ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 303 เหยียบย่ำแก๊งใหม่!
ทำไมถึงดื้อด้านนัก?
เย่เฟิงมองไปยังเลือดที่มุมปาก ชายหนุ่มจับข้อเท้าเขาไว้อย่างแน่นไม่ยอมให้เขาก้าวไปข้างหน้า ขบคิดว่าชายหนุ่มคนนี้ช่างมีความกล้าหาญทั้งที่เลือดไหลอยู่ แต่น่าเสียดายเขาใช้กับคนผิดแล้ว
ติดตามเป็นลูกน้องของเหยาเป่าซาน ถ้าหากหลงเสี่ยนยังไม่ตาย ชายหนุ่มคนนี้เป็นไปได้ว่าไม่อาจที่จะแก้นแค้นได้ตลอดชีวิต มันจำเป็นต้องรู้ว่าแม้กระทั่งแก๊งที่แข็งแกร่งในประเทศจีนยังไม่ใช่คู่มือของตระกูลหลง ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงแก๊งในเมือง มันเกินความสามารถไป
เมื่ออิทธิพลของแก๊งแกร่งเกินขอบเขตไป มั่นใจได้ว่ามันจะกดดันประเทศเอาไว้ได้ เรื่องนี้มันสามารถเป็นมาตรฐานต่ำๆซึ่งเป็นพลังของทางการเมืองได้
แต่สำหรับตระกูลหลงไม่ใช่เช่นนั้น ตระกูลภายในโลกยุทธภพมันแข็งแกร่งมายาวนานมากกว่าที่จะกลายเป็นประเทศจีนเสียอีก ในกรณีนี้พลังทางการเมืองของประเทศจีนแน่นอนว่าไม่มีความหมายสำหรับตระกูลหลง ทำได้เพียงแค่อยู่ร่วมกัน
แน่นอนว่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เย่เฟิงคร้านที่จะอธิบายให้กับชายหนุ่มคนนี้ มันเสียเวลาเกินไป
ความตั้งใจของเย่เฟิงคือการไปเจอหัวหน้าแก๊งใหม่ เจ้าอ้วนอีกฝ่ายเท่านั้น สำหรับเรื่องอื่นเขาไม่มีอะไรที่จะต้องลงมือกับมัน
จากนั้นกระตุ้นเจินชี่ไปที่ขา เย่เฟิงสะบัดออกจากชายหนุ่มร่างกำยำออกไปและนำเสี่ยวเยวี่ยเดินไป จากนั้นก็ถีบประตูห้องส่วนตัวเปิดออก
ตอนนี้ลูกน้องภายในผับชั้นหนึ่งต่างพุ่งตัวมาออกมาที่ประตู เห็นชายหนุ่มสองคนถูกถีบกระอักเลือดอยู่บ่นพื้น จากนั้นก็ตกใจในทันที นอกจากนี้ยังเห็นเย่เฟิงที่พาเสี่ยวเยวี่ยก้าวเข้ามาภายในห้องส่วนตัว
คนกลุ่มหนึ่งรีบวิ่งไปล้อมรอบห้องส่วนตัวเอาไว้ พวกเขารู้ว่าลูกพี่พวกเขากำลังต้อนรับเจ้าหน้าที่รัฐอยู่ภายในห้องส่วนตัวตอนนี้ เรื่องนี้ทำให้เขารีบเร่ง ทิ้งทุกอย่างกำลังทำอยู่
น่าเสียดายที่คนกลุ่มนั้นมาถึงไม่ทันเวลา เมื่อพวกเขามาถึงและล้อมรอบห้องส่วนตัว จากนั้นก็พบว่าชายหนุ่มเสื้อดำได้เข้าไปภายในห้องส่วนตัว ยืนอยู่ข้างลูกพี่ใหญ่เป่าซานแล้ว
“ได้ยินว่าแกต้องการเจอฉัน ว่ามาสิ มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?”
เย่เฟิงที่พาเสี่ยวเยวี่ยเข้าภายในห้องส่วนตัวก็ไม่ได้สนใจเหล่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่จ้องมองอย่างตกตะลึง เดินตรงไปที่ด้านข้างเหยาเป่าซานในทันทีและเอ่ยปากถามเบาๆ
จู่ๆก็มีคนสองคนพุ่งเข้ามา ทำให้ทั่วทั้งห้องตกอยู่ในอาการตะลึง พวกเขาไม่คาดคิดว่ากำลังสังสรรค์เฮฮากันอยู่ดีๆ จะมีใครเข้ามาสร้างปัญหาขึ้น พวกเขาไม่รู้เลยว่ามันเป็นเรื่องราวอะไร?
ไม่แม้กระทั่งแยแสเหยาเป่าซานแก๊งใหม่ เจ้าหน้าที่รัฐแต่ละคนภายในเหยียนจิงสามารถบอกได้เลยว่า เข้ามาอย่างผลีผลามเช่นนี้ ถ้าเป็นคนธรรมดามันจะต้องตายอย่างแน่นอน!
น่าเสียดายเย่เฟิงไม่ใช่คนสามัญธรรมดา
“แกเป็นใคร?”
เหยาเป่าซานเงยหน้าขึ้นเมื่อเห็นเย่เฟิงปรากฏตัวมา สายตาเปิดเผยแววตาสับสนในทันที สหายคนนี้เข้ามาภายในห้องนี้ได้ยังไงกัน? มันทำให้ทุกคนต่างพยายามเพ่งมองให้ชัด
ช่างเป็นพวกขยะไร้ประโยชน์ แค่คนเดียวก็หยุดเอาไว้ไม่ได้!
ภายในใจเหยาเป่าซานขบคิดเกี่ยวกับแก๊งใหม่ที่เขาก่อตั้งขึ้นมานี้มันจะมีคนที่ทำให้เขาไม่พอใจเป็นเต่าอืดอาดยืดยาดได้ และดูตอนนี้ แม้กระทั่งคนเดียวก็ยังขัดขวางเอาไว้ไม่ได้
เมื่อเขาได้ยินคำถามเย่เฟิง เขาก็ไม่ได้ตกใจมากนัก ไม่มีแม้แต่ความกลัว ปัจจุบันเขาเป็นหัวหน้าแก๊งใหม่นี้ มีลูกน้องเป็นร้อย เพียงแค่โทรกริ๊งเดียวพวกเขาก็มาแล้ว เจ้าหนุ่มคนนี้กล้าที่จะมาหาเรื่องที่นี้ มันถือว่ารนหาที่ตายชัดๆ!
เหยาเป่าซานมาที่เหยียนจิง ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเขาใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดก็มีผลลัพธ์ที่ดี แต่จดจำความอับอายที่ภูเขาฉางไป่ได้อยู่เสมอมา ดังนั้นจึงส่งคนออกตามหาเย่เฟิงทุกที สิ่งที่เขาใช้คือรูปถ่ายที่แอบถ่ายเอาไว้ที่ภูเขาฉางไป่
ในที่สุดเขาก็พบอีกฝ่ายแล้ว เขาจะต้องชดใช้ความอัปยศทั้งหมดที่เขาได้รับกลับคืนไป
ครุ่นคิดถึงวันนั้นเย่เฟิงจัดการพวกเขาได้เพียงลำพัง ความรู้สึกที่หมดสิ้นหนทางทำอะไรไม่ได้ มันทำให้เหยาเป่าซานตกอยู่ในความหวาดกลัวอย่างยิ่ง ตอนนี้เขามีความสามารถแล้วมันจะต้องสะสางหนีแค้น ไม่สามารถที่จะรอได้
“ในเมื่อแกเข้าประตูมา แสดงว่าคงต้องการมาหาฉันสินะ”
ภายใต้แว่นไม่มีกรอบที่เหยาเป่าซานใส่ ปรากฏแววตาของเฒ่าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างเย็นเยียบพลางโบกมือ “สุราคำนับไม่ชอบกลับชอบดื่มสุราทัณฑ์* เด็กๆ ไปจับมันมาให้ฉัน!”
[คั่นหนังสือ *敬酒不吃吃罚酒 – 敬酒/จิ้งจิ่ว/เหล้าที่ใช้ดื่มอวยพร – 罚酒/ฝาจิ่ว/เหล้าที่ใช้ดื่มลงโทษ = พูดดีๆไม่ยอมก็ต้องใช้กำลังบังคับ ]
เขาสังเกตเห็นว่ามีลูกน้องมากมายอยู่ภายในห้องส่วนตัว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้หวาดกลัวเย่เฟิง
แต่ไม่รอให้ลูกน้องข้างนอกได้ขยับ เย่เฟิงก็จัดการก่อน เขาคว้าจับไปที่แขนอ้วนๆของเหยาเป่าซานพร้อมกับดึงเจ้าหมูอ้วนขึ้นมา
ในเมื่ออีกฝ่ายไม่มีแม้แต่ความจริงใจ ถ้างั้นเย่เฟิงก็ไม่จำเป็นต้องสุภาพด้วย
“ใครกล้าขยับแม้แต่นิดเดียว? คอเจ้าหมูอ้วนนี้หักแน่นอน”
เย่เฟิงพูดเบาๆ แม้ว่ามันจะเป็นคำขู่ แต่น้ำเสียงมันไม่เหมือนขู่เลยสักนิด เนื่องจากเขาไม่ได้แยแสพวกคนที่อยู่ข้างนอกมากนัก
เขาพบว่าผู้คนที่ล้อมรอบอยู่ด้านนอกห้องส่วนตัวมีปืนพกอยู่ด้วย แต่ตอนนี้ภายในห้องมีเจ้าหน้าที่รัฐอยู่ พวกเขาจะกล้าใช้ปืนในที่นี้ได้อย่างไรกัน?
เจ้าหมูอ้วน!
นี่มันเป็นคำด่าที่ดูถูกอย่างมาก มันทำให้เหยาเป่าซานรู้สึกโมโหทันที มารดามันเถอะ! เขาอ้วนขนาดนั้นเลยหรือ? อย่างมากสุดก็แค่ 200 จินเท่านั้นเอง!
นอกจากนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ เขาตกอยู่ในเงื้อมมือของเย่เฟิงอีกครั้ง ตกเป็นตัวประกันมันทำให้เขาแทบบ้า คราวก่อนมันทำให้เขาอับอาย ดังนั้นจึงร่อนเร่มาเหยียนจิง เวลานี้เป็นหัวหน้าแก๊งใหม่ของเหยียนจิง แต่ยังตกอยู่ในเงื้อมมือของเย่เฟิงเช่นนี้มันยิ่งกว่าอับอายขายหน้าเสียอีก
แน่นอนว่าสามารถกลายเป็นหัวหน้าแก๊งใหม่และเติบโตอย่างรวดเร็ว ความสามารถของเหยาเป่าซานถือว่าดียิ่ง
เขาไม่ได้กรีดร้องออกมาอย่างหมูถูกเชือด แต่เอ่ยปากอย่างสงบนิ่งต้องการที่จะเจรจากับเย่เฟิง “น้องชาย นายพุ่งเข้ามาเช่นนี้มันไม่ค่อยจะมีมารยาทเท่าไหร่เลยนะ”
“เฮ้ แกเป็นคนพาตัวฉันมาและยังให้ฉันรอแก แล้วนี่เรียกว่ามารยาทไหม?”
เย่เฟิงยิ้มขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล และก็โยนเหยาเป่าซานไปบนพื้นทันที จากนั้นก็เหยียบลงไปบนอกของเขา ฉากนี้มันแทบจะหมายถึงศักดิ์ศรีของแก๊งใหม่นี้ถูกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า
เหล่าเจ้าหน้าที่รัฐเบื้องหน้านี้ที่มาดื่มกินกัน ยอมรับเลยว่ามันจะต้องเข้าร่วมมือกับเหยาเป่าซานในไม่ช้านี้ การประชุมเช่นนี้ แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดรั้งเอาไว้ได้ ทุกคนต่างหวาดกลัวที่จะถูกกลืนกิน หลบซ่อนตัวจากความโกรธของเย่เฟิง
“หยุดนะ!”
จู่ๆก็เกิดเสียงดังขึ้นมาจากด้านนอกห้อง เมื่อมองตามไปภายในกลุ่มคนก็เห็นเด็กใหม่ที่ถือปืนอยู่ สายตาจ้องมองไปยังเย่เฟิงอย่างดุร้าย มันราวกับว่าถ้าหากเย่เฟิงขยับแม้แต่นิดเดียว เขาจะยิงไปยังเย่เฟิงทันที
แต่การกระทำของเย่เฟิงในตอนนี้ทำให้ทุกคนตกใจ
เมื่อเย่เฟิงถูกปืนจ่อชี้มา เขาก็หยิบเอาปืนจากด้านหลังขึ้นมา มันคล้ายปืนกลสั้น แต่รูปร่างมันดูไม่เหมือนนัก ปากกระบอกเป็นสีฟ้าอ่อนเล็กน้อย แต่มันดูเหมือนจะแม่นยำกว่าร้อยเท่าเมื่อเทียบกับปืนในตลาดทั่วไป
ปืนลำแสงของหน่วย NSA!
นี่เป็นทรัพย์สินที่เย่เฟิงชิงมาตอนแถบทะเลจีนตะวันออก มันถูกโยนเก็บเอาไว้ในแหวนมิติ ในที่สุดมันก็ได้ถูกใช้ประโยชน์ในตอนนี้
ปากกระบอกสีฟ้า ชี้ตรงไปยังปากทางเข้าห้องส่วนตัว เย่เฟิงเพียงขึ้นไก “แก๊ง” กระสุนก็พร้อมทำลายล้าง เมื่อถูกยิงออกมันจะต้องทำลายกำแพงเป็นรูเบ้อเริ่มแน่!
……………………………..
แปลโดย คั่นหนังสือ