ถึงแม้ที่ตั้งของ ราชวงค์ เจียง จะอยู่ในเขตของดินแดนทั้ง 9
 
แต่เค้าจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องภายใน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาพลังวิญญาณหรือการฝึกทักษะใดๆ พวกเค้าต่างถูกยกย่องให้เป็นประมุขของ 9 เขต
 
ดังนั้น ทุกๆปี ทั้ง 9 เขต จะส่งผู้นำของแต่ละเขตมามอบเครื่องบรรณาการให้อยู่ทุกๆปี ราชวงค์เจียงมีอำนาจที่จะทำลายทุกตะกูลได้อย่างไม่ยากเย็น
 
ราชวงค์ เจียง อ้างตัวว่าเป็น เชื้อพระวงค์และไม่ใช่คนธรรมดาทั่วๆไป ทุกๆตะกูลต่างไม่มีโอกาสที่จะสร้างความสัมพันธ์กับตะกูลนี้ได้เลย
 
ยกตัวอย่างเช่น ในเขตมังกรฟ้า โดยเฉพาะโรงเรียนชั้นนำอย่างโรงเรียน หลิงหยุน ต่างพยายามแสดงความเคารพเพื่อเข้าหาพวกเขา
 
สำหรับเครื่องบรรณาการ ทุกๆโรงเรียนจะนำเครื่องบรรณาการมามอบให้กับโรงเรียนหลิงหยุน และโรงเรียนหลิงหยุนจะนำไปมอบให้กับ ราชวงค์อีกที
 
ดังนั้น ‘ชูเฟิง’ จึงคิดว่า ราชวงค์เจียงเหมือนกับเป็นตำนาน ที่เค้าไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย เค้าไม่เคยพบ คนจากราชวงค์ เจียงมาก่อนที่มาของยาแก่นแท้คล้ายๆกับยาแห่งจิตวิญญาณ
 
เช่นเดียวกับคนที่อยู่ในระดับ ห้วงวิญญาณแต่ถ้าหากใช้ยาจิตวิญญาณ การเพิ่มพลังวิญญาณของเค้าจะเทียบเท่ากับคนที่มีพลังระดับ แก่นแท้วิญญาณ
 
เมื่อเทียบกับยาระดับ กำเนิดวิญญาณแล้ว ยาแก่นแท้เป็นสิ่งที่มีค่ามากยิ่งกว่าและหาได้ยากยิ่ง ถ้าหากเค้าได้รับยาแก่นแท้มาเพียงเม็ดเดียว เค้าคงจะรวยมากอย่างแน่นอน
 
ดังนั้นของล้ำค่าเช่นนี้ มาอยู่ต่อหน้าเค้า เป็นธรรมดาที่ ชูเฟิง จะตื่นเต้น แต่เค้าก็มีบางอย่างที่ยังสงสัย ว่าสถานที่เค้าจะไปปล้น จะเป็นสถานที่แบบไหน ?
 

 
” ซูเหม่ย ในสุสานของผู้เชี่ยวชาญระดับ แก่นแท้ เราจะสามารถหาของเหล่านั้นได้ง่ายดาย โดยไม่มีอุปสรรคงั้นหรอ ? “
 
‘ชูเฟิง’รู้สึกกังวลนิดหน่อย
 

 
” เจ้าคิดว่าไง ? คิดจริงๆหรอว่าที่พวกเรามามีแค่พวกเราเท่านั้นที่รู้ข่าว เมื่อสุสานของผู้เชียวชาญระดับ แก่นแท้ ถูกพบ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นที่ดึงดูดของคนจำนวนมาก คนมีฝีมือต่างๆมากมายต่างมาเพื่อค้นหาสมบัติเหล่านั้น “
 
 
” สำหรับพวกเรามันเป็นการท้าทาย เราจะเอาของที่เหลือจากการปล้นสุสาน อย่าได้คิดแม้แต่จะได้ยาแก่นแท้ แม้แต่ของอื่นๆกระทั้งลูกแก้ววิญญาณก็ยังแทบไม่เหลือ แต่การท้าทายนี้ก็นับว่าคุ้มหากเราได้อะไรติดไม้ติดมือ “
 
‘ซูเหม่ย’อธิบาย
 

 
” ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วเรามาปล้นสุสานทำไม “
 
‘ชูเฟิง’ถามต่อ
 

 
” ข้าได้ยินว่า มันตั้งอยู่กลางทะเลทรายแห้งแล้ง สำหรับที่ตั้งสุสาน ไม่มีใครรู้ แต่แหล่งที่มาของเรา เค้าจะประกาศเมื่อเราไปถึงเมืองโบราณ “
 
 
” แน่นอน ที่เรียกว่าประกาศนั้นไม่ได้มาฟรีๆ จะมีคนขายแผนที่บอกสถานที่ตั้งของสุสาน มันมีราคาแผ่นละ 80 หญ้าวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ “
 
 
” พวกเรามีกัน 8 คนเราจะให้ทุกคนแชร์กันออกจำนวน คนละ 10 ถึงจะได้แผนที่มา “
 
‘ชูเหม่ย’ยังคงอธิบาย
 

 
” มันแพงขนาดนั้นเลยหรอ ข้าไม่มีหรอก !!! “
 
‘ชูเฟิง’ตอบ
 

 
”  ที่ได้จากการล่ายาครั้งนั้น เจ้าใช้มันหมดแล้วหรอ!!!”
 
‘ซูเหม่ย’ตกใจ
 

 
” ข้าใช้มันหมดแล้ว!!! “
 
‘ชูเฟิง’ตอบอย่างรวดเร็ว
 

 
” เจ้าใช้มันทำบ้าอะไรหนักหนา ? เจ้าใช้มันเพิ่มพลังใช่หรือป่าว ?”
 
‘ซูเหม่ย’ถาม’ชูเฟิง’
 

 
” นั่นมันก็ . . . . . . . . “
 
‘ชูเฟิง’อ้ำๆอึ้งๆอยู่นิดหน่อย เค้าไม่กล้าบอก’ซูเหม่ย’ว่า เค้าไม่ได้ใช้ฝึกทักษะลับใดๆ
 
แต่เป็นเพราะ สายฟ้าศักดิ์สิทธ์ เก้าสีในร่างของเค้า จึงจำเป็นต้องใช้หญ้าวิญญาณฯจำนวนมากในการปรับแต่งพลังวิญญาณ
 
แต่เค้าไม่ได้ใช้มันอย่างสูญป่าว เค้าสามารถซึมซับพลังจากมันไว้ได้ถึง 100 %
 

 
” ช่างมันเถอะ ข้าจะช่วยเจ้าก่อนก็ได้ แต่อย่าลืมว่าเจ้าต้องคืนให้กับข้านะ “
 
เมื่อเห็นนางพูดเช่นนั้น ‘ชูเฟิง’ เหมือนจะร้องไห้เนื่องจากความยากจน ‘ซูเหม่ย’กัดริมฝีปากอย่างช่วยไม่ได้
 

 
” แหะๆ ขอบใจเจ้ามาก “
 
‘ชูเฟิง’ยิ้มและกล่าว นั้นมันใช่สุสานของผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ หรือป่าว? เค้าชี้ไปด้านหน้า
 
กลุ่มของพวกเค้าเดินทางมาสักพัก ก่อนเที่ยง พวกเค้าก็เดินทางมาถึงเมืองโบราณอย่างรวดเร็ว
 
เมืองโบราณแห่งนี้ มีอายุนับพันปีมีตำนานต่างๆมากมาย
 
สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ทำมาจากอิฐ อิฐแต่ละก้อนมีอักขระเขียนไว้
 

 
” เมืองโบราณ ได้รับความเสียหาย และ ทรุดตัวลงเมื่อเวลาไม่นานมานี้ ? เคยมีคนจำนวนมากอาศัยอยู่ที่แห่งนี้ “
 
มองดูในเมืองที่ได้รับความเสียหายขนาดนี้ ควันลอยฟุ้งอยู่ในอากาศจากซากเมือง ‘ชูเฟิง’ รู้ว่าตอนนี้คนได้ย้ายออกไปกันหมดแล้ว
 
แต่ที่เค้าไม่เข้าใจว่าทำไมคนมากมายถึงยอมอาศัยอยู่ที่เมืองโบราณแห่งนี้
 
สิ่งก่อสร้างเก่าๆที่พร้อมจะพังทำไมเค้าถึงยอมอยู่ล่ะ มันอันตรายไม่ใช่หรอ
 

 
” เจ้ารู้อะไรไม๊ ? อิฐที่วางลงไปแต่ละก้อนที่เมืองโบราณถูกสร้างด้วยคนที่มีพลังการเชื่อมต่อกับ โลกวิญญาณ “
 
 
” ไม่เพียงแต่มันทนทาน ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญของดินแดนนี้โจมตีด้วยพลังทั้งหมด พวกเค้าก็ไม่สามารถให้ให้เกิดความเสียหายใดๆกับอิฐแม้แต่เพียงก้อนเดียว”
 
 
” ก็อะไรทำนองนั้นและ “
 
‘ชูเฟิง’ตกใจที่’ซูเหม่ย’พูดในตอนแรก เค้าจึงถามว่า
 

 
” ใครคือผู้ใช้การเชื่อมต่อกับ โลกวิญญาณ ? แล้วการเชื่อมต่อโลกวิญญาณคืออะไร ? “
 
คำพูดเหล่านั้น ไม่เพียงแต่ ‘ซูเหม่ย’ที่มองเค้าด้วยความประหลาดใจ แม้แต่คนอื่นๆก็ยังประหลาดใจ
 

 
” บ้านนอก!!! “
 
‘เจีย หยุนเฟิง’ กล่าว
 

 
” นี้ ชูเฟิง การเชื่อมต่อโลกวิญญาณนั้นเป็นบุคคลพิเศษ และมีเกียรติ คนที่มีพลังวิญญาณแบบเราไม่มีวันได้สัมผัสมันหรอก “
 
‘ไป๋ ตง’ ยิ้มพร้อมกับอธิบาย
 

 
” การเชื่อมต่อโลกวิญญาณ ก็คือคนที่มี อำนาจพลังวิญญาณ การพัฒนาพลังวิญญาณไม่่มีที่สิ้นสุด การโจมตีของเค้าทั้งรุนแรง การป้องกันก็แสนจะมั่นคง “
 
 
” คนที่เชื่อมต่อกับโลกวิญญาณได้เค้าเป็นคนมีความสามารถอย่างมาก ทุกคนที่ทำได้สามารถเรียกได้ว่าเป็น อัจฉริยะและมีจำนวนเพียงน้อยนิด นอกจากมีอำนาจพลังวิญญาณพวกเค้าจะพัฒนาพลังวิญญาณได้รวดเร็วและพวกเค้ายังมีพลังวิญญาณพิเศษที่สามารถสร้างรูปแบบพลังวิญญาณให้เป็นรูปร่างจนเรียกได้ว่าพวกเค้าเป็นบุคคลไร้เทียมทานในดินแดนแห่งนี้ “
 
 
” คนที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกวิญญาณได้ จะกลายเป็นเป้าหมายของตะกูลต่างๆที่อยากจะได้พลังของพวกเค้า “
 
 
” โรงเรียนที่มีคนสามารถใช้การเชื่อมต่อโลกวิญญาณความแข็งแกร่งโรงเรียนของพวกเค้าก็เพิ่มมากขึ้น สำหรับโรงเรียนมังกรฟ้าของเราต้องใช้ของมีค่าจำนวนมากในการ ขอผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณให้มาอยู่กับเรา “
 
 
” โห ช่างน่าประทับใจเป็นอย่างมาก แล้วทำไมท่านถึงบอกว่า ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถสัมผัสได้ล่ะ”
 
‘ชูเฟิง’ซอกแซกถาม
 

 
” ฮ่า ฮ่า ทุกคนสามารถฝึกฝนให้เก่งได้ แต่การจะเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณนั้นจำเป็นต้องมีอำนาจพลังวิญญาณ “
 
 
” และคนที่มีอำนาจพลังวิญญาณนั้นหาได้ยาก ดังนั้นข้าถึงบอกว่า คนธรรมดาถึงไม่สามารถสัมผัสมันได้ นั้นแหละที่เป็นเหตุผลว่าผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณนั้นสุดยอด “
 
‘ไป๋ ตง’ยังคงอธิบาย
 

 
” ต้องมีอำนาจพลังวิญญาณใช่ไม๊ ?”
 
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ‘ชูเฟิง’ไม่สามารถหยุดตื่นเต้น
 
เค้าใช้สายตาจ้องไปที่ ‘ซูเหม่ย’ เขารู้แล้วว่าทำไม’ซูเหม่ย’ถึงอยากจะได้ตัวเค้า
 

 
” เจ้ามองอะไรหรอ ? เด๋วจิ้มตาแตก ถึงแม้ว่าเจ้าจะมีอำนาจพลังวิญญาณ แต่ไม่มีใครสอนเจ้าใช้ การเชื่อมต่อโลกวิญญาณได้หรอก  ดังนั้นเจ้าอย่าหวังเลย “
 
เธอรู้ว่า’ชูเฟิง’จะพูดอะไร ‘ซูเหม่ย’เลยชิงพูดไปก่อน
 

 
” เมื่อกี้ไป๋ ตง บอกว่าโรงเรียนมังกรฟ้าของเรามี ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณไม่ใช่หรอ ? “
 
‘ชูเฟิง’หัวเราะและพูด
 

 
” เจ้าหมายถึงท่าน จูเกอ หลิวหยุน ? อย่าได้แม้แต่จะคิด ตาแก่นั้นเป็นคนแปลกๆ และเค้าก็ไม่เคยรับลูกศิษย์ “
 
 
” ในโรงเรียนมังกรฟ้า เรามีศิษย์หลักที่มีอำนาจพลังวิญญาณ เค้าต้องการอยากจะเป็นศิษย์ของ จูเกอ เพื่อให้เค้าสอนการเชื่อมต่อโลกวิญญาณและเทคนิคต่างๆแต่หลังจากที่เค้าเข้าไปฝากตัวกับถูกใช้ให้ทำงานเยี่ยงทาสตลอดหนึ่งปี เขายังไม่ได้เรียนอะไรเลยด้วยซ้ำจนถึงทุกวันนี้ “
 
‘ซูเหม่ย’พูดพร้อมท่าทางจริงจัง
 

 
” ถูกต้อง มันเหมือนกับที่ ซูเหม่ยพูดมานั้นและ เหตุผลที่ ผู้ใช้การเชื่อมต่อโลกวิญญาณจะเป็นคนชั้นสูง และยังหาได้ยากอีก “
 
 
” ถ้าหากคนที่ใช้การเชื่อมต่อโลกวิญญาณสอนทักษะของพวกเขา ก็เหมือนกับว่าสอนให้อีกคนแข็งแกร่งขึ้นเพื่อเป็นศัตรูของเค้านั้นและ!!! “
 
‘ไป๋ ตง’ยังคงอธิบาย เขากล่าวกับ ‘ชูเฟิง’ ด้วยน้ำเสียงล้อเลียน  “
 

 
ข้าเห็นว่าเจ้าสนใจการเชื่อมต่อกับโลกวิญญาณ หรือว่าเจ้า มีอำนาจพลังวิญญาณ ? “
 
‘ชูเฟิง’ เอามือแตะหน้าอก และยกหัวขึ้นอย่างภาคภูมิใจและกล่าวว่า
 

 
” ข้ามีอำนาจพลังวิญญาณ!!! “
 
 
” อะไรนะ ? “
 
เมื่อทุกคนได้ยิน’ชูเฟิง’พูด นอกจากซูเหม่ย ทุกคนต่างตกใจ
 
แม้แต่’ไป๋ ตง’ ที่ดูสงบนิ่งอยู่ตลอด ก็ไม่สามารถอยู่เฉยได้
 
 
 
โปรดติดตามตอนต่อไป. . . . .
 
ที่มา: