ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 287 หัวใส
ผู้คนรอบๆต่างตื่นตระหนกจากเหตุการณ์ที่ชายผิวขาวซึ่งสวมสูทขาวถูกกระถางต้นไม้ปาใส่โดยฝีมือเย่เฟิง
ชายคนนี้เป็นนักฆ่าหรอกหรือ?
เป็นไปได้อย่างไร!
จากคำพูดของเย่เฟิง ผู้คนรอบๆต่างมีข้อสงสัยเช่นเดียวกันหมด เนื่องจากวินเซนต์ชาวต่างชาติคนนี้ได้พูดคุยโต้ตอบเกี่ยวเพชรจักรพรรดิได้อย่างไหลลื่น เขาไม่มีท่าทางของนักฆ่าเลยสักนิดเดียว แล้วใครกันที่เขาจะมาสังหารในที่นี้?
“เย่เฟิงก่อปัญหาอีกแล้วหรือ?”
หลินจื่อฉิงรู้สึกอึดอัดใจ เขาพยายามหลอกล่อชาวต่างชาตินี้เพื่อให้ซื้อเพชรจักรพรรดิในราคาสามสิบล้าน ใครจะรู้ว่าเย่เฟิงจะชิงตัดหน้าปากระถางต้นไม้ใส่หน้าวินเซนต์และยังบอกว่าเขาเป็นนักฆ่า!
ข่าวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วที่ว่าหลินชื่อฉิงและหลิวอิ๋งอิ๋งตัวแทนของหลิวกรุ๊ปได้รวมมือกันอย่างง่ายดายทำให้สาขาบริษัทเครื่องประดับของหลิวกรุ๊ปได้เข้าร่วมในครั้งนี้ เนื่องจากสาเหตุนี้เองทำให้หลินจื่อฉิงเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อมันเป็นเช่นนี้เขาก็สามารถที่จะรับผลประโยชน์ได้อย่างมากมาย
ดังนั้นเขาจึงปรากฏตัวขึ้นและหลอกล่อวินเซนต์เพราะคิดจะช่วยเหลือหลินชื่อฉิงให้งานแสดงสินค้าครั้งนี้ดูดียิ่งขึ้น แต่ใครจะรู้ว่ามันกลับถูกขัดขวางโดยเย่เฟิง
“หลีกไปซะ”
เย่เฟิงเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา
หลินจื่อฉิงกลืนน้ำลายลงในทันที
เขาเพิ่งจะตรวจสอบความเก่งกาจของเย่เฟิงที่ตระกูลหลินและค้นพบว่าเย่เฟิงแข็งแกร่งเหนือเกินกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้ เรื่องของแทบทะเลจีนตะวันออกยังคงเป็นความลับอยู่ซึ่งหลินจื่อฉิงไม่อาจที่จะตรวจสอบได้ แต่เรื่องเกี่ยวกับไซ่เชาหงเขาได้ตรวจสอบมาอย่างละเอียดแล้ว
เมื่อคิดว่าเย่เฟิงสามารถสังหารผู้คนด้วยวิธีการที่แปลกประหลาดก็ทำให้หลินจื่อฉิงเข้าใจอย่างชัดเจนถึงเรื่องที่น้องสาวของเขาเชิญชวนเย่เฟิงมาเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยของงานแสดงสินค้านี้ว่ามันไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผล แต่มันมีเหตุผลมากมายที่จะไม่เชิญหน่วยรักษาความปลอดภัยบริษัทอื่น
เวลานี้เพียงแค่เย่เฟิงเหลือบมองมาอย่างเย็นชา หลินจื่อฉิงก็กลืนน้ำลายผงะถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว
“ช่างอนาถนัก”
เย่เฟิงก้มลงมองไปยังเท้าที่เหยียบอยู่บนหน้าอกของชายผิวขาว หรี่ตามองดูอีกฝ่ายที่น้ำลายฟูมปาก ชายคนนี้ถูกกระถางต้นไม้กระแทกจนหมดสติไป แต่กระถางต้นไม้ก็แตกกระจายเช่นเดียวกัน เศษกระเบื้องของกระถางกลาดเกลื่อนไปทั่ว
“พวกตัวเขาไป”
เมื่อสิ้นคำพูดของเย่เฟิง ลูกน้องสองคนของหน้าบากก็วิ่งออกไปหาชายผิวขาวที่นอนอยู่บนพื้น
“ต้องขออภัยด้วย สหายชาวต่างชาติผู้นี้ซุกซ่อนระเบิดเอาไว้ พวกเราจึงสงสัยว่าเขาอาจจะเป็นนักฆ่า”
เย่เฟิงยื่นมือไปยังแขนเสื้อของชายผิวขาวและดึงเอาระเบิดแบนเรียบที่ละเอียดซับซ้อนขึ้นมา แน่นอนว่ามันคือระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็ก ช่างน่าอนาถชายผิวขาวหมดสติน้ำลายฟูมปากจากกระถางต้นไม้ที่เย่เฟิงปาใส่
เมื่อเห็นระเบิดที่ละเอียดซับซ้อนที่เย่เฟิงนำออกมา ผู้คนโดยรอบก็ตื่นตระหนกกรีดร้องจนกลายเป็นเหตุการณ์วุ่นวายในทันที
ที่แห่งนี้ต่างเต็มไปด้วยผู้มีอำนาจอิทธิพลและข้าราชการมากมาย มันจะเป็นไปไม่ได้เลยหรือที่พวกเขาจะไม่รู้ว่าสิ่งใดที่เย่เฟิงหยิบออกมา?
ชาวต่างชาติคนนี้แท้จริงเป็นนักฆ่าแถมยังซุกซ่อนระเบิดติดตัวมาด้วย!
สีหน้าหลินจื่อฉิงเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เขาคิดไม่ออกเลยว่าเย่เฟิงค้นพบระเบิดภายในแขนเสื้อของชายคนนี้ได้อย่างไร? ช่างเหนือคำบรรยายจริงๆ มันดูเหมือนว่าตัวเลือกของหลินชื่อฉิงจะถูกต้องอย่างไร้ข้อสงสัย
ในความจริงจากที่หลิงเฉินคอยเฝ้าสังเกตการณ์ ชายผิวขาวคนนี้ได้แยกชิ้นส่วนระเบิดเป็นหลายและซุกซ่อนอยู่ภายในศูนย์การแสดงสินค้าแห่งนี้ หลังจากที่แอบประกอบมันอย่างลับๆ เขาก็เตรียมพร้อมเฝ้ารอโอกาสที่จะลงมือ
สาเหตุที่เขาไม่ได้ลงมือเสียทีเนื่องจากชายผิวขาวต้องการที่จะรอโอกาสที่ดีที่สุด ยามเมื่อมารวมตัวกันที่ศูนย์กลางนี้ เพื่อให้อานุภาพระเบิดอันรุนแรงพรากชีวิตของเหล่าผู้มีอำนาจภายในประเทศนี้
ช่างน่าเสียดายนักที่ชักช้าเกินไป หลิงเฉินผู้ซึ่งลอยอยู่บนท้องฟ้าก็พบเห็นมันเข้าแล้ว
ชิ้นส่วนระเบิดในตอนแรกหลิงเฉินและจ้าวอี้เปยไม่รู้จักมัน ถ้าไม่ใช่ว่าชายผิวขาวประกอบมันขึ้นในตอนนี้ พวกเขาก็คงจะไม่รู้แล้วว่าชิ้นส่วนพวกนั้นเป็นระเบิด ชายคนนี้ช่างหัวใสนัก แต่อย่างไรก็ตามคนธรรมดาที่ไหนกันจะพกเครื่องมืออิเลคโทรนิคที่แปลกประหลาดเช่นนี้ ซึ่งมันทำให้ดูน่าสงสัยอย่างยิ่ง
“สั่งการไปให้เพิ่มการระวังเป็นเท่าตัว”
เย่เฟิงที่จับตัวนักฆ่าได้แล้วไม่ได้ผ่อนคลายลงแต่อย่างใด ทำให้จ้าวอี้เปยและหลิงเฉินระวังมากขึ้น จากนั้นลูกน้องทั้งสองของหน้าบากก็มาพาร่างชายผิวขาวไปยังห้องสำนักงาน
สำหรับเหตุการณ์เบื้องหน้าที่สับสนวุ่นวายนี้ เย่เฟิงคร้านที่จะใส่ใจควบคุมมัน จึงมอบหน้าที่ให้หน้าบาก
“ออกไปรอข้างนอกก่อน”
เย่เฟิงบอกกล่าวให้ออกไปจากห้อง เหลือเพียงเขาและชายผิวขาวเท่านั้น เย่เฟิงต้องการที่จะล่วงข้อมูลอีกฝ่ายอย่างตรงประเด็น
ขณะนั้นหลงหวางเอ๋อและซูเหมิงหานก็รู้ว่าเย่เฟิงมีเรื่องที่ต้องกระทำ พวกเธอก็เข้าใจเป็นอย่างดีและไม่ได้ไปรบกวนเขา
วิชาเซียนสะกดใจ!
[คั่นหนังสือ : ขอเปลี่ยนจาก ‘ทักษะสะกดจิต’ เป็น ‘วิชาเซียนสะกดใจ’ ครับ]
งานแสดงสินค้าครั้งนี้เย่เฟิงได้ใช้วิชาเซียนสะกดใจไปหลายครั้งแล้ว แต่สถานการณ์นี้มันมีเวลาน้อยที่สุด
“แกชื่ออะไรและใครส่งแกมา?”
“ฉันชื่อเบนจามิน ไวเปอร์เป็นคนส่งมา”
ชายผิวขาวก็พลันพูดชื่อที่แท้จริงของเขา ทันใดนั้นตาคู่นั้นก็เปิดโพล่งขึ้นซึ่งค่อนข้างดูงุนงง จากนั้นเขาพลันกัดฟันคล้ายกับรู้ถึงสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้
วิชาเซียนสะกดใจมันสามารถใช้ได้เพียงกับคนธรรมดาเท่านั้น แต่ถ้าหากใช้กับผู้ฝึกเซียนหรือจอมยุทธและแม้กระทั่งเบนจามินที่เป็นนักฆ่ามือดีคนนี้ ผลของมันจะสั้นลง ซึ่งสิ่งที่ต้องการจะรู้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“แกคือเย่เฟิงหนิ!”
เมื่อเบนจามินเห็นหน้าเย่เฟิงอย่างชัดเจนก็ตกใจ ภายใต้สีหน้าที่หมองคล้ำคล้ายกับนักธุรกิจที่มีสีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
สำหรับผู้คนของเผ่ยเขิงกรุ๊ป เย่เฟิงคือใครนั้นมันไม่จำเป็นที่จะต้องอธิบาย ซึ่งเขาคือบุคคลที่ได้ทำลายแผนการของพวกเขาอย่างต่อเนื่องถึงสามครั้ง ทำให้พวกเขาขาดทุนย่อยยับภายในประเทศจีนครั้งแล้วครั้งเล่า สูญเสียเงินแทบจะเป็นหมื่นล้านยูเอสดอลลาร์
เพียงแค่เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์มันก็มีราคาหลายพันล้านแล้ว และไหนจะเรื่องที่ขาดทุนอย่างอื่นอีกมันมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งจะตำหนิเผ่ยเขิงกรุ๊ปไม่ได้เลยที่จะแค้นฝังลึกเช่นนี้
“ฉันบอกเลยว่าแกควรจะเชื่อฟังฉันแต่โดยดี ไม่เช่นนั้นแล้วล่ะก็ฉันไม่รับประกันว่าจะจัดการกับแกเช่นไร”
เย่เฟิงพูดข่มขู่อีกฝ่ายเล็กน้อย
“เฮอะ เย่เฟิง แกต้องตายอย่างอนาถ!”
เบนจามินคนนี้ยิ้มอย่างคนบ้าคลั่งเขาไม่ได้สนใจกับคำขู่ของเย่เฟิงอย่างสิ้นเชิง
“แกคิดว่าพวกของแกช่วยได้แกได้งั้นหรือ? ขอโทษด้วยนะ อีกไม่นานพวกของแกก็จะมีสภาพเช่นเดียวกับแก”
เย่เฟิงยกยิ้ม จากที่หลิงเฉินรายงานก็พบว่าเป็นมีกลุ่มนักฆ่าทั้งหมดสามคนรวมเบนจามินคนนี้ด้วย แต่คนที่กดระเบิดได้นั้นคือเบนจามินคนนี้
ดังนั้นเย่เฟิงจึงจัดการเบนจามินก่อนคนแรก และอย่างที่ได้บอกกล่าว อีกสองคนที่เหลือก็คงจะต้องถูกจัดการเช่นกันไม่ใชหรอกหรือ?
ขณะที่เย่เฟิงกำลังขบคิดอยู่ก็พบว่าหน้าบากและหนานฟางกำลังไล่ตามนักฆ่าอีกสองคนที่เหลือ ทั้งสองคนนี้ต้องการที่จะประกอบระเบิดของพวกเขา แต่น่าเสียดายอย่างยิ่งมันมีเบนจามินเป็นตัวอย่างแล้ว พวกเขาเพิ่งจะเริ่มที่จะประกอบระเบิดซึ่งแน่นอนว่าหลิงเฉินและจ้าวอี้เปยจะต้องพบเจอมัน
แทบจะปราศจากความลังเล พวกเขาทั้งสองก็หันหลังวิ่งหนีไปทันที บนร่างของพวกเขามีอุปกรณ์ที่ไม่ด้อยไปกว่าอุปกรณ์ของหน่วย NSA เลย!
แต่น่าเสียดาย หน้าบากและหนานฟางก็จัดการสองคนนี้ได้อย่างง่ายดาย
……………………………..
แปลโดย คั่นหนังสือ