้าลำดับที่ 4 ผู้ฝึกวรยุทธ์จะสามารถควบแน่นซวนฉีในร่างได้ มันไม่เพียงเพิ่มความรุนแรงในการโจมตีเท่านั้น มันยังเพิ่มความสามารถในกันป้องกันอีกด้วย

วู่เต้าลำดับที่ 4 ถือว่าเป็นก้าวแรกของการเติบโตในเส้นทางสายวรยุทธ์อย่างแท้จริง   รอยยิ้มเย้ยยันปรากฏขึ้นที่ใบหน้า’วู่ฉิง’ เขาควบแน่นซวนฉีไว้ในหมัดแล้วพุ่งมายังหลงยี่ด้วยความเร็วดั่งสายลม

“เร็วยิ่ง!”

‘หลงยี่’ตื่นตกใจ สัญชาตญาณสั่งให้เขาก้มหัวหัวหลบแล้วกระโดดถอยหนี

“เจ้าขยะ ก่อนหน้านี้ยังใจเย็นอยู่เลยนี่ เป็นอะไรไป ทำไมถึงกระโดดหนีซะแล้วเล่า?”

‘วู่ฉิง’พูดอย่างแดกดัน

“นี่คือวิทยายุทธ์ของนิกายเจิ้นเทียนของพวกเรา ก้าวพริบตา ถ้าข้าใช้มันอย่างเต็มที่ ดูสิว่าแกจะหนีไปไหน!”

หลังพูดจบ ‘วู่ฉิง’เคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็ว และในชั่วพริบตา ร่างเล็กของเขามาอยู่ต่อหน้า’หลงยี่’อีกครั้ง เขาควบแน่นซวนฉีไว้ที่กำปั้นแล้วปล่อยหมัดใส่’หลงยี่’   เมื่อพิจารณาจากระดับวรยุทธ์ของ’หลงยี่’แล้ว ถ้าโดนหมัดนี้เข้าไป ไม่ตายก็ถึงกับพิการ!   แต่ทันใดนั้น ‘วู่ฉิง’รู้สึกถึงพลังลึกลับที่ออกมาจากร่างของ’หลงยี่’ และมันทำให้ซวนฉีที่โคจรอยู่ทั่วร่างของเขาเฉื่อยชาลง

‘วู่ฉิง’ถึงกับตื่นตะลึง พลังประหลาดนี่มาจากเจ้าขยะที่อยู่หน้า และทำให้เขาไม่สามารถใช้พลังได้เต็มที่งั้นรึ?

“ก้าวพริบตานั้นเร็วมากก็จริง แต่เมื่อต้องอยู่ภายใต้อำนาจของจิตเร้นลับ มันจะยังเร็วได้ซักแค่ไหนกันเชียว?”

‘หลงยี่’กล่าวเสียงเย็นแล้วพุ่งตัวไปยังร่างของวู่ฉิงที่ตกอยู่ใต้อำนาจของจิตเร้นลับ   ก่อนหน้านี้ ‘หลงยี่’สามารถบรรลุถึงทักษะจิตเร้นลับในหุบเขานี้ได้ เขาจึงลองใช้มันในการต่อสู้นี้ แต่ไม่คิดเลยว่า มันส่งผลที่น่าอัศจรรย์ใจต่อวู่ฉิงที่อยู่ในวู่เต้าลำดับที่ 4

‘หลงยี่’ปลดปล่อยตรามังกรฟ้า แล้วรวบรวมพลัง 5000 จินให้กระจายไปทั่วร่าง เขาปล่อยหมัดและลูกเตะใส่’วู่ฉิง’ในท่วงท่าที่เต็มไปด้วยความชำนาญตามลำดับ   ถึงแม้’วู่ฉิง’จะได้รับผลของจิตเร้นลับซึ่งทำให้ความเร็วของเขาลดลงค่อนข้างมาก แต่เขาก็ยังคงมีระดับความแข็งแกร่งถึง 8000 จินอยู่

เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีของ’หลงยี่’ ‘วู่ฉิง’ตอบสนองอย่างรวดเร็วโดยรวบรวมซวนฉีในกำปั้นแล้วปล่อยหมัดใส่กำปั้นของ’หลงยี่ ‘

ทันใดนั้น เกิดเสียงแตกหักของกระดูกดังก้องขึ้น   ถึงแม้เมื่อต้องปะทะความแข็งแกร่งกัน ‘หลงยี่’จะพ่ายต่อ’วู่ฉิง’และกระดูกของมือเขาหัก แต่นั้นย่อมไม่ใช่ปัญหาสำหรับมือสังหารอย่าง’หลงยี่’ เพราะกระบวนท่าของเขายังไม่จบ!

ตามกระบวนท่าที่คิดไว้ก่อนหน้านี้ หลังจาก’หลงยี่’ปล่อยหมัดเข้าปะทะกับ’วู่ฉิง’แล้ว เขากวาดขาเตะเข้าไปยังสีข้างของ’วู่ฉิง’ ลูกเตะที่รวบรวมซวนฉีไว้อย่างมหาศาลฟาดใส่’วู่ฉิง’จนกระเด็นไปหลายสิบเมตร และกลิ้งลงไปกองอยู่บนพื้นด้วยร่างกายที่เปิ้อนไปด้วยเศษดิน

แรงปะทะที่’วู่ฉิง’ได้รับเข้าไปนั้น ส่งผลให้เขาต้องลงไปนอนร้องโหยหวนอยู่บนพื้นและไม่อาจลุกขึ้นยืนได้อีก

“วู่ฉิง!”

‘หานเจียน’ที่เดิมทีจะยืนรอดูฉากสนุกอยู่ข้างถึงกับตื่นตะลึง เขาไม่คิดว่า’หลงยี่’จะแข็งแกร่งจนสามารถทำให้’วู่ฉิง’พ่ายแพ้ได้ในการเตะครั้งเดียว

“ไร้ประโยชน์จริงๆ”

‘ถานเยว่’ที่อยู่ในชุดสีแดงสวยงามส่งสายตาตำหนิและดูถูกไปยัง’วู่ฉิง’ นางคิดว่าจะได้เห็นฉากที่น่าบันเทิงขณะที่’วู่ฉิง’สั่งสอนเจ้าขยะนั่น แต่กลายเป็นว่า มันกลับทำให้นางต้องอับอายขายขี้หน้า!

“เอาละ ตอนนี้คิดว่าข้ามีคุณสมบัติพอเข้าสู่นิกายเจิ้นเทียนหรือยัง?”

‘หลงยี่’ทนความเจ็บปวดที่มือไว้ เขามองไปยัง’ถานเยว่’และ’หานเจียน’อย่างเยือกเย็น

“แกอย่าประเมินตัวเองสูงไป! หานเจียนจัดการมันซะ ทำให้มันรู้ว่าผู้ที่มาล่วงเกินเซียวเจี๋ยคนนี้จะต้องได้รับผลอย่างไร!”

‘ถานเยว่’เปล่งเสียงทางจมูก แล้วสั่ง’หานเจียน’ให้จัดการ’หลงยี่ ‘

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments