ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 310 พิษของหลินเหรินเทียน
นอกจากเสี่ยวเต๋อเฉิง หลินชื่อฉิงยังอดไม่ได้ที่จะโทรเตือนเย่เฟิงให้เขาระวังหลินเหรินเทียน
เมื่อวานหลินชื่อฉิงจากไปอย่างอารมณ์เสีย แต่หลังจากที่ได้ขบคิดมันอาจดูเหมือนว่าอาการหึงหวง เมื่อย้อนกลับไปคิดแล้วมันทำให้เธอรู้สึกเสียใจ เธอไม่น่าหุนหันพลันแล่นเช่นนั้นเลย
แน่นอนว่า งานแสดงสินค้ายังไม่เสร็จสิ้น เธอทำได้เพียงอดกลั้นอารมณ์ในตอนนี้เท่านั้น แต่เมื่อนึกถึงความทรมานของหลินเหรินเทียนมันเป็นไปได้ว่าที่จะยอมแพ้ในเรื่องนี้
เธอไม่คิดว่าหลินเหรินเทียนจะแก้พิษของเย่เฟิงได้ และในที่สุดเขาจะต้องไปคุกเข่าขอโทษเย่เฟิง
สำหรับหลงหวางเอ๋อและซูเหมิงหานทั้งสองสาว เมื่อได้ยินว่าเย่เฟิงมีปัญหากับหลินเหรินเทียนก็ไม่ได้มีอาการเป็นห่วงอะไร พวกเธอรู้ว่าเย่เฟิงเป็นผู้ฝึกเซียน เพียงแค่คนธรรมดาเขาจะต้องหวาดกลัวด้วยเหรอ?
ถึงแม้ว่าจะไม่กล่าวถึงว่าเย่เฟิงเป็นผู้ฝึกเซียน แต่ความแข็งแกร่งและพื้นหลังของเย่เฟิงยังคงอยู่ในตำแหน่งที่แม้กระทั่งหลินเหรินเทียนยังไม่ใช่คู่มือของเย่เฟิง ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วอีกฝ่ายคงลงมือกระทำอะไรไปแล้ว
เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ของเย่เฟิง เรื่องราวมันแพร่กระจายไปทั่วเหยียนจิงทั้งหมด ภายในหมู่บ้านตระกูลเสี่ยวผู้คนต่างเห็นเรื่องราวนี้กันมากมาย เย่เฟิงได้จัดการข่มขู่หลินเหรินเทียน บีบบังคับให้เขาคุกเข่าขอโทษ เรื่องนี้มันเป็นการกระทำที่เหี้ยมอย่างมากภายในสายตาของผู้คนรอบๆ ซึ่งคือการพลีชีพแม้ตัวจะตายก็ไม่เป็นไร!
แม้ว่าหลินเหรินเทียนต้องการที่จะหยุดข่าวนี้ ก็ไม่สามารถทำได้ ที่จริงแล้วมันเป็นเพราะเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า ในช่วงเวลานั้นมันมีผู้คนมากหน้าหลายตา เมื่อเป็นเช่นนี้ มันทำให้บารมีของตัวหลินเหรินเทียนดิ่งลงไปอย่างมาก
แม้กระทั่งถูกข่มขู่โดยเด็กมัธยม และเด็กมัธยมคนนี้มันยังเป็นเขยของตระกูลหลินเสียอีก เรื่องนี้มันช่างย่ำแย่นัก
กลับกลายเป็นว่าแทบจะทุกคนภายในเหยียนจิงต่างคิดว่าเย่เฟิงเป็นดั่งเชื้อรา ถึงแม้ฐานะภูมิหลังมันจะทำให้กระทำรุนแรงเกินไปไม่ได้ แต่มันก็ทำให้หลินเหรินเทียนต้องเสียใจ
ทุกคนต่างรู้ว่าหลินเหรินเทียนเป็นจิ้งจอกเฒ่า แม้กระทั่งตระกูลใหญ่ภายในเหยียนจิงอย่างเช่นตระกูลเสิ่นและตระกูลโหมว ไม่มีคนใดที่จะกล้าคิดแค้นใจ มันแทบจะเหมือนมีปลายดาบมาจี้อยู่ที่คอ ลุกก็ไม่ได้นั่งก็ไม่ได้
ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงเย่เฟิงที่ไร้ประสบการณ์ภายในสังคมเลย ซึ่งวันหนึ่งเขาอาจจะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตายก็ได้ และไม่มีใครที่จะเชื่อมโยงไปถึงหลินเหรินเทียนว่าเป็นคนทำแน่
ในเวลานี้ ทุกคนต้องการที่จะดูว่าหลินเหรินเทียนจะตอบโต้กลับเช่นไร และเย่เฟิงจะใช้เล่ห์อุบายของเขาได้อีกถึงเมื่อไหร่
แม้แต่เย่เหวินเทียนก็ยังคิดว่าเย่เฟิงกระทำเรื่องราวไร้ประโยชน์ “ด้วยอิทธิพลของหลินเหรินเทียน ภายในโลกนี้ยาพิษทุกอย่างสามารถถอนได้ การข่มขู่ด้วยวิธีนั้นมันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย”
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เย่เฟิงเพียงกล่าวเบาๆ “หลินซิวเหวินพวกเขายังรักษาไม่ได้ ผมกลับรักษาเขาเสร็จภายในสองนาที ส่วนพิษที่ผมใช้ คาดว่าเจ้าจิ้งจอกเฒ่าคงแก้ไม่ง่ายดายนัก”
“ตาเฒ่าคนนี้จะรอดูอย่างใจจดใจจ่อ”
เย่เหวินเทียนหรี่ตามองพลางจิบน้ำชา แสงแดดที่ส่องมาจากหน้าต่างตกลงบนร่างของเขาทำให้รู้สึกอบอุ่นสบายนัก
คนแก่ทุกคน เมื่อถึงช่วงเวลานี้ก็ต้องการมีบั้นปลายชีวิตที่ีมีความสุข เย่เหวินเทียนมองไปยังสาวสวยมากมายที่อยู่ในห้องกันอย่างวุ่นวาย ภายในใจรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง ทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะความโชคดีที่เย่เฟิงมีอาจารย์สาวสวยคนนั้น หากไม่ใช่เช่นนั้นมันจะดูสงบราบรื่นได้อย่างไร?
ภายในโลกยุทธภพมันจำเป็นต้องถอนรากถอนโคนเท่านั้น ด้วยการข่มขู่หลินเหรินเทียนแบบนี้มันไม่ต่างอะไรกับเด็กทะเลาะกัน ในเมื่อเย่เฟิงบอกไม่มีปัญหา ถ้าหากเป็นเช่นนั้นเย่เหวินเทียนก็เชื่อใจเขา
เย่เหวินเทียนนั่งอย่างสบายใจอยู่บนโซฟา แต่รู้สึกค่อนข้างอยากที่จะเห็นเร็วๆเหลือเกิน ฉากที่ต้องคุกเข่าขอโทษ แต่ช่างน่าเสียดายเขารู้ว่าเย่เฟิงทำเรื่องราวอย่างไม่รีบร้อน
แท้จริงแล้ว นางฟ้าทะเลจีนตะวันออกคืออาจารย์ของเย่เฟิง เย่เหวินเทียนรู้ว่าเย่เฟิงมีเรื่องราวที่ต้องกระทำมากมายเช่นกัน ดังนั้นเรื่องที่จะต้องฟื้นฟูตระกูลเย่ก็คงต้องรอไปก่อน ไว้ค่อยหารือกันที่หลัง
“ถ้ามีอาจารย์สาวสวยอยู่ที่นี้ด้วยก็คงจะดี”
เย่เหวินเทียนคิดพลางส่ายหัว นางฟ้าทะเลจีนตะวันออกลึกลับอย่างมาก การจะรั้งตัวเธอไว้มันคงไม่ใช่เรื่องง่าย จากความแข็งแกร่งของเย่เฟิงในตอนนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรั้งตัวเธอเอาไว้
ถ้าหากเย่เฟิงรู้ในสิ่งตาเฒ่าคนนี้กำลังคิดอยู่ คงจะต้องประหลาดใจเป็นอย่างมาก ซูเฟยหยิ่งสำหรับตัวเขามันเป็นทั้งสหายและอาจารย์ ความรู้สึกของเขาต่อเธอมันเป็นเพียงความเคารพนับถือ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะหลงใหลเธอ แต่หลังจากที่เข้ามายังโลกใบนี้และได้พบเจอหลงหวางเอ๋อและซูเหมิงหาน ความหลงใหลมันก็จืดจางค่อยจมลึกลงไปภายในใจ
ไม่จำเป็นต้องกล่าวมากความเย่เฟิงก็รู้ว่าผลลัพธ์คือซูเฟยหยิ่งไม่แม้แต่จะมีความรู้สึกรักใคร่ในตัวเขาอย่างแน่นอน
ในวันนี้ เย่เฟิงเริ่มขยายเส้นชีพจรภายในร่างของเขา เพื่อความมุ่งมั่นที่จะบ่มเพาะให้ได้วรยุทธมากกว่า 20 ปี หลังจากนั้นเขาจะสามารถใช้วิชาโล่ดาราเพื่อจะได้ไปทะเลทราย เมื่อเป็นเช่นนี้มันก็จะมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
การเดินทางไปยังทะเลทราย เย่เฟิงไม่ได้ต้องการให้ซูเหมิงหานและหลงหวางเอ๋อติดตามไปด้วย เนื่องจากมันไม่จำเป็นมากนัก การหาอุปกรณ์วาร์ปคงจะใช้เวลาไม่นานนัก
แน่นอนว่าไม่มีใครขวางได้
อย่างไรก็ตามเย่เฟิงคาดเดาเอาไว้ว่า ยามเมื่อเขาออกจากเหยียนจิง ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น แม้ว่ามันจะมีคำกล่าวของหลงโมหรันเอาไว้ว่าเย่เฟิงเป็นมิตรภายในยุทธภพของเขาแต่มันคงอยู่ได้ไม่นาน และในตอนนี้มันแค่ยังไม่มีใครที่ปรากฏตัวออกมาจัดเขา
เย่เฟิงในตอนนี้ได้ขยายเส้นชีพจรเพิ่มขึ้นถึงสองเดือน เพื่อพัฒนาวรยุทธเพิ่มขึ้นได้สุดถึงห้าปี ตอนที่เพิ่งมายังโลกใบนี้มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก อย่างไรก็ตามมันมีเพียงวิธีการนี้เช่นนี้ ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วมันจะมีความเสี่ยงต่อชีวิต
วันนี้เป็นวันที่เย่เฟิงมีความสุขอย่างมาก แต่โจทย์ของเขา แท้จริงแล้วหลินเหรินเทียนกำลังประสบกับฝันร้ายตอนกลางวันในโรงพยาบาลในเครือพวกเขา
พิษภายในร่างกายไม่สามารถรักษาได้!
แพทย์มากมายจากโรงพยาบาลในเครือ พวกเขาต่างหมดหนทางที่จะถอนพิษของหลินเหรินเทียน แม้ว่ามันจะสลายไปเพียงเล็กน้อย แต่สองวันต่อมา พิษมันก็กำเริบขึ้นมาทรมานหลินเหรินเทียนจนเขาถึงกับสลบ!
เกี่ยวกับเรื่องนี้ แพทย์ทุกคนภายในโรงพยาบาลต่างต้องการให้หลินเหรินเทียนรีบเร่งไปขอโทษเย่เฟิงเสีย เมื่อถึงเวลานั้นจะได้ไม่ต้องตายอย่างอนาถ
หลินเหรินเทียนกัดฟันด้วยความโมโห กลุ่มคนพวกนี้มันขยะ พวกมันไร้ประโยชน์จริง! ไม่เพียงแต่ลูกชายของเขาหลินซิวเหวินยังรักษาไม่ได้ ตอนนี้มันจะมีพิษในร่างเขาอีกที่ไม่สามารถแก้ได้ พวกเขาไม่รู้สึกขายหน้าเลยอย่างงั้นเหรอที่เป็นถึงแพทย์สิบอันดับแรกของประเทศเช่นนี้?
“ป๊า หรือว่าให้ผมไปขอร้องพี่เย่ให้เขาช่วย”
หลินซิวเหวินที่อยู่ด้านข้างถามอย่างกังวล ถ้าพ่อของเขาตาย ฐานะของเขาจะต้องตกต่ำอย่างมากแน่! มันไม่จำเป็นต้องพูดเลยว่าพ่อของเขามีความสาคัญสำหรับเขาแค่ไหน เห็นได้ชัดว่าเขาแทบจะคาดคิดไม่ออกเลยว่าจะเป็นเช่นไรถ้าขาดพ่อเขาไป
“หุบปาก”
หลินเหรินเทียนกัดฟันแน่นพลางตวาดขึ้น
ให้ไปคุกเข่าขอโทษเย่เฟิง เพื่อยาแก้พิษงั้นเหรอ? ตัวเขาหลินเหรินเทียนไม่ยอมลดตัวไปทำเรื่องขายหน้าเด็ดขาด!
เขาไม่เชื่อว่าเย่เฟิงจะกล้าใช้วิธีการเช่นนี้และมองดูเขาตาย อย่างไรก็ตามหลินเหรินเทียนกล่าวได้ว่าเป็นตำแหน่งผู้อาวุโสภายในประเทศ ถ้าหากเขาตายไป เย่เฟิงจะไม่สามารถหนีรอดจากการกฏหมายพิเศษของหน่วย NSA อย่างแน่นอน
แม้ว่าเย่เฟิงจะมีฐานะไม่ธรรมดาในตอนนี้ หน่วย NSA ก็ไม่ได้ต้องการที่จะลดตัวมายุ่งกับชายหนุ่ม แต่ถ้าเขาหลินเหรินเทียนตายไปแล้วล่ะก็ มันแน่นอนว่าไม่เหมือนกัน
หลินเหรินเทียนต้องการอยู่ที่โรงพยาบาลและเฝ้ารอเย่เฟิงเอายาแก้พิษมามอบให้ด้วยตัวของเขาเอง ด้วยวิธีนี้เขาถึงจะรักษาหน้าเอาไว้ได้
แต่ช่างน่าเศร้า เขาได้เฝ้ารอจนเย็นแล้ว หลินเหรินเทียนรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิภายในร่างกายที่ร้อนๆหนาวๆคล้ายอยากจะอาเจียนและรู้สึกท้องร่วง แต่มันก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเย่เฟิง
แสงจันทร์แขวนพาดอยู่บนท้องฟ้า สาดส่องประกายเป็นด้ายสีเงิน
ท่าทางของหลินเหรินเทียนยิ่งกลายเป็นหมองคล้ำขึ้นเรื่อยๆ เย่เฟิง เจ้าหนุ่ม อย่าบอกนะว่ามันจะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนจริงๆ?
……………………………..
แปลโดย คั่นหนังสือ