I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Martial Emperor ตอนที่ 20 อำนาจของเฟิงหยุน

| Dragon Martial Emperor | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

เมื่อชายรูปงามในชุดสีขาวพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าก้าวเข้ามาในลานกว้างทีละก้าวทีละก้าว ทุกๆคนล้วนถูกดึงดูดด้วยท่าทางทีดูสูงส่งของเขา   ศิษย์นิกายเจิ้นเทียนล้วนรู้ดีว่าเฟิงหยุนได้อยู่ในกลุ่มศิษย์ชั้นสูงในปัจจุบัน

แต่ไม่มีใครคาดคิดเช่นกันว่าเขาจะปรากฏตัวที่นี่ ตามที่รู้มา ‘เฟิงหยุน’นั้นมาจากตระกูลเดียวกันกับ’เฟิงหยาง’ เช่นนั้นเขาไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆเป็นแน่ ทุกคนจึงคิดเหมือนกันว่านี่คือวาระสุดท้ายของ’หลงยี่’แล้ว

ในกลุ่มฝูงชน ‘ถานเยว่’ที่นั่งอยู่บนแคร่หาม เมื่อนางมองไปยัง’เฟิงหยุด’แล้วนางก็อดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทีขวยเขินออกมา   นางรู้สถานะของ’เฟิงหยุน’ดี ‘ถานเจียน’เคยบอกนางว่า’เฟิงหยุน’ติดอันดับหนึ่งในสิบศิษย์ชั้นสูงที่แข็งแกร่งที่สุดในนิกายเจิ้นเทียน ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีใบหน้าที่หล่อเหล่าและมีโอกาสขึ้นหัวหน้าตระกูลเฟิงของเมืองยี่กวน

เมื่อ’ถานเยว่’ได้เห็นตัวจริงของ’เฟิงหยุน’ นางรู้ทันใดว่าเรื่องที่พี่ชายเล่าให้ฟังไม่ผิดไปจากความจริงแม้แต่น้อย ‘เฟิงหยุน’เป็นชายรูปงามและดูสูงส่ง หากนางครอบครองหัวใจเขาได้ ตระกูลถานย่อมได้ประโยชน์จากเรื่องนี้อย่างยิ่ง

แต่ทันใดนั้น ‘ถานเยว่’จึงตื่นจากผวังเมื่อได้ยินเสียงใสของหญิงสาวที่ดังขึ้นรบกวนความคิดของนาง

“ชายคนนี้ช่างหล่อเหลาเสียจริง! นี่ หลงยี่ เจ้ารู้จักเขาไหม? เขาปรบมือชื่นชมกับชัยชนะของเจ้างั้นหรือ?”

‘เลี่ยวเล่อเล่อ’พูดขณะที่จับจ้องไปยังใบหน้าของ’เฟิงหยุน’

“ยังไงเจ้าช่วยแนะนำข้าให้เขารู้จักทีสิ ยังไง ข้าก็เป็นคนช่วยให้เจ้าได้ยาเม็ดฉิงหัวตันมานะ”

“ข้าก็อยากแนะนำเจ้าให้เขารู้จัก แต่น่าเสียดาย ข้าไม่ได้มีสัมพันธ์อันดีกับเขานี่สิ”

‘หลงยี่’พูดเบาๆขณะที่มองไปยัง’เฟิงหยุน’

‘เฟิงหยุน’ยังคงมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าตลอดเวลาขณะที่เขาเดินเข้ามา แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดของ’หลงยี่’ เขาหัวเราะเสียงดังพร้อมพูดขึ้น

“น้องชาย เจ้าบอกว่าพวกเราไม่ได้มีสัมพันธ์อันดีต่อกันงั้นรึ? อย่ามองข้าเป็นคนแปลกหน้าเช่นนั้นสิ การฝึกวรยุทธ์ของเจ้าช่างเติบโตได้เร็วนัก มันทำให้พี่ชายอย่างข้าประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง”

เขาพูดขณะยืนห่างจาก’หลงยี่’อย่างน้อยสามสิบก้าว ‘เฟิงหยุน’ก้มหน้าลงมอง’เฟิงหยาง’ที่ยังคงนอนอยู่บนพื้นโดยไร้สติ แล้วคลี่ยิ้มจางๆ

“แต่ทว่า น้องชาย เจ้าลงมือต่อพี่น้องที่มาจากตระกูลเดียวกัน เจ้าไม่คิดหรือไงว่าในเมื่อพวกเรามาจากตระกูลเดียวกันก็สมควรต้องช่วยเหลือและไม่ทำร้ายกัน?”

ประโยคเหล่านี้ล้วนเต็มไปด้วยจิตสังหารจากความโกรธของ’เฟิงหยุน’ เขามอง’หลงยี่’อย่างดุร้าย ทันใดนั้น บรรยากาศโดยรอบกลับแปรเปลี่ยนเป็นความกดดัน

“คนคนนี้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเร็วยิ่ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังยิ้มแย้มอยู่เลย”

‘เลี่ยวเล่อเล่อ’รับรู้ถึงแรงกดดันจาก’เฟิงหยุน’เช่นกัน จนทำให้ใจของนางหล่นไปอยู่ยังตาตุ่ม   แม้นางจะไม่รู้จัก’เฟิงหยุน’ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเขา นางทราบทันทีว่าเขาคนนี้เกี่ยวข้องกับ’เฟิงหยาง’ และแข็งแกร่งยิ่งกว่า’ฟางคัง’

สำหรับตัวตนของ’หลงยี่’แล้ว ทุกคนล้วนทราบดีว่าเขาคือบุตรบุญธรรมของหัวหน้าตระกูลเฟิง พวกเขาจึงไม่แปลกใจหลังจากได้ยินคำพูดของ’เฟิงหยุน’   พวกเขารู้ว่าตอนนี้ ‘หลงยี่’ต้องเจอกับปัญหาใหญ่จริงๆแล้ว

“ตระกูลเฟิง?”

‘หลงยี่’เผชิญหน้ากับ’เฟิงหยุน’โดยยังคงรักษาความเยือกเย็นไว้ เขาพูดขึ้นอย่างเย้ยยัน

“หึ บอกข้าสิว่าเหตุใดข้าต้องทำดีต่อคนตระกูลเฟิง ในเมื่อพวกมันไม่เคยสนใจอะไรข้า นอกเสียจากเรียกข้าว่าขยะ?”

“แต่แกหักขาน้องชายของข้า”

‘เฟิงหยุน’มองมายังเขาพร้อมพูดขึ้น

“คิดจะเปลี่ยนเรื่องหรือยังไง?”

‘หลงยี่’ยิ้มอย่างดูถูก ‘เฟิงหยุน’เข้าสู่นิกายเจิ้นเทียนเมื่อหลายปีก่อน และปัจจุบันมันมีอายุประมาณ 24 หรือ 25 ปี นอกจากนั้นในงานประลองประจำปีของตระกูล มันยังอยู่ในระดับวู่เต้าลำดับที่ 7 เวลานี้ มันเป็นถึงหนึ่งในสิบของศิษย์ชั้นสูงที่มีความสามารถสูงสุดในนิกายเจิ้นเทียน และมันยังแข็งแกร่งยิ่งกว่า’เฟิงหลงซ่ง’ด้วยซ้ำไป

‘หลงยี่’พยายามขบคิดกลยุทธ์เพื่อรับมือกับ’เฟิงหยุน’ แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาไม่อาจหาวิธีที่จะต่อกรกับมันได้เลย ตอนนี้ เขาได้ทำเพียงใช้คำพูดเพื่อซื้อเวลาเท่านั้น   แม้ตั้งใจจะทำเช่นนั้น แต่ดูเหมือน’เฟิงหยุน’ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะฟังสิ่งใด

ทันใดนั้น ร่างในชุดสีขาวเคลื่อนไหวพร้อมกับพูดขึ้น

“ใครผิดใครถูกล้วนไม่สำคัญ ในเมื่อแกหักขาน้องข้า เช่นนั้นคืนนี้ ข้าจะแก้แค้นให้เขา”

หลังจบประโยค ‘หลงยี่’รู้สึกถึงแรงกดดันอย่างมหาศาลกดทับตัวของเขา ความรู้สึกนั้นคล้ายกับจิตเร้นลับที่เขาใช้แต่กลับแข็งแกร่งยิ่งกว่า!   ภายใต้อำนาจของแรงกดดันอันมหาศาลนั้น ร่างของหลงยี่ไม่อาจเคลื่อนไหวอันใดได้ เขาทำได้เพียงยืนนิ่งเพื่อรอรับการโจมตี

“นี่คืออำนาจของจิตเร้นลับของศิษย์ชั้นสูงงั้นรึ? แรงกดดันที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับคมมีดที่สับลงมาบนตัวข้า และตัวข้าก็เหมือนกับปลาที่ทำได้เพียงนอนนิ่งอยู่บนเขียง”

‘หลงยี่’กัดฟัน ตอนนี้เขาเข้าใจชัดเจนว่าเขาไม่มีทางต่อต้านสิ่งนี้ได้เลย ‘เลี่ยวเล่อเล่อ’ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ’หลงยี่’ขณะนี้ก็มีสภาพไม่ต่างกัน

ในเวลานี้ ปรากฏรอยยิ้มสาแก่ใจขึ้นบนใบหน้า’เฟิงหยุน’ เขากวาดมือขวาสร้างคลื่นแห่งแรงกดดันออกไป

“คลื่นทะลวงนภา”

หลังจบประโยค ปรากฏคลื่นแสงสีขาวของซวนฉีออกมาจากมือขวาของเขา   การควบคุมซวนฉีภายนอก!

‘หลงยี่’เบิกตามองคลื่นสีขาวพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วแล้วเจาะเข้าที่ขาขวาของเขา

ฉึก!

โลหิตหลั่งไหลออกมาจากขาขวา แต่’หลงยี่’กัดฟันแน่นเพื่อพยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้   ความแข็งแกร่งของ’เฟิงหยุน’นั้นมากมายมหาศาล มันใช้จิตเร้นลับเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของเขาเอาไว้และใช้ทักษะสร้างซวนฉีขึ้นมาเพื่อโจทตีเข้าที่ขาขวาของเขา

แม้เป็นเช่นนั้น ‘หลงยี่’ไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อยและยังไม่ล้มลง เขาพยายามประคองตัวเองด้วยขาซ้าย   เมื่อเห็นดังนั้น ไม่เพียง’เลี่ยวเล่อเล่อ’ เหล่าศิษย์ชั้นนอกที่ยืนมองดูรวมทั้ง’เฟิงหยุน’ล้วนแปลกใจ

“โอ้ ความอดทนของเจ้าช่างเข้มแข็งยิ่ง”

ร่างของ’เฟิงหยุน’ปลดปล่อยแรงกดดันมหาศาลออกมาขณะเดินมายัง’หลงยี่’

“ถัดไป นี่คือการแก้แค้นสำหรับเฟิงหยาง!”

สายตาของเขามองไปยังอกของ’หลงยี่’ ชัดเจนนั่นคือที่ที่เขาจะจู่โจมต่อไป   บางที ‘เฟิงหยุน’อาจไม่สามารถควบคุมซวนฉีภายนอกได้เชี่ยวชาญนัก มันจึงเดินเข้ามาหา’หลงยี่’

“แกพร้อมหรือยัง?”

สายตาของเฟิงหยุนมองอย่างล้อเลียน   ‘หลงยี่’กัดฟันแต่ไม่พูดอะไร ตอนนี้เขาพยายามขบคิดในใจ

“นอกจากผู้อาวุโสที่ดูแลหอคัมภีร์แล้ว ความหวังเดียวของข้าคงต้องฝากไว้กับ‘ตราเก้ามังกรซ่อน’บนหน้าอกนี้ ในเมื่อเฟิงหยุนมันตั้งใจจะจู่โจมที่อกของข้า ข้าก็อยากรู้เช่นกันว่าระหว่างตรามังกรกับการโจมตีของมันสิ่งจะแข็งแกร่งกว่ากัน”

เมื่อ’หลงยี่’ตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง แต่เขายังคงขบคิดอย่างใจเย็น   นิกายเจิ้นเทียนมีกฏห้ามไม่ให้ฆ่ากันนอกจากการต่อสู้ที่เป็นทางการ โดยเฉพาะเมื่อศิษย์ที่มีวรยุทธ์สูงลงมือต่อศิษย์ใหม่

ในสถานการณ์นี้ ‘เฟิงหยุน’ไม่น่าจะกล้าสังหารเขาต่อหน้าหอคัมภีร์ที่มีผู้อาวุโสคอยดูแลอยู่ และเมื่อเขามองเห็นท่าทีหยิ่งยโสของมัน ‘หลงยี่’ไม่มีทางยอมคุกเข่าขอความเมตตากับมันแน่   เขายืดอกขึ้นพร้อมยืนอย่างมั่งคงต่อหน้า’เฟิงหยุน’

“ช่างน่าสนใจยิ่ง”

‘เฟิงหยุน’ยิ้มขณะมองอย่างดูถูก

“แกจะต้องจดจำบทเรียนในคืนนี้ไปชั่วชีวิต!”

หลังจากพูดจบ ‘เฟิงหยุน’ควบแน่นซวนฉีถึง 30,000 จินไว้ที่ฝ่ามือและปล่อยใส่หน้าอกของ’หลงยี่’

ปัง!

ด้วยเสียงเหมือนดังสายฟ้าฟาด ซวนฉีปริมาณมหาศาลเข้าปะทะกับร่างของ’หลงยี่’   แต่ทันใดนั้น ตรามังกรบนหน้าอก’หลงยี่’รับรู้ถึงการรุกล้ำของซวนฉีภายนอกจึงเกิดปฏิกิริยาขึ้น   ด้วยอำนาจลึกลับของตรามังกรสะท้อนกลับใส่’เฟิงหยุน’จนส่งร่างของมันกระเด็นลอยไปเหมือนลูกบอล

เหล่าศิษย์นับร้อยที่ยืนมุงดูอยู่ถึงกับเบิกตากว้างอย่างโง่งม พวกเขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น   ‘เฟิงหยุน’เป็นถึงหนึ่งในสิบของศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในนิกาย แต่เมื่อปล่อยฝ่ามือเข้าปะทะกับหน้าอกของ’หลงยี่’ เขากลับถูกกระแทกกลับไปเช่นนั้น นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?

สถานการณ์นี้เมื่อดังเรื่องหมูกินเสือ แต่ถึงอย่างนั้น ในเมื่อ’หลงยี่’มีความสามารถถึงขั้นนี้ เหตุใดเขาถึงไม่สามารถป้องกันการโจมตีก่อนหน้าที่’เฟิงหยุน’โจมตีใส่ขาของเขาได้?   ร่างของ’เฟิงหยุน’กระเด็นลอยขึ้นไปเหมือนลูกบอลแล้วตกลงสู่พื้นอย่างรุนแรงพร้อมทั้งกลิ้งไปหลายตลบ ก่อนจะหยุดอยู่ใกล้ๆกับร่าง’เฟิงหยาง’ที่นอนไร้สติอยู่

ชุดสีขาวของเขาล้วนเปื้อนไปด้วยเศษดิน ดูแล้วน่าอนาถยิ่ง

“แค่กๆ….”

‘เฟิงหยุน’ไอแล้วหันไปจ้องยัง’หลงยี่’ด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อ   เขาไม่อยากเชื่อว่า’หลงยี่’ที่เป็นแค่ขยะของตระกูลเฟิงจะสามารถปลดปล่อยแรงอันมหาศาลกระแทกใส่เขาจนกระเด็นกลับมาแบบนี้ได้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมาย แต่เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกเสียหน้าต่อฝูงชนอย่างยิ่ง

และที่สำคัญสุดคือเขาไม่อาจเข้าใจได้ว่า’หลงยี่’สามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร   แต่เมื่อเขามองไปยัง’หลงยี่’ เขาเห็นร่างของมันร่วงไปนอนบนพื้นพร้อมทั้งไร้สติ และเห็นเด็กสาวในชุดสีเท่าคอยตะโกนเรียกชื่อมันด้วยความเป็นห่วง

“หลงยี่ หลงยี่ เจ้าเป็นอะไรไป?”

‘เลี่ยวเล่อเล่อ’มองลงไปยังหน้าอกของ’หลงยี่’ ทันใดนั้นปรากฏสีหน้าตื่นตระหนกขึ้นบนใบหน้าของนาง   ร่างของ’หลงยี่’ไร้สติและไม่ไหวติ่ง หัวใจและลมหายใจของเขาหยุดนิ่ง ทำให้นางเข้าใจว่าเขาคงสิ้นชีพแล้ว

ทั้งหมดนั้นเพราะความแข็งแกร่งของ’เฟิงหยุน’นั้นสูงยิ่ง ถึงแม้ว่านางไม่รู้ว่าเหตุใด’เฟิงหยุน’ถึงกระเด็นกลับไปแบบนั้น แต่’หลงยี่’ต้องได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน

“หยุดมือเดี๋ยวนี้! เฟิงหยุน”

ทันใดนั้น ทุกๆคนได้ยินน้ำเสียงแหบแห้งของชายแก่ในชุดคลุมสีดำเมื่อร่างของเขาปรากฏขึ้นใกล้กับ’หลงยี่’

“ผู้อาวุโสยี่”

เมื่อเห็นชายแก่คนนั้น ‘เฟิงหยุน’รู้ทันทีว่าเขาไม่อาจลงมือกับ’หลงยี่’ต่อได้แล้ว แต่วันนี้ เขาต้องเสียหน้าต่อเหล่าฝูงชนเช่นนี้งั้นรึ?   และยังพลังลึกลับของ’หลงยี่’ที่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้อีก มีสิ่งใดอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้กัน?

โชคไม่ดี ในเมื่อผู้อาวุโสผู้ดูแลหอคัมภีร์ปรากฏตัวขึ้นมาเช่นนี้ เขาก็ไม่อาจหาคำตอบใดๆได้อีก เขาจึงตัดสินใจเก็บความสงสัยนี้ไว้หาคำตอบในภายหลัง

“เฟิงหยุน แม้เจ้าจะเป็นหนึ่งในศิษย์ชั้นสูงของนิกาย แต่เจ้าไม่สามารถกระทำการโดยไม่คำนึงถึงกฏของนิกายแบบนี้ โลกของวู่เต้านั้นไร้จุดสิ้นสุด ในเมื่อเจ้ามีพรสวรรค์ เจ้าก็ควรใช้มันเพื่อก้าวขึ้นไปให้สูงที่สุดเท่าที่เจ้าจะทำได้ ไม่ใช่มาจมปลักกับความแค้นส่วนตัวแบบนี้!”

น้ำเสียงของผู้อาวุโสไม่ดังนัก แต่มันกลับกระจายไปทั่วบริเวณและทุกคนที่นี่ล้วนได้ยินชัดเจน ทำให้พวกเขาตระหนักถึงเป้าหมายที่แท้จริงของตนเอง คือมุ่งสู่จุดสูงสุดของวู่เต้า   โลกของวู่เต้านั้นไม่มีจุดสิ้นสุด แต่พวกเขากลับใช้เวลาทั้งวันเสียไปกับเรื่องไร้สาระ นี่ทำให้พวกเขารู้สึกผิดอย่างยิ่ง

“ศิษย์ทราบความผิดแล้ว ศิษย์จะกลับไปเดี๋ยวนี้”

‘เฟิงหยุน’พูดขึ้นอย่างไม่เต็มใจ เขามองร่างไร้สติของ’หลงยี่’ชั่วครู่แล้วจึงหันหลังกลับไป   แต่ขณะที่เขาหันหลังกลับ ทันใดนั้น’เฟิงหยุน’รู้สึกถึงพลังประหลาดบางอย่างในร่างของเขาปะทุขึ้นจนทำให้เขากระอักเลือดออกมา แต่เพื่อรักษาหน้า เขาพยายามกล่ำกลืนโลหิตก้อนนั้นไว้

“พลังประหลาดที่อยู่ในร่างข้ามาจากเจ้าขยะนั่น…..”

‘เฟิงหยุน’ก้มหน้าลงและไม่กล้าจะอยู่ที่นี่นานนัก เข้ารีบวิ่งกลับไปทันที   เมื่อ’เฟิงหยุน’จากไปอย่างเร่งรีบ ทุกคนต่างรู้ว่าการแสดงนี้จบลงแล้ว และคำพูดของผู้อาวุโสยี่ทำให้พวกเขาต้องทบทวนการกระทำของตนเอง พวกเขาควรจะรีบกลับไปฝึกฝนต่อ

“พาเขากลับมากับข้า”

น้ำเสียงแหบแห้งของผู้อาวุโสในชุดสีดำดังขึ้นในหูของ’เลี่ยวเล่อเล่อ’ นางจึงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

“ทราบแล้วผู้อาวุโส”

แม้’เลี่ยวเล่อเล่อ’จะเป็นเพียงเด็กสาว แต่นางนั้นอยู่ในวู่เต้าลำดับที่ 4 ที่มีความแข็งแกร่งถึง 8000 จิน เพราะฉะนั้น การแบกร่างของ’หลงยี่’ย่อมไม่ใช่ปัญหาสำหรับนาง

แสงสลัวยามค่ำคืนปกคลุมไปทั่ว หมู่ดวงดาวยังคงพร่างพรายอยู่บนท้องฟ้า   ผู้อาวุโสยี่ในชุดคลุมสีดำนำทั้งคู่มายังทางเข้าของนิกาย ซึ่งอยู่ใกล้กับหุบเขาเจิ้นเทียน

แม้การต่อสู้จะจบลงแล้ว แต่ตอนนี้ ไม่มีใครรู้เลยว่าจิตของ’หลงยี่’ได้ตกลงไปสู่ห่วงลึกแห่งความทรงจำโบราณอันสับสนวุ่นวาย   เมื่ออำนาจของ‘ตราเก้ามังกรซ่อน’ได้ตื่นขึ้น

ในที่สุด’หลงยี่’ก็ได้รับรู้ความลับบางอย่างของมันแล้ว

 

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments