I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 288 หวาดกลัว

| Genius Sword Immortal | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 288 หวาดกลัว

 

ในทางด้านหนานฟางก็พบบุคคลน่าสงสัยที่ใส่เสื้อแจ๊คเก็ตสีดำได้อย่างรวดเร็ว มันเป็นชายผิวดำหัวล้านร่างบึกบึนซึ่งเป็นรูปร่างที่ดูแปลกกว่าคนอื่น สถานที่พบเจออีกฝ่ายคือห้องน้ำด้านนอกของศูนย์การแสดงสินค้า

 

ทันใดนั้น ชายผิวดำก็มีท่าทีเปลี่ยนไปคล้ายกับรู้บางอย่าง จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปที่ทางเดินหนีไฟในทันที ในขณะที่หนานฟางเพิ่งมาถึงก็รู้ว่าชายผิวขาวได้ถูกเย่เฟิงจัดการไว้แล้ว แต่ชายผิวดำคนนี้ก็ยังคงไหวตัวทัน

 

อย่างไรก็ตามจะหนีรอดจากหนานฟางมันไม่ง่ายเช่นนั้น

 

ในเวลานี้ หนานฟางไม่ได้มีเพียงแค่อุปกรณ์อันยอดเยี่ยมของหน่วย NSA ซึ่งคือรองเท้าพลังไฟฟ้าและหน้าไม้สังหารปีศาจ แต่เขายังได้ฝึกฝนวิชาของสำนักเซียนเร้นลับอีกด้วย ซึ่งทำให้มันได้เปรียบอย่างมาก

 

แทบจะในทันทีหนางฟางก็ไล่กวดชายผิวดำทัน จากนั้นก็ใช้มีดบินออกไปขณะที่ปลอดผู้คน

 

ฟิ้ว!

 

มีดบินปาถูกคอของชายผิวดำอย่างแม่นยำ เลือดสดสาดกระเด็นในทันที ร่างที่ไม่รู้เรื่องราวก็ล้มลงไปบนพื้นสิ้นลมหายใจ

 

“วิชามีดบินปีศาจคำรามมีประโยชน์ดีจริง”

 

หนางฟางครุ่นคิดภายในใจ จากนั้นก็รีบเร่งเข้าไปใกล้และลากร่างของนักฆ่าผิวดำผู้นี้ออกไป

 

“เป็นผู้หญิงเหรอ?”

 

ยามเมื่อหน้าบากพบเป้าหมายของเขา ซึ่งคือผู้หญิงชาวต่างชาติผมทองสวมใส่เดรสสีแดงกำลังพูดคุยกันอย่างสนิทสนมกับนักธุรกิจชาวจีนอ้วนๆคนหนึ่ง ซึ่งมีท่าทีที่น่าสงสัยและหยอกล้อกับนักธุรกิจอ้วนพลางฟังข่าวจากหูฟัง

 

เป็นเช่นเดียวกับชายผิวดำฝั่งหนานฟาง ผู้หญิงชาวต่างชาติผมทองก็รู้ถึงว่าเบนจามินเกิดเหตุขึ้น จากนั้นก็มีท่าทีเปลี่ยนไปเล็กน้อยพยายามที่จะหลบหนีออกไปแต่ก็ถูกขัดขวางโดยหน้าบาก

 

“แกต้องการอะไร?”

 

ยามเมื่อหน้าบากเข้าหาผู้หญิงผมทองคนนั้น นักธุรกิจอ้วนด้านข้างก็มีทีท่าโมโห เขาลำบากยิ่งกว่าจะควงฝรั่งสวยเซ็กซี่คนนี้ได้และเริ่มไปไม่ได้เท่าไหร่ แต่น่าเสียดายหน้าบากไม่ได้สนใจอีกฝ่ายเลย

 

“ไสหัวไป”

 

ด้วยรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเขาก็ทำให้มันยิ่งดูน่าหวาดกลัว นอกจากนี้เขายังควักเอาดาบจากเอวของเขาขึ้นมาจนทำให้นักธุรกิจอ้วนตื่นตระหนกจนหน้าซีดขาวราวกับกระดาษในทันที

 

อ้า ดาบ!

 

หน้าบากคนนี้ไม่ใช่ว่าเป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดของงานแสดงสินค้านี้เหรอ โดยไม่คาดคิดเขากลับต้องการฟันผู้คนแล้ว!

 

ปกติหน้าบากไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นอยู่แล้ว เขาเพียงจัดการตามคำสั่งของเย่เฟิงเท่านั้น และในสายตาของนักฆ่าสาวเห็นได้อย่างชัดเจนกว่าการต่อสู้กับหน้าบากไม่ใช่ตัวเลือกที่ฉลาดนัก

 

ท่าทางของหน้าบากสามารถฆ่าได้โดยไม่กระพริบตา ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับสาวสวยเขาก็คงไม่มีความปราณีแม้แต่น้อย!

 

สาวชาวต่างชาติในฐานะนักฆ่ารู้อย่างชัดเจนว่าเผชิญหน้ากับอันตรายก็ตัดสินใจอย่างเฉียบขาด กระทืบส้นสูงไปยังเข่านักธุรกิจอ้วนจนร่างของเขาล้มลงไปจากนั้นก็ดึงคอเสื้อเขาขึ้นมา

 

การเคลื่อนไหวทั้งหมดเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น แม้แต่นักธุรกิจอ้วนก็ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย

 

นี่มันเรื่องอะไรกัน? สาวชาวต่างชาติเซ็กซี่คนนี้ที่เขาเพิ่งจะคุยกันไปไม่นานกลับกลายเป็นจอมยุทธเสียอย่างงั้น? เขามีน้ำหนักถึง 200 จิน แต่กลับถูกดึงกระฉากขึ้นมาราวกับอุ้มไก่ภายในมือของสาวต่างชาติคนนี้!

 

นักธุรกิจอ้วนก็ตระหนักได้ในทันทีว่าสถานการณ์ตอนนี้มันเกินกว่าที่เขาจะคาดคิด จากนั้นก็ต้องเผชิญหน้ากับดาบของหน้าบากที่เปล่งประกายอยู่ในมือ เรื่องนี้ทำให้นักธุรกิจอ้วนตื่นตระหนกไปหมด

 

โดยไร้ข้อกังขา สาวชาวต่างชาติได้ใช้นักธุรกิจอ้วนเป็นดั่งโล่มนุษย์

 

หลังจากนั้นสาวชาวต่างชาติไม่ได้ทำเหมือนเช่นชายผิวดำที่วิ่งไปยังสถานที่ไร้ผู้คน เธอกลับหันไปยังสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านโดยเฉพาะ เธอต้องการที่จะหลบหนีอย่างรวดเร็ว

 

“บ๊ายบาย!”

 

สาวชาวต่างชาติที่โยนนักธุรกิจอ้วนไปทางหน้าบากและก็ใช้โอกาสนั่นหลบหนีอย่างลื่นไหลได้อย่างชาญฉลาดและรีบเร่งไปยังลิฟท์ที่อยู่ไม่ไกล แต่ในเวลาเดียวกันก็ยิงเข็มบินอันเล็กไปยังหน้าบากอย่างเงียบๆ

 

หน้าบากไม่ได้มีทักษะสัมผัสวิญญาณจึงไม่มีทางที่จะรู้ถึงเข็มบินนี้ได้ แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ใช่คนโง่ คาดเดาได้อย่างถูกต้องว่าอีกฝ่ายจะต้องไม่ใช่แค่เพียงหลบหนีอย่างเดียวแน่นอน ดังนั้นเขาก็คว้านักธุรกิจอ้วนบังเอาไว้ในทันที หลังจากที่นักธุรกิจอ้วนถูกเข็มบินพุ่งเข้าไปที่หน้าอกเขาก็หมดสติไปในทันที

 

เข็มบินช่างมีประสิทธิภาพรุนแรงอย่างยิ่ง!

 

มองการเคลื่อนไหวของสาวชาวต่างชาติที่ปราดเปรียวภายในผู้คนของศูนย์การแสดงสินค้า มันก็เกิดเสียงโห่ร้องชื่นชมขึ้นมา นี่มันกำลังถ่ายหนังกันอยู่หรือ? โดยไม่รู้ว่าใครที่ไล่ล่าสาวสวยคนนี้

 

ทันใดนั้นเธอกลายเป็นราวกับนางเอกหนังบู๊ดึงดูดความสนใจของเหล่าผู้คนทั้งหมด ทำให้ทุกคนต่างอยากรู้อย่างมากว่า “คนร้าย” ที่ไล่ตามเธอมาเป็นเช่นไรกัน

 

“คิดจะหนีงั้นหรือ?”

 

หน้าบากก็พุ่งไปข้างหน้าด้วยย่างก้าวคร่าวิญญาณของวิถีอสุราซึ่งใช้ออกได้อย่างยอดเยี่ยม

 

เนื่องจากเย่เฟิงเป็นคนคอยแนะนำและหน้าบากในตอนนี้ก็มีวรยุทธอสองปี และฝึกวิถีอสุราถึงรูปแบบที่สาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับย่างก้าวคร่าวิญญาณที่บรรลุไปจนถึงขั้นเชี่ยวชาญสามารถใช้ออกได้อย่างง่ายดาย

 

เพียงชั่วพริบตาเขาพุ่งไปอย่างรวดเร็วราวกับภูติผีไล่ตามสาวสวยไปยังลิฟท์

 

ดาบคร่าวิญญาณพันลี้!

 

วิชาดาบนี้มันราวกับแม่น้ำเหลืองอันเชี่ยวกรากที่พลังวิญญาณพลุ่งพล่านอย่างต่อเนื่องจนกว่ามันจะได้คร่าชีวิตผู้คนภายใต้คมดาบนี้ ซึ่งที่หน้าบากใช้วิชานี้มันแทบจะเป็นการฆ่าไก่โดยต้องใช้มีดฆ่าโค แต่มันเป็นเพราะเขาเพิ่งจะเคยใช้ครั้งแรกในการต่อสู้

 

รังสีดาบหนาแน่นปรากฏขึ้นมาท่ามกลางสายตาผู้คน ปรากฏภูติผีวิญญาณจนทำให้ผู้คนต่างตกตะลึง

 

นี่มันความเร็วอะไรกันแน่?

 

สหายคนนี้ใช้ปาหี่อะไรกัน? สามารถฟันดาบได้เช่นนี้เลยเหรอ!

 

ด้านความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองฝ่ายมีมากเกินไป โดยไม่รอผู้คนตอบสนองก็รังสีดาบของหน้าบากพุ่งไปยังสาวชาวต่างชาติเซ็กซี่ผมทอง

 

หลังจากที่สาวชาวต่างชาติเซ็กซี่ผมทองล้มไป หน้าบากก็เข้าไปลากร่างเซ็กซี่ของเธอออกมาอย่างสงบนิ่ง

 

เมื่อพวกเขาทั้งสองจากหายไปแล้ว ผู้คนรอบๆก็เริ่มคืนสติกลับมาอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์เมื่อครู่นี้มันราวกับภาพลวงตาไม่ชัดเจน แต่บางคนก็เห็นวิญญาณพุ่งออกมาจากตัวหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของงานแสดงสินค้านี้จริง หน้าบากสินะ?

 

ดูเหมือนว่าตัวเลือกของคุณหนูตระกูลหลินจะถูกต้องจริงๆแล้ว!

 

มีหน่วยรักษาความปลอดภัยที่น่ากลัวเช่นนี้ ใครกันที่จะก่อกวนงานแสดงสินค้าครั้งนี้ได้?

 

ภายในออฟฟิศ เย่เฟิงเผชิญหน้ากับเบนจามินที่บ้าคลั่งเช่นนี้ก็จนปัญญา

 

เหตุใดชายคนนี้ถึงมั่นใจพรรคพวกถึงขนาดนี้กัน?

 

ไม่นานหลังจากนั้น เบนจามินก็ตระหนักได้ว่าระเบิดที่เขาคาดหวังไว้มันไม่เกิดขึ้น ช่างแปลกประหลาดนัก จากนั้นประตูออฟฟิศก็เปิดขึ้น ร่างที่คุ้นตาทั้งสองก็ถูกโยนมาด้านข้างทั้งสองของเขาอย่างไร้ชีวิต

 

ปรากฏเป็นชายผิวดำหัวล้านที่สวมใส่เสื้อแจ๊คเก็ตและหญิงสาวผมทองเดรสสีแดง นี่มันไม่ใช่เป็นพรรคพวกของเขาหรอกหรือ?

 

เบนจามินคนนี้ก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที!

 

“ตอนนี้ก็พูดได้แล้วสินะ เป็นเผ่ยเขิงกรุ๊ปส่งแกมาหรือว่าไวเปอร์ส่งมาเป็นการส่วนตัว?”

 

เย่เฟิงเห็นอีกฝ่ายมีท่าทางประหลาดใจในที่สุดก็ถามออกไปทันที

 

……………………………..

 

แปลโดย คั่นหนังสือ

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments