ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 290 แผนการสายลับ
ภายใต้ความเงียบ เมดูซ่าที่สบตากับเย่เฟิงก็เริ่มกลายเป็นอ่อนโยนซ่อนเร้นความขุ่นเคืองเอาไว้ และเปิดเผยถึงความจริงใจโดยไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร
การเปลี่ยนแปลงนี้ตกอยู่ในสายตาของเบนจามิน และเขาไม่รู้เลยว่าเมดูซ่าได้ตกอยู่ภายใต้วิชาสะกดใจของเย่เฟิง หลังจากที่โดนสะกดใจไปแล้วเธอก็สับสนเล็กน้อยเหตุใดถึงหลงใหลเย่เฟิง แต่ภายในใจของเธอกลับคิดว่ามันคงเป็นเรื่องปกติ
ขณะนี้เบนจามินกำลังคิดว่าเมดูซ่ากำลังแสดงละครอยู่ โดยไม่รู้เรื่องราวเลยว่าเธอตกหลุมพลางของเย่เฟิง ขโมยไก่ไม่ได้แถมยังเสียข้าวสารอีก แม้ว่าอีกครึ่งชีวิตก็คงลงเอยเช่นเดิมและตอนนี้ชะตากรรมของทั้งสองตกอยู่ในมือแล้ว
“ต่อไปนี้จงเชื่อฟังฉัน”
เย่เฟิงเดินไปเบื้องหน้าเมดูซ่าและจับไหล่เธออย่างนุ่มนวลดันเธอลงนั่งบนโซฟา คำพูดราวกับร่ายมนต์ เมดูซ่าพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้
ถึงเวลานี้แล้วเมดูซ่ายังคงแสดงละครเพื่อวางแผนสังหารเย่เฟิงอยู่อีกหรือ?
เบนจามินรู้สึกแปลกๆ เหตุใดเมดูซ่าที่กำลังล่อลวงเย่เฟิงอยู่ถึงเชื่อฟังแต่โดยดีเช่นนี้? มันควรที่จะนัวเนียกันเป็นปลาหมึกแล้วสิ! หากไม่มีสิ่งยั่วยวนอะไรอีกจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมาเทียบกับรูปร่างอันเซ็กซี่ยั่วยวนของเมดูซ่า
“เธอยอมจำนน แล้วแกล่ะ?”
เย่เฟิงไม่ได้สนใจเมดูซ่าแล้วหันหัวไปมองเบนจามิน เมื่อพวกเขาทั้งสองมาจากองค์กรไวเปอร์และเผ่ยเขิงกรุ๊ปสองอำนาจที่แตกต่างกัน เย่เฟิงจะต้องพยายามเพื่อควบคุมพวกเขาทั้งหมด
เป้าหมายของเขาคือการทำให้พวกเขาเป็นสายลับ เพื่อแอบย่องเขาไปในองค์กรไวเปอร์และเผ่ยเขิงกรุ๊ปเพื่อสืบข่าวที่แม่นยำบอกต่อเขา!
ในตอนนี้เมดูซ่าเชื่อฟังอย่างสมบูรณ์ จากนั้นค่อยออกคำสั่งให้กับเธอถึงเรื่องต่างๆที่ต้องทำเป็นต้นไป แต่เบนจามินคนนี้เป็นพวกหัวแข็ง เกี่ยวกับการจัดการคนหัวแข็งนี้เย่เฟิงไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่าไหร่นัก
“เฮอะ”
เบนจามินแค่นเสียงออกมาเบาๆ เงยหน้าขึ้นไปมองบนโซฟาและหญิงสาวที่ดูเชื่อฟังยังคงเป็นเมดูซ่า แต่ภายในใจของเขาเริ่มรู้สึกมันแปลกประหลาดขึ้นเรื่อยๆ
ผู้หญิงคนนี้มันเป็นอะไรกัน พฤติกรรมผิดปกติเกินไปหรือเปล่า? หรือตั้งใจที่จะยอมแพ้จริงๆ?
“เธอได้ยอมจำนนแล้วเรื่องต่างที่สำคัญฉันจะฟังจากปากของเธอเอง ในเมื่อแกไม่ต้องการที่จะยอมจำนนถ้างั้นการเก็บแกไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีก”
เย่เฟิงพูดเบาพลางยกมือขวาขึ้น บอลเปลวเพลิงหนึ่งลูกก็ปรากฏขึ้นมาในมือเหมือนกับบอลเปลวเพลิงที่ได้เผาร่างของชายผิวดำ
ขณะนี้เบนจามินเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว เย่เฟิงไม่จำเป็นต้องใช้เขาอีกต่อไปถึงได้เสกบอลเปลวเพลิงนี้ขึ้นมาในมือ นอกจากนี้บอลเปลวเพลิงนี้มันจะเผาผลาญได้เพียงชั่วพริบตาไม่เหลือแม้แต่เถ้าถ่าน!
นี่เป็นครั้งแรกของเมดูซ่าที่อยู่ด้านข้างเห็นวิธีการของเย่เฟิง แต่ขณะนี้ถูกเย่เฟิงสะกดใจเอาไว้อยู่ ทำให้รู้สึกประหลาดใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีความคิดสงสัยอะไรอย่างอื่น เนื่องจากในใจเธอมีเพียงแค่เย่เฟิงเท่านั้น
เนื่องจากใช้วิชาสะกดใจควบคุมคนมันจะทำให้สมองได้รับการบาดเจ็บอย่างหนัก ถ้าหากเป็นคนของเขาเองเขาไม่คิดที่จะใช้วิชาสะกดใจเช่นนี้
แต่เมดูซ่าเป็นศัตรูของเขา แม้ว่าจะสังหารเธอมันก็ไม่ได้เกินไปเลยซึ่งตอนนี้ถือว่าลงโทษสถานเบาแล้ว
“ฉันจะนับถึงสาม หวังว่าแกจะตัดสินใจให้ดี”
เย่เฟิงจ้องมองไปยังนัยน์ตาคู่นั้นของเบนจามิน เปลวเพลิงสีแดงภายในมือไม่สามารถคาดการณ์ได้ ราวกับมันจะถูกส่งมาเมื่อไหร่ก็ได้
เบนจามินอดไม่ได้จนต้องกลืนน้ำลาย
เขาครุ่นคิดเสร็จสิ้นแล้วในเมื่อตอนนี้ต่อต้านไปก็เปล่าประโยชน์ เกี่ยวกับการยอมจำนวนของสาวสวยเมดูซ่าคนนี้จะจริงหรือเท็จสำหรับเขามันก็ไม่มีข้อได้เปรียบอะไร
ถ้าหากเย่เฟิงส่งบอลเปลวเพลิงนั้นมาที่เขา มันจะไม่กลายเป็นเรื่องน่าเศร้าหรือ?
“ตกลง ฉันจะทำตามคำสั่งแก”
ในที่สุดเบนจามินก็ตกลงพลางพยักหน้าเล็กน้อยและเหลือบมองไปยังเมดูซ่าเล็กน้อย เห็นสีหน้าเธอไม่ได้แสดงปฏิกริยาอะไร ซึ่งทำเหมือนกับว่าการเลือกของเขาไม่ได้มีผลอะไรอย่างสิ้นเชิง
สิ่งนี้ทำให้ภายในใจเบนจามินแอบรู้สึกไม่ดี เมื่อคิดว่าเขาจะต้องลงเรือลำเดียวกันและร่วมมือกับเย่เฟิง ภาพสถานการณ์วิกฤติก็ปรากฏออกมาให้เห็น คนของเผ่ยเขิงกรุ๊ปจะต้องไม่ปล่อยเขาเอาไว้แน่ๆ
อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขากำลังสับสนอยู่ ทำให้เย่เฟิงในที่สุดก็มีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง
วิชาเซียนสะกดใจ!
เย่เฟิงไม่อยากจะเชื่อพลางจ้องมองไปในดวงตาของเบนจามินและใช้วิชาเซียนสะกดใจและออกคำสั่งกับอีกฝ่ายฝังลงไปว่าเย่เฟิงคือหัวหน้าของเขา ตั้งแต่นี้เป็นการกระทำทั้งหมดจะต้องขึ้นตรงต่อเย่เฟิง
นัยน์ตาของเบนจามินพลันวูบวาบ แต่ก็กลับคืนเป็นสดใสในทันที เพียงแต่เบนจามินเวลานี้ไม่ใช่เบนจามินตอนก่อนหน้า การจัดการของเย่เฟิงได้เปลี่ยนแปลงไปถึงก้นลึกของหัวใจ
เกี่ยวกับบุคคลที่กำลังใจหนักแน่นอยู่ วิชาเซียนสะกดใจของเย่เฟิงมันไม่มีผลกระทบอะไร แต่เบนจามินตอนนี้กับเสียสมาธิโดยเมดูซ่า ท้ายที่สุดก็เป็นเข้าทางเย่เฟิงให้ใช้วิชาเซียนสะกดใจต่อเขา
จากนั้นเย่เฟิงก็ออกคำสั่งชี้แจงเกี่ยวกับองค์กรไวเปอร์และเผ่ยเขิงกรุ๊ป ซึ่งเป็นคำสั่งง่ายๆแก่พวกเขาคือการให้เขาเป็นสายลับของเย่เฟิงแทรกซึมไปในองค์กรของอีกฝ่าย
มันเป็นเวลานานมากและเย่เฟิงออกมาจากออฟฟิศเพียงลำพัง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วแผนการสายลับของเขาก็สำเร็จอย่างดีเยี่ยม
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เบนจามินและเมดูซ่าพวกเขาทั้งสองจะต้องกลับไปยังองค์กรไวเปอร์และเผ่ยเขิงกรุ๊ปคอยเป็นหูเป็นตาให้กับเย่เฟิง เพื่อให้เย่เฟิงได้รับรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับองค์กรขนาดใหญ่ทั้งสองนี้
เบนจามินคนนี้เป็นนักฆ่าอันดับ 100 ของโลก เป็นคนที่เก่งกาจหลากหลาย แฝงตัวภายในผู้คนและทำภารกิจได้ดีเยี่ยม!
เรื่องนี้ภายในโลกเทวะมันเป็นวิชาลอบสังหารที่ไม่เลวนัก ฝึกฝนตัวเองให้ซ่อนฐานะของตัวเอง เพื่อเข้าใกล้เป้าหมายบางครั้งถึงกับต้องพูดคุยได้อย่างไหลลื่น จากนั้นพลันสังหารอีกฝ่ายตายได้ในทันที
หากพูดถึงเรื่องความสามารถสังหารแล้วมันพูดได้ยากได้แต่ลองเปรียบเทียบถึงอย่างอื่น ซึ่งเบนจามินคนนี้และหมอผีกูสือติงก็อยู่ในระดับเดียวกัน แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความสามารถการต่อสู้แล้ว เบนจามินคนนี้ก็เหนือกว่ากูสือติงมากกว่าที่คิดไว้
ปกติแล้วเย่เฟิงสามารถสังหารกูสือติงได้อย่างง่ายดายไม่จำเป็นต้องใช้ความสามารถอะไรในการต่อสู้ ซึ่งเบนจามินมีความสามารถสูงเหนือกว่าหมอผีกูสือติงทำให้มีประโยชน์อย่างมากต่อเย่เฟิง
ขณะที่เมดูซ่าสาวผมทองที่เป็นคนของเผ่ยเขิงกรุ๊ปก็เป็นผู้ต้องหาที่ต้องการตัวที่สุดในโลก เมื่อปีที่แล้วสามารถหลบหนีจากยุโรปมาอเมริกาพร้อมกับเจ้าพ่อค้ายา หลังจากที่รัฐบาลอเมริกาออกหมายจับ เมดูซ่าและเจ้าพ่อค้ายาก็กลายมาเป็นสุนัขรับใช้ของเผ่ยเขิงกรุ๊ป
“ดูเหมือนว่าเผ่ยเขิงกรุ๊ปที่อเมริกาจะมีเรื่องที่ซ้อนเร้นอยู่มากนัก”
ไม่คาดคิดว่าเผ่ยเขิงกรุ๊ปกลับให้ที่หลบซ่อนกับพวกผู้ต้องหาของสหรัฐ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับรัฐบาลสหรัฐเลย
แต่น่าเสียดาย เบนจามินหรือเมดูซ่าทั้งนี้ ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องหลักที่อยู่ลึกลงไปภายในองค์กรทำให้เย่เฟิงรู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าโชคดีเล็กน้อยที่ได้พวกเขาไปเป็นสายลับให้ ถือได้ว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์มาก
เย่เฟิงที่กำลังเดินอยู่ จู่ๆก็พลันได้กลิ่นหอมหวนอันรัญจวนใจที่ส่งออกมาจากร่างที่เซ็กซี่จากนั้นก็มีอะไรมากระแทกที่แขนของเขา
“อ้าว พี่หลิน พี่มาทำอะไรที่นี้?”
เย่เฟิงก้มลงไปมองดูรู้สึกแปลกใจที่เห็นหลินชื่อฉิงรีบร้อนจนวิ่งมาชนเขา
……………………………..
แปลโดย คั่นหนังสือ