I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 2 อิฐครึ่งก้อน

| Genius Sword Immortal | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

‘เย่เฟิง’วิ่งเข้ามายังซอยเล็กๆแห่งนี้และพบร่างของคนๆหนึ่งวิ่งสวนออกมาด้วยความตื่นกลัว

“เทียนโย่วเหลียง?”

เมื่อ’เย่เฟิง’เห็นร่างของคนๆนี้ชัดเจน เขาจำได้ทันทีว่าคนๆนี้มีชื่อว่า’เทียนโย่วเหลียง’ซึ่งอยู่ในความทรงจำของ’เย่เฟิง’คนก่อน   ‘เทียนโย่วเหลียง’เรียนอยู่ห้องเดียวกับ’เย่เฟิง’ ฐานะทางบ้านของเขาค่อนข้างร่ำรวยและเขายังเป็นคนที่ค่อนข้างเจ้าชู้ เขามักค่อยตามตื้อ’ซูเหมิงหาน’อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

เพราะเธอไม่ใช่แค่เป็นสาวสวยของโรงเรียน ฐานะทางบ้านของเธอยังร่ำรวยเอามากๆ แถมครอบครัวของเธอยังมีทรัพย์สินมากมายในเมืองเยี่ยนจิงแห่งนี้   ด้วยผมที่ฟอกสีขาวและชุดหนังสีดำของเทียนโย่วเหลียงทำให้เขาดูเหมือนพวก school punk ที่มีนิสัยรุนแรงแต่ตอนนี้สีหน้าเขาดูสับสนรวมทั้งสายตาที่ดูหวาดกลัว

“เย่เฟิง?”

‘เทียนโย่วเหลียง’ตาลีตาเหลือกกับการวิ่งหนี แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง เขาค่อนข้างตกใจเมื่อได้เจอ’เย่เฟิง’ที่นี่   เพราะก่อนหน้านี้ ‘เทียนโย่วเหลียง’ได้เจอกับนางฟ้า’ซูเหมิงหาน’ของเขาที่ย่านบาร์ และคอยช่วยเธอตามหา’เย่เฟิง’อยู่ครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่พบ เขาจึงไม่คาดคิดเลยว่าจะได้เจอ’เย่เฟิง’ที่นี่

เคราะห์ร้าย ตอนนี้’ซูเหมิงหาน’ถูกล้อมไปด้วยกลุ่มคนจาก‘แก๊งอสรพิษสวรรค์’ซึ่งทำให้เขารู้สึกกลัวอย่างมาก

หากเป็นคนทั่วไป ‘เทียนโย่วเหลียง’ก็คงกล้าออกไปปกป้องเธอ แต่สำหรับแก๊งอสรพิษสวรรค์ที่แม้แต่พ่อของเขายังไม่กล้ายุ่ง แล้วแค่เด็กนักเรียนอย่างเขาจะช่วยเธอได้อย่างไร ทุกๆคนในบริเวณนี้ล้วนรู้ดีว่า หากใครไปท้าทายแก๊งอสรพิษสวรรค์นี้เขา มันคนนั้นต้องประสบกับชะตากรรมที่น่าอนาถ!

เมื่อเห็นนางฟ้าของเขาตกอยู่ในวงล้อมของขี้เมาทั้ง 4 คนนั้น แม้ทำให้’เทียนโย่วเหลียง’ไม่พอใจ แต่อย่างไร ชีวิตของเขาย่อมสำคัญที่สุด   ‘เทียนโย่วเหลียง’ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะสนใจ’เย่เฟิง’ เพราะเขากลัวพวกขี้เมาเหล่านั้นจะตามไล่หลังมา

หลังจากพบเข้ากับ’เย่เฟิง’แล้ว ‘เทียนโย่วเหลียง’ก็วิ่งจากไปและหายวัยเข้าไปในฝูงชนทันที

“ดูเหมือนจะอันตรายจริงๆแฮะ….”

‘เย่เฟิง’หันไปมอง’เทียนโย่วเหลียง’ที่วิ่งอย่างตาลีตาเหลือก เขาคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงหยิบอิฐครึ่งก้อนที่วางอยู่บนพื้น ในเมื่อตอนนี้ตัวเขาในร่างใหม่นี้ไร้วรยุทธ์อย่างสิ้นเชิง เขาจึงไม่อาจจะทำอะไรบุ่มบ่ามได้   ‘เย่เฟิง’ค่อยๆย่องอย่างไร้ซุ่มเสียงไปยังมุมหนึ่งของซอยและค่อยๆชะโงกหน้าออกมามอง

เขาหัวเราะกับตัวเองในใจเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในซอย  ‘เย่เฟิง’เห็นชายร่างสูงกล้ามเป็นมัด 4 คนที่มีรอยสักรูปงูอยู่บนข้อมือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแก๊งอสรพิษสวรรค์ ยืนล้อมและไล่ตอนซูเหมิงหานไปยังมุมหนึ่งของซอย   ‘เย่เฟิง’หัวเราะเพราะตอนนี้พวกมันหันหลังให้เขาอยู่

“เฮ้ หลานชาย!”

‘ซูเหมิงหาน’กำลังร้องไห้ด้วยความตื่นกลัว   ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ตัดสินใจตามเจ้าโรคจิตเข้ามาในย่านบาร์แห่งนี้ และเกลียดเขาที่เป็นต้นเหตุทำให้เธอต้องมาเจอเรื่องบ้าๆแบบนี้   ตอนแรกที่เธอเข้ามาในย่านบาร์ เธอพบกัน’เทียนโย่วเหลียง’ที่ชอบตามตื้อเธอในชั้นเรียน

เขาบอกว่าเขาชำนาญพื้นที่ในย่านบาร์แห่งนี้ และต้องการจะช่วยเธอหาตัว’เย่เฟิง’ แต่เมื่อเดินมาใกล้ซอยเล็กๆนี่ พวกเธอชนเข้ากับชายขี้เมา 4 คนที่มาจากแก๊งอสรพิษสวรรค์ เมื่อพวกมันเห็นสาวสวยอย่างเธอ พวกมันจึงไล่ต้อนเธอเข้ามายังซอยเล็กๆนี่เพื่อจะเล่นสนุกกับเธอ

เมื่อ’เทียนโย่วเหลียง’เห็นชายขี้เมาทั้งสี่ก็กลับกลัวจนฉี่ราด เขาทิ้งเธอไว้แล้วรีบหนีไปอย่างคนขี้ขลาด

เวลานี้ ชายขี้เมาทั้งสี่ปรากฏแววแววตาที่ชั่วร้ายขึ้นบนใบหน้าขณะล้อมเธอไว้ พวกมันมองเธอเหมือนกับจะถอดเสื้อเธอออกได้โดยใช้เพียงแค่สายตา   ‘ซูเหมิงหาน’ร้องตะโกนข้อความช่วยเหลืออย่างหมดหวัง เพราะในพื้นที่แบบนี้จะมีใครมาช่วยเธอได้?

ตอนนี้ เธอกำมีดปอกผลไม้ในมือไว้แน่นและซ่อนในกระโปรงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดข้น แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหนึ่ง

“เฮ้ หลานชาย!”

ถ้อยคำยั่วยุที่ดังขึ้น ดึงดูความสนใจของชายขี้เมาทั้งสี่ทันที

“เดนสังคมอย่างพวกแก เดี๋ยวพ่อจะเตรียมงานศพให้….”

หนึ่งในสี่ชายขี้เมาที่หันหลังกลับมา ถูกก้อนอิฐที่’เย่เฟิง’ขว้างออกมากระแทกเข้ากับใบหน้าอย่างจังโดยที่มันยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาอะไร   นี่มันอิฐครึ่งก้อน!

อิฐก้อนนั้นเรียกเลือดจากใบหน้ามันได้อย่างดี จนมันไม่สามารถทนความเจ็บปวดได้ ต้องลงไปนอนร้องโอดโอยบนพื้น   ถึงแม้ตอนนี้ ‘เย่เฟิง’จะไม่แข็งแรงเท่าไหร่ แต่ตัวเขาที่ครั้งหนึ่งเคยฝึกวรยุทธ์ในโลกเทวะ ย่อมมีความแม่นยำและสามารถคำนวณองศาตกของวัตถุได้ สำหรับการจัดการคนธรรมดาแบบนี้ย่อมไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา

ชายขี้เมาอีกสามคนรวมทั้ง’ซูเหมิงหาน’ถึงกับอึ้ง

“เธอจะไม่วิ่งหรือไง?”

‘เย่เฟิง’ฉวยโอกาสขณะที่ชายทั้งสามยังคงทำหน้าเหมือนคนโง่ คว้ามือ’ซูเหมิงหาน’แล้วรีบหนีออกจากซอยนี้ทันที   หากพวกมันยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน เขาย่อมไม่แน่ใจว่าจะช่วยเธออย่างปลอดภัยได้ แต่โชคดี พวกมันยังคงอยู่ในอาการเมาและใช้เวลาตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนานกว่าปกติ

กว่าพวกมันจะทันทำอะไร ‘เย่เฟิง’ก็คว้ามือ’ซูเหมิงหาน’วิ่งไปไกลเกินกว่าสิบเมตรแล้ว   ในที่สุดหนึ่งในพวกนั้นก็ได้สติแล้วเริ่มตรวจสอบอาการบาดเจ็บของชายคนที่โดนปาอิฐเข้าที่หน้า ส่วนอีกสองคนเริ่มวิ่งไล่พวก’เย่เฟิง’

“ไอเด็กเวร เดี๋ยวพ่อจะจับแกมาหักขาให้ได้!”

“ถ้าฉันจะไล่จับใครฉันคงไม่เสียเวลาพูดเรื่องไร้ประโยชน์หรอก”

รอยยิ้มดูถูกปรากฏขึ้นบนใบหน้า’เย่เฟิง’ ขณะที่เขายังคงดึงมือของ’ซูเหมิงหาน’วิ่งหนี พวกเขาวิ่งผ่านหลายโค้งจนในที่สุดก็มาถึงยังถนนเส้นหลักของย่านบาร์ได้   เมื่อ’ซูเหมิงหาน’มองเห็นถนนที่เต็มไปด้วยเหล่าผู้คน เธอถึงกับร้องไห้ออกมาอย่างดีใจ แต่ถึงอย่างนั้น ชายขี้เมาสองคนยังคงไล่กวดพวกเธอมา ทำให้พวกเธอต้องรีบหนีอีกครั้ง

“เธอนี่มันวิ่งช้าจริงๆให้ตายเถอะ”

‘เย่เฟิง’ขมวดคิ้ว เขาตัดสินใจรวบเอวของ’ซูเหมิงหาน’เข้ามาเพื่อที่จะโอบอุ้มร่างของเธอไว้ เรือนร่างที่นุ่มและหอมหวนเหมือนดังกลิ่นดอกไม้ของ’ซูเหมิงหาน’ถูกรวบเข้ามาในอ้อมอกของ’เย่เฟิง’อย่างแน่นหนา นี่ไม่เพียงความเร็วเขาจะไม่ลดลง เขายังวิ่งได้เร็วขึ้นอีกต่างหาก

ระยะห่างระหว่างพวกเขากับชายขี้เมาจึงกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว   ผู้คนในย่านบาร์ล้วนหันมามองอย่างสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“แม่มันเถอะ ไอเด็กเวรนั่นวิ่งเร็วโคตร”

หลังจากเห็น’เย่เฟิง’ที่โอบอุ้ม’ซูเหมิงหาน’ไว้ วิ่งหนีอย่างรวดเร็ว พวกมันจึงยอมล้มเลิกการไล่ตามนี้ หนึ่งในนั้นนั่งลงบนพื้นพร้อมทั้งพูดขึ้น

“ช่างมันเถอะ เดี๋ยวพี่ใหญ่ปาเถี่ยก็จัดการพวกมันให้เราเอง ไอเด็กเวรนั่นถูกหมายหัวไว้แล้ว”

ด้วยอิทธิพลของแก๊งอสรพิษสวรรค์แล้ว การค้นหาประวัติของ’เย่เฟิง’และ’ซูเหมิงหาน’ย่อมง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

“วางฉันลงได้แล้ว!”

เมื่อดูพวกเขาจะพ้นอันตรายแล้ว ‘ซูเหมิงหาน’ก็เริ่มดิ้นรนให้เขาปล่อยเธอลง   ตั้งแต่เล็กจนโต ‘ซูเหมิงหาน’ไม่เคยยอมให้ผู้ชายคนไหนได้สัมผัสตัวเธอเลยแม้แต่น้อยนอกจากพ่อของเธอ ถึงอย่างนั้น วันนี้ เธอไม่คิดเลยว่านอกจากร่างเปลือยของเธอจะถูก’เย่เฟิง’เห็นเข้า

เธอยังถูกเขาโอบอุ้มอีก สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอโมโหอย่างมาก

เมื่อ’เย่เฟิง’ได้ยินดังนั้น เขาคลายวงแขนลงและทันใดนั้น

“อ้า!”

‘ซูเหมิงหาน’ร่วงลงไปบนพื้นถนน และร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด เธอแช่ง’เย่เฟิง’ในใจ ทำไมหมอนี่ถึงไร้มารยาทอย่างนี้นะ?   เธอจ้อง’เย่เฟิง’อย่างเอาเรื่องขณะที่ดวงไฟของเสาไฟฟ้าบริเวณนี้ค่อยๆสว่างขึ้น

ภายใต้แสงไฟที่สลัวของถนนยามค่ำคืน ด้วยเรือนร่างของ’ซูเหมิงหาน’ดูเปล่งประกายในชุดสีขาวและใบหน้ารูปไข่ของเธอที่ดูน่าหลงไหล เธอคนนี้เหมาะสมกับตำแหน่งดาวโรงเรียนจริงๆ   เมื่อ’เย่เฟิง’มองไปยัง’ซูเหมิงหาน’ เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงความรู้สึกยามที่เขายังโอบอุ้มเธอไว้ในอ้อมกอด

โดยเฉพาะความนุ่มนวลยามที่หน้าอกของเธอสัมผัสกับหน้าอกของเขา ทำให้’เย่เฟิง’อดคิดถึงอาจารย์ของเขาไม่ได้ หญิงสาวแสนสวยจนยากจะหาใครเทียบได้ที่รู้จักกันในชื่อ‘ธิดาน้ำแข็ง’ในโลกเทวะ

“อาจารย์ของเราถูกพวกอสูรจับไป…….”

‘เย่เฟิง’คิดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง แต่ตอนนี้เขาอยู่ในอีกโลกที่ต่างออกไปและไม่สามารถจะทำอะไรได้ ความจริงแล้วระดับวรยุทธ์ของอาจารย์สูงกว่าเขานับสิบเท่า ต่อให้เขายังคงอยู่ที่ถ้ำมังกรไฟนั่น เขาก็คงช่วยอะไรเธอไม่ได้มาก

เขาต้องรีบหาสถานที่บ่มเพาะวรยุทธ์ เพื่อที่จะได้หาทางกลับไปโลกนั้นอีกครั้ง   เมื่อ’เย่เฟิง’เริ่มก้าวเดิน ทันใดนั้น เขาได้ยินน้ำเสียงโมโหของ’ซูเหมิงหาน’ดังขึ้นด้านหลัง

“เดี๋ยวก่อน!”

 

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments