I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Martial Emperor ตอนที่ 18 เริ่มการแสดง

| Dragon Martial Emperor | 758 | 2339 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

เมื่อทั้งคู่พร้อมที่จะประมือกัน เลี่ยวเล่อเล่อถอยเท้ากลับเข้าไปรวมกับฝูงชนพร้อมทั้งตะโกนให้กำลังใจ

“หลงยี่ จัดการเลย!”

“นี่ศิษย์น้อง การที่เจ้าให้กำลังใจเจ้าหนุ่มนั่นช่างเป็นเรื่องเสียเปล่าโดยแท้”

เมื่อ’เลี่ยวเล่อเล่อ’ตะโกนให้กำลัง’หลงยี่’ ศิษย์ชั้นนอกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างนางได้พูดขึ้นอย่างดูถูก

“ทุกคนรู้ว่าเฟิงหยางคนนั้น เดือนหน้าก็จะได้เลื่อนลำดับขึ้นเป็นศิษย์ชั้นในแล้ว เจ้าหนุ่มหลงยี่ที่เพิ่งจะเข้าสู่นิกายไม่กี่วันไม่มีทางต่อกรกับเขาได้”

“เหอะ! ไร้สาระที่สุด”

‘เลี่ยวเล่อเล่อ’พูดขึ้น

“ก่อนหน้านี้หลายคนก็บอกว่าเขาไม่มีทางเอาชนะหานเจียนและถานเยว่ได้ แล้วผลสุดท้ายเป็นเช่นไร?”

เมื่อศิษย์ชั้นนอกคนนั้นได้ยินคำพูดนาง เขาก็ทำได้เพียงเปล่งเสียงเย็นทางจมูก เขามอง’เลี่ยวเล่อเล่อ’ที่ยังคงเริงร่ากับการให้กำลังใจ’หลงยี่’อย่างดูถูกและไม่ได้พูดสิ่งใดอีก

อีกด้าน เมื่อ’ถานเยว่’ที่นั่งอยู่บนแคร่หามไม้ได้ยินคำพูดนั้น ก็ปรากฏแววตาลุกโชน นางส่งสายตาที่แหลมคมไปยัง’เลี่ยวเล่อเล่อ’

“หึ นางคนนั้นสมควรตาย มันกล้าดูถูกเสี่ยวเจี๋ยคนนี้ เสี่ยวเจี๋ยต้องให้มันจ่ายค่าตอบแทนที่สาสม!”

‘ถานเยว่’พูดด้วยนำเสียงกินเลือดกินเนื้อ เมื่อได้ยินดังนั้น ‘ฟางคัง’ที่นั่งอยู่ด้านข้างนางก็พูดขึ้น

“น้องถาน ไว้ข้าจัดการเจ้าขยะนั่นเสร็จเมื่อไหร่ พวกเราค่อยจัดการกับผู้หญิงอวดดีคนนั้นเป็นเช่นไร”

“หึ”

‘ถานเยว่’ไม่ได้พูดสิ่งใดอีก เพราะคำพูดของ’ฟางคัง’ได้บันเทาโทสะในใจนางไปบางแล้ว และด้วยที่’ฟางคัง’เป็นถึงศิษย์ชั้นใน เขาย่อมทำตามสิ่งที่พูดได้อย่างแน่นอน

ณ ลานกว้างหน้าหอคัมภีร์ เวลานี้ เฟิงหยางสงบใจลงแล้วพูดกับหลงยี่ด้วยสายตาแดกดัน

“เจ้าขยะ ช่วยแสดงวิทยายุทธแสนวิเศษที่เจ้าสำเร็จในหอคัมภีร์ให้ข้าดูเป็นขวัญตาทีสิ”

“แล้วเจ้าไม่ลองมาทดสอบด้วยตัวเองดูเล่า? ไม่ต้องเห่ามาก เข้ามา”

‘หลงยี่’ยิ้มอย่างเย้ยยันแล้วกวักนิ้วให้’เฟิงหยาง’เข้ามา ชัดเจนว่าท่าทางของ’หลงยี่’นั้นแสดงถึงความดูถูกอย่างยิ่ง ใบหน้าของ’เฟิงหยาง’กลับกลายเป็นดำคล่ำ เขาพุ่งเข้าหา’หลงยี่’พร้อมกับพูดขึ้น

“ไอขยะ ข้าจะหักขาของแกทิ้งซะ”

เมื่อร่างของ’เฟิงหยาง’พุ่งเข้าหา’หลงยี่’ อากาศโดยรอบพลันสั่นสะเทือนจนเกิดเป็นระรอกคลื่น ร่างของเขาเข้าประชิด’หลงยี่’ในชั่วพริบตา

“นี่มัน ทะยานข้ามเวหา!”

ได้เห็นดังนั้น ‘หลงยี่’รู้ถึงทักษะที่’เฟิงหยาง’ใช้ทันที นี่คือหนึ่งในวิทยายุทธเสริมความว่องไวที่มีชื่อว่า ‘ทะยานข้ามเวหา’ซึ่งเขาเคยเห็นมันในหอคัมภีร์ และแม้จะเป็นวิทยายุทธประเภทเดียวกับ‘ก้าวพริบตา’แต่หลักการของมันนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง

‘ก้าวพริบตา’ใช้หลักการลดน้ำหนักของผู้ใช้ลงเพื่อเพิ่มความว่องไวในการเคลื่อนที่ ขณะที่‘ทะยานข้ามเวหา’ ใช้การสั่นสะเทือนอากาศโดยรอบเพื่อก่อระรอกคลื่นพลักตัวผู้ใช้ให้พุ่งไปด้านหน้าด้วยความเร็ว ทั้ง‘ก้าวพริบตา’และ‘ทะยานข้ามเวหา’ในระดับเริ่มต้นจนถึงระดับเซียวเฉิงนั้น ให้ผลที่ไม่ต่างกันมากนัก

แต่หากเป็นระดับต้าเฉิงแล้วจะให้ผลที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ‘ก้าวพริบตา’ในระดับต้าเฉิง จะเสริมความเร็วอย่างมหาศาล ให้ผู้ใช้สามารถเคลื่อนที่ได้ระยะทางสามสิบก้าวในหนึ่งย่างก้าว  ส่วน‘ทะยานข้ามเวหา’ระดับต้าเฉิง นอกจากจะใช้การสร้างแรงสั่นสะเทือนในอากาศเพื่อให้เกิดการระเบิดส่งผู้ใช้ให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วยิ่งยวดแล้ว แรงสั่นสะเทือนของอากาศยังส่งผลกระทบต่อศัตรูที่อยู่โดยรอบเช่นกัน

สำหรับ’เฟิงหยาง’ที่กำลังจะเลื่อนขั้นเป็นศิษย์ชั้นในนั้น ชัดเจนว่ามันต้องสำเร็จ‘ทะยานข้ามเวหา’ในระดับต้าเฉิงแล้วอย่างแน่นอน เพราะนอกจากที่มันเคลื่อนที่เขามาหาเขาด้วยความเร็ว ระรอกคลื่นในอากาศยังส่งผลกระทบกับ’หลงยี่’เช่นกัน มันทำให้เขารู้สึกหายใจลำบากยิ่ง “ปลดปล่อยตรามังกร!”

‘หลงยี่’ตัดสินใจใช้ตรามังกรทันที ตรามังกรบนอกเขาของแผ่คลื่นความร้อนออกมา และกระจายพลังไปทั่วร่าง ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอีก 10,000 จิน ในการเผชิญหน้ากับ’เฟิงหยาง’ที่อยู่ในวู่เต้าลำดับที่ 5 ทั้งยังสำเร็จวิทยายุทธเสริมความว่องไวระดับต้าเฉิง หากเขาไม่ปลดปล่อยตรามังกร นั่นย่อมเป็นการรนหาที่ตายอย่างยิ่ง

“ขามังกรขด!”

สายตาของ’เฟิงหยาง’เปล่งประกายแห่งการเข่นฆ่า ขาทั้งคู่ของเขาที่จู่โจมออกไปเหมือนคดงอเหมือนดังมังกรขด เขาควบแน่นซวนฉีปริมาณมหาศาลไว้ที่ขาทั้งสองข้างจนแข็งเกร็ง เพื่อเข้าปะทะกับ’หลงยี่’ วิทยายุทธระดับต้าเฉิงที่’เฟิงหยาง’ใช้ออกมา มีชื่อเรียกว่า ‘ขามังกรขด’

“จิตเร้นลับ จงยับยั้ง!”

‘หลงยี่’กัดฟันปลดปล่อยจิตเร้นลับเพื่อยับยั้งการโจมตีที่รุนแรงของ’เฟิงหยาง’ พร้อมทั้งปล่อยหมัดทั้งสองเข้าปะทะ ด้วยที่’หลงยี่’สำเร็จร่างมารทรราชย์ระดับเริ่มต้น มันช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งพื้นฐานของเขา ทำให้กำปั้นทั้งสองข้างนี้มีความแข็งแกร่งถึง 20,000 จิน หรือ 20 ม้าคลั่ง

เมื่อกำปั้นของ’หลงยี่’เข้าปะทะกับลูกเตะของ’เฟิงหยาง’ ซวนฉีปริมาณมหาศาลของทั้งคู่ได้เข้าปะทะกัน ส่งผลให้เกิดคลื่นอากาศกระจายออกมา พัดพาฝุ่นควันให้ปกคลุมไปทั่วบริเวณ บดบังสายตาของผู้ชมทั้งหมดไปชั่วครู่

‘หลงยี่’รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่กำปั้น เมื่อต้องปะทะกับวิทยายุทธระดับต้าเฉิง แต่ถึงอย่างนั้น การที่เขาตวบแน่นซวนฉีไว้ที่กำปั้นส่งผลให้ระดับความแข็งแกร่งไม่ต่างกับลูกเตะที่’เฟิงหยาง’ปล่อยออกมา อาการบาดเจ็บของเขาจึงไม่ถึงกับสาหัส การปะทะกับหมัดของ’หลงยี่’ส่งผลให้’เฟิงหยาง’ถอยไปสองก้าว หน้าของเขากลายเป็นเขียวคล่ำพร้อมกับเกิดคำถามขึ้นในใจ

เหตุใดความแข็งแกร่งของเจ้าขยะนี้ถึงทำให้เขาถอยกลับได้? แล้วยังพลังที่แปลกประหลาดที่ค่อยฉุดรั้งตัวเขาไว้อีก ความรู้สึกนี่มันคล้ายคลึงกับ แรงกดดันของหุบเขาเจิ้นเทียน? ขณะที่’เฟิงหยาง’กำลังขบคิด ร่างของ’หลงยี่’ลอยพุ่งทะลุหมอกควันออกมา และในพริบตา ร่างนั้นได้หายไปจากสายตาของ’เฟิงหยาง’

“บ้าน่า! ก้าวพริบตาระดับเซียวเฉิงงั้นรึ?”

‘เฟิงหยาง’ถึงกับเผลอตัวลดการป้องกันลงเมื่อเป้าหมายของเขาหายไปจากสายตา เขาไม่อยากเชื่อจริงๆว่าเจ้าขยะนั้นสามารถสำเร็จก้าวพริบตาระดับเซียวเฉิงได้ในเวลาเพียงวันเดียว!

แตะ แตะ แตะ เสียงฝีเท้าดังมาจากทางซ้ายทำให้เขาคืนสติและใช้‘ขามังกรขด’กวาดขาทั้งสองข้างไปยังทิศนั้นทันที

วืด! ขาของ’เฟิงหยาง’ฟาดได้เพียงความว่างเปล่า ‘หลงยี่’จงใจสร้างเสียงฝีเท้าในทิศทางนั้น และจู่โจมเข้ามาในอีกทิศทางหนึ่ง

“ฮ่า!”

หมัดหนักที่ถูกควบแน่นด้วยซวนฉีของ’หลงยี่’โผล่มาในด้านขวาของเฟิงหยาง ขณะที่ขาของเขายังลอยค้างอยู่บนอากาศจึงเป็นไปไม่ได้ที่’เฟิงหยาง’จะหลบเลี่ยงหมัดนี้

ปัง!

หมัดของ’หลงยี่’ปะทะเข้ากับไหล่ของ’เฟิงหยาง’อย่างรุนแรง ส่งผลให้ร่างของเขาเสียการทรงตัว จนต้องถอยไปหลายก้าว เคราะห์ดี ในช่วงเวลาวิกฤต ‘เฟิงหยาง’รีบควบแน่นซวนฉีไว้ที่ไหล่ ไม่เช่นนั้น เขาคงไม่สามารถใช้แขนขวาได้แล้ว ถึงอย่างนั้น เขายังรู้สึกชาไปทั่วทั้งแขนขวา พร้อมกับเกิดความสับสนขึ้นในใจ

เจ้าขยะ’หลงยี่’ ชัดเจนว่ามันอยู่แค่ระดับวู่เต้าลำดับที่ 4 แล้วเหตุใด ความแข็งแกร่งของมันถึงสูงยิ่งกว่าเขาได้? ‘เฟิงหยาง’นั้นอยู่ในวู่เต้าลำดับที่ 5 ซึ่งมีความแข็งแกร่ง 16,000 จิน แต่’หลงยี่’ยามปลดปล่อยตรามังกรนั้นมีความแข็งแกร่งเกือบ 20,000 จิน ความต่างถึง 3000 จินนี้ สิ่งผลให้หลงยี่เป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างยิ่ง

แต่ด้วยที่’เฟิงหยาง’สำเร็จวิทยายุทธระดับต้าเฉิงทั้งประเภทเสริมความว่องไวและการโจมตี การจัดการกับเขาย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน

“ถึงเวลาปิดม่านแล้ว”

มุมปากของ’หลงยี่’โค้งขึ้น เขาจู่โจมต่อด้วยการกวาดขาเตะเข้าใส่หลังของ’เฟิงหยาง’อย่างหนักหน่วง

“อย่าพึ่งได้ใจไป ข้าจะแสดงให้เห็นเองว่าการต่อสู้นี้จะจบอย่างไร!”

‘เฟิงหยาง’ไม่โง่งมเช่นกัน เขาใช้ทักษะ‘ทะยานข้ามเวหา’ เพื่อหันตัวและใช้‘ขามังกรขด’กวาดขาข้างหนึ่งเข้ารับการจู่โจม และอีกข้างกวาดเข้าใส่ช่วงหัวของ’หลงยี่’

“หลบหลีก!”

ร่างของ’หลงยี่’เคลื่อนที่หลบหลีกอย่างรวดเร็วดังสายลม พร้อมจู่โจมอีกครั้งในทิศทางอื่น แม้’เฟิงหยาง’จะสำเร็จ‘ทะยานข้ามเวหา’ในระดับต้าเฉิงที่สามารถสร้างแรงดันอากาศเพื่อยับยั้งการเคลื่อนที่ของ’หลงยี่’ แต่ภายใต้ผลของจิตเร้นลับแล้ว มันกลับกลายเป็นไร้ค่า

ส่งผลให้ในเวลานี่ ‘เฟิงหยาง’กลับตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบทั้งด้านความเร็วและด้านความพละกำลัง

“อ้า นั่นผู้อาวุโสนี่!”

ในช่วงเวลาวิกฤตินั้น มีเสียงใสของหญิงสาวดั่งขึ้นมาจากด้านหนึ่งของฝูงชนที่มุงดูอยู่ เสียงนั่นดึงดูดความสนใจของทุกคนจากเดิมที่จดจ่อการกับต่อสู้ระหว่าง’หลงยี่’และ’เฟิงหยาง’ พวกเขามองหาผู้อาวุโสตามที่ได้ยินไปทุกทิศทาง ‘เฟิงหยาง’ที่ได้ยินดังนั้น สมาธิของเขาจึงแตกซ่าน จิตใจสับสนวุ่นวายทันที

“ไม่ดีแน่ ข้ายึดเหรียญประจำตัวของศิษย์ชั้นนอกโดยไร้เหตุผล หากผู้อาวุโสรู้เรื่องเข้า ข้าต้องโดนลงโทษหนักเป็นแน่”

สายตาของ’เฟิงหยาง’ตื่นตระหนกและหันไปรอบเพื่อมองหาร่างของผู้อาวุโส ถึงอย่างนั้น มีเพียง’หลงยี่’ที่ยังคงมีสมาธิกับการต่อสู้ และสายตาของเขายังคงจับจ้องแต่คู่ต่อสู้เสมอ เมื่อเห็น’เฟิงหยาง’หันมองไปทางอื่น เขาก็รู้ว่าชัยชนะนั้นอยู่ไม่ไกลแล้ว

“จิตเร้นลับ สังหาร!”

กลิ่นอายจิตเร้นลับมหาศาลถูกปลดปล่อยออกมาห่อหุ้มร่างของ’เฟิงหยาง’ไว้ ‘หลงยี่’ใช้ก้าวพริบตาเคลื่อนที่เข้าหา’เฟิงหยาง’พร้อมกับปล่อยหมัดและลูกเตะหลายครั้งด้วยแรงทั้งหมดที่มี การโจมตีแต่ละครั้งของเขาล้วนจู่โจมด้วยทิศทางที่เป็นจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ เมื่อผนวกกับจิตใจที่สับสนวุ่นวายของ’เฟิงหยาง’ และความรวดเร็วในการจู่โจมแล้ว

มันย่อมมิอาจต่อต้านการโจมตีเหล่านี้ได้

ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

ด้วยการโจมตีที่มีความแข็งแกร่งถึง 20,000 จิน จู่โจมอย่างต่อเนื่องนับไม่ถ้วน ‘เฟิงหยาง’ถึงกับกระอักเลือดออกมาและร่างของมันร่วงไปนอนอยู่บนพื้น เมื่อร่างของ’เฟิงหยาง’ล้มลง เสียงรอบข้างกลายเป็นเงียบกริบ พวกเขาจ้องมอง’หลงยี่’สลับกับ’เฟิงหยาง’ที่นอนอยู่บนพื้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

‘หลงยี่’เอาชนะ’เฟิงหยาง’ในเวลาสั้นๆได้?

‘เฟิงหยาง’ที่อยู่ในระดับวู่เต้าลำดับที่ 5 กลับถูกจัดการอย่างง่ายดายด้วยเจ้าหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่เพียงวู่เต้าลำดับที่ 4 และยังบาดเจ็บหนักจนสิ้นสติ นี่ช่างเหนือความคาดหมายของทุกคนยิ่ง!

“เยี่ยม เจ้าชนะแล้ว!”

น้ำเสียงของหญิงสาวคนเดิมที่เรียกให้ทุกคนมองหาผู้อาวุโสก่อนหน้านี้ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับร่างในชุดสีเทากระโดดออกมาจากฝูงชน แล้วเดินไปยังร่างของ’เฟิงหยาง’ที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น แน่นอนว่าเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก’เลี่ยวเล่อเล่อ’

ก่อนหน้านี้ นางได้ใช้ลูกเล่นเพื่อก่อกวนจิตใจ’เฟิงหยาง’จนสับสนวุ่นวาย จึงทำให้’หลงยี่’จบการต่อสู้นี้อย่างง่ายดาย เวลานี้ ‘เลี่ยวเล่อเล่อ’ก้าวไปยังด้านหนึ่งของร่าง’เฟิงหยาง’ที่นอนอยู่ แล้วลงมือค้นหาบางสิ่งในเสื้อของมัน ไม่นานนางก็หยิบของสองสิ่งออกมา มันคือเหรียญประจำตัวของนางและขวดหยกอันเล็กที่ถูกสร้างขึ้นอย่างปราณีต

ปรากฏรอยยิ้มอย่างพึงพอใจขึ้นบนใบหน้าของ’เลี่ยวเล่อเล่อ’ เมื่อนางเห็นของทั้งสองสิ่ง

“เอ้าหลงยี่ ยาเม็ดฉิงหัวตันของเจ้า”

หลังจาก’เลี่ยวเล่อเล่อ’เก็บเหรียญประจำตัวไว้ในเสื้อ นางโยนขวดหยกให้’หลงยี่’ที่ยืนอยู่ไม่ไกล ‘หลงยี่’รับมาแล้วเปิดดู ทันใดนั้น เกิดกลิ่นหอมที่น่าเย้ายวนลอยฝุ้งไปในอากาศ มันคือยาทิพย์โอสถที่มีชื่อว่าฉิงหัวตันอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ก่อนที่เขาจะได้ผ่อนคลาย ร่างๆหนึ่งที่ยืนอยู่อีกด้านพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยยัน

“หึ ช่างเป็นชัยชนะที่ไม่งดงามเสียจริง คืนนี้ ข้าฟางคัง จะแก้แค้นให้ศิษย์น้องเฟิงหยาง และแสดงให้เจ้าได้เห็นว่าไม่ว่าอย่างไร เจ้าก็ยังเป็นขยะอยู่วันยังค่ำ!”

ทุกๆคนมองไปยังเสียงนั่น และพบกับชายร่างผอมคนหนึ่งในชุดสีน้ำเงิน ก้าวเข้ามาจากด้านหนึ่งที่มีถานเยว่นั่งอยู่บนแคร่หาม ชายคนนี้ มีกล้ามเนื้อแน่นและผิวดำสนิท พร้อมทั้งปรากฏความอาจหาญในดวงตา เขาคือฟางคังซึ่งเป็นบริวารของถานเจียน

และเขายังอยู่ในระดับวู่เต้าลำดับที่ 6 !!

…………..

ค้างกันไปอีกตอน ช่วงนี้มีเวลาว่างสั้นๆแปปนึงเลยรีบแปลจัด ถ้ามีตรงไหนผิดพลาดก็ขออภัยนะครับ

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments