I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 55 ข่าวที่น่าตื่นเต้นแพร่กระจ่ายออกไป

| Genius Sword Immortal | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

คำพูดของ’หลินซิวเหวิน’นั้นเหมือนดั่งระเบิดที่ทรงพลัง   นี่เป็นข่าวใหญ่มาก!

‘เย่เฟิง’รู้สึกร้อนใจ ขณะที่’ซูเหมิงหาน’ที่ยืนอยู่ข้างๆยังคงจับแขนเขาไว้แน่น ชัดเจนว่าคำพูดของ’หลินซิวเหวิน’เป็นเหมือนคลื่นที่เข้ามากระแทกใจเธออย่างรุนแรงยิ่งกว่าพายุใต้ฝุ่นระดับ 12   อะไรกัน?

‘เย่เฟิง’เป็นคู่หมั้นของสาวสวยตระกูลหลินงั้นหรอ?   สีหน้าของ’ซูเหมิงหาน’ซีดลงไปทันที หากเป็นสาวสวยคนอื่น เธอยังพอมีความมั่นใจที่จะเทียบเคียง แต่สำหรับ’หลินชื่อฉิง’แล้ว มันต่างกันโดยสิ้นเชิง

ถึงแม้ว่า’ซูเหมิงหาน’จะถือว่าเป็นสาวสวยที่สุดในโรงเรียน แต่หากให้เทียบกับสาวสวยทรงเสน่ห์อย่างรุ่นพี่’หลินชื่อฉิง’แล้วละก็ มันเป็นอะไรที่ต่างกันมาก ยิ่งไปกว่านั้น หญิงสาวคนนั้นยังมีพื้นหลังตระกูลที่สูงกว่าตระกูลของ’ซูเหมิงหาน’อย่างยิ่ง

“ขอโทษนะ ผมไม่รู้ว่าพี่สาวของคุณคือใคร”

‘เย่เฟิง’ขมวดคิ้ว และเปลี่ยนสายตาของเขาไปที่ ‘หลินหงชวน’

“คุณหลิน ถ้าไม่ว่าอะไรผมขอให้คุณกลับไปด้วยครับ ขอบคุณที่อุตส่าห์มา แต่ผมไม่ต้อนรับ”

แน่นอน คนที่เขาหมายถึงคือ’หลินซิวเหวิน’ หรือซานเฉี่ยวของตระกูลหลิน

“ฮ่าๆ เจ้าเด็กนี่แค่พูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องนี้ยังไม่มีการตัดสินใจกันเลย”

‘หลินหงชวน’มองไปที่’หลินซิวเหวิน’ เขาไม่ควรพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อหน้าทุกคน เรื่องที่เป็นความลับสำคัญกับถูกเปิดเผยออกไปเนื่องจากเขาหุบปากตัวเองไม่อยู่   โดยไม่คาดคิด เจ้าเด็กคนนี้วิ่งตามปู่ของเขามาและทำสิ่งที่ผิดพลาดโดยการป่าวประกาศเรื่องสำคัญต่อหน้าสาธารณะชน แล้วแบบนี้ เขาจะรับผิดชอบกับผลที่ตามมาอย่างไร?

‘หลินหงชวน’ ไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของ’หลิวซิวเหวิน’ อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ก็ไม่สามารถหยุดความจริงที่เผยแพร่ออกไปแล้วได้   เมื่อ’หลินซิวเหวิน’รู้ตัวว่าถูกปู่จ้องมองมา เขาก็รู้ตัวทันทีว่าเขากำลังทำผิดและหุบปากของเขาทันที

“ในเมื่อหลายเย่ของฉันพูดเช่นนั้น ฉันคงต้องขอตัวก่อน”

‘หลินหงชวน’พูดพร้อมกับมองไปที่คนบริเวณนั้นในเชิงจะสื่อว่าห้ามพูดเรื่องในวันนี้ออกไปเด็ดขาด หากใครกล้าพูดเรื่องนี้ออกไป ผู้เฒ่าหลินคนนี้จะไม่มีวันให้อภัยพวกมัน!

คุณหนูจากตระกูลหลิน ‘หลินชื่อฉิง’ หากเธอแต่งงานกับใครแล้วละก็ มันสามารถสร้างผลกระทบอันยิ่งใหญ่ให้กับการเมืองของประเทศได้เลยทีเดียวในสิบถึงยี่สิบปีข้างหน้า หากเรื่องดังกล่าวแพร่กระจายออกไป แน่นอนว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นหัวข้อสนทนากันทั้งประเทศ

จึงเป็นเหตุผลที่’หลิงหงชวน’ไม่อยากให้เรื่องสำคัญแบบนี้หลุดออกไปและเป็นเหตุผลว่าทำไม ‘หลิงหงชวน’จึงไม่ได้ประกาศการหมั้นนี้ให้ทุกคนได้รับรู้   ผู้คนส่วนใหญ่บริเวณนั้นต่างเหงื่อตก โดยเฉพาะ ‘ซูซินฉาง’ เพราะลูกสาวของเขาอยู่ด้วยกันกับ’เย่เฟิง’ นั่นไม่ได้หมายความว่าเขากำลังแย่งลูกเขยของตระกูลหลินอย่างงั้นหรอ?

‘ซูซินฉาง’ที่อยู่ในความกังวล ตอนนี้เขากลัวยิ่งกว่าแค่ความรู้สึกกังวลเพราะว่าตอนนี้สถานะของ’เย่เฟิง’สำหรับเขา เปรียบเหมือนพระเจ้า หากเขามีโอกาศที่จะได้พบกับ’เย่เฟิง’อีกครั้ง เขาจะปฏิบัติกับ’เย่เฟิง’อย่างดี และให้ความเคารพไม่ว่าอีกฝ่ายจะด่าหรือทำให้เขาอับอายแค่ไหนก็ตาม

‘หลินหงชวน’ที่หมุนตัวกำลังจะเดินกลับ ‘หลินซิวเหวิน’ก็รีบตามเขาไป ทำท่าเหมือนเด็กน้อยที่รู้ตัวเองว่าทำผิดและก้มหัวลง เขาไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อนพูดสักคำ ต่อหน้าทุกคน’หลินซิวเหวิน’เปรียบดั่งมหาจักรพรรดิ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้า’หลินหงชวน’เขาก็เป็นแค่เด็กน้อยดีดีนี่เอง

ยิ่งเหตุการณ์เมื่อกี้ ดูเหมือนว่าเขาจะลืมตัวและพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป ทำให้’หลินหงชวน’ต้องการที่จะดุและว่าเขา   ตาของ’เย่เฟิง’ที่มองไปหลังของ’หลินซิวเหวิน’ และคิดอย่างรอบคอบ ดูเหมือนว่าเจ้านั่นจะแกล้งทำเป็นเหมือนว่าพูดสิ่งที่ไม่ควร แต่จริงๆ แล้วมันตั้งใจที่จะพูดตะหาก

เมื่อเป็นคำพูดของ’หลินซิวเหวิน’เอง ใครจะกล้าสงสัยเขา และผู้คนมากมายที่นี่ รวมทั้ง’หลินหงซวน’เอง ก็รับประกันไม่ได้ว่าข่าวลือนี่จะไม่หลุดออกไปแม้แต่น้อย   ชั่งเป็นความคิดที่น่ากลัวยิ่งนัก!

เมื่อข่าวลือเรื่องนี้ถูกกระจายออกไป ‘เย่เฟิง’ก็เข้าใจในสิ่งที่มันต้องการ ในเมื่อ’หลินชื่อฉิง’เป็นคนที่โดดเด่นและน่าดึงดูดมาก จะเป็นไปได้อย่างไรที่คนชื่นชอบเธอจะมีนิดเดียว

ต่อให้ไม่ใช่ในวันพรุ่งนี้ ในไม่ช้า ‘เย่เฟิง’ก็จะถูกพวกที่มีความหลงไหลในตัว’หลินชื่อฉิง’ เข้ามาหาเรื่องเขา   แน่นอน’เย่เฟิง’คิดเผื่อไว้สำหรับเหตุการณ์แบบนี้แล้ว ถึงเขาจะไม่กลัวปัญหาต่างๆที่จะเข้ามา แต่ในใจของเขา เขารู้สึกว่า’หลินซิวเหวิน’เป็นคนที่ฉลาดและมีไหวพริบมาก

“สาวน้อย”

‘เย่เฟิง’มองไปที่’ซูเหมิงหาน’ที่กำลังทำท่าจะงอนและมีท่าทางเศร้าซึม ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มบนใบหน้าเธอ ‘เย่เฟิง’จับหัวของเด็กสาวไว้

“ดูเหมือนว่าเธอกำลังคิดมากนะ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าพี่สาวของเขาเป็นใคร”

“อย่ามาจับฉันนะ”

‘ซูเหมิงหาน’วิ่งไปหลบด้านข้างพูดอย่างอึดอัดใจ

“นายจะไม่ละอายใจหน่อยเหรอที่ปิดบังความจริงกับฉันน่ะ เรื่องใหญ่อย่างนี้ เรื่องที่นายรู้จักกับตระกูลหลิน แต่นายไม่แม้แต่จะบอกฉันเลย นายไม่เคยใส่ใจฉันเลยสินะ…”

ไม่ต้องสงสัยว่าสาวน้อยคนนี้เริ่มจะเล่นบทแง่งอนเสียแล้ว

‘เย่เฟิง’ไม่เคยมีประสบการณ์รับมือกับเรื่องแบบนี้มาก่อน เขาทำตัวไม่ถูกกับเหตุการณ์ตรงหน้า

“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นทำยังไงเธอถึงจะยอมเชื่อฉันล่ะ?”

“ถ้าหลินชื่อฉิงคนนั้นมาหานาย นายจะทำยังไง?”

‘ซูเหมิงหาน’ถามกับ’เย่เฟิง’อย่างหดหู่

“จะฉันจะทำอะไรล่ะ? ฉันไม่รู้จักเธอคนนั้นเลยด้วยซ้ำ”

‘เย่เฟิง’ตอบกลับอย่างซื่อตรงโดยปราศจากความลังเล

“ถ้านายได้เจอเธอเมื่อไร นายจะต้องชอบเธอแน่ๆ”

‘ซูเหมิงหาน’ครางออกมาด้วยเสียงอันเบา

“มันจะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไงกัน หืม?”

‘เย่เฟิง’ไม่รู้ว่าเขาควรจะร้องไห้หรือหัวเราะกับผู้หญิงคนนี้ดีจริงๆ

“เป็นไปได้สิ ก็เธอทั้งสวยทั้งมีเสน่ห์ แถมยังมาจากตระกูลที่เลิศเลอขนาดนั้น ยิ่งกว่านั้นเธอยังเป็นประธานนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอีกด้วย ความสามารถของเธอก็โดดเด่นไม่ธรรมดา…”

‘ซูเหมิงหาน’เริ่มขุดข้อได้เปรียบของคนที่จะมาเป็นคู่แข่งของเธอในอนาคตออกมา

“เอาล่ะ งั้นฉันให้สัญญากับเธอเลย ในอนาคตถ้าฉันได้ไปเจอกับหลินชื่อฉิงเมื่อไร ฉันจะไม่คุยกับเธอสักคำ ตกลงมั้ย?”

‘เย่เฟิง’ไม่รู้จะพูดอะไรดี เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดออกไปแบบนั้น ตอนนั้นเองสาวน้อยก็ถามย้ำกับเขา

“เรื่องนี้นายเป็นคนพูดออกมาเองนะ ฉันไม่ได้บังคับนายเลย ใช่ไหม?”

ทันใดนั้นเองรอยยิ้มหวานฉายออกมาจากใบหน้าของ’ซูเหมิงหาน’ ‘เย่เฟิง’ยอมให้กับเธอแล้ว!

“แน่นอน นี่เป็นสัญญาลูกผู้ชาย ฉันไม่มีทางผิดสัญญาเด็ดขาด”

‘เย่เฟิง’ย้ำความเชื่อมั่นกับเธอ

“ก็ได้ ฉันจะยอมเชื่อนายแค่ครั้งนี้ ตกลงนะ”

แล้ว’ซูเหมิงหาน’ก็ยอมจบลงแบบนั้น เธอพอใจกับคำพูดของเขามากและไม่ออกอาการอะไรอีก   เมื่อผู้คนรอบๆเห็นหญิงสาวกล้าที่จะพูดกับ’เย่เฟิง’แบบนั้นพวกเขาต่างเหงื่อตกออกมา ตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้แล้วว่า’เย่เฟิง’มีฐานะที่ไม่ธรรมดาขนาดไหน ทำไมกันสาวน้อยคนนี้ถึงกล้าพูดกับชายหนุ่มแบบนั้น

เธอไม่กลัว’เย่เฟิง’เลยงั้นหรือ? เธอนี่มันแน่นอนจริงๆ   นี่คือความแตกต่างระหว่าง’ซูเหมิงหาน’กับคนแบบ’เซี่ยหมิน’   ไม่ว่าจะด้วยฐานะทางสังคมของ’เย่เฟิง’จะมีหรือไม่ เธอไม่สนใจมันแม้แต่น้อย ที่เธอสนใจมากที่สุดมีเพียงอย่างเดียว ‘เย่เฟิง’ ต่อให้ชายหนุ่มมีอำนาจมากมายเพียงใดหากเขาปฏิบัติตัวแย่ หญิงสาวก็ยังถือว่าเขาไม่คู่ควรกับเธอ

“พวกนายมองอะไรกันอยู่ได้ อยากมีเรื่องกับเย่เฉี่ยวงั้นเหรอ?”

(เฉี่ยว=น้อย)

‘หลินลี่ฮุ่ย’ที่ยืนอยู่ด้านหลัง’เย่เฟิง’อย่างภาคภูมิใจตะโกนออกมาอย่างไม่มีใครตั้งตัวทันใส่คนของตระกูลเซี่ย

ตอนนี้คนของตระกูลเซี่ยมีหรือจะกล้าเอ่ยปากกล่าวอะไรกับ’เย่เฟิง’ ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ไม่รู้หรอกว่าทำไม’หลิวลี่ฮุ่ย’ถึงเรียก’เย่เฟิง’ว่า “เฉี่ยว” แต่ตอนนี้พวกเขาเข้าใจทุกสิ่งอย่างแล้ว

เจ้าตำรวจอ้วนนี่เจ้าเล่ห์นัก มันรู้ทุกอย่างตั้งแต่แรกว่า’เย่เฟิง’มีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้

“เอ่อ เย่เฉี่ยว…”

‘เซี่ยหมิน’ไม่กล้าทำตัวยโสอีกต่อไป เธอตะโกนเรียกอย่างค่อนข้างลังเลออกมา

“ว่าไง?”

ทั้ง’เย่เฟิง’และ’ซูเหมิงหาน’หันไปมองเธอพร้อมกัน ‘ซูเหมิงหาน’เริ่มระลึกถึงสิ่งเลวร้ายต่างๆที่’เซี่ยหมิน’เคยทำกับเธอ ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายมองดู’เซี่ยหมิน’ที่แสดงสีหน้าอย่างหวาดกลัวออกมาแทนเสียแล้ว

……………………………

แปลโดยทีมงาน GSI

Solar Spark: สำหรับใครที่กำลังเบื่อน้องเหมิงหานอยู่ ไม่ต้องหวงนะครับ อีก 2 ตอนบทบาทของนางจะหายไปพักนึง

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments