I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 99 ทักษะกรงเล็บมังกร ระดับ 2

| Genius Sword Immortal | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

เมื่อ’เย่เฟิง’มองเห็นความเร็วของฝ่ายตรงข้าม เขาก็รู้สึกแปลกใจ

“ความเร็วระดับนี้……100 เมตรต่อ 4-5 วินาทีเลยรึ?”

โชคดีที่ความเร็วระดับนี้ยังเทียบกับความเร็วสูงสุด’เย่เฟิง’ไม่ได้  ชายหนุ่มจึงเปิดใช้งานทักษะ ย่างก้าวไร้เงา ซึ่งนั้นทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้น

“งั้นฉันจะเล่นกับแกหน่อยแล้วกัน……”

‘เย่เฟิง’กระโดดหลบหลีกและรักษาระยะห่างจากฝ่ายศัตรู พร้อมกันกับที่เขาเริ่มโครจรพลังเจินชี่อย่างรวดเร็วผ่านเส้นลมปราณของเขา และพร้อมที่จะใช้ทักษะกรงเล็บมังกรเสมอในเวลาที่ต้องการ   ก่อนหน้านี้’เย่เฟิง’ได้อ่านหนังสือวรยุทธ์อย่างละเอียดแล้ว เขาจึงรู้ว่าสาระสำคัญของทักษะกรงเล็บมังกร

จะต้องบรรลุระดับที่สองแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถปล่อยเจินชี่จากร่างกาย ในรูปแบบของกรงเล็บมังกรได้ การทำความเข้าใจระดับที่สองของทักษะกรงเล็บมังกรเป็นเรื่องยากมาก แต่สำหรับเย่เฟิงนั้นมันเป็นเพียงแค่อะไรล่ะ แค่ทักษะสามัญเท่านั้นเอง

การที่ฝืนควบคุมการไหลเวียนเจินชี่นั้นอาจจะทำให้เส้นลมปราณถึงขั้นวิกฤติได้ แต่กับ’เย่เฟิง’แล้ว อาจบอกได้ว่าชายหนุ่มอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญเลยทีเดียว

ภายใต้ฝีเท้าอันแผ่วเบา ‘เย่เฟิง’วาดมือทั้งสองข้างของเขาก่อนจะทุบเข้าหากันแล้วแยกออกกลางอากาศ พลันเกิดเจินชี่พวยพุ่งออกมาจากร่าง ชั่ววินาทีต่อมา มือเขาก็เกิดเป็นรูปแบบเมฆากรงเล็บมังกร !

(Lastvoice : ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันของวิชากรงเล็บมังกร เช่น กรงเล็บมังกร รูปแบบเมฆา รูปแบบหยาดวารี รูปแบบจันทรา และอื่นๆ)

เพียงพริบตา ‘เย่เฟิง’ก็คว้าเข้าไปที่หมวกสีน้ำตาลบนหัวของชายแปลกหน้า และโยนมันออกไป   ทันใดนั้น หัวโล้นที่มันเยิ้มปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา ‘เย่เฟิง’มองเห็นตาเรืองแสงของมันที่เบ้าตาดูลึก รูปร่างโดยรวมของมันไม่ต่างอะไรกับคนติดยา

“นี่มันอะไรกัน?”

รูปร่างประหลาดของมันทำให้’เย่เฟิง’รู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง เจ้านี่มันอะไรกัน? ซอมบี้? ปีศาจ? หรือคนติดยา?

การที่’เย่เฟิง’ได้ใช้ทักษะกรงเล็บมังกรระดับสอง หาก’เย่เวิ่นเทียน’ได้รู้เข้า เขาคงตกใจจนอ้าปากค้าง เพราะการที่สามารถเรียนรู้ทักษะได้เร็วขนาดนี้ บ่งบอกถึงการเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง

ความจริงแล้ว ไม่เพียง’เย่เฟิง’จะมีพรสวรรค์ที่สูงส่ง แต่เพราะมันมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างเจินชี่กับพลังชี่ภายในด้วย สำหรับพลังชี่ภายในแล้ว การปลดปล่อยพลังชี่ออกมาจากร่างกายนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก

แต่สำหรับเจินชี่นั้น มันไม่ต่างอะไรกับการปอกกล้วยเข้าปาก   หลังจากได้เห็นรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาดของชายคนนั้น ‘เย่เฟิง’ไม่ลังเลที่จะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วโดยทิ้งภาพติดตาเอาไว้เบื้องหลัง และขณะเดียวกัน เขาวาดมือไปมาอย่างต่อเนื่องเพื่อแสดงกระบวนท่ากรงเล็บมังกรออกมา

การที่’เย่เฟิง’ทิ้งภาพติดตาเอาไว้ ทำให้ชายประหลาดคนนั้นสามารถคว้าได้เพียงภาพติดตาของเขา ซึงชายหนุ่มก็รอโอกาสนี้อยู่แล้ว เย่เฟิงใช้กรงเล็บมังกรจับเสื้อโค้ทของมันแล้วโยนออกไป   ช่างน่าตกใจ ร่างกายของมันล้วนปกคลุมไปด้วยขนยาวสีน้ำตาล!

“เฮ้ย! นี่มันกอริล่าหรือไง?”

ภาพที่เห็นทำให้’เย่เฟิง’ขวัญเสียไปครู่หนึ่ง ไซ่เชาคนนั้นเป็นหมอปีศาจจากตระกูลจ่วนหรือไง มันถึงสามารถดัดแปลงพันธุกรรมได้?

ทันใดนั้น ความคิดบางอย่างก็แล่นเข้ามาในหัว’เยเ่ฟิง’ ‘ใช่แล้ว หน้าบากเคยบอกไว้ว่าคนที่เป็นเหยื่อของยาตัวใหม่ หลังจากผ่านไปหนึ่งปี พวกเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย บางที่เหตุการณ์นั้นมันอาจเกี่ยวข้องกับการมีอยู่ของพวกมือดีพวกนี้ก็ได้’

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพของเจ้าตัวประหลาดนี่อยู่ในเกณฑ์ที่น่ากลัว ซึ่งเห็นได้ชัดเจนเมื่อ’เย่เฟิง’ได้เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วโดยทิ้งภาพติดตาเอาไว้ มันได้ปล่อยหมัดที่หนักถึง 500 kg ใส่ภาพติดตาของ’เย่เฟิง ‘

แต่หน้าเสียดายที่ IQ ของเจ้าตัวนี้ต่ำมากเพราะมันไม่สามารถแยกแยะอะไรได้เลย และมันเพียงแค่ต่อสู้โดยใช้สัญชาตญาณเท่านั้น

“ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ เราก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรอีก”

เมื่อ’เย่เฟิง’ตัดสินใจว่าเขาไม่จำเป็นต้องหนี และทันใดนั้น กระบี่เจินชี่สีแสดก็ปรากฏขึ้นมาในมือของชายหนุ่ม

เคร้ง!   เสียงเหล็กกระทบกันดังขึ้นเมื่อกระบี่ของ’เย่เฟิง’ปัดป้องการโจมตีของเจ้าตัวประหลาดนั่น

“แข็งจริงๆ”

‘เย่เฟิง’คิดว่าบางทีหากเจ้านี่ต้องเจอกับอาวุธปืน มันคงไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวอะไรแม้แต่น้อย เพราะความคมของกระบี่เจินชี่ของเขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่ากระสุนปืนเลย

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! แก็ก! ฉัวะ!

อย่างไรก็ตาม ‘เย่เฟิง’ไม่ยอมแพ้ เขารีบเคลื่อนที่เข้าใกล้ตัวประหลาด แล้วโจมตีใส่ลำคอของมันอย่างต่อเนื่อง หลังจากฟาดเข้าไป 5 กระบี่ ชายหนุ่มก็สามารถฟันหัวตัวประหลาดให้ขาดกระเด็ดออกไปได้ โดยเหลือไว้แต่ร่างไร้หัวของมัน

ชายหนุ่มรู้ว่าเดิมที เจ้าตัวประหลาดนี่มีผิวที่บางมากซึ่งถูกปกคลุมด้วยขนยาวสีน้ำตาล แต่สิ่งที่ซ้อนอยู่ใต้ผิวหนังของมันคือชั้นเหล็กหนาที่ปกคลุมไปทั่วทั้งตัว   เมื่อหัวของมันถูกตัดออกไป ร่างของตัวประหลาดก็ร่วงลงไปบนพื้นและนิ่งไว้ไหวตื่ง

ร่างของมันไม่มีเลือดไหลออกมาแม้แต่น้อย ซึ่งดูแล้วไม่ต่างอะไรกับศพที่แห้งเหี่ยว หรืออาจเรียกว่ามันเป็นมัมมี่เลยก็ได้

“น่าประหลาดจริงๆ…….”

ทันใดนั้น ‘เย่เฟิง’ก็ได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังวิ่งเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มจึงรีบสลายดาบเจินชี่แล้วหลบหนีออกจากที่นี่ทันที   สำหรับเจ้าตัวประหลาดนั่น ‘เย่เฟิง’คงไม่ต้องกลัวอะไรหากมันมาแค่ตัวเดียว แต่ถ้ามันจู่โจมเข้ามาทีละหลายตัวล่ะก็ การจัดการพวกมันคงเป็นเรื่องยากมากทีเดียว

และเขายังไม่รู้ว่ารอบตัวไซ่เชาจะมีเจ้าพวกนี้คอยคุ้มครองอยู่หรือไม่?   ถึงอย่างนั้น ‘เย่เฟิง’ไม่ได้คิดอะไรมากและรีบออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว   เหตุการณ์นี่จะต้องเป็นที่สนใจของกลุ่มตำรวจอย่างแน่นอน แต่’เย่เฟิง’ขี้เกียจจะมีปัญหาอีกครั้ง

เวลานี้ ‘โหมวจิ้นเฉียง’คงจะตื่นขึ้นมาแล้ว แต่น่าแปลกใจที่มันไม่มาหาเขาอีก และ’เย่เฟิง’ก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมมันถึงปล่อยเขาไป   ชายหนุ่มคร้านจะคิดมากในเรื่องนี้ จึงมุ่งหน้ากลับไปยังหมู่บ้านชิงเฟิงทันที   ………….

เมื่อ’เย่เฟิง’เกือบมาถึงบ้านของเขา และขณะที่ชายหนุ่มกำลังจากถอดหน้ากากนั่นเอง ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกถึงกลิ่นอายบางอย่าง ‘เย่เฟิง’เห็นแสงไฟในบ้านของเขาดับไปนานแล้ว และภายใต้แสงจันทร์นั้นเอง เขามองเห็นคนผู้หนึ่งในชุดเสื้อคลุมจีนสีม่วงยืนไขว่มืออยู่ด้านหลัง และมองไปยังทางเข้าของบ้านราวกับเขากำลังรอคอยใครบางคน

“ใครกัน?”

‘เย่เฟิง’ระมัดระวังตัวขึ้นและค่อยๆก้าวไปอีกด้านหนึ่งอย่างเงียบเชียบ ไม่นาน ชายหนุ่มก็มองเห็นใบหน้าของชายในชุดคลุมสีม่วง ชายคนนั้นดูแล้วอายุประมาณ 30 ปี ซึ่งกลิ่นอายรอบๆตัวเขานั้นนิ่งสงบอย่างยิ่งและดูเหมือนว่าเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อต่อสู้

“ใบหน้านั้น……..ชายคนนั้นมาจากตระกูลหลงงั้นหรือ? ใบหน้าของเขาดูคล้ายกับหลงโม่หรันมาก…..”

‘เย่เฟิง’ถึงกับมึนงงเมื่อเห็นคนจากตระกูลหลงตั้งใจมาหาเขา หรือเพราะรู้ว่า’เย่เฟิง’กลับมาจากการเดินทางแล้ว เขาจึงมารอพบชายสวมหน้ากากที่นี่งั้นหรือ?

เรื่องนี้มีความเป็นไปได้สูงมาก ถึงอย่างนั้น ทำไมชายคนนี้ถึงมายืนหน้าบ้านโดยไม่ทำอะไรเลย? หากเขาเข้าไปในบ้านแล้วพบว่า’เย่เฟิง’ไม่อยู่ข้างใน ก็เป็นไปได้มากว่าเขาจะสงสัยในตัวตนของชายสวมหน้ากาก

“ดูท่าเราจะต้องรีบเพิ่มระดับวรยุทธ์เป็นระดับ 10 ปีให้เร็วที่สุด จะได้ใช้‘ทักษะร่างเงา’ได้เสียที “

‘เย่เฟิง’คิดว่าหากเขามีวรยุทธ์ระดับ 10 ปีเมื่อไหร่ เขาจะสามารถสร้างร่างเงาได้ง่ายๆในหลายๆที่ในเวลาเดียวกัน ถึงแม้ว่าในด้านการต่อสู้ ร่างเงาของเขาจะไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง แต่หากรู้จักใช้ให้ดี ก็สามารถใช้มันสร้างความสับสนให้แก่ผู้คนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เวลานี้ ‘เย่เฟิง’เข้าใจแล้วว่าทำไม’โหมวจิ้นเฉียง’ถึงไม่มาหาเขา เพราะคนของตระกูลหลงมารอพบเขาแล้วนั่นเอง……

‘เย่เฟิง’คอยสังเกตชายคนนั้นอย่างระวังอยู่ช่วงหนึ่ง และพบว่าชายคนนั้นยืนอยู่หน้าบ้านเฉยๆโดยไม่ขยับแม้แต่ก้าวเดียวราวกับรูปปั้น สายตาของเขาจับจ้องไปยังบ้านของ’เย่เฟิง’ตลอดเวลาซึ่งใครก็ไม่อาจรู้ได้ว่าในใจของเขากำลังคิดอะไรอยู่

“แย่จริงๆ เฮ้อ ถ้าคนผู้นั้นยังยืนอยู่แบบนี้จนถึงเช้า เราก็เข้าบ้านไม่ได้น่ะสิ”

ชายอายุ 30 ปีจากตระกูลหลงที่ดูแล้วมีระดับวรยุทธ์สูงกว่า’หลงหวางเอ๋อ’อย่าไม่ต้องสงสัย ยังคงยืนนิ่งอยู่แบบนั้น ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ‘เย่เฟิง’ที่อยากกลับเข้าบ้านใจจะขาดยังคงหลบซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ ชายหนุ่มคิดว่าเขาคงไม่อาจเข้าไปในบ้านโดยไม่ให้ฝั่งตรงข้ามรู้ตัวได้

“นั่นใคร?”

ทันใดนั้น ชายในชุดคลุมสีม่วงก็เปล่งเสียงออกมาและหันหน้ามองมายังทิศที่’เย่เฟิง’หลบซ่อนตัวอยู่

“บ้าจริง แค่ลมหายใจปั่นป่วนครั้งเดียว ชายคนนั้นก็จับได้แล้ว!”

คำพูดของชายคนนั้นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตกใจและไม่กล้าจะหลบซ่อนตัวต่อไปอีก

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

‘เย่เฟิง’ที่่สวมหน้ากากไว้อยู่หัวเราะ แล้วกล่าวออกมาว่า

“น่าแปลกใจจริงๆที่คนตระกูลหลงมาที่นี่ คุณอยากจะเข้าไปในเขตตระกูลเย่งั้นรึ?”

ชายหนุ่มเดาว่าเพราะนี่คือบ้านของ’เย่เวิ่นเทียน’ ดังนั้น คนตระกูลจึงไม่กล้าเข้าไปข้างในโดยพลการ

“ข้าคือหลงจื่อจากตระกูลหลง ท่านคือโม่จิ่วเกอใช่หรือไม่?”

ชายในชุดม่วงถึงกับอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อเห็น’เย่เฟิง’ที่สวมหน้ากากอยู่ เพราะเขาไม่คิดว่าจะสามารถเจอโม่จิ่วเกอได้ง่ายดายแบบนี้

“ใช่ คุณอยากแนะนำตัวกับผมงั้นรึ?”

‘เย่เฟิง’ถามเสียงต่ำ

“ฮ่า ฮ่า พี่ชายโม่ คนฉลาดไม่พูดอะไรที่เข้าใจยาก”

‘หลงจื่อ’ยิ้มตอบอย่างแสดงความจริงใจออกมา

“ท่านผู้เยี่ยมยุทธ์ สำหรับสิ่งที่ท่านทำกับหลงหวางเอ๋อของเราไป ข้าคงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความจริงไหม? ขอพูดตามตรง ข้าแค่มีเรื่องบางอย่างอยากคุยกับท่าน………….”

เมื่อได้ยินดังนั้น ‘เย่เฟิง’จ้องมองการกระทำของชายคนนั้นทันที ร่างของชายชุดม่วงพลันกระโดดเข้ามาหา’เย่เฟิง’

“จะทดสอบงั้นรึ?”

‘เย่เฟิง’มองอย่างสนใจ   ตระกูลหลงนั้นมากด้วยผู้มีความเชี่ยวชาญด้านกระบี่ มีข่าวลือว่าเพลงกระบี่เพ้อฝันคือเพลงกระบี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตระกูลหลง ถึงอย่างนั้น ‘หลงจื่อ’ไม่ได้ชักกระบี่ออกมา

ชายชุดม่วงเพียงแค่ใช้ทักษะมังกรฟาดหางซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ต้องการเอาชีวิต’เย่เฟิง’

รูปแบบป้องกัน!   เมื่อเห็นดังนั้น ‘เย่เฟิง’พลันยกมือขึ้นมาและปลดปล่อยเจินชี่จากร่างเพื่อเตรียมใช้รูปแบบเมฆาของทักษะกรงเล็บมังกร   ‘หลงจื่อ’ไม่คาดคิดเลยว่า’เย่เฟิง’จะสามารถปลดปล่อยพลังชี่ภายในออกมาจากร่างได้

และเมื่อ’เย่เฟิง’สามารถจับข้อเท้าของเขาเพื่อรับการโจมตีไว้ได้ สีหน้าของ’หลงจื่อ’พลันเปลี่ยนไปทันที!

……………………

แปลโดยทีมงาน GSI

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments