I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Martial Emperor ตอนที่ 23 การต่อสู้อันแสนดุเดือด

| Dragon Martial Emperor | 731 | 2361 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ก่อนหน้านี้ไม่นาน ศิษย์ชั้นนอกนิกายเจิ้นเทียนเหล่านั้นได้ต่อกรกับสัตว์อสูรขนาดยักษ์ตัวนี้ ก่อนที่จะกลายเป็นอาหารของมันไป   หลงยี่ย่องเข้าไปใกล้ เพื่อมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างระวัง และเขาก็ต้องตกใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเห็นสัตว์อสูรตัวนี้ มันมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร รูปร่างเหมือนดั่งงูจงอาง ที่ยาวกว่า 100 ฟุต หัวของมันยกสูงจากเพื้นดินเกือบ 30 ฟุตเลยทีเดียว

สิ่งที่น่ากลัวอย่างยิ่งของเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้คือปากที่ใหญ่โตและเต็มไปด้วยพิษร้ายของมัน ปากที่ใหญ่โตนั้นสามารถกลืนศิษย์ชั้นนอกคนหนึ่งเข้าไปอย่างง่ายดาย

นี่น่ะรึ พญางูถัง!

“พญางูถังตัวนี้ มันมิเพียงมีความแข็งแกร่งระดับวู่เต้าลำดับที่ 7 เท่านั้น มันยังมีผิวหนังหนาจากเกล็ดที่หุ้มอยู่ รวมทั้งเนื้อของมันก็คงจะเหนียวไม่น้อยเลยเช่นเดียวกัน การจัดการกับมันคงไม่ใช่เรื่องง่ายเป็นแน่”

สายตาของ’หลงยี่’ เต็มไปด้วยประกายแห่งความตื่นเต้น

“ถ้าข้าสังหารมันได้ หนี่ตันของมันคงช่วยให้ข้าสามารถทะลวงไปถึงวู่เต้าลำดับที่ 6 ได้แน่!”

พญางูถังมีความแข็งแกร่งอยู่ที่ประมาณ 50,000 ถึง 60,000 จิน ด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้ หากมันแกว่งห่างเข้าใส่ก็อาจทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสได้ทันที เช่นนั้น การสู้แบบตรงๆย่อมไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาด เขาต้องหาวิธีอื่นในการจัดการกับเจ้าอสูรร้ายตัวนี้

‘หลงยี่’สังเกตุสภาพแวดล้อมโดยรอบ และเริ่มดำเนินการอย่างระวัง

ที่นั่น นอกจากพญางูถังแล้ว ยังมีศิษย์ชั้นนอกของนิกายอีก 4 คน ซึ่งล้วนอยู่ในชุดสีฟ้า เมื่อสังเหตุสีหน้าของพวกเขา ก็เห็นชัดเจนว่าตอนนี้กำลังตื่นกลัวเพียงใด พวกเขาได้แต่วิ่งหนีสัตว์อสูรตัวนั้นแบบไม่คิดชีวิต

มีหญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มนั้นซึ่งวิ่งได้เร็วที่สุด และดูเหมือนเธอจะถูกใครสักคนเรียกว่าศิษย์น้องฉิน แต่ต่อให้วิ่งเร็วเพียงใด ความเร็วนั้นย่อมเทียบไม่ได้กับพญางูถัง

สัตว์อสูรตัวนั้นเลื้อยตามมาอย่างรวดเร็ว และไม่นาน มันได้ใช้หางฟาดใส่ศิษย์ชั้นนอกคนหนึ่งซึ่งวิ่งได้ช้าที่สุด ความแรงของมัน ส่งร่างนั้นให้ลอยไปกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะร่วงลงมาโดยเหลือเพียงร่างไร้วิญญาณ

ต่อจากนั้น พญางูถังได้หันไปมองรอบข้าง และพบเข้ากับเหยื่ออีกคนหนึ่ง มันจึงพ่นพิษร้ายใส่เหยื่อของมันทันที ศิษย์ชั้นนอกคนนั้นซึ่งโดนเข้ากับพิษร้ายของพญางูถัง ร่างของเขาพลันสลายไปในพริบตา

“ศิษย์น้องฉิน ศิษย์น้องฉิน!”

ศิษย์ชั้นนอกคนสุดท้ายซึ่งวิ่งตามศิษย์น้องฉิน หวาดกลัวกับสิ่งที่เห็นจนตัวสั่น เขาตะโกนร้องเรียกศิษย์น้องให้ช่วย

“เจ้าอยู่ที่นี่และถ่วงเวลามันไว้พี่ชายของข้ากำลังมา!”

หญิงสาวคนนั้นก็ตกอยู่ในความหวาดกลัวไม่แพ้กัน แม้จะวิ่งอย่างไร้ความหวัง แต่นางก็รู้ว่านี่เป็นวิธีที่เดียวที่จะช่วยให้มีโอกาสรอดในสถานการณ์นี้

“เจ้าไปถ่วงเวลามันซะ”

ศิษย์ชั้นนอกคนนั้นแทบจะหมดหวังเมื่อได้ยินคำพูดของนาง นางอยากให้เขาถ่วงเวลาพญางูถังไว้งั้นรึ?

แค่เพียงมันฟาดหางมา เขาที่อยู่ในวู่เต้าลำดับที่5 ก็สิ้นชีวิตแล้ว นับประสาอะไรกับการถ่วงเวลา นั้นเป็นการเรียกร้องหาความตายอย่างแท้จริง

“ทะยานข้ามเวหา!”

ชายคนนั้นตัดสินใจใช้ทักษะเสริมความว่องไว แต่น่าเศร้าที่มันยังอยู่เพียงแค่ระดับเซียวเฉิง ซึ่งเขาเริ่มฝึกหลังจากเข้าสู่นิกายไม่นานมานี้   แต่ต่อให้ฝึกทะยานข้ามเวหาถึงระดับต้าเฉิงแล้วก็ตาม ระลอกคลื่นที่ถูกสร้างจากทักษะนี้ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะขัดขวางอสูรร้ายตัวนี้เนื่องจากความต่างของพลัง   และแม้เขาจะวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด นั่นก็ยังเทียบไม่ได้กับความเร็วของพญางูถังอยู่ดี

หลังจากอสูรร้ายตัวนั้นไล่ตามมาถึง มันอ้าปากแล้วกลืนร่างของศิษย์ชั้นนอกคนนั้นเข้าไปทันที พร้อมทั้งหันไปขู่หญิงสาวราวกับประกาศกร้าวว่า ต่อไปเป็นตาของเจ้าแล้ว!

“อย่าเข้ามานะ พี่ชายของข้ากำลังมา หากแกทำอะไรข้า พี่ชายของข้าไม่ปล่อยแกเอาไว้แน่เจ้างูบัดซบ!”

ในขณะที่หญิงสาวตะโกนไล่พญางูถัง ในใจของนางล้วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และแสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจน

ในขณะที่ศิษย์น้องฉินตะโกนไล่พญางูถัง ในใจของนางตื่นกลัวอย่างมาก ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และหญิงสาวได้แต่วิงวอนขอให้พี่ชายของนางตามหานางเจอโดยเร็ว

แต่น่าเสียดายที่พญางูบินนั้นฟังสิ่งที่นางพูดไม่รู้เรื่องมันจึงเลื้อยตามนางไป   ในการสังหารเหยื่อรายสุดท้ายของมัน พญางูถังได้เอาหางฟาดใส่ต้นไม้ในบริเวณนั้น   เหมือนดั่งเสียงฟ้าผ่า

ต้นไม้แถวนั้นพลันถูกโค่นลงด้วยพลังอันแข็งแกร่งของพญางูถัง ปิดทางหนีของหญิงสาวทั้งหมด และหนามจากกิ่งของต้นไม้ที่โค่นลงบังเอิญแทงถูกขานาง ทำให้นางได้รับบาดเจ็บและเคลื่อนไหวต่อไปไม่ได้

ปากอันใหญ่โตของพญางูบิน ค่อยๆเคลื่อนเข้าหา หญิงสาวเมื่อถึงแล้วมันได้อ้าปากขึ้นพร้อมจะกลืนกินนางลงไป หญิงสาวได้แต่หลับตายอมรับความตายอย่างจำนน

แต่ทันใดนั้น มีหินก้อนใหญ่ลอยมากระแทกเข้าที่หัวของพญางูถัง   ขนาดของก้อนหินนั้นใหญ่พอๆกับหัวของพญางูถังและมีน้ำหนักถึงมาก 10,000 จิน มันพุ่งตรงออกมาจากป่าและกระทบหัวของพญาบินเข้าอย่างจังทำให้หัวมันเอนและล้มลงไป

แต่สัตว์อสูรร้ายได้ใช้พลังสะบัดหินออกใหญ่จากหัวขึ้นไปในอากาศ หินนั้นลอยไปตกในที่ห่างไกลออกไป   พญางูถังอ้าปากของมันและขู่ไปยังทิศทางซึ่งหินก้อนนั้นถูกโยนออกมาทันที

‘หลงยี่’ที่ปาก้อนหินหนักหมื่นจินไปนั้น อยู่ห่างจากพญางูบินประมาณ 30 ก้าว ด้วยหินที่หนักถึงหมื่นจินที่’หลงยี่’ปาไปนั้นทำให้เขารู้ว่าแรงของเขานั้นมีไม่น้อยเลยทีเดียว

“ในเมื่อข้าช่วยเปิดโอกาสให้แล้ว หากนางยังไม่รอดอีก มันก็คงจะเป็นชะตากรรมของนางแล้วล่ะ………”

‘หลงยี่’คิดในใจขณะคอยสังเกตความเคลื่อนไหวของพญางูถัง

“ฟ่อออออ!”

เมื่อพญางูถังถูกหินกระแทกเข้าไปมันจึงโมโหอย่างมาก อสูรร้ายทิ้งเหยื่อตรงหน้าแล้วเลื้อยไปยังทางที่’หลงยี่’ยืนอยู่ทันที

แม้หญิงสาวจะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่เมื่อนางเห็นว่าพญางูบินหันความสนใจไปยังทางอื่นแล้วนางจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก   หญิงสาวต้องการที่จะหนีไปจากที่แห่งนี้ แต่เมื่อนางพยายามลุกขึ้น นางจึงพบว่าต้นขาของนางถูกแทงด้วยอันหนามแหลมของต้นไม้จนเลือดไหลออกมา

ดังนั้นนางจึงไม่สามารถลุกขึ้นได้   ‘หลงยี่’ที่ต้องเผชิญหน้ากับพญางูถังซึ่งกำลังโกรธแค้นและพุ่งมาหาเขาด้วยความเร็วสูง เขาจึงถอยหนีพร้อมใช้ก้าวพริบตาควบคู่ไปในการถอยครั้งนี้

แม้ว่า’หลงยี่’จะใช้ก้าวพริบตาซึ่งอยู่ในระดับต้าเฉิง แต่ความเร็วของมันก็ยังด้อยความพญางูถังอยู่ดี ถึงอย่างนั้นเขาไม่ได้ต้องการที่หลบหนี แต่เขาต้องการล่ออสูรร้ายตัวนี้ไปสู่กับดักที่เขาสร้างไว้

หลังจากนั้นไม่นาน ระยะห่างระหว่างหลงยี่กับพญางูถังก็ลดเหลือเพียง 20 ก้าว แต่ทันใดนั้นเอง พญางูถังกลับรู้สึกว่าร่างกายของมันมีเถาวัลย์พันอยู่   อสูรร้ายตัวนี้พยายามที่จะฉีกเถาวัลย์เหล่านี้ออกจากตัว มันไม่เคยคิดว่าสุดท้ายมันอาจจะต้องมาจบชีวิตอยู่ในดงเถาวัลย์เหล่านี้

หลังจากพญางูถังพยายามดิ้นรนอยู่สักพัก ก็มีเถาวัลย์บางส่วนเลื้อยเข้าไปตัวมัน หนามอันแหลมได้แทงทะลุเข้าไปในตัวของพญางูถังพร้อมกับเริ่มที่จะดูดเลือดมัน

“ต้นเถาวัลย์เหล่านี้คงมีอยู่เพียงในหุบเหวนี้เท่านั้น สัญชาตญาณของพวกมันราวกับบอกว่าเหล่างูถังนั้นเป็นเหยื่อโดยธรรมชาติของพวกมัน.”

‘หลงยี่’จำได้ว่าเขาเคยได้ยินเรื่องเถาวัลย์เหล่านี้จาก’เลี่ยวเล่อเล่อ’ เขารู้สึกว่านางนั้นใส่ใจเขามากเพราะข้อมูลเถาวัลย์พวกนี้ที่นางบอกมาทำให้เขาสามารถสร้างกับดักแบบนี้ขึ้นมาได้

หากเป็นเพียงมนุษย์ที่ฝึกวรยุทธ์แล้วตกลงไปในดงเถาวัลย์ พวกเขาคงแค่เสียเวลาในการฉีกเถาวัลย์ออกเท่านั้นแต่ไม่อันตรายถึงชีวิต แต่กับพวกงูถังเหล่านี้ เพราะร่างกายที่มีขนาดใหญ่โตของพวกมัน ทำให้ถูกเถาวัลย์ดูดเลือดจนแห้งไปโดยไม่สามารถหนีไปไหนได้

พญางูบินจ้องมองหลงยี่อย่างอาฆาต มันไม่เคยคิดเลยว่าจะมาจบชีวิตในกับดักแบบนี้ เพราะความประมาทของมันทำให้มันต้องตกอยู่ในสถาพที่อับจนหนทาง

“ฟ่อ!”

พญางูบินอ้าปากและปล่อยพิษลงบนเถาวัลย์ แต่พิษของมันไม่มีผลต่อเถาวัลย์เหล่านี้ซึ่งเป็นศัตรูทางธรรมชาติของพวกมันเลยแม้แต่น้อย มันทำได้ดีที่สุดแค่ใช้พิษในการชะลอเถาวัลย์ไม่ให้ทิ่มแทงมัน

แต่หลังจากเวลาผ่านไปชั่วครู่เถาวัลย์ก็เริ่มที่จะทิ่มแทงและรัดมันอีกครั้ง   อสูรร้ายตัวนี้ไม่มีทางที่จะสามารถต้านทานเถาวัลย์เหล่านี้ได้เลย   พญางูถังเริ่มฉีกเถาวัลย์ที่พันรอบมันไปด้วยพลังประมาณ 50,000-60,000 จิน ทำให้เถาวัลย์หลายเส้นถูกฉีกขาดออกจากกันพร้อมกับร่วงหล่นออกจากร่างกายของมัน

แต่ในพื้นที่บริเวณนี้ มีเถาวัลย์อยู่เป็นจำนวนมาก นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมพญางูถังที่มีความแข็งแกร่งอย่างมากก็ไม่อาจต้านทานดงเถาวัลย์นี้ได้เลย ร่างกายของมันมีถูกหนามทิ่มแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้เกิดบาดแผลมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเวลาผ่านไปมันจึงอ่อนกำลังลงอย่างเห็นได้ชัด

‘หลงยี่’ได้ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ด้านข้างคอยสังเกตการต่อสู้ระหว่างพญางูบินและเถาวัลย์อย่างเงียบๆ หลังจากช่วงเวลาประมาณ 2 ก้านธูป พญางูบินจึงค่อยหมดแรง ร่างกายของมันตกลงมาบนพื้นดินและนอนนิ่งไป พร้อมกับเถาวัลย์ที่ถูกฉีกจนหมด

รอบๆร่างของมันมีเศษซากเถาวัลย์ซึ่งถูกฉีกขาดอยู่นับไม่ถ้วน และดูเหมือนจะถูกฉีกขาดอย่างสิ้นเชิง นี่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของพญางูถังอย่างชัดเจน

เห็นได้ชัดว่าการต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีฝ่ายไหนได้รับชัยชนะ   ‘หลงยี่’ เดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง ค่อยๆเดินเข้าไปหาพญางูถัง ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากมันประมาณ 30 ก้าว

“ฟ่ออ!”

ทันใดนั้นพญางูบินได้ยกหัวขึ้นอ้าปากและพ่นพิษของมันใส่’หลงยี่’ นี่นับว่าเป็นการโจมตีที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว!

หาก’หลงยี่’หลบหนีพิษของพญางูถังไม่พ้น พิษของมันซึ่งมีฤทธิ์รุนแรงอาจทำให้เขาสิ้นชีพได้เลย

อย่างไรก็ตามหลงยี่นั้นระมัดระวังตัวอยู่เสมอ ส่งผลการโจมตีทีเผลอของพญางูดังนั้นไม่ถูกตัวเขาเลยแม้แต่น้อย   ในตอนที่งูดินกำลังจะพ่นพิษ เขาก็ได้หลบหลีทันทีโดยการใช้   “ก้าวพริบตา!”

คนที่ฝึกวิชาก้าวพริบตาถึงระดับต้าเฉิงแล้ว เขาสามารถเคลื่อนที่ในระยะ 30 ก้าวได้ในพริบตา ดันนั้นในพริบตาเดียว’หลงยี่’ก็มาอยู่ตรงท้องของพญางูบิน

“มอบหนี่ตันของแกมาให้ข้าเสียเถอะ!”

‘หลงยี่’ตะโกน และดึงเถาวัลย์จากพื้นขึ้นมาสองเส้น ใช้เป็นแส้ฟาดไปใส่ท้องของพญางูบินทันที   แม้เถาวัลย์ทั้งคู่จะโดนฉีกขาดจนไร้ชีวิตไปแล้ว แต่หนามแหลมคมบนเถาวัลย์นั้นยังคงความแข็งแรงของมันไว้อยู่ หลังจากที่เขาสะบัดแส้ฟาดเข้าใส่ท้องของอสูรร้ายได้สักพักแผลของมันเริ่มขยายใหญ่ขึ้น

ในขณะเดียวกัน’หลงยี่’ที่ กำเถาวัลย์ไว้ในมือก็ถูกคมหนามของเถาวัลย์บาดใส่ ส่งผลให้เขารู้สึกเจ็บปวดจนมีเลือดไหลออกมา   ‘หลงยี่’รู้ดีว่าหากเขาต้องการสังหารพญางูถังตัวนี้ เขาต้องยอมกัดฟันรับความเจ็บปวดเหล่านี้ไว้ให้ได้ เขาจำเป็นใช้หนามที่แหลมคมของเถาวัลย์เพราะเกล็ดของมันนั้นแข็งมาก

เขากัดฟันแน่นจับเถาวัลย์กระชับยิ่งขึ้นและฟาดไปที่ท้องของพญางูบินสุดแรง

“ฟ่ออออ!”

พญางูบินกรีดส่งเสียงร้องออกมาอย่างดังและเกิดเป็นแผลขนาดใหญ่เปิดหน้าท้องของมันเป็นแนวที่โดนฟาด’หลงยี่’ค้นพบหนี่ตันของมันจึงได้หยิบออกมาอยากรวดเร็วและถือไว้ในมือถือเขา

“สำเร็จแล้ว!”

หลงยี่ ที่กำลังดีใจพลันกระโดดโลดเต้นจากนั้นเขากระได้ใช้ก้าวพริบตากระโดดออกจากร่างของพญางูถัง ความอุบอุ่นของหนี่ตันซึ่งอุดมไปด้วยหลิงฉีขนาดเท่ากำปั้นที่เขาได้มาจากพญางูถังนั้น ทำให้เขานั้นรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

ถึงแม้ว่ามือของเขาจะบาดเจ็บและเต็มไปด้วยเลือดจากการถือเถาวัลย์ที่แหลมคม แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อยเพราะตอนนี้ใจของเขานั้นจดจ่อกับหนี่ตันของพญางูบิน ซึ่งจะช่วยให้เขาทะลวงเข้าสู่วู่เต้าลำดับที่ 6

หลังจากหนี่ตันถูกนำออกจากร่างของพญางูบินแล้วร่างของมันก็ร่วงลงสู่พื้นดินและนอนแน่นิ่งไป   แต่ตอนนี้หลงยี่สัมผัสได้ว่ามีคน 2 คน กำลังยืนอยู่ใกล้เขา   หนึ่งในนั้นคือหญิงสาวที่เขาเพิ่งช่วยชีวิตไว้ในก่อนหน้านี้ ดูแล้วนางน่าจะลุกขึ้นยืนได้เมื่อไม่นานมานี้ และด้วยบาดแผลที่ขาทำให้นางเดินได้ลำบากมาก

ส่วนคนข้างๆของนางคือชายหนุ่มใส่เสื้อคลุมสีดำ อายุราว 20 ต้นๆ กลิ่นอายที่ออกมาจากร่างเขาบ่งบอกว่าชายคนนี้มีระดับการบ่มเพาะที่สูงมาก บางทีเขาอาจจะอยู่ในระดับ วู่เต้าลำดับที่ 7!

“พี่ใหญ่เขาเป็นคนขโมยหนี่ตันของพญางูถังของข้า พี่ต้องเอาคืนมาให้ข้านะ! “

ในตอนนี้หญิงสาวมองหนี่ตันของพญางูถังในมือ’หลงยี่’ด้วยความโลภ!

………………………….

แปลโดย : บรรเจิด

ปรับสำนวน : Solar Spark

คือจริงๆคนแปลส่งฉบับแปลมาหลายวันแล้วแต่ผมเพิ่งมีเวลาปรับสำนวนน่ะครับ แล้วด้วยที่ผมไปโฟกัสกับเรื่อง GSI มากกว่าเลยทำให้เดี๋ยวนี้คิดภาษาจอมยุทธ์ไม่ค่อยจะออก เลยจะประกาศขอคนช่วยปรับสำนวนนิยายกำลังภาย ไม่เก่งภาษาอังกฤษไม่เป็นไรครับเพราะมีคุณบรรเจิดแปลให้อยู่แล้ว ใครสนใจติดต่อมาทางข้อความลับได้เลยนะครับ

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments