ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปวันนี้ ‘โหมวจิ้นเฉียง’คอยอยู่ดูแลความสงบงานฉลองครบรอบวันคล้ายวันเกิดอันยิ่งใหญ่ของชายชราตระกูลหลิน แต่ทันใดนั้น เขาได้รับเรื่องจากภัตตาคารจิงเฉิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามว่าตอนนี้ กำลังมีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นโดยมีตำรวจเกี่ยวข้องด้วย
ดังนั้น เขาจึงรีบมาที่นี่อย่างรวดเร็วเพื่อจัดการกับสถารการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อมาถึงชั้นที่เกิดเหตุ ทันใดนั้น สายตาของเขาก็กวาดไปเจอ’เย่เฟิง’ที่ยืนอยู่ตรงประตูของห้องส่วนตัว ‘โหมวจิ้งเฉียง’เค้นเสียงในใจและคิดว่าเจ้าเด็กนี่ ครั้งก่อนสร้างเรื่องให้ตระกูลมังกรยังไม่พอ มาครั้งนี้ยังสร้างเรื่องวุ่ยวายใหญ่โตนี้อีกงั้นหรอ?
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในสถานการณ์นี้ เขาอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ’เย่เฟิง’! ด้วยตำแหน่งผู้กำกับการสำนักงานตำรวจเมืองเหยียนจิง ชัดเจนว่า’โหมวจิ้นเฉียง’มาเพื่อยับยั้งเหตุการณ์วุ่นวายตอนนี้ การมาถึงของเขาทำให้เสียงเอะอะเงียบลองเป็นเป่าสาก
“เย่เฟิง เขาคือโหมวจิ้นเฉียง”
‘ซูเหมิงหาน’ดึงแขน’เย่เฟิง’แล้วกระซิบบอกเขา เวลานี้เธอรู้สึกร้อนใจขึ้นเรื่อยๆ สถานะของ’โหมวจิ้นเฉียง’แม้แต่’ซูซินฉาง’พ่อของเธอก็ไม่อาจพูดคุยด้วยได้
“ฮืมมมม เข้าใจละ”
‘เย่เฟิง’หลิ่วตามองชายวัยกลางคนที่ดูกำยำ และมีสัญลักษณ์ของกรรมาธิการกรมตำรวจ เขาคิดว่าสถานการณ์ตอนนี้บานปลายไปไกลเกินกว่าที่เขาคาดไว้ หากไม่จัดการอย่างระวัง มันต้องกระทบคนที่อยู่ฝั่งเขามากมายอย่างเช่น ‘ซูเหมิงหาน’ ‘ชายหน้าบาก’ ‘หลิวลี่ฮุย’ และคนอื่นๆ
“วางอาวุธแล้วชูมือขึ้น!”
ทางด้านของ’โหมวจิ้นเฉียง’ที่เป็นถึงผู้กำกับการฝ่ายอาชญากรรม ได้ถือโทรโข่งอันเล็ก และตะโกนเตือนฝูงชนที่อยู่หน้าห้องอาหารตอนนี้ เมื่อเห็นดังนั้น ‘เซี่ยเฉิงเย่’จึงรีบพูดว่า
“ท่านเจ้าหน้าที่ คนพวกนี้เป็นพวกผิดกฏหมาย พวกมันถือมีดมาที่นี่เพื่อจะทำร้ายผู้คนซึ่งเป็นอาชญากรรมร้ายแรง พวกมันต้องโดนลงโทษอย่างหนัก”
‘โหมวจิ้นเฉียง’ได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะ
“ทำไมคนของกองทัพถึงได้ขี้ขลาดตาขาวแบบนี้ แค่พวกอัธพาลจิ๊บจ๊อยแบบนี้ก็จัดการไม่ได้งั้นรึ?”
เมื่อ’เซี่ยเฉิงเย่’ได้ยินดังนั้น ก็พลันหน้าซีดไปครึ่งหน้า ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกับกรมตำรวจนั้น ถือว่าไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติมากหากพวกเขาจะพูดจาเสียดสีกันในสถานการณ์เช่นนี้
ระหว่างที่เอามือไขว่หลังและยืนอย่างมั่นคง ‘โหมวจิ้นเฉียง’มองมายัง’เย่เฟิง’ด้วยสายตาแหลมคม เขาออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าใครทันที
“จับกุมพวกแก๊งอัทธพาลเดี๋ยวนี้! รวมทั้งเด็กคนนั้นด้วย”
เขาพึ่งรู้เมื่อเร็วๆนี้ว่า ตระกูลมังกรได้รับความเดือดร้อนอีกครั้งที่เมืองหลางฝาง และดูเหมือนว่าชายสวมหน้ากากซึ่งก่ออาชญากรรมที่หลางฝางจะมีความสัมพันธ์กับ’เย่เฟิง’ แต่เพราะข้อตกลงระหว่างตระกูลมังกรกับปู่ของ’เย่เฟิง’ ทำให้ตระกูลมังกรไม่กล้าเอาผิด’เย่เฟิง’
แต่’โหมวจิ้นเฉียง’ไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องนี้ หากเขาจับกุม’เย่เฟิง’และสามารถรีดข่าวคราวของชายสวมหน้ากากจากปากเจ้าเด็กนี่ได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะทำประโยชน์ให้แก่ตระกูลมังกรมากแค่ไหน และมันจะทำให้เขาได้ผลประโยชน์จากเรื่องมหาศาล นอกจากตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงขึ้นแล้ว
เขาจะได้รับการยอมรับจากโลกยุทธภพ ยิ่งไปกว่านั้นเขาจะได้มีสายสัมพันธ์อันดีกับตระกูลหลินด้วย คำสั่งของ’โหมวจิ้นเฉียง’ ผู้คนที่นี่ล้วนได้ยินชัดเจน ‘เซี่ยเฉิงเย่’รวมทั้งกลุ่มทหารกำลังจะได้รับชัยชนะในศึกนี้ พวกเขาต่างพากันจ้องมองไปยังชายหน้าบากและคนของเขาอย่างเย้ยยัน
แต่’เซี่ยเฉิงเย่’ก็รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย เพราะเขาไม่สามารถสร้างความอัปยศอดสูให้แก่’เย่เฟิง’ด้วยตัวเองได้ แต่เขาก็รู้ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาแก้แค้น
ขณะเดียวกัน ชายหนุ่มเข้าใจชัดเจนว่า ถึงแม้’โหมวจิ้นเฉียง’จะเยาะเย้ยเขา แต่การกระทำของชายคนนี้เล็งไปที่’เย่เฟิง’ ถ้าเจ้าเด็กนี่กำลังจะถูกจับกุม เขาก็หมดโอกาสแก้แค้น นั่นทำให้เขารู้สึกร้อนใจ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนี่ไปล่วงเกินคนระดับสูงคนไหนกัน?
‘เซี่ยหมิน’ที่ยังคงยืนอยู่ภายในห้อง ถึงแม้ว่าเธอไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก แต่หลังจากได้ยินเสียงคำพูด เธอก็พอเดาได้ว่าเกิดอะไรตอนนี้ ‘เซี่ยหมิน’อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างชั่วร้ายในใจขณะมองไปที่’เย่เฟิง’รวมทั้ง’ซูเหมิงหาน’ เธอคิดว่าหาก’เย่เฟิง’ถูกจับไปจริง ดูสิว่าใครจะคอยปกป้องนังเด็กแพศยาคนนี้
อีกด้านหนึ่ง ‘เซี่ยผิงฮุย’และ’ซูซินฉาง’ที่ยังคงนั่งอยู่ภายในห้อง พวกเขายืนขึ้นและเดินมาที่ประตูซึ่งมี’เย่เฟิง’และคนอื่นๆยืนอยู่
‘ซูซินฉาง’เหงื่อแตกไปทั้งตัว เขาไม่คิดเลยว่าการเชิญลูกสาวมากินข้าวเย็น แค่เรื่องจิ๊บจ๊อยแบบนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่จนทำให้คนใหญ่คนโตเข้ามาเกี่ยวข้อง มันดูเหมือนว่าเจ้าเด็ก’เย่เฟิง’นี่จะเคยมีเรื่องกับผู้กำกับโหมวงั้นหรือ?
ถึงอย่างนั้น ลำพังแค่เป็นญาติของหัวหน้าแก๊งจิ๊บจ๊อยอย่างแก๊งอสรพิษสวรรค์ จะเอาอะไรไปสู้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูง ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ ‘เซี่ยผิงฮุย’รู้สึกแปลกใจเช่นเดียวกัน’ซูซินฉาง’ แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีสำหรับเขา เมื่อเทียบกับเจ้าลูกโง่ของเขาแล้ว ‘ผูกำกับโหมว’จัดการกับ’เย่เฟิง’ได้ดีกว่ามาก
เมื่อมองไปยัง’เย่เฟิง’ เขาคิดในใจว่าเจ้าเด็กเวรนี่ต้องประสบชะตากรรมที่น่าอนาถแน่นอน ‘เซี่ยผิวฮุย’เพียงรอให้’เย่เฟิง’และพวกอันธพาลถูกพาตัวไป หลังจากนั้นเขาจะได้จัดการเรื่องของตระกูลเซี่ยให้เสร็จเสียที
ชายชรามองไปยัง’ซูเหมิงหาน’ที่ยืนอยู่ข้าง’เย่เฟิง’แล้วคิดในใจว่า แม่จิ้งจอกน้อยตัวนี่ช่างน่ารักเสียจริง บางที…….
คนของฝั่งโหมวจิ้นเฉียงต่างหากกันยินดีเมื่อได้ยินคำสั่ง ส่วนอีกฝั่ง ‘ซูเหมิงหาน’ ‘หลิวลี่ฮุย’ ชายหน้าบากและคนของเขาต่างรู้สึกร้อนรนเหมือนอยู่ในนรก ‘หลิวลี่ฮุย’เริ่มเหงื่อแตกและมองไปยัง’เย่เฟิง’หลายต่อหลายครั้ง เขาคิดในใจว่าทำไมคุณเย่ยังลังเลที่จะแสดงตัวว่ามีความสัมพันธ์กับตระกูลหลินอยู่อีก?
หรือเขาจะรอจนถูกพาตัวไปโรงพัก แล้วค่อยเล่นบทหมูกินเสือเหมือนครั้งก่อนกัน?
ส่วนอีกด้าน ‘ซูเหมิงหาน’จับแขน’เย่เฟิง’ไว้แน่น ดวงตาคู่สวยของเธอแสดงถึงความกังวลในตัว’เย่เฟิง’ แม้เธอจะไม่ได้พูดออกมา แต่’เย่เฟิง’ก็สามารถรับรู้ความกังวลที่อยู่ในใจเธอได้ดี แววตาดุร้ายของชายหน้าบากจ้องมองมาที่’เย่เฟิง’พร้อมกับส่งความนัยว่า
“พี่เย่ ต้องการให้พวกเราทำอะไร คุณอยากจะสู้กับพวกมันไหม?”
สู้กับพวกมัน!
‘เย่เฟิง’ค่อนข้างงงงวย ชายคนนี้ช่างคิดเป็นแต่เรื่องสู้จริงๆ ชายหนุ่มขบคิดว่าในสถานการณ์ตอนนี้ มีสิ่งเดียวที่เขาควรทำ ‘เย่เฟิง’ตั้งใจจะยอมให้พวกตำรวจจับตัวไปแต่โดยดี ถึงอย่างนั้น เขาต้องแน่ใจในความปลอดภัยของชายหน้าบากเสียก่อน
เพราะมันมีสองเหตุผลคือ หนึ่ง พวกตำรวจฝ่ายอาชญากรรม ไม่ใช่พวกที่พูดคุยด้วยง่าย สอง ‘ซูเหมิงหาน’ต้องมีใครสักคนค่อยปกป้องเธอที่นี่ หากทุกคนต้องถูกพาตัวไปหมด แน่นอนว่า’เย่เฟิง’คงสบายใจไม่ได้
ส่วน’หลิวลี่ฮุย’ ‘เย่เฟิง’ยังไม่เชื่อว่าชายลงพุงคนนี้จะยืนอยู่ข้างเขาแน่นอน หากเขาถูกตำรวจจับตัวไป ‘เย่เฟิง’เงยหน้าขึ้นและมองไปยังสุดทาง ‘โหมวจิ้นเฉียง’ที่ยืนเด่นเป็นสง่ายังคงมองมาที่เขาอย่างไม่ลดละ บังเอิญว่าในเวลานั้น ชายตาของทั้งคู่ได้ประสานกัน ใบหน้าของโหมวจิ้นเฉียงแอบแสดงการเยาะเย้ยอย่างลับๆ
‘เย่เฟิง’รู้ดีว่าชายคนนี้อยู่ข้างตระกูลมังกร ดังนั้นมันไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆแน่ ยิ่งไปกว่านั้น ตำรวจมากมายที่มีอาวุธครบมือเดินเข้ามาใกล้กับประตูห้องที่เขาอยู่แล้วเพื่อเตรียมจะจับกุม’เย่เฟิง’และชายหน้าบากไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม
“เธออยู่ที่นี่นะ ฉันไม่เป็นอะไรหรอก และฉันจะไม่สร้างปัญหาอะไรอีก”
‘เย่เฟิง’ต้องการจะปลอบโยนซูเหมิงหานด้วยคำพูด จากนั้น เขาจึงก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
“ฉันขอเตือนว่าอย่าขัดขืน หากพยายามจะทำอะไรบ้าบิ่นขึ้นมาละก็ ให้รู้ว่าตอนนี้มีสไนเปอร์เตรียมพร้อมอยู่แล้ว”
‘โหมวจิ้นเฉียง’พูดอย่างเยาะเย้ย มันเหมือนกับกรณีของนักสู้ผู้กล้าหาญที่พยายามจะต่อสู้กับเสือร้าย
“ผู้กำกับโหมว คุณสั่งการได้เด็ดขาดจริงๆ มีเรื่องสำคัญอะไรที่นี่งั้นหรือ ฮ่าๆ คุณถึงต้องเตรียมสไนเปอร์ไว้จัดการด้วย?”
ทันใดนั้น มีเสียงชราดังมาจากด้านหลังของ’โหมวจิ้นเฉียง’ และดังก้องไปทั่วที่นี่ ‘โหมวจิ้นเฉียง’ตัวแข็งค้างทันทีหลังจากในยินเสียงนี้ เขากำลังคิดว่านี่เป็นเสียงของชายชราคนนั้นอย่างงั้นหรือ?
ในเมื่อวันนี้เป็นวันครบรอบวันคล้ายวันเกิด 70 ปีของเขา ทำไมชายชราคนนั้นต้องมาที่นี่ด้วย?
ทุกๆคนล้วนหันไปมองด้านหลังของ’โหมวจิ้นเฉียง’ พวกเขาเห็นชายชราคนหนึ่งที่เดินมาอย่างสบายๆ สวมเสื้อคลุมจีนสีเทาเงา ถึงแม้ว่าเขาจะมีอายุถึง 70 ปี แล้วแต่ยังคงมีสุขภาพดีและแข็งแรงเอามากๆ
“ฉันมีชื่อว่าหลิน ตำรวจฝ่ายอาชญากรรมทำงานเพื่อจัดการอาชญากรรมที่อันตราย แล้วคุณมาทำไมที่นี่กัน…….”
‘โหมวจิ้นเฉียง’เหงื่อแตกไปทั้งตัว เขาคิดว่าการที่ชายชราคนนี้ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ เป็นไปได้ 80% ว่ามาเพื่อปกป้อง’เย่เฟิง’ เขาเคยได้ยินบ่อยๆว่าปู่ของ’เย่เฟิง’มีความสัมพันธ์บางอย่างกับตระกูลหลิน
แต่ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ที่ว่านี่จะแน่นแฟ้นเกินกว่าที่เขาเคยได้ยินมาเสียแล้ว!
ในสายตาของผู้คน เพียงแค่ไม่กี่นาที ชายที่ดูทรงอิทธิพลอย่าง’โหมวจิ้นเฉียง’กลับกลายเป็นแมวป่วยไปเสียแล้ว ส่วนคนอื่นๆอย่างเช่น’เซี่ยผิงฮุย’ การปรากฏตัวของชายชราตระกูลหลิน ถือเป็นสิ่งที่เกินกว่าเขาจะจินตนาการได้!
ชายชราคนนี้ ถือเป็นคนที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในเมืองเหยียนจิง เขามาที่นี่จริงๆหรือ?
หากไม่นับการมาถึงของ’คุณหลิน’ ‘โหมวจิ้นเฉียง’ที่เป็นระดับผู้กำกับการสำนักงานตำรวจจัดว่าเป็นผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในที่นี้ เหตุการณ์ในคืนนี้ มีสิ่งไม่คาดฝันต่างๆเกิดขึ้นมากมาย และตอนนี้ มันใกล้จะถึงจุดสำคัญที่สุดแล้ว!
…………………………..
แปลโดยทีมงาน GSI
ที่มา: