I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 291 บีบบังคับให้แต่งงาน

| Genius Sword Immortal | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 291 บีบบังคับให้แต่งงาน

 

ถูกหลินชื่อฉิงที่เป็นชนแทรกเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนเช่นนี้ ชายคนไหนกันที่จะไม่รู้สึกอะไรเลย

 

เย่เฟิงอดไม่ได้จนต้องกลืนน้ำลาย ก้มหัวลงมองผ่านคอเสื้อของหลินชื่อฉิงลงไปภายในร่องลึก พบเห็นสองเต้าโผล่ออกมาครึ่งวงกลมที่ขาวราวหิมะและเผลอลืมตัวยื่นมือออกไปโอบเอวของเธอมาไว้ในอ้อมกอด

 

“นาย”

 

แก้มของหลินชื่อฉิงแดงก่ำ แต่เธอก็ตระหนักได้ทันทีว่าเป็นเธอเองที่รีบมากเกินไปจนมาชนเข้าไปในอ้อมกอดเย่เฟิงและจะโทษเย่เฟิงก็ไม่ได้ถ้าเขาจะมีปฏิกริยาเช่นนี้

 

“พี่หลิน มีเรื่องอะไรถึงรีบร้อนขนาดนี้?”

 

เย่เฟิงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเลยถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

 

เมื่อได้ยินเย่เฟิงถามมาหลินชื่อฉิงก็นึกออกทันที ว่าเธออันที่จริงแล้วมีเรื่องสำคัญที่จะต้องทำ ดังนั้นจึงรีบเร่งเกินไปจนไปชนเข้าไปในอ้อมกอดเย่เฟิง

 

“เกิดเรื่องแล้ว เสี่ยวฉีไม่ยอมออกจากบ้าน”

 

หลินชื่อฉิงมีท่าทางที่กระวนกระวายใจอย่างมาก

 

เย่เฟิงเมื่อได้ยินก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เสี่ยวฉีสาวน้อยคนนั้นน่ะหรือ? มันหมายความว่ายังไงกันที่ว่าไม่ยอมออกจากบ้าน?

 

เมื่อเห็นเย่เฟิงมีสีหน้าสงสัย หลินชื่อฉิงก็เลยอธิบาย “เป็นเพราะลุงสามของพี่ หลินเหรินเทียนพาซิวเหวินไปที่ตระกูลเสี่ยวเพื่อบังคับให้เสี่ยวฉีแต่งงานกับซิวเหวิน ”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้เย่เฟิงก็มีท่าทางที่แปลกประหลาดทันที ถึงกลับบังคับให้สาวน้อยเสี่ยวฉีแต่งงานกับไอ้ปัญญาอ่อนนั้นน่ะหรือ?

 

สมกับเป็นความคิดของหลินเหรินเทียนจริงๆ ลูกชายกลายเป็นปัญญาอ่อน ก็รีบเร่งให้เขาแต่งงานแต่ยังคงต้องการหาลูกสะใภ้ที่สวยให้เขาอีก เมื่อมันเป็นเช่นนี้ เย่เฟิงก็คิดว่าเขาคงไม่ยอมมองเสี่ยวฉีตกไปอยู่ภายในปากเสืออย่างเฉยๆแน่นอน

 

หรือไม่ก็คงเป็นเพราะหลินเหรินเทียนมันแก่จนเลอะเลือนแล้ว ในเมื่อสังหารมันไม่ได้อย่างน้อยก็ต้องขอตบมันสักหลายทีเพื่อให้คลายความแค้นภายในใจเย่เฟิง!

 

สร้างปัญหาให้เย่เฟิงครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าเย่เฟิงจะทนอยู่เช่นนี้ เขาก็คงจะบรรลุเป็นเซียนไปแล้ว

 

“พี่หลิน งั้นให้ผมไปเป็นเพื่อนพี่ช่วยเหลือดูดีไหม”

 

เย่เฟิงพูดบอกหลินชื่อฉิงในทันที

 

“เรื่องก็คือ…”

 

หลินชื่อฉิงลังเลเล็กน้อย

 

“ไม่มีใครทำอะไรคนของผมได้หรอก ขนาดคนของเผ่ยเขิงกรุ๊ปก็ยังจัดการมันแล้ว”

 

มุมปากของเย่เฟิงยกโค้งขึ้น

 

เมื่อหลินชื่อฉิงได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกค่อนข้างประหลาดใจ เธอเพียงได้ยินว่าเย่เฟิงจับชายผิวขาวไปได้ไม่นาน แต่ไม่คาดคิดว่ามันจะจัดการได้เสร็จรวดเร็วขนาดนี้

 

“แล้วพรรคพวกของเขาล่ะ? ยังมีเหลืออีกอยู่ไม่ใช่หรือ?”

 

หลินชื่อฉิงถามอย่างกังวล

 

“พรรคพวกที่เหลือของเขาก็ถูกจัดการหมดแล้ว งานแสดงสินค้าปลอดภัยดีแล้ว”

 

เย่เฟิงยกยิ้มขึ้น เพียงแค่งานแสดงสินค้าเครื่องประดับ เผ่ยเขิงกรุ๊ปคงไม่ส่งนักฆ่ามือดีที่น่ากลัวมาหรอก นอกจากนี้มันไม่ใช่งานที่น่าสนุกเท่าไหร่ ยิ่งมากันหลายคนเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมันคงเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่

 

แน่นอนว่าเผ่ยเขิงกรุ๊ปกับองค์กรไวเปอร์และเย่เฟิงต่างเป็นศัตรูกัน ไม่ว่าจะสูญเสียกำลังคนหรือสูญเสียธุรกิจมันก็ถือว่าเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่

 

ยามเมื่อเย่เฟิงพูดเสร็จสิ้น เบนจามินและเมดูซ่าก็ออกมาจากออฟฟิศพร้อมกัน

 

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีเย่เฟิงอยู่ด้านข้าง ท่าทางของพวกเขาก็จะเหมือนปกติไม่ได้มีความแตกต่าง เพียงแต่ถ้าหากเย่เฟิงปรากฏตัวขึ้นหรือได้ยินเสียง อำนาจของวิชาสะกดใจมันก็จะทำให้พวกเขาเชื่อมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น

 

ในขณะนี้หลินชื่อฉิงมีรู้สึกที่เคารพและยำเกรงทั้งสองอย่างนี้ในระเบียบของเย่เฟิง ก่อนที่จะแยกออกไปจากงานแสดงสินค้า ก็ยังเตรียมพร้อมจัดระเบียบปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้ให้ไว้

 

เบนจามินเป็นนักฆ่าระดับเหรียญทองขององค์กรไวเปอร์ หน้าที่ของเขาคือการแอบสืบการเคลื่อนไหวต่อไปขององค์กรไวเปอร์ เมื่อมันมีที่ท่าว่าจะรุกรานเย่เฟิงก็ต้องแอบออกมาแจ้งเตือนอย่างลับๆ เพื่อให้เย่เฟิงเตรียมพร้อมรับมือ

 

เชื่อได้เลยว่าความเสียหายของกองกำลัง องค์กรไวเปอร์จะต้องคิดเสี่ยงดู ซึ่งการจัดการเย่เฟิงจะต้องจ่ายราคาแพงอย่างแน่นอน

 

หน้าที่ของเมดูซ่าคือการชักจูงเจ้าพ่อค้ายาให้สืบสวนถึงความลับของเผ่ยเขิงกรุ๊ปให้ชัดเจนและรายงานความลับนั้นให้กับเย่เฟิง ถึงมันจะค่อนข้างยุ่งยาก แต่เย่เฟิงก็คิดว่าการรายงานข้ามประเทศเช่นนี้มันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว

 

การประชันระหว่างสองอำนาจนี้ ถ้ามันเป็นไปได้เย่เฟิงก็ไม่อยากจะเผชิญหน้าด้วยสักเท่าไหร่นัก ดังนั้นจึงมีความคิดมุ่งเน้นไปที่เรื่องหลีกเลี่ยงที่จะปะทะกัน

 

เมื่อเห็นเบนจามินและเมดูซ่าที่มีท่าทางเคารพเชื่อฟังขณะที่เย่เฟิงจัดแจงมอบหมายงานให้พวกเขา หลินชื่อฉิงก็แอบชื่นชมอย่างลับๆในทันที เย่เฟิงช่างเก่งกาจจริงๆ เมื่อจะต้องรับมือกับองค์กรใหญ่ทั้งสองอย่างเผ่งเขิงกรุ๊ปและไวเปอร์ นี่มันไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถรับมือไหว!

 

จากนั้นมาทักทายหลงหวางเอ๋อและซูเหมิงหานทั้งสองสาว เมื่อเห็นจื่อเจี้ยนหลานกำลังดื่มชาอยู่ภายในห้องอาคาร เย่เฟิงก็รู้สึกโล่งใจที่ได้ออกมาจากศูนย์การแสดงสินค้ากับหลินชื่อฉิง

 

หลังจากที่พวกเขาจากไป สินค้าเครื่องประดับของหลิวกรุ๊ปก็ส่งมาถึงและเติมเต็มบูธที่ว่างเปล่าของศูนย์การแสดงสินค้า

 

เกี่ยวกับชื่อเสียงของหน่วยเตาเฟิงแล้วมันถึงกับสั่นสะเทือนเลือนลั่น ทำให้ทั่วงานแสดงสินค้าปลาบปลื้มดีใจอย่างแท้จริง

 

ราคาประมูลของเพชรจักรพรรดิยังคงอยู่ที่ 18.88 ล้าน ไม่มีใครที่จะเสนอราคาอีก แต่มันก็เป็นเพียงแค่วันแรกเท่านั้น ของจริงมันจะต้องเริ่มต่อแต่นี้ไป มันจะต้องมีเหล่าตัวร้ายเจ้าถิ่นมายื้อแย่งกันไปแน่

 

จากที่มองดูแล้วในเวลานี้งานแสดงสินค้านี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก รายได้มันคงไม่น้อยแน่ๆ แต่กำไรที่หลินชื่อฉิงจะได้ก็ไม่มากไปเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตามไม่มีทางรู้จะเกิดอะไรขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า อยากจะรู้จริงว่าเหล่าบริษัทที่ไม่ยอมเข้ารวมงานแสดงครั้งนี้มันจะเสียใจมากแค่ไหนกัน?

 

ตระกูลเสี่ยวตั้งอยู่ใจกลางเมืองเหยียนจิง เป็นหมู่บ้านอีกเขตหนึ่ง หมู่บ้านแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อตระกูลเสี่ยวโดยเฉพาะ ภายในมีคนอยู่เพียงแค่ตระกูลเสี่ยว

 

ยามเมื่อหลินชื่อฉิงขับแลมโบกินี่อันสวยงามของเธอพร้อมเย่เฟิงมาถึงหน้าประตูทางเข้าหมู่บ้าน พวกเขาก็ตกเป็นเป้าสายตาโดยผู้คนที่ผ่านไปมารอบๆ

 

ช่างเป็นพี่สาวชนชั้นสูงจริง!

 

มันจะเซ็กซี่เกินไปแล้ว!

 

ช่างน่าสงสารพี่สาวชั้นสูงที่มีผู้ชายธรรมดาเสื้อสีดำอยู่ด้านข้าง ทำให้พวกเขาลอบส่ายหัวกัน นี่มันดอกไม้สดปักบนขี้วัว*ชัดๆ

 

[คั่นหนังสือ 鲜花插在牛粪上/ดอกไม้สดปักบนขี้วัว = เป็นคู่ที่ไม่เหมาะสมกัน]

 

เกี่ยวกับสายตาของผู้คน ปกติแล้วเย่เฟิงไม่แยแสสนใจ เมื่อมาถึงประตูทางเข้าหมู่บ้าน เย่เฟิงก็พลันกล่าวถาม “พี่หลิน สมมติว่าถ้าผมรักษาหลินซิวเหวินได้ พี่ว่าผมควรจะรักษามันไหม?”

 

ถ้ามันเป็นการบาดเจ็บพวกจิตวิญญาณ การใช้ทักษะแสงศักดิ์สิทธิ์รักษาก็คงช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่ถ้ามันเป็นการบาดเจ็บทางสมองจนทำให้ปัญญาอ่อน ทักษะแสงศักดิ์สิทธิ์ของเย่เฟิงก็สามารถรักษามันได้อยู่

 

ที่เขาถามเช่นนี้ไม่ใช่ว่าเขาอยากรักษาหลินซิวเหวินแต่ถ้ามันแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้เสี่ยวฉีได้ ในทางกลับกันก็สามารถทำให้ปู่หลินรู้สึกดีได้ ดังนั้นก็จะได้หลีกเลี่ยงนำเย่เฟิงมาเป็นหลานเขยเสียที มันได้ผลประโยชน์ทั้งเขาและหลินชื่อฉิง

 

เมื่อหลินชื่อฉิงได้ยินเช่นนี้ ปรากฏประกายระยิบระยับภายในดวงตาด้วยความประหลาดใจ “นายจะบอกว่าสามารถรักษาซิวเหวินได้อย่างงั้นหรือ? มันเป็นไปได้ยังไง ขนาดหมอในโรงพยาบาลในเครือที่เชี่ยวชาญโรคนี้โดยเฉพาะยังจนปัญญาเลยนะ ”

 

“พี่หลิน แค่พี่เชื่อผมก็พอแล้ว”

 

เย่เฟิงยิ้มเล็กน้อย “เพียงแต่ผมไม่รู้ว่าควรช่วยเขาดีไหม ถ้าหากไม่ช่วยเขาวันนี้ ผมจะต้องทำให้หลินเหรินเทียนได้ลิ้มรสชาติความขมขื่นแน่นอน!”

 

ในเมื่อมาแล้ว เย่เฟิงไม่ยอมที่จะกลับไปมือเปล่าแน่

 

หลินเหรินเทียนทำเรื่องยุ่งยากให้เขาหลายครั้งหลายคราแล้ว เขาจะต้องเรียกร้องเอาดอกเบี้ยคืนมั้งแล้ว!

 

……………………………..

 

แปลโดย คั่นหนังสือ

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments