I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 25 สู่หลางฝาง

| Genius Sword Immortal | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

“นี่ครับพี่เย่”

ชายสี่คนเดินมายังด้านหน้าของ’เย่เฟิง’แล้วยื่นบัตรเงินสดให้กับเขา   ‘เย่เฟิง’รับมันมาเก็บไว้ บัตรใบหนึ่งมีเงินจำนวนสองล้าน และอีกใบมีเงินจำนวนสามล้านซึ่งเขาขอมาจากชายหน้าบาก และตั้งใจว่าจะให้มันกับ’อู๋บี’

หลังจากนี้   สำหรับชายหน้าบากแล้วการเตรียมเงินสามล้านไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ถึงแม้ว่ากลุ่มอสรพิษสวรรค์จะไม่ได้เน้นเก็บเงินสดมากนัก แต่เงินแค่สามล้านยังถือว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย   นี่ถือเป็นการแสดงความจริงใจของชายหน้าบากที่มีต่อ’เย่เฟิง’

การที่’เย่เฟิง’สามารถจัดการชายหน้าบากและเข้าควบคุมกลุ่มอสรพิษสวรรค์จากเบื้องหลังได้เร็วขนาดนี้ ถือว่าเป็นโชคดีของเขาเช่นกัน หากชายหน้าบากไม่ได้มีความหลังและความหวั่นเกรงต่อผู้ฝึกวรยุทธ์ การที่’เย่เฟิง’เข้าข่มขู่เขาก็คงจะไม่มีทางส่งผลได้เร็วถึงเพียงนี้

แน่นอนว่าหาก’เย่เฟิง’เลือกที่จะจัดการกับอีกสองแก๊ง มันคงจะไม่ราบรื่นอย่างนี้เป็นแน่ หลังจากส่งบัตรเงินสดให้แก่’เย่เฟิง’แล้ว ชายสี่คนคำนับเขาอย่างเคารพแล้วเดินหันหลังจากไป

‘ซูเหมิงหาน’ที่แอบอยู่หลัง’เย่เฟิง’ถึงกับมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า นี่มันเรื่องอะไรกัน? กลุ่มอสรพิษสวรรค์นั้นทั้งโหดเหี้ยมและน่าเกรงขามไม่ใช่หรือ? ทำไมพวกเขาถึงได้แสดงความเคารพต่อเด็กมัธยมปลายอย่าง’เย่เฟิง’กันล่ะ

เธอแอบคิดถึงตอนที่พ่อของเธอสั่งให้เธอตีสนิทกับ’เย่เฟิง’ หรือว่าจริงๆแล้ว’เย่เฟิง’มีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาจนแม้กระทั่งกลุ่มอสรพิษสวรรค์ยังไม่กล้าหือกับเขา แล้วยัง “พี่เย่” นั่นอีก.ั่นอีกดาจนแม้กระทั่งกลุ่มอสรพิษสวรรค์ยังไม่กล้าหือกับเขา ันล่ะ

เธอแอบคิดถึงตอนที่พ่อของเธอสั่งให้เธอตีสนิทกับ’เย่เฟิง’ หรือว่าจริ.. ‘เย่เฟิง’กลายเป็นคนของกลุ่มอสรพิษสวรรค์ไปแล้วงั้นหรือ?

“ไปกันเถอะ”

‘เย่เฟิง’เก็บบัตรเงินสดไว้พลางพูดเบาๆกับ’ซูเหมิงหาน’รบกวนห้วงภวังค์ของเธอ

ตลอดทางไปโรงเรียน ‘ซูเหมิงหาน’ไม่ได้ปริปากพูดอะไรแม้แต่น้อย เธอได้แต่คาดเดาถึงสถานะของ’เย่เฟิง’ แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะถามมันออกไป   ‘เย่เฟิง’รู้สึกยินดีที่’ซูเหมิงหาน’ไม่ได้ถามอะไรเขาแม้แต่คำเดียว

หลังจากทั้งสองคนเดินไปด้วยกันกว่ายี่สิบนาทีก็มาถึงประตูโรงเรียนมัธยมปลายเหยียน เมื่อมาถึง พวกเขาได้กลายเป็นจุดสนใจแก่ผู้คนโดยรอบทันที

นั่นมัน’เย่เฟิง’กับดาวโรงเรียน’ซูเหมิงหาน’นี่ ทำไมพวกเขาถึงเดินมาโรงเรียนด้วยกันได้?   เป็นไปไม่ได้ นี่มันไม่ใช่ความจริง!!

พวกเขาทั้งคู่เดินเคียงข้างไปด้วยกันจนถึงห้องเรียน’เย่เฟิง’รู้สึกราวกับว่าได้ยินเสียงหัวใจของใครหลายคนแตกสลายดังเพล้ง!

แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นมาจากเพื่อนรักของเขา’อู๋บี’ด้วยเช่นกัน   เมื่อพวกเขาต่างเดินไปยังที่นั่งของตนเอง ‘อู๋บี’กล่าวด้วยความขุ่นเคืองใจอย่างตรงไปตรงมา

“ผึ้งน้อย นี่มันไม่ยุติธรรมเลย อยู่ๆนายก็ควงสาวสวยที่น่ารักที่สุดของโรงเรียนเราไปซะงั้น ฉันก็เข้าใจนะว่านายอยู่บ้านใกล้ๆเธอ แต่ว่าก่อนหน้านี้….”

“อย่าเดาอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าน่า”

‘เย่เฟิง’หยิบบัตรเงินสดออกมาแล้วพูดด้วยเสียงจริงจัง

“ฝากเงินนี่ไปให้พ่อของนายด้วยนะ ฉันไม่ชอบเป็นหนี้คนอื่น ในบัตรนี้มีเงินอยู่สามล้านพาสเวิร์ดของบัตรเขียนไว้อยู่ด้านหลังแล้ว”

“หา อะไรเนี่ย?”

‘อู๋บี’หยิบบัตรไปอย่างงงๆขณะมีความสับสนในใจ   ก่อนหน้านี้เขายังอารมณ์เสียอยู่เลย และเพื่อที่จะระบายมันออกมา เขารีบปรี่เข้ามาหา’เย่เฟิง’แต่ตอนนี้เขากลับต้องมึนงงกับคำพูดของ’เย่เฟิง’ไปเสียแล้ว

สามล้าน? นี่มันเพิ่งผ่านไปแค่คืนเดียว ‘เย่เฟิง’ไปเอาเงินสามล้านนี่มาจากที่ไหนกัน?   ปฏิกิริยาแรกของ’อู๋บี’คือ… เจ้านี่มันต้องโกหกแน่ๆ!

แต่เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้วเขาไม่ใช่คนที่ชอบโกหกผู้อื่นนี่นา เงินที่อยู่ในบัตรนี้เอาไปเช็คที่ตู้เอทีเอ็มเมื่อไรก็คงรู้เอง แต่ว่ามันตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่’เย่เฟิง’มีเงินมากมายถึงเพียงนี้?

“ผึ้งน้อย นี่นายล้อเล่นรึเปล่า ฉันกับพ่อไม่ได้ต้องการให้นายชดใช้เงินคืนเลยนะ…”

มีความประหลาดใจอยู่บนใบหน้าของ’อู๋บี’เต็มไปหมด

“ก็นะ ฉันพอจะเข้าใจความคิดของพ่อนายอยู่แหละ”

‘เย่เฟิง’ยิ้มพลางตบไหล่เพื่อนเขาเบาๆ   ‘อู๋บี’รับบัตรไปโดยยังคงมีความสับสนอยู่เล็กน้อย เขายังรู้สึกกังขากับ’เย่เฟิง’อยู่แต่ทันใดนั้นเขาเคาะหัวเบาๆแล้วกล่าวว่า

“ใช่แล้ว นี่เป็นบัตรเชิญเข้าร่วมงานจัดแสดงสินค้านะ”

จนถึงตอนนี้’อู๋บี’ได้ตระหนักว่า’เย่เฟิง’เปลี่ยนไปแล้วอย่างสมบูรณ์ หรือว่ามันเกิดขึ้นจากปู่ของเขากันแน่นะ?

‘เย่เฟิง’รับมันมาและมองดูด้วยความสนใจ   มันเป็นซองจดหมายสีแดงที่มีตัวอักษรเขียนอยู่ด้านหน้าว่า‘มังกรทะยาน’ ตอนแรกที่เขาดูก็ไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกติอะไร แต่ใจชั่วอึดใจเขารู้สึกถึงที่ปิดผนึกของซองจดหมาย มันมีพลังแปลกๆบางอย่างกำลังไหลเวียนอยู่รอบๆ!

“ขอบใจนะเพื่อน”

‘เย่เฟิง’เก็บจดหมายเชิญร่วมงานอย่างเงียบๆ และในขณะเดียวกันก็มีความคิดต่างๆไหลเวียนในหัวอยู่มากมาย   งานจัดแสดงสินค้าโบราณนี่ ไม่ใช่งานธรรมดาสามัญเสียแล้ว!

พลังบางอย่างตรงที่ปิดผนึกจดหมายนั่นคลับคล้ายคลับคลากับกำลังภายในของหญิงสาวใบหน้ารูปไข่คนนั้น จนถึงตอนนี้เย่เฟิงยังคงไม่รู้ว่าเจ้าสิ่งนี้มันเรียกว่าอะไร แต่เขาค่อนข้างมันใจว่ามันต้องมีความเกี่ยวข้องกันกับวรยุทธ์ของโลกใบนี้อย่างแน่นอน

(กำลังภายในของเย่เฟิงเรียกว่าเจินฉีซึ่งมีความแข็งแกร่งมากกว่ากำลังภายในของโลกใบนี้)

“เพื่อนอู๋ พ่อนายมีบัตรเชิญมากกว่านี้อีกไหม”

‘เย่เฟิง’ถามเขา

“มีแค่อันเดียวแหละ ทำไมเหรอ?”

‘อู๋บี’ตอบด้วยสีหน้าแปลกๆ

“เปล่าหรอก แค่ลองถามดูน่ะ”

‘เย่เฟิง’ตอบแบบขอไปที เขาครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว บัตรเชิญเข้างานใบนี้คงต้องมีค่าอย่างมาก การที่’อู๋เอ’ได้มันมาแน่นอนว่าต้องเกี่ยวกับหินจิตวิญญาณครึ่งก้อนนั้นเป็นแน่

ดูเหมือนว่าองค์กรและเจ้าหน้าที่ของงานจัดแสดงสินค้าก็น่าจะเป็นเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ของยุทธภพในโลกใบนี้ด้วยเช่นกัน มันจะมีโอกาสหรือเปล่านะที่เขาจะได้เจอกับหญิงสาวใบหน้ารูปไข่คนนั้นอีก?

ความคิดของ’เย่เฟิง’เปลี่ยนกลับไปกลับมาขณะคิดเกี่ยวกับงานจัดแสดงสินค้าโบราณนี้ โชคดีที่อีกสองอาทิตย์ เขาสามารถบรรลุระดับพลังได้ถึงระดับหนึ่งปีห้าเดือน ซึ่งตอนนั้นเขาจะสามารถใช้วิชา”ลวงตา”ได้ มันทำให้เขาสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเองได้ในระยะเวลาหนึ่งหรือแม้กระทั่งเปลี่ยนรูปร่างและส่วนสูงของตัวเองก็ยังทำได้

“ในโลกใบนี้ไม่น่าจะมีใครรับรู้ถึงวิชาของเรา แต่เผื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉิน การเตรียมหน้ากากไปด้วยคงเป็นเรื่องที่ดีกว่า”

‘เย่เฟิง’ตัดสินใจไว้เช่นนี้

เขามองไปรอบๆและสังเกตว่า’เทียนโย่วเหลียง’ไม่ได้มาโรงเรียนวันนี้ เมื่อลองสอบถามดูพบว่าเมื่อคืนนี้’เทียนโย่วเหลียง’ได้ยื่นคำร้องขอย้ายโรงเรียนไปเป็นที่เรียบร้อย นั่นคงเพราะเขาไม่กล้าพอที่จะอยู่ในโรงเรียนนี้อีกต่อไปแล้ว

………………….

เวลาครึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว   ขณะนี้เป็นช่วงเดือนเมษายน ที่หลังฝางมีฝนตกปรอยๆ จากนี้ไปอีกสองเดือนก็จะถึงวันสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว

“………ผมจะระมัดระวังตัวครับ ลุงอู๋สบายใจได้”

‘เย่เฟิง’วางสายโทรศัพท์ลง เขาพา’ซูเหมิงหาน’เดินออกจากสถานีรถไฟหลางฝางไปกับเขา ยามบ่ายที่ท้องฟ้าครึ้มเล็กน้อย ‘เย่เฟิง’รู้สึกเบื่อขึ้นมาตงิดๆกับฝนที่ตกปรอยๆนี้

ขณะที่’ซูเหมิงหาน’กลับตรงกันข้าม เธออารมณ์ดีเอามากๆและร่าเริงตลอดการเดินทางเพราะว่าวันนี้ เธอจะได้ไปเยี่ยมคุณยายของเธอเสียที

สำหรับ’เย่เฟิง’แล้วการมาหลางฝางนั้นก็เพื่อที่จะเข้าร่วมงานจัดแสดงสินค้า อีกอย่างเขาอาจมีโอกาสได้ไปเจอของดีๆก็เป็นได้ แต่สาเหตุที่สำคัญที่สุดก็เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับระดับของวรยุทธ์ในโลกใบนี้   แต่สำหรับ’ซูเหมิงหาน’แล้วเป้าหมายของเธอมีเพียงการมาเยี่ยมคุณยายผู้ที่เธอไม่ได้พบมาเกือบสิบปี แน่นอนว่าเธออารมณ์ดีมากๆเลยในตอนนี้

“นี่ขนาดพ่อของเธอไม่ว่างมาด้วย แต่เธอก็ยังรั้นจะไปเยี่ยมญาติให้ได้ เธอนี่ช่างเป็นคนที่มีความรับผิดชอบจริงๆนะ”

‘เย่เฟิง’ยิ้มแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเหน็บแนม

“ก็เขากำลังมีธุระกับพวกตระกูลเซี่ยนี่นา อีกอย่างเขาไม่กล้ามาที่นี่หรอก”

‘ซูเหมิงหาน’แค่นเสียงเล็กน้อย เธอไม่ได้กล่าวอะไรไปมากกว่านั้นแต่เธอหันหลังกลับมาถาม’เย่เฟิง’

“แล้วเป็นไงมั่งกับการทำข้อสอบจำลอง”

ก่อนจะมาหลางฝาง โรงเรียนของพวกเขาได้จัดให้มีการทำข้อสอบเตรียมตัวสองชุด ‘ซูเหมิงหาน’ไม่ได้กังวลแม้แต่น้อย เพราะว่าตลอดมาคะแนนของเธอก็อยู่ในอันดับต้นๆของโรงเรียนอยู่แล้ว

ส่วนของ’เย่เฟิง’ แน่นอนว่าเขานั้นอยู่ในอันดับท้ายๆของห้อง   ‘เย่เฟิง’ยิ้มเมื่อคิดถึงข้อสอบที่พึ่งทำไป ช่วงก่อนหน้านี้เขามัวแต่ยุ่งกับการปรุงยาที่เตรียมนำมาขายในงานจัดแสดงสินค้าโบราณ เขาจะไปมีเวลาอ่านหนังสือเตรียมสอบได้อย่างไรกันล่ะ?

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลสอบของเขาต้องออกมาห่วยอย่างแน่นอน ห่วยยิ่งกว่าก่อนหน้าที่เคยทำมาเสียอีก แต่’เย่เฟิง’ไม่ได้สนใจอะไรในเมื่อดูจากความทรงจำของเขาขณะนี้ แม้ว่าเขาจะเริ่มอ่านหนังสือก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัยแค่หนึ่งอาทิตย์ก็ยังไม่ใช่ปัญหา

“อืม….เดาว่าดีแหละมั้ง เอาล่ะเธอจะไปไหนก็ไปได้แล้ว ฉันมีธุระที่ต้องไปทำของฉันเหมือนกัน เราแยกย้ายกันตรงนี้เถอะ”

‘เย่เฟิง’กล่าวอย่างเฉยเมยและหันหลังเตรียมเดินจากไป

“นี่เดี๋ยวก่อนสิ!”

‘ซูเหมิงหาน’เห็น’เย่เฟิง’ทำท่าจะเดินจากไปจึงรีบร้อนเรียกเขาให้หยุด เธอไม่รู้หรอกว่าอะไรที่ทำให้เขามาที่หลางฝาง ตอนแรกเธอคิดว่าเขาอยากจะมาส่ง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่แบบนั้นเสียแล้ว   ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เธอคุ้นเคยแม้แต่น้อย หาก’เย่เฟิง’ทิ้งเธอไว้คนเดียว แล้วเธอไปเจอกับปัญหาเข้าล่ะเธอจะทำอย่างไร?

…………………….

ผู้แปล : Teepo_V

ปรับสำนวน : Solar Spark

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments