ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปมีเพียงความเศร้าโศกเสียใจเท่านั้นที่อยู่ในใจของ’ซูซิงฉาง’
ณ ตอนนี้ เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า’เย่เฟิง’จะเกี่ยวข้องกับกลุ่มตระกูลหลิน ถ้าเขารู้เรื่องนี้มาก่อน เขาจะได้รักษาความสนิทฉันท์มิตรกับเด็กคนนี้ตั้งแต่ต้น!
“จริงๆแล้ว ปู่ของเย่เฟิงเป็นใครกันแน่….ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นเพื่อนกับผู้อาวุโสหลิน”
‘ซูซิงฉาง’รู้สึกกระวนกระวายใจเกี่ยวกับเรื่องการค้นหาตัวตนของเขาก่อนหน้านี้ ว่าสิ่งนี้ไม่ปรากฏขึ้นในตอนที่เขาสืบหาข้อมูลของตัว’เย่เฟิง’ได้อย่างไร? คำสั่งที่ให้สืบหาตัวตนของ’เย่เวิ่นเทียน’ก่อนหน้านี้ เขารู้มาว่า’เย่เวิ่นเทียน’เป็นเพียงหัวหน้าตระกูลธรรมดาทั่วไปเท่านั้น
ตอนนี้ เขาได้ล่วงเกิน’เย่เฟิง’ไปแล้วเพราะเขาไม่รู้เลยว่า’เย่เฟิง’มีความสัมพันธ์กับตระกูลหลิน ถ้าเขาเลือกที่จะอยู่ฝั่งเย่เฟิงตั้งแต่แรก และช่วยเหลือเด็กคนนี้กับ’ซูเหมิงหาน’ ตอนนี้เขาคงไม่ต้องมามองหาว่าตระกูลเซี่ยส่งสัญญานอะไรมาให้แก่เขาโดยการกระขยิบตาให้เขาหรอกกระมัง?
โชคร้ายนักที่ในโลกนี้ไม่มียาชนิดไหนที่จะสามารถกำจัดสิ่งที่เรียกว่า ‘ความเศร้าโศก’ ไปได้หมดสิ้น ‘ซูซิงฉาง’ไม่สามารถปล่อยวางได้ เขาไม่มีทางลืมความเสียใจที่เขาได้ทำในสิ่งเลวร้ายลงไป
แต่ละคนในตระกูลเซี่ยในเวลานี้นั้นมีการแสดงออกทางสีหน้าให้เห็นอย่างชัดเจน เดิมที พวกเขาไม่ได้ต้องการจะทำอะไร’เย่เฟิง’และไม่ได้มีความข้องเกี่ยวกันมาก่อน พวกเขาแค่ต้องการแสดงความเป็นปฏิปักษ์กับ’ซูเหมิงหาน’ แต่เพราะ’ซูเหมิงหาน’มาพร้อมกับเด็กหนุ่มคนนี้นั่นจึงถือเป็นการยั่วยุอารมณ์ของ’เย่เฟิง’ไปด้วยเช่นกัน
เวลานี้ ลึกๆในใจของพวกเขารู้สึกเกรงกลัวเพราะก่อนหน้านี้ ‘เซี่ยหมิน’ได้ดุด่า’ซูเหมิงหาน’อย่างหยาบคาย เธอไม่เคยรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ เวลานี้ ‘เซี่ยหมิน’กังวลใจเหลือเกินเพราะเธอได้ล่วงเกินเด็กหนุ่มคนนี้ไว้มากมาย หากเวลานี้’เย่เฟิง’อยากจะตบหน้าเธอสัก 10 ครั้งต่อหน้าทุกคน เธอจะเอาอะไรไปห้ามเขาได้?
‘เย่เฟิง’นั้นมีคนหนุนหลังที่ยิ่งใหญ่มากในเวลานี้ เพียงแค่คำพูดของผู้อาวุโสหลินก็มากพอที่จะกำจัดตระกูลชั้นสองอย่างตระกูลเซี่ยได้แล้ว พวกเธอไม่อาจเทียบอะไรกับตระกูลหลินได้เลย ‘เซี่ยเฉิงเย่’ที่เป็นถึงเจ้าหน้าที่ของกองทัพ ตำแหน่งของเขาถือว่าไร้ค่าไปเลย
เมื่อเห็นผู้เฒ่าหลินสามารถสั่งโหมวจิ้นเฉียงให้ถอนตัวออกไปได้อย่างง่ายดาย ชายหนุ่มรู้ว่าไม่เพียง’เย่เฟิง’จะไม่ลืมเรื่องที่เขาจะเข้าไปตบ เด็กหนุ่มคนนี้จะทำให้พวกเขาต้องเจอกับชาตากรรมที่น่าอนาถ จิตใจของ’เซี่ยผิงฮุย’ล่วงหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที ในเมื่อเขารับรู้อิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลหลิน เขารู้ดิยิ่งว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร
ชายชรามองไปยัง’เย่เฟิง’ที่ยืนอย่างสงบนิ่งอยู่ด้านหน้า เขาพยายามเก็บซ่อนความเกลียดชังที่มีต่อเจ้าเด็กคนนี้ที่มันสามารถปกปิดว่ามีความสัมพันธ์กับตระกูลหลินจนแม้แต่ตระกูลเซี่ยหรือซูซินฉางกรุ๊ปก็ไม่สามารถตรวจสอบได้
“ผมเซี่ยผิงฮุย ขอแสดงความยินดีเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของท่านหลินวันนี้ครับ ขอให้ท่านมีความมากๆในทุกๆวัน ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง แห่งให้ท่านปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และมีอายุมั่นขวัญยืน…..”
‘เซี่ยผิงฮุย’ทำหน้ายิ้มแย้มและอวยพรวันเกิดให้แก่’หลินหวงซวน’
“เอาละ ตัวฉันก็แก่ลงทุกวันทุกวัน พวกคุณทั้งหลายก็กลับไปทำในสิ่งที่ตัวเองต้องทำเสียเถอะ เข้าใจไหม?”
ชายชราชูมือขึ้นและพูดหยุด’เซี่ยผิงฮุย’ที่กำลังจะพูดอะไรยืดยาว ซึ่งคำพูดของผู้เฒ่าตระกูลหลินบอกเป็นนัยว่าเรื่องวันนี้ เขาไม่ถือสาเอาความ เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก ‘เซี่ยผิงฮุย’และตระกูลของเขา รวมทั้ง’ซูซินฉาง’รู้สึกโล่งใจอย่างมาก
‘หลินหงซวน’ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นมองไปยัง’เย่เฟิง’รวมทั้ง’ซูเหมิงหาน’ที่ยังคงจับแขนชายหนุ่มไว้แน่น ภาพนี้กระตุ้นความสนใจของผู้เฒ่าหลินอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ เขาจึงถามออกมา
“หลานเย่ เธอคือแฟนสาวของหลานงั้นรึ? ทำไมไม่แนะนำเธอให้ฉันรู้จักหน่อยล่ะ?”
เมื่อ’ซูเหมิงหาน’ได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเธอพลันแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย และเธอไม่ได้พูดปฏิเสธออกไป เด็กสาวเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ซึ่งทำให้เธอดูน่ารักมากยิ่งขึ้นไปอีก ‘ซูซินฉาง’ที่ยืนอยู่ข้างหลังรู้สึกตื่นเต้นจนคิดอยากจะกระโดดออกมาแนะนำตัวว่าเป็นพ่อของ’ซูเหมิงหาน’
แต่เขาก็ไม่กล้าพอที่จะทำอย่างนั้น เพราะท่านหลินกำลังคุยกับ’เย่เฟิง’อยู่ การที่เขาเสนอหน้าเข้าไปในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องดีแม้แต่น้อย
“อ่อ ใช่ครับ เธอคือแฟนสาวของผม คุณรู้ได้อย่างไร?”
‘เย่เฟิง’ตอบชายชรา และมองเข้าไปในตาของเขา ชายหนุ่มอยากรู้เช่นกันว่าผู้เฒ่าหลินคนนี้จะมีปฏิกิริยาอย่างไร ชายชราอาจจะบังคับให้ตัวเขาและ’ซูเหมิงหาน’เลิกกัน แล้วให้แต่งงานกับหลานสาวของเขางั้นหรือ? หากอิทธิพลของตระกูลหลินยิ่งใหญ่มากในเมืองเหยียนจิง มันก็เป็นเรื่องธรรมดามาถ้าชายชราจะทำเช่นนั้น
ถึงอย่างไร หากฝั่งนั้นบังคับให้พวกเขาต้องเลิกกันจริง ‘เย่เฟิง’ก็คงใช้การประณีประนอมไม่ได้อีกต่อไป ตั้งแต่ที่เขายอมรับแล้วว่า’ซูเหมิงหาน’เป็นแฟนสาว เขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรเธอทั้งนั้น!
“ฮ่าๆ สาวน้อยคนนี้ช่างงดงามจริงๆ ความรักของหนุ่มสาวควรรักษาเอาไว้ให้ดี”
หลังจากพูดไปแบบนั้น ‘หลินหงซวน’ไม่ได้พูดอะไรอย่างอื่นอีก เขาแค่มองเข้าไปในดวงตาของ’เย่เฟิง’เพื่อไตร่ตรองเรื่องนี้ ‘หลินหงซวน’สามารถมองเห็นความลับที่ซ้อนอยู่ในดวงตา’เย่เฟิง’ เขาคิดว่า’เย่เฟิง’คงไม่สนใจ’หลินชื่อฉิง’ หลานสาวของเขา และในตาของชายหนุ่ม ยืนยันว่าเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆคือคนที่เขาชอบ
จิตใจของ’เย่เฟิง’นับว่าน่ายกย่องอย่างแท้จริง และต่างจากชายหนุ่มทั่วไปอย่างมาก ความงดงามของ’หลินชื่อฉิง’เป็นที่รู้จักกันไปทั่วเมืองเหยียนจิง เธอถูกยอมรับว่าเป็นเทพธิดาของเมืองๆนี้ ‘หลินหงซวน’คิดว่าเป็นไม่ได้ที่’เย่เฟิง’จะไม่เคยเห็นเธอมาก่อน หรือต่อให้เป็นเช่นนั้นจริง เขาก็ควรจะเคยเห็นรูปถ่ายของเธอมาบ้าง
เมื่อชายชราเห็นว่า’เย่เฟิง’ไม่สนใจหลานสาวของเขาแม้แต่เพียงนิดเดียว เขาก็ไม่อยากจะคิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป……..
‘หลินหงซวน’ถอนหายใจในใจ ไม่แน่ใจว่าหากเขาชื่นชม’เย่เฟิง’ว่ามีความเด็ดเดี่ยว แล้วเจ้าเฒ่า’เย่เวิ่นเทียน’จะคิดเหมือนกันกับเขาไหม
ผู้เฒ่าหลินรู้ว่า’เย่เวิ่นเทียน’ยอมรับในความโดดเด่นของหลานสาวของเขา และต้องการให้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลเย่ สำหรับเรื่องนี้ ถึงแม้เขาจะเป็นเพื่อนกับ’เย่เวิ่นเทียน’มาหลายปีก็ไม่แน่ว่าจะสามารถโน้มนาวใจของเจ้าเฒ่านั่นได้
ในเมื่อ’เย่เฟิง’ประกาศออกมาว่าเขาและ’ซูเหมิงหาน’เป็นแฟนกัน ‘หลินหงซวน’ก็คงทำอะไรไม่ได้อีกนอกจากจะปล่อยให้กลายเป็นเรื่องของโชคชะตา……
“ใช่ครับ ว่าแต่คุณมาหาผมที่นี่ มีเรื่องอะไรอย่างงั้นหรอครับ?”
เมื่อ’เย่เฟิง’เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้พูดอะไรถึงเรื่องของ’หลินชื่อฉิง’ เขาจึงเปลี่ยนหัวข้อคุย
“อืม ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่เห็นว่าหลานอยู่ที่นี่ เลยต้องการมาหาเจ้าเฒ่า……”
‘หลินหงซวน’ยิ้มบางๆ เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับ’หลินซิวเหวิน’ที่ยืนอยู่ข้างๆ แต่ทันใดนั้น ความคิดบางอย่างปรากฏขึ้นมาในหัวของ’หลินซิวเหวิน’ที่ทำให้เขาชี้นิ้วไปยัง’เย่เฟิง’
“ฉันจำได้แล้ว นายคือคนเลวเมื่อตอนนั้นใช่ไหม?”
ในที่สุด’หลินซานเฉี่ยว’ก็จำทุกอย่างได้ เขาเจอ’เย่เฟิง’ครั้งล่าสุดที่ร้านขายวัตถุโบราณอู๋ชี ซึ่งคนผู้นี้เป็นคนทำหยกมัจฉาหยินหยางที่เขาชื่นชอบ แตกเป็นเสี่ยงๆ
‘หลินหงซวน’หันกลับมามอง’หลินซิวเหวิน’ทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ‘เย่เฟิง’กับหลานชายของเขาเคยพบกันมาก่อนงั้นรึ?
“หือ?”
‘เย่เฟิง’จ้องมองไปที่’หลินซิวเหวิน’ เขาไม่รู้ว่าทำไม’หลินซานเฉี่ยว’ผู้เอาแต่ใจถึงพูดเรื่องนี้ตอนนี้
“นายไม่ใช่หรือไงที่ทำทำลายหยกมัจฉาขาวที่ฉันอุตสาห์เลือกมาอย่างดีเพื่อที่จะนำมาให้ปู่น่ะ?”
‘หลินซิวเหวิน’ถลึงตามอง’เย่เฟิง’
“นายไม่รู้หรือไงว่านั้นเป็นของขวัญที่ฉันชอบที่สุด?”
“ขอโทษที ผมไม่รู้”
เย่เฟิงหัวเราะ
“และผมก็ไม่ได้เป็นคนทำของโบราณชิ้นนั้นแตกด้วย ถ้าคุณอยากรู้ว่าใครทำ ก็ลองกลับไปถามคนรับใช้ทั้งสองคนของคุณดูสิ”
“ไร้สาระ พวกเขาบอกฉันว่านายชนพวกเขาจนของสิ่งนั้นแตกเสียหายไม่ใช่หรือไง?”
‘หลินซิวเหวิน’โมโหขึ้นมาทันที
“ต่อให้ผมเป็นคนชนจนมันแตกจริง แต่ลุงอู๋ก็จ่ายค่าเสียหายให้คุณสามเท่าแล้ว คุณยังต้องการอะไรมากกว่านั้นอีกหรือไง?”
‘เย่เฟิง’ยิ้มบางๆและคิดว่าเจ้าหนุ่มนี้เป็นพวกชอบโวยวายเสียจริง
“มัน….อะแฮ่ม….เอาละ ช่างมันเถอะ”
‘หลินซิวเหวิน’อยากจะพูดอะไรต่อไปอีก แต่เมื่อคิดว่าปู่ยังยืนอยู่ใกล้ๆ เขาจึงหยุดพูด แต่เขาไม่มีทางยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆแน่ หลังจากจ้องมอง’เย่เฟิง’หลายต่อหลายครั้ง สุดท้าย ‘หลินซิวเหวิน’จึงพูดกับปู่ของเขา
“ท่านปู่ ผมคิดว่าเจ้าเด็กนี้ไม่เหมาะสมกับพี่สาวซักนิด คนๆนี้………….”
ตามที่’หลินซิวเหวิน’ หลายชายสุดที่รักของ’หลินหงซวน’ รู้ว่าปู่ของเขาต้องการให้’หลินชื่อฉิง’ พี่สาวของเขาเป็นคู่หมั้นของ’เย่เฟิง’ แต่เขาไม่คิดเลยว่า’เย่เฟิง’จะเป็นเจ้าคนเลวที่เคยเจอให้ร้านขายวัตถุโบราณ
แต่ทันทีที่คำพูดของ’หลินซิวเหวิน’หลุดออกจากปาก ทุกๆคนที่นี่ก็พลันตื่นตะลึง!
‘เย่เฟิง’ไม่เหมาะสมกับพี่สาวของเขา? นี่ไม่ใช่แปลว่าท่านหลินตั้งใจจะยกหลานสาวของเขาให้เป็นคู่หมั้นของ’เย่เฟิง’งั้นรึ? ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่ที่’หลินซิวเหวิน’พูดถึงพี่สาวของเขาซึ่งยังไม่ได้แต่งงานหรือหมั้นหมาย นั่นก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากสาวสวยอันดับหนึ่งแห่งเมืองเหยียนจิง ‘หลินชื่อฉิง’!
……………………………….
แปลโดยทีมงาน GSI
Solar Spark : ขอพักก่อนนะครับวันนี้ ดูเหมือนว่าโรงงานของเราจะ Overload ล่ะ55
ที่มา: