I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 51 สงครามฝีปาก

| Genius Sword Immortal | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

การเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มทหาร 7-8 คนและ’เย่เฟิง’ที่กำลังกุมมือของ’ซูเหมิงหาน’เกิดขึ้นตรงบริเวณเวณประตูของห้องส่วนตัว ขณะที่กลุ่มคนที่เหลือรอดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างลุ้นระทึก

‘เย่เฟิง’ประเมินกลุ่มทหารที่ยืนขวางทางเขาพลางคิดว่ามันง่ายดายนิดเดียวที่จะชักดาบของเขาออกมาฆ่าพวกคนเหล่านี้ซะ แต่น่าเสียดายที่ชายหนุ่มไม่อาจทำเช่นนั้นได้ ‘เย่เฟิง’หันกลับมามอง’หลิวลี่ฮุ่ย’ ครั้งนี้เขาน่าจะพอทำอะไรมีประโยชน์ได้บ้างใช่ไหม?

เมื่อ’หลิวลี่ฮุ่ย’เห็นดังนั้นเขาไอเล็กน้อยและลุกขึ้นมาพร้อมกับพุงพลุ้ยๆ ในสถานการณ์แบบนี้แน่นอนว่าเขาต้องเลือกอยู่ฝั่งของ’เย่เฟิง’

“อะแฮ่ม เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ผมขอพูดอะไรหน่อยแล้วกันนะ!”

‘หลิวลี่ฮุ่ย’กล่าวพลางไอกลบเกลื่อนและพาร่างอ้วนลงพุงขยับมาใกล้ๆ

“การจะกล่าวหาว่าเย่น้อยเป็นฝ่ายลงมือทำร้ายคนของกองทัพมันออกจะเกินไปหน่อยนะ เห็นกันชัดๆอยู่ว่ามันเป็นแค่การป้องกันตัวเท่านั้น ยังไงก็ตามเรื่องนี้มันชักจะเลยเถิดกันไปหน่อยแล้ว ว่าแต่เด็กตระกูลเซี่ยคนนั้นได้ข่าวว่าสถานะของนายในกองทัพก็ไม่ค่อยจะสู้ดีนักไม่ใช่หรือ?”

ขิงแก่ย่อมเผ็ดกว่าขิงอ่อนเป็นธรรมดา สีหน้าของ’เซี่ยเฉิงเย่’ซีดลงอย่างฉับพลันจากคำพูดของ’หลิวลี่หุ่ย’

“เหล่าหลิว เรื่องนี้นายไม่เข้ามายุ่งจะดีกว่านะ”

(เหลา=แก่)

‘เซี่ยผิงฮุ่ย’ที่นั่งอยู่ข้างๆมองและกล่าวด้วยท่าทีใจเย็น

“ตำรวจอย่างนายไม่น่าจะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของทหาร ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ?”

การปะทะกันเองระหว่างคนของกองทัพในประเทศจีนถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก สิ่งที่’เซี่ยผิงฮุ่ย’ทำตอนนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นการเตือน’หลิวลี่ฮุ่ย’ด้วยความหวังดี

“เปล่าเลย”

แน่นอนว่า’หลิวลี่ฮุ่ย’ไม่ได้ต้องการวางตัวอยู่ในสถานะเช่นนั้น ชายร่างอ้วนตบพุงที่ใหญ่โตเบาๆแล้วกล่าวด้วยท่าทียิ้มแย้ม

“เมื่อกี้ผมก็แค่แสดงความคิดเห็นเท่านั้นเอง ตำแหน่งของผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้เลย ผมรู้ดีอยู่แล้วว่าไม่อาจจะเอาฐานะตำรวจของผมมายุ่งกับเรื่องนี้ได้อย่างที่เฒ่าเซี่ยเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี”

‘เซี่ยผิงฮุ่ย’เคยเป็นเลขาธิการของเมืองเหยียนจิงเขตตะวันตกเฉียงเหนือแต่ตอนนี้ได้เกศียณออกมาแล้ว อย่างไรก็ตาม’หลิวลี่ฮุ่ย’ยังเกรงอยู่เล็กน้อยว่าเขาอาจจะยังมีอำนาจทำอะไรบางอย่างได้ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นตราบใดที่’หลิวลี่ฮุ่ย’เกาะติดอยู่กับ’เย่เฟิง’เขามั่นใจว่าข้อขัดแย้งเล็กๆที่เกิดขึ้นนี้จะไม่มีทางทำอะไรเขาได้

นี่เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตของ’หลิวลี่ฮุ่ย’เลยทีเดียว!

“ออกหน้าแทนเป็นการส่วนตัวงั้นหรือ ฟังดูดีนี่”

‘เซี่ยผิงฮุ่ย’ยิ้มแย้มกล่าว

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เฉิงเย่ เราไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรอีกแล้ว จัดการได้เลย”

เมื่อสถานการณ์ลงเอยเช่นนี้หาก’หลิวลี่ฮุ่ย’เป็นผู้ออกปากเองว่าเขาไม่ได้เสนอหน้าในนามของผู้กำกับแห่งเขตตะวันตกเฉียงเหนือพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจตำรวจอ้วนคนนี้อีกต่อไป!

ได้ยินเช่นนั้น’เซี่ยเฉิงเย่’ยิ้มอย่างมาดร้ายในทันที สายตาทหารหนุ่มจับจ้องไปทาง’เย่เฟิง’อย่างโกรธเกรี้ยว วันนี้เจ้าเด็กนี่กล้าตบหน้าเขา ถ้าหากเขาไม่ได้แก้แค้นคืนศักดิ์ศรีก็คงต้องป่นปี้หมดแน่

“ช้าก่อน!”

เห็นเช่นนี้’หลิวลี่ฮุ่ย’ปราดมาอยู่หน้า’เย่เฟิง’และ’ซูเหมิงหาน’เพื่อป้องกันฝ่ายทหารที่เตรียมตัวจะลงมือ ชายอ้วนมอง’เซี่ยเฉิงเย่’

“เย่น้อยหลบไปก่อน เดี๋ยวฉันจัดการพวกนี้ให้เอง เฉิงเย่นายต้องคิดเรื่องนี้ใหม่ดีๆแล้วล่ะ ถึงฉันจะไม่ได้ออกหน้าในฐานะตำรวจแต่ก็ย้งถือว่าเป็นประชาชนคนหนึ่งที่ถูกคุ้มครองในกฎหมายอยู่ นายก็รู้ดีว่าถ้าทหารผู้ที่ควรปกป้องประชาชนมาเป็นฝ่ายลงมือทำร้ายเสียเอง มันไม่จบง่ายๆอย่างแน่นอน”

ถึงแม้ว่า’หลิวลี่ฮุ่ย’จะไม่ได้ออกหน้าในฐานะตำรวจแต่เขาก็ยังเลือกที่จะอยู่ฝั่งของ’เย่เฟิง’อย่างไม่ลังเล นี่เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของ’เย่เฟิง’อย่างมากและเขาก็รู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งนี้ นี่ไม่ใช่ว่าเพื่อนนี้เชื่อถือไว้วางใจได้หรอกหรือ?

“หึ ถ้านายพูดแบบนี้แล้วเราจะทำให้เรื่องมันจบได้ยังไงกันล่ะ ก่อนอื่นเลยถ้าเจ้าเด็กนั่นไม่ยอมเอ่ยปากขอโทษ อย่าหวังว่าจะได้ออกไปจากที่นี่เด็ดขาด”

‘เซี่ยเฉิงเย่’กล่าวด้วยสีหน้าหมองมัว แม้’หลิวลี่ฮุ่ย’จะเสนอหน้าแทนเป็นการส่วนตัวแต่สถานะผู้กำกับของเขาไม่ใช่จะหายไปง่ายๆเช่นนั้น ถ้าเขาคิดจะใช้อำนาจเข้าขัดขวางจริงๆการที่ชายอ้วนจะลงมือจัดการกลุ่มทหารโดยกล่าวโทษจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องยากเลย

“ขอโทษบ้าอะไรกันล่ะ หา!”

น้ำเสียงที่โกรธเกรี้ยวและขุ่มขู่ดังมาจากลิฟต์ที่อยู่สุดทางเดิน ตอนนั้นเองกลุ่มคนสวมเสื้อสูทที่ถือมีดปังตอเดินเข้ามา ส่วนใหญ่ของคนกลุ่มนี้ต่างเป็นนักเลงระดับชั้นทอง ชายหน้าบากนำกลุ่มนักเลงเข้ามา ความกล้าบ้าบิ่นของเขาแสดงถึงพลังอำนาจอย่างน่าเหลือเชื่อ!

จากมุมมองของลูกค้าคนอื่นหลายคนเริ่มสงสัย นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมแก๊งอสรพิษสวรรค์ถึงปรากฎตัวเช่นนี้ และคู่กรณีของพวกมันในตอนนี้ยังเป็นพวกทหารอีกด้วย พวกมันไม่กลัวตายบ้างหรือไง?

หรือพูดอีกอย่างได้ว่าเหล่าแก๊งอาชญากรรมใต้ดินเหล่านี้ไม่เคยที่จะกล้าแสดงอิทธิพลของพวกมันในยามเวลากลางวันแสกๆมาก่อน ที่มากกว่านั้นการก่อเรื่องกับกองทัพเช่นนี้ไม่เคยมีผลลัพธ์หรือจุดจบที่ดีเลย ‘เซี่ยเฉิงเย่’คิดแบบนั้นเช่นกัน เขาประหลาดใจเล็กน้อยกับกลุ่มนักเลงพวกนี้แต่ก็ไม่ได้ให้ค่ากับพวกมันมากนัก

แต่เมื่อกลุ่มชายหน้าบากมาถึงและเริ่มกระจายตัวกันล้อมห้องส่วนตัวนั้น เหล่าทหารเริ่มรู้สึกหวั่นใจว่าพวกเขาไม่อาจประมาทกลุ่มคนเหล่านี้โดยที่คิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆได้ เกือบทุกคนในห้องต่างสับสน ‘หลิวลี่ฮุ่ย’ก็ไม่ได้ยินดีกับท่าทีก้าวราวคุกคามของกลุ่มอสรพิษสวรรค์พวกนี้เช่นกัน

“พวกแกเป็นใครน่ะ?”

สีหน้าของ’หลิวลี่ฮุ่ย’เปลี่ยนไป การนำมีดปังตอมาเพื่อขู่พวกทหารของกองทัพ หากเรื่องนี้หลุดออกไปถึงจะเป็นตำแหน่งเขาก็ตามมันก็ยากที่จะปกป้องชายหน้าบากไว้ได้ แน่นอนว่าตำรวจอ้วนผู้นี้ก็ไม่ได้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเขาและชายหน้าบาก ชายอ้วนเพียงแกล้งถามคำถามราวกับพวกเขาไม่รู้จักกันมาก่อน ชายหน้าบากยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เขาไม่ได้โง่และลื่นไหลไปตามสถานการณ์

ชายหน้าบากหยิบเอกสารฉบับหนึ่งออกมาจากกระเป๋าของเขา

“ฉันหรือจะเรียกว่าพ่อของพวกแกก็ได้ มาที่นี่เพื่อรักษาความสงบของร้านอาหารจิงเชิง ในเมื่อพวกแกมาก่อปัญหากันแน่นอนว่าฉันต้องออกมาจัดการอยู่แล้ว”

“อะไรนะ?”

คนกลุ่มหนึ่งมาที่นี่แล้วสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนในขณะที่อีกด้านนึง แก๊งอาชญากรรมพวกนี้กลับมาในฐานะผู้รักษาความปลอดภัย? ใบหน้า’เซี่ยเฉิงเย่’หมองคล้ำทันที ทหารหนุ่มจ้องรอยแผลบนหน้าของชายหน้าบาก เขาแค่นเสียงอย่างเฉยชาและหยิบตราทหารออกมาแสดงจากกระเป๋า

“ฉันไม่อยุญาติให้พวกแกมาขัดขวางงานเจ้าหน้าที่จากกองทัพหรอกนะ!”

พูดจบ’เซี่ยเฉิงเย่’ก็เชิดคางยืดอกแสดงท่าทีที่เหนือกว่า เขามองชายหน้าบากอย่างดูถูกไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร แก๊งอาชญากรรมใต้ดินหรือจะมีอำนาจเหนือกว่าทหารได้ ‘ฉัน พ่อของพวกแก!’คำที่ไร้สาระสิ้นดี

เมื่อชายหน้าบากฟังจบเขาสับประตูห้องแยกออกเป็นสองเสี่ยงด้วยมีดในมือเขาและจ้อง’เซี่ยเฉิงเย่’พลางกล่าวอย่างข่มขู่

“ทำไมคนของกองทัพถึงสอดมือมายุ่งกับเรื่องของคนอื่นตามใจได้ล่ะ พวกเราเป็นผู้รักษาความปลอดภัยของที่นี่ หน้าที่ของพวกเราคือดูแลความปลอดภัยของลูกค้าทุกคนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ไม่งั้นถ้าลูกค้ายื่นเรื่องร้องเรียนพวกเราพวกแกจะมีปัญญาชดใช้ค่าเสียหายอย่างนั้นเหรอ?”

“ถูกแล้ว พี่ผู้นี้กล่าวได้ถูกต้อง”

‘หลิวลี่ฮุ่ย’ที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งพูดต่อ

“ก็เห็นกันชัดๆอยู่ว่าพวกคุณตระกูลเซี่ยเข้ามาก่อกวนหาเรื่องที่นี่เอง ไม่ว่าอะไรตามที่เย่น้อยทำถือว่าเป็นการป้องกันตัวเท่านั้น แต่พวกคุณกลับไม่ยอมจบขวางทางไม่ให้พวกเขาไป นี่หรือคนของกองทัพทหาร มันน่าผิดหวังซะจริงๆ!”

“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”

‘เซี่ยผิงฮุ่ย’ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดังกึกก้อง ณ ที่นี้มีแต่เขาเท่านั้นในตระกูลเซี่ยที่มีอำนาจในการลับฝีปากกับ’หลินลี่ฮุ่ย’

“นี่เป็นความขัดแย้งส่วนตัวของเราตระกูลเซี่ย เจ้าเด็กเริ่มทำร้ายคนของเราก่อน และที่มากกว่านันมันยังไม่ยอมแม้แต่จะขอโทษ แล้วพวกเราจะปล่อยให้เจ้าหนูนี่จากไปง่ายๆแบบนี้ได้อย่างไรกันล่ะ?”

“เหอะ”

‘หลิวลี่ฮุ่ย’หัวเราะเยาะ

“ขอโทษด้วยการเห่าเหมือนสุนัขตบหน้าตัวเองหนึ่งร้อยครั้งตามด้วยคลานเข่าเนี่ยนะ?”

“อะไรนะ? พวกแกกล้าดูหมิ่นลูกค้าเราขนาดนี้เลยอย่างนั้นเหรอ ร้านจิงเชิงของเราไม่ต้อนรับพวกแกแล้ว พวกเราเตรียมตัวจับเจ้าคนพวกนี้โยนออกไป!”

ในชั่วพริบตาความโกรธของชายหน้าบากเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด เขากวักมือสั่งงานคนของกลุ่มอสรพิษสวรรค์ให้ลงมือทันที!

‘เซี่ยเฉิงเย่’ผู้ที่มาที่นี่เพื่อช่วยเหลือพี่สาวของเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาเจอสถานการณ์เช่นนี้ เขากับทหารลูกน้องของเขามาตัวเปล่าปราศจากอาวุธ เผชิญหน้าเหล่ามาเฟียพร้อมอาวุธมีดแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะจัดการได้ง่ายๆแล้ว

“คนจริงจะไม่ยอมตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบตั้งแต่เริ่มแรก แต่พวกมันกลับชองลงมือก่อนตั้งแต่ต้นเสียแล้ว”

กลุ่มทหารหลายคนผุดความคิดนี้ขึ้นมาในหัวและต่างมองกันอย่างผวา พวกเขาต่างมือเปล่าทั้งนั้น ต่อหน้ามีดพวกนี้สิ่งที่เขาอยากทำกลับเป็นการหนีไปให้เร็วที่สุดและร้องขอให้คนมาช่วยเหลือต่างหาก!

เมื่อชายหน้าบากพยายามเข้าควบคุมเหตุการณ์กลับปรากฎกลุ่มคนจำนวนมากอีกกลุ่มขึ้นมาอย่างฉับพลัน เป็นแถวตำรวจเรียงสี่เดินมาอย่างพร้อมเพรียงจากสุดทางเดินนำมาด้วยชายร่างสูงกำยำในชุดตำรวจ อินทรนูกิ่งมะกอกสีเงินพร้อมเข็มกลัดอีกสามและดอกไม้ทรงสี่เหลี่ยมส่องประกายแวววาว

เหล่านี้บ่งชี้ถึงยศที่สูงล้ำอย่างมาก

“เขาคือโหมวจิ้นเฉียง ผู้กำกับการสำนักงานตำรวจเมืองเหยียนจิง!”

ผู้คนต่างอุทานกันออกมาอย่างตกใจ ไม่มีใครคาดคิดว่าคนใหญ่โตระดับนี้จะมาอยู่ที่นี่ได้ ทุกคนต่างอยู่ในภาวะสับสน

‘เย่เฟิง’ขมวดคิ้วพลางคิด เรื่องมันชักจะเริ่มซับซ้อนกันไปใหญ่แล้ว

…………………………………..

แปลโดยทีมงาน GSI

Solar Spark : ดูจากยอดไลค์แล้ววันนี้ได้จัดอย่างน้อย 4 ตอนแน่นอนครัช

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments