I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 70 – หึงหวง!!!

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ณ.นภายามราตรี จันทราฉายแสงบนท้องฟ้าที่แสนไกล มีชายหนุ่ม และ หญิงสาว คู่หนึ่ง

อยู่บนทางเดินที่เต็มไปด้วยความมืดที่เงียบสงัด ‘ชูเฟิง’และ’ซูเหม่ย’เดินหนุนไหล่กันไปตามหนทาง โดยยืมแสงของดวงจันทร์ในยามราตรี ‘ชูเฟิง’หันหน้ามาสบตากับ’ซูเหม่ย’เป็นครั้งคราว ต่างคนต่างแอบมองกันและกัน ‘ชูเฟิง’ได้แต่ใจเต้นรัวและถอนหายใจ ในความงามของแม่นางคนนี้

คิ้วที่บางเข้มดูเข้ากับตาดวงโตของนาง จมูกที่โค้งช่างทำให้นางดูงดงาม ริมฝีปากชมพูอ่อนๆช่างสมบูรณ์แบบเหมาะกับใบน่าที่เรียวยาว มองลงมาที่หน้าอกที่กำลังได้ขนาดพอดีกับร่างกาย ซอกคอจนถึงไหปลาร้า แขน ขา ทุกสัดส่วนช่างขาวเหมือนดั่งหิมะในฤดูหนาว ทำให้จิตใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เหมือนกับได้พบกับเทพธิดาลงมาจากสวรรค์

ขณะที่เขาถูกดึงเข้าสู่ห้วงแห่งความหลงไหล ‘ชูเฟิง’ ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป เขายกแขนกว้างออกไป จากนั้นก็เอามือที่ลามกไปกอดกับก้นของนาง ทันใดนั้น มีเสียงร้องแห่งความเจ็บปวดดังออกมาอีกครั้ง

” อ๊า ~ ~ ~ ~ “

” ให้ตายสิแม่นางน้อย ข้าแค่กอดเจ้าเฉยๆ ไม่เห็นต้องกัดข้า . . . . . .”

‘ชูเฟิง’มองแขนที่เต็มไปด้วยรอยฟันของนาง มันทำให้เขารู้สึกเจ็บอย่างมาก

“โชคดีนะที่ข้า มีผิวหนังหนาและหยาบ เอ็นและกระดูกของข้าแข็งดั่งเหล็ก ไม่งั้นเนื้อของข้าคงหลุดไปแล้ว เจ้านี่ช่างดุร้ายจริงๆที่ทำกับข้าเยี่ยงนี้”

” ใครใช้ให้เจ้ามาทำอะไรบ้าๆแบบนี้ล่ะ ซูเหม่ยถลึงตาใส่ชูเฟิงพร้อมกับบ่น ข้าได้ยินมาว่าเจ้าอยู่ในหอคอยฝึกตนได้นานถึง 4 ชั่วยาม เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ? “

” ใช่ . . . . . . มันทำไมงั้นหรอ ? “

” เจ้านี่มันปีศาจชัดๆ เจ้าไม่รู้หรอว่า แม้แต่ศิษย์หลักยังอยู่ในหอคอยได้แค่ 3 ชั่วยามเท่านั้น ตอนนี้เจ้ากลายสัตว์ประหลาดของตำหนักฝ่ายในไปแล้ว “

” งั้นก็แปลว่า ศิษย์หลักพวกนั้นเป็นแค่ขยะ ? “

‘ชูเฟิง’ไม่พูดเป็นการโอ้โอดแต่อย่างใด เนื่องจากเค้าเข้าใจ ขั้นที่หนึ่ง ของทักษะ ท่องนภาได้ในเวลาสั้นๆเขาจึงออกมา หากเค้าจะอยู่ในหอคอยเพิ่มอีกสัก 1-2 ชั่วยามก็ไม่เป็นปัญหา

” พวกเขาไม่ใช่ขยะหรอก แต่เจ้ามันปีศาจต่างหาก “

‘ซูเหม่ย’ขดริมฝีปากพูด พร้อมมองหน้า’ชูเฟิง’ขณะที่หัวเราะคิกคัก

” ตอนนี้ เจ้ากำลังจะได้ไปพบสมาชิกทั้งหมดของพันธมิตรปีกฯ เจ้าตื่นเต้นไม๊ ? “

” ทำไมข้าต้องตื่นเต้น “

‘ชูเฟิง’ ปฏิเสธที่จะตอบรับ

เขาคิดเสมอว่า ‘ซูเหม่ย’ คอยให้สิ่งดีๆกับเขา ขณะที่เดินไปสถานที่นัดประชุมของพันธมิตรปีกฯ สำหรับเรื่องที่จะพูดกันก็คือ เรื่องการสอบ เป็นศิษย์หลักในวันพรุ่งนี้

หากรวม’ชูเฟิง’ และสมาชิกเข้าไปด้วย ก็เป็น 33 คน แต่ในการสอบศิษย์หลักในปีนี้ จะต้องมีอย่างน้อย 12 คน พวกเขาต้องหารือสมาชิกที่เป็นตัวแทนในการเข้าสอบ ทั้ง 12 คน

นั้นหมายความว่า พันธมิตรปีกฯที่อยู่ฝ่ายในจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่เพียงแต่ต้องเลือกผู้นำคนใหม่ของพันธมิตร พวกเขายังต้องวางแผนสำหรับเรื่องสอบ

สำหรับการสอบศิษย์หลัก พันธมิตรปีกฯรอคอยวันนี้มาเป็นเวลานาน อีกทั้งยังมีพันธมิตรดาบทมิฬและพันธมิตรโลกที่ตั้งตารอ การสอบนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านๆมา อาจจะเกิดการต่อสู้ระหว่าง พันธมิตรมหาอำนาจทั้ง 3

” ข้ารู้อยู่แล้วว่ายังไงเราก็ต้องเผชิญหน้า จะคิดมากเรื่องนี้ไปทำไม “

‘ซูเหม่ย’พูดพร้อมกับยิ้ม

‘ซูเหม่ย’และ’ชูเฟิง’ มาถึงตำหนักของพันธมิตรปีกฯ มันเป็นสถานที่รวมตัวของผู้ที่ตำแหน่งในพันธมิตรปีกฯ เขาทั้งสองกำลังจะก้าวเข้าไปพบกับสมาชิกทั้งหมดของพันธมิตรปีกที่อยู่ในตำหนัก

ขณะที่’ชูเฟิง’เข้ามาในตำหนัก มีสายตานับไม่ถ้วนจ้องมาที่’ชูเฟิง’ เมื่อ’ชูเฟิง’หันขึ้นไปมองดูพวกเขา เขารู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลกๆ บางคนกำลังดูถูกและนินทาเขา บรรยากาศประมาณในสภา เป็นที่นั่งแบบไล่ระดับจากต่ำไประดับสูง

นี้เป็นครั้งแรกที่ ชูเฟิง รู้สึกถึงออร่าที่แข็งแกร่งของคนเหล่านั้น สมแล้ว ที่พันธมิตรปีกฯ ถูกเรียกว่า พันธมิตรของเหล่าอัจฉริยะ ตอนนั้นสองพี่น้อง หลง – หู่ นั่งอยู่ด้านล่างภายในตำหนักพันธมิตรปีกฯ

ภายในกลุ่มคนทั้ง 31 คน ชูเฟิงได้พบกับคนที่คุ้นเคย ได้แก่ ‘ไป๋ ตง’ ‘ไป๋ หลง’ ‘ไป๋ หู่’ ‘เย้ เถาจือ’ ‘จาง ถิงจือ’ และคนอื่นๆที่ไปสุสาน ‘ชูเฟิง’รู้จักกับคนเหล่านั้นเป็นอย่างดี

” เจ้าคือ ชูเฟิง ใช่ไม๊ ? ข้าเป็นอาวุโสของพันธมิตรปีกฯชื่อ  ซือ ตูยู “

ชายหนุ่มหน้าตาดีเดินเข้ามาหา’ชูเฟิง’ เขาเป็นผู้นำของสมาชิกพันธมิตรปีกฯ

อายุ ‘ซิ่อ ตูยู’ ใกล้เคียงกับ ‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ แม้ว่าการฝึกพลังวิญญาณของพวกเขาจะอยู่ในระดับ 9 ห้วงวิญญาณ เท่ากัน แต่ออร่าของ ‘ซื่อ ตูยู’ หนาแน่นกว่า’เจี้ยนเฟิงอวี้’ ยังไงก็ตาม แม้ว่าภายนอกเขาจะ ดูเป็น สุภาพชน แต่ ‘ชูเฟิง’ รู้สึกว่าเขาไม่เหมือนกับที่ตาเห็น

” เอ้!!! ศิษย์พี่ข้าพูดกับเจ้าอยู่ เจ้าหูหนวกงั้นหรอ “

‘ชูเฟิง’ทำตาล่องลอยอย่างไร้จุดหมาย จากนั้นก็หันไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังของ ‘ซือ ตูยู’

อายุของชายหนุ่มคนนั้นไล่เลี่ยกับ’ชูเฟิง’ . . . หากเขามีเวลาอีก 2 ปี การเข้าถึงระดับ 8 ห้วงวิญญาณก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่ด้วยอายุแค่นี้

แต่ทัศนคติของเขาที่มีต่อ’ชูเฟิง’ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เขาชี้นิ้วไปที่หน้าของ’ชูเฟิง’พร้อมตะโกนในขณะที่จ้องตาของเค้า ดูเหมือนว่าเขาต้องการเอาชนะ ‘ชูเฟิง’ ให้ได้

“ศิษย์น้อง หลบไป “

‘ซื่อ ตูยู’ เห็นว่าท่าทางหนุ่มคนนั้นไม่ค่อยดีเขาจึงดึงกลับมา หลังจากนั้นเขาก็กล่าวขอโทษ’ชูเฟิง’

” นี่น้องชายของข้า ขอโทษที่เขาทำตัวเสียมารยาทกับท่าน ถึงแม้ว่าอารมณ์เขาจะร้อนไปบ้าง แต่ในใจเขาไม่ได้คิดร้ายอะไรต่อท่านหรอก หวังว่าท่านจะให้อภัย “

” ไม่ต้องกังวล ข้า ชูเฟิง มักจะไม่ถือสาคนพาล “

ชูเฟิง สบัดแขนโดยไม่แยแส

” เจ้า . . . . . . “

ชายหนุ่มคนนั้นกัดฟันแน่น จากการกระทำของ ‘ชูเฟิง’ ที่เต็มไปด้วยการดูถูก ความโกรธถูกปล่อยออกมาจากลมหายใจ แต่ก่อนที่เข้าจะพุ่งเข้าใส่’ชูเฟิง’ เขาก็ถูก ‘ซื่อ ตูยู’ ขวางไว้

หลังจากนั้น ‘ซื่อ ตูยู’ ก็แนะนำสมาชิกทั้งหมดของพันธมิตรปีกฯ ให้กับ ‘ชูเฟิง’ แม้ว่าภายนอกเขาจะดูค่อนข้างที่จะสุภาพ แต่’ชูเฟิง’รู้สึกไม่ชอบขี้หน้าเขาเอาซะเลย

คนส่วนมากที่ไม่ชอบ ‘ชูเฟิง’ ส่วนใหญ่จะเป็น ชายหนุ่ม สำหรับเหตุผลว่าทำไม ก็เดาได้ไม่ยาก ต้องเป็นเพราะ ‘ชูเฟิง’นั้นสนิทสนมกับ’ซูเหม่ย’ ทุกสายตาของชายหนุ่มต่างจ้องอาฆาตมาดร้ายมาที่’ชูเฟิง’ พวกเขานั้นไม่อยากจะยอมรับ

นอกจากสมาชิกชาย สมาชิกหญิงนั้นค่อนข้างจะเป็นมิตรกับ ‘ชูเฟิง’ ยังไงก็ตาม ‘ชูเฟิง’ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรพวกเขาถึงดูเป็นมิตร อาจเป็นเพราะ ‘ชูเฟิง’มีชื่อเสียงอย่างมากในฝ่ายใน ผู้หญิงทั้งหมดต่างปลื้มผู้ชายที่เก่งและแข็งแกร่ง ในอนาคต’ชูเฟิง’อาจจะได้เป็นคนที่ยิ่งใหญ่

” เนื่องจากสมาชิกของเราทั้งหมดได้มารวมกันที่นี่ครบแล้ว ทุกคนเชิญนั่ง “

หลังจากที่สนทนาซุบซิบๆ ‘ซื่อ ตูยู’ ก็พูดอย่างจริงจัง

ในเวลานั้น สมาชิกทั้งหมดของพันธมิตรปีกฯมากันครบเนื่องจากการหยุดทำภารกิจ ขณะนั้น ‘ชูเฟิง’ก็พบกับปัญหา ในจำนวนเก้าอี้มี 33 ที่นั่ง แต่คนกลับมีคนนั่งไปแล้ว 31 ที่ ว่างอีกเพียง 2 ที่

เป็นที่นั่งด้านบนใกล้ๆกับ ‘ซื่อ ตูยู’ ตอนนั้น ‘ซูเหม่ย’ถูกดึงโดยน้องของ’ซือ ตูยู’ ให้นั่งข้างๆเขาเพื่อเลี่ยงจาก’ชูเฟิง’

ที่สุดท้ายที่เหลือ มีเพียงที่เดียว มันไม่ได้สำคัญอะไรมากกับชูเฟิง กับอีแค่ที่นั่งไม่ใช่ท้องพระโลงของฮ่องเต้สักหน่อย

‘ชูเฟิง’ พบว่าตำแหน่งของที่นั่งนั้น สำหรับพวกเค้าแล้วมีความหมาย คนที่นั่งอยู่ด้านบนจะเป็นคนที่แข็งแกร่ง คนที่นั่งล่างจะเป็นคนที่แข็งแกร่งน้อยกว่า อย่างเช่น สองพี่น้อง หลง – หู่ ซึ่งแปลว่าสำหรับพันธมิตรปีกฯ เขาทั้งสองเป็นคนไร้ประโยชน์ฺ

” ชูเฟิง มานั่งตรงนี้สิ “

ในตอนนั้น หญิงสาวที่นั่งเกือบชั้นล่างชวนเขา

ผู้หญิงคนนั้นน่าตาสะสวย ใบห้าสีขาวเนียน ดวงตาดั่งนางจิ้งจอก ผมยาวของเธอปกคุลมลงมาตามไหล่ของนางนับได้ว่านางเป็นหญิงงามคนหนึ่งทีเดียว ยิ่งขนาดหน้าอกของนางยิ่งน่าประทับใจ เสื้อคลุมสีม่วงบางๆที่ปกคลุมหน้าอกของนางปูดออกมา เหมือนกับจะทะลักใส่หน้าชูเฟิง

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความงามของนางในแบบสาวใหญ่ ปัจจุบันนางขยิบตาให้ ชูเฟิง เห็นได้ชัดว่านางพยายามยั่วยวน

พูดถึง ‘ชูเฟิง’ ที่เป็นผู้ชายแล้ว แม้ว่าเขาจะซื่อสัตย์ก็ตาม แต่ไม่ได้แปลว่าเขาจะต้องปฏิเสธการยั่วยวนของนาง ดังนั้น เขาจึงไม่ได้คิดมากในเรื่องนี้ ‘ชูเฟิง’ยิ้มเบาๆแล้วเดินเข้าไปนั่ง

” ชูเฟิง ข้าได้ยินว่าเจ้านั้นช่างแข็งแกร่ง และรุนแรง ก่อนหน้านี้ก็เคยไป ทำลายพันธมิตรหลิว นี้ ชูเฟิง”

ลองจินตนาการ เสียงยั่วของผู้หญิง หลังจากที่’ชูเฟิง’นั่ง สาวงามคนนั้นคว้าแขนของ’ชูเฟิง’โดยเอาสองเต้าแนบไว้ติดๆ ‘ชูเฟิง’รู้สึกได้ถึงความนุ่มของมันดวงตา’ชูเฟิง’จดจ่องมันอย่างใจจดใจจ่อ หากไร้คนแล้วมีหรือเขาจะไม่อยากสัมผัส

” โอ้วว . . พระถังข้าจะตามท่านไปชมพูทวีป “

นั้นคือ เสียงหัวใจของ’ชูเฟิง’ในปัจจุบัน เขาถูกกดดันโดยความนุ่มนวลของหน้าอกขนาดใหญ่ ความรู้สึกของเขานั้น ผ่อนคลายอย่างมาก ความสบายทำให้’ชูเฟิง’ เคลิบเคลิ้ม มันใหญ่จริงโว้ยย!!! บ่ไหวแล้ว!!! เห็นได้ชัดว่าน่าอก’ซูเหม่ย’นั้นเทียบไม่ติด แต่เรื่องความงามนางอาจสู้ ‘ซูเหม่ย’ไม่ได้

” ออกไป “

ในตอนนั้น เสียงตวาดก็ดังขึ้นข้างๆเขา

เมื่อ’ชูเฟิง’เงยหน้าขึ้นมอง ผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ แม้แต่ทุกคนในตำหนักก็ยังต้องตะลึง

พวกเขาเห็น’ซูเหม่ย’ยืนเอามือเท้าเอวบางๆของนางไว้ และมืออีกข้างก็ชี้ไปที่น่าอกขนาดใหญ่ ที่อยู่ใกล้ๆกับ’ชูเฟิง’ ปากเล็กๆของนางเผยอขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วจ้องมองสาวใหญ่ ใบหน้าของซูเหม่ยเต็มไปด้วยความหึงหวง
โปรดติดตามตอนต่อไป. . . . . . . .

ที่มา:<a href=”http://readmga.blogspot.com/2016/04/70.html”>http://readmga.blogspot.com/2016/04/70.html</a>

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments