ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป‘เย่เฟิง’วิ่งเข้ามายังซอยเล็กๆแห่งนี้และพบร่างของคนๆหนึ่งวิ่งสวนออกมาด้วยความตื่นกลัว
“เทียนโย่วเหลียง?”
เมื่อ’เย่เฟิง’เห็นร่างของคนๆนี้ชัดเจน เขาจำได้ทันทีว่าคนๆนี้มีชื่อว่า’เทียนโย่วเหลียง’ซึ่งอยู่ในความทรงจำของ’เย่เฟิง’คนก่อน ‘เทียนโย่วเหลียง’เรียนอยู่ห้องเดียวกับ’เย่เฟิง’ ฐานะทางบ้านของเขาค่อนข้างร่ำรวยและเขายังเป็นคนที่ค่อนข้างเจ้าชู้ เขามักค่อยตามตื้อ’ซูเหมิงหาน’อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
เพราะเธอไม่ใช่แค่เป็นสาวสวยของโรงเรียน ฐานะทางบ้านของเธอยังร่ำรวยเอามากๆ แถมครอบครัวของเธอยังมีทรัพย์สินมากมายในเมืองเยี่ยนจิงแห่งนี้ ด้วยผมที่ฟอกสีขาวและชุดหนังสีดำของเทียนโย่วเหลียงทำให้เขาดูเหมือนพวก school punk ที่มีนิสัยรุนแรงแต่ตอนนี้สีหน้าเขาดูสับสนรวมทั้งสายตาที่ดูหวาดกลัว
“เย่เฟิง?”
‘เทียนโย่วเหลียง’ตาลีตาเหลือกกับการวิ่งหนี แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง เขาค่อนข้างตกใจเมื่อได้เจอ’เย่เฟิง’ที่นี่ เพราะก่อนหน้านี้ ‘เทียนโย่วเหลียง’ได้เจอกับนางฟ้า’ซูเหมิงหาน’ของเขาที่ย่านบาร์ และคอยช่วยเธอตามหา’เย่เฟิง’อยู่ครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่พบ เขาจึงไม่คาดคิดเลยว่าจะได้เจอ’เย่เฟิง’ที่นี่
เคราะห์ร้าย ตอนนี้’ซูเหมิงหาน’ถูกล้อมไปด้วยกลุ่มคนจาก‘แก๊งอสรพิษสวรรค์’ซึ่งทำให้เขารู้สึกกลัวอย่างมาก
หากเป็นคนทั่วไป ‘เทียนโย่วเหลียง’ก็คงกล้าออกไปปกป้องเธอ แต่สำหรับแก๊งอสรพิษสวรรค์ที่แม้แต่พ่อของเขายังไม่กล้ายุ่ง แล้วแค่เด็กนักเรียนอย่างเขาจะช่วยเธอได้อย่างไร ทุกๆคนในบริเวณนี้ล้วนรู้ดีว่า หากใครไปท้าทายแก๊งอสรพิษสวรรค์นี้เขา มันคนนั้นต้องประสบกับชะตากรรมที่น่าอนาถ!
เมื่อเห็นนางฟ้าของเขาตกอยู่ในวงล้อมของขี้เมาทั้ง 4 คนนั้น แม้ทำให้’เทียนโย่วเหลียง’ไม่พอใจ แต่อย่างไร ชีวิตของเขาย่อมสำคัญที่สุด ‘เทียนโย่วเหลียง’ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะสนใจ’เย่เฟิง’ เพราะเขากลัวพวกขี้เมาเหล่านั้นจะตามไล่หลังมา
หลังจากพบเข้ากับ’เย่เฟิง’แล้ว ‘เทียนโย่วเหลียง’ก็วิ่งจากไปและหายวัยเข้าไปในฝูงชนทันที
“ดูเหมือนจะอันตรายจริงๆแฮะ….”
‘เย่เฟิง’หันไปมอง’เทียนโย่วเหลียง’ที่วิ่งอย่างตาลีตาเหลือก เขาคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงหยิบอิฐครึ่งก้อนที่วางอยู่บนพื้น ในเมื่อตอนนี้ตัวเขาในร่างใหม่นี้ไร้วรยุทธ์อย่างสิ้นเชิง เขาจึงไม่อาจจะทำอะไรบุ่มบ่ามได้ ‘เย่เฟิง’ค่อยๆย่องอย่างไร้ซุ่มเสียงไปยังมุมหนึ่งของซอยและค่อยๆชะโงกหน้าออกมามอง
เขาหัวเราะกับตัวเองในใจเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในซอย ‘เย่เฟิง’เห็นชายร่างสูงกล้ามเป็นมัด 4 คนที่มีรอยสักรูปงูอยู่บนข้อมือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแก๊งอสรพิษสวรรค์ ยืนล้อมและไล่ตอนซูเหมิงหานไปยังมุมหนึ่งของซอย ‘เย่เฟิง’หัวเราะเพราะตอนนี้พวกมันหันหลังให้เขาอยู่
“เฮ้ หลานชาย!”
‘ซูเหมิงหาน’กำลังร้องไห้ด้วยความตื่นกลัว ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ตัดสินใจตามเจ้าโรคจิตเข้ามาในย่านบาร์แห่งนี้ และเกลียดเขาที่เป็นต้นเหตุทำให้เธอต้องมาเจอเรื่องบ้าๆแบบนี้ ตอนแรกที่เธอเข้ามาในย่านบาร์ เธอพบกัน’เทียนโย่วเหลียง’ที่ชอบตามตื้อเธอในชั้นเรียน
เขาบอกว่าเขาชำนาญพื้นที่ในย่านบาร์แห่งนี้ และต้องการจะช่วยเธอหาตัว’เย่เฟิง’ แต่เมื่อเดินมาใกล้ซอยเล็กๆนี่ พวกเธอชนเข้ากับชายขี้เมา 4 คนที่มาจากแก๊งอสรพิษสวรรค์ เมื่อพวกมันเห็นสาวสวยอย่างเธอ พวกมันจึงไล่ต้อนเธอเข้ามายังซอยเล็กๆนี่เพื่อจะเล่นสนุกกับเธอ
เมื่อ’เทียนโย่วเหลียง’เห็นชายขี้เมาทั้งสี่ก็กลับกลัวจนฉี่ราด เขาทิ้งเธอไว้แล้วรีบหนีไปอย่างคนขี้ขลาด
เวลานี้ ชายขี้เมาทั้งสี่ปรากฏแววแววตาที่ชั่วร้ายขึ้นบนใบหน้าขณะล้อมเธอไว้ พวกมันมองเธอเหมือนกับจะถอดเสื้อเธอออกได้โดยใช้เพียงแค่สายตา ‘ซูเหมิงหาน’ร้องตะโกนข้อความช่วยเหลืออย่างหมดหวัง เพราะในพื้นที่แบบนี้จะมีใครมาช่วยเธอได้?
ตอนนี้ เธอกำมีดปอกผลไม้ในมือไว้แน่นและซ่อนในกระโปรงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดข้น แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหนึ่ง
“เฮ้ หลานชาย!”
ถ้อยคำยั่วยุที่ดังขึ้น ดึงดูความสนใจของชายขี้เมาทั้งสี่ทันที
“เดนสังคมอย่างพวกแก เดี๋ยวพ่อจะเตรียมงานศพให้….”
หนึ่งในสี่ชายขี้เมาที่หันหลังกลับมา ถูกก้อนอิฐที่’เย่เฟิง’ขว้างออกมากระแทกเข้ากับใบหน้าอย่างจังโดยที่มันยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาอะไร นี่มันอิฐครึ่งก้อน!
อิฐก้อนนั้นเรียกเลือดจากใบหน้ามันได้อย่างดี จนมันไม่สามารถทนความเจ็บปวดได้ ต้องลงไปนอนร้องโอดโอยบนพื้น ถึงแม้ตอนนี้ ‘เย่เฟิง’จะไม่แข็งแรงเท่าไหร่ แต่ตัวเขาที่ครั้งหนึ่งเคยฝึกวรยุทธ์ในโลกเทวะ ย่อมมีความแม่นยำและสามารถคำนวณองศาตกของวัตถุได้ สำหรับการจัดการคนธรรมดาแบบนี้ย่อมไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา
ชายขี้เมาอีกสามคนรวมทั้ง’ซูเหมิงหาน’ถึงกับอึ้ง
“เธอจะไม่วิ่งหรือไง?”
‘เย่เฟิง’ฉวยโอกาสขณะที่ชายทั้งสามยังคงทำหน้าเหมือนคนโง่ คว้ามือ’ซูเหมิงหาน’แล้วรีบหนีออกจากซอยนี้ทันที หากพวกมันยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน เขาย่อมไม่แน่ใจว่าจะช่วยเธออย่างปลอดภัยได้ แต่โชคดี พวกมันยังคงอยู่ในอาการเมาและใช้เวลาตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนานกว่าปกติ
กว่าพวกมันจะทันทำอะไร ‘เย่เฟิง’ก็คว้ามือ’ซูเหมิงหาน’วิ่งไปไกลเกินกว่าสิบเมตรแล้ว ในที่สุดหนึ่งในพวกนั้นก็ได้สติแล้วเริ่มตรวจสอบอาการบาดเจ็บของชายคนที่โดนปาอิฐเข้าที่หน้า ส่วนอีกสองคนเริ่มวิ่งไล่พวก’เย่เฟิง’
“ไอเด็กเวร เดี๋ยวพ่อจะจับแกมาหักขาให้ได้!”
“ถ้าฉันจะไล่จับใครฉันคงไม่เสียเวลาพูดเรื่องไร้ประโยชน์หรอก”
รอยยิ้มดูถูกปรากฏขึ้นบนใบหน้า’เย่เฟิง’ ขณะที่เขายังคงดึงมือของ’ซูเหมิงหาน’วิ่งหนี พวกเขาวิ่งผ่านหลายโค้งจนในที่สุดก็มาถึงยังถนนเส้นหลักของย่านบาร์ได้ เมื่อ’ซูเหมิงหาน’มองเห็นถนนที่เต็มไปด้วยเหล่าผู้คน เธอถึงกับร้องไห้ออกมาอย่างดีใจ แต่ถึงอย่างนั้น ชายขี้เมาสองคนยังคงไล่กวดพวกเธอมา ทำให้พวกเธอต้องรีบหนีอีกครั้ง
“เธอนี่มันวิ่งช้าจริงๆให้ตายเถอะ”
‘เย่เฟิง’ขมวดคิ้ว เขาตัดสินใจรวบเอวของ’ซูเหมิงหาน’เข้ามาเพื่อที่จะโอบอุ้มร่างของเธอไว้ เรือนร่างที่นุ่มและหอมหวนเหมือนดังกลิ่นดอกไม้ของ’ซูเหมิงหาน’ถูกรวบเข้ามาในอ้อมอกของ’เย่เฟิง’อย่างแน่นหนา นี่ไม่เพียงความเร็วเขาจะไม่ลดลง เขายังวิ่งได้เร็วขึ้นอีกต่างหาก
ระยะห่างระหว่างพวกเขากับชายขี้เมาจึงกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้คนในย่านบาร์ล้วนหันมามองอย่างสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“แม่มันเถอะ ไอเด็กเวรนั่นวิ่งเร็วโคตร”
หลังจากเห็น’เย่เฟิง’ที่โอบอุ้ม’ซูเหมิงหาน’ไว้ วิ่งหนีอย่างรวดเร็ว พวกมันจึงยอมล้มเลิกการไล่ตามนี้ หนึ่งในนั้นนั่งลงบนพื้นพร้อมทั้งพูดขึ้น
“ช่างมันเถอะ เดี๋ยวพี่ใหญ่ปาเถี่ยก็จัดการพวกมันให้เราเอง ไอเด็กเวรนั่นถูกหมายหัวไว้แล้ว”
ด้วยอิทธิพลของแก๊งอสรพิษสวรรค์แล้ว การค้นหาประวัติของ’เย่เฟิง’และ’ซูเหมิงหาน’ย่อมง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
“วางฉันลงได้แล้ว!”
เมื่อดูพวกเขาจะพ้นอันตรายแล้ว ‘ซูเหมิงหาน’ก็เริ่มดิ้นรนให้เขาปล่อยเธอลง ตั้งแต่เล็กจนโต ‘ซูเหมิงหาน’ไม่เคยยอมให้ผู้ชายคนไหนได้สัมผัสตัวเธอเลยแม้แต่น้อยนอกจากพ่อของเธอ ถึงอย่างนั้น วันนี้ เธอไม่คิดเลยว่านอกจากร่างเปลือยของเธอจะถูก’เย่เฟิง’เห็นเข้า
เธอยังถูกเขาโอบอุ้มอีก สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอโมโหอย่างมาก
เมื่อ’เย่เฟิง’ได้ยินดังนั้น เขาคลายวงแขนลงและทันใดนั้น
“อ้า!”
‘ซูเหมิงหาน’ร่วงลงไปบนพื้นถนน และร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด เธอแช่ง’เย่เฟิง’ในใจ ทำไมหมอนี่ถึงไร้มารยาทอย่างนี้นะ? เธอจ้อง’เย่เฟิง’อย่างเอาเรื่องขณะที่ดวงไฟของเสาไฟฟ้าบริเวณนี้ค่อยๆสว่างขึ้น
ภายใต้แสงไฟที่สลัวของถนนยามค่ำคืน ด้วยเรือนร่างของ’ซูเหมิงหาน’ดูเปล่งประกายในชุดสีขาวและใบหน้ารูปไข่ของเธอที่ดูน่าหลงไหล เธอคนนี้เหมาะสมกับตำแหน่งดาวโรงเรียนจริงๆ เมื่อ’เย่เฟิง’มองไปยัง’ซูเหมิงหาน’ เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงความรู้สึกยามที่เขายังโอบอุ้มเธอไว้ในอ้อมกอด
โดยเฉพาะความนุ่มนวลยามที่หน้าอกของเธอสัมผัสกับหน้าอกของเขา ทำให้’เย่เฟิง’อดคิดถึงอาจารย์ของเขาไม่ได้ หญิงสาวแสนสวยจนยากจะหาใครเทียบได้ที่รู้จักกันในชื่อ‘ธิดาน้ำแข็ง’ในโลกเทวะ
“อาจารย์ของเราถูกพวกอสูรจับไป…….”
‘เย่เฟิง’คิดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง แต่ตอนนี้เขาอยู่ในอีกโลกที่ต่างออกไปและไม่สามารถจะทำอะไรได้ ความจริงแล้วระดับวรยุทธ์ของอาจารย์สูงกว่าเขานับสิบเท่า ต่อให้เขายังคงอยู่ที่ถ้ำมังกรไฟนั่น เขาก็คงช่วยอะไรเธอไม่ได้มาก
เขาต้องรีบหาสถานที่บ่มเพาะวรยุทธ์ เพื่อที่จะได้หาทางกลับไปโลกนั้นอีกครั้ง เมื่อ’เย่เฟิง’เริ่มก้าวเดิน ทันใดนั้น เขาได้ยินน้ำเสียงโมโหของ’ซูเหมิงหาน’ดังขึ้นด้านหลัง
“เดี๋ยวก่อน!”
ที่มา: