ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 348 ซูเฟยหยิ่งลงมือ
สำหรับเรื่องราวของเย่เฟิง หานจืออู๋เคยได้ยินมาก่อนอย่างแน่นอน แต่มีความคิดว่า เด็กหนุ่มอายุ 20 ปีจะมีความสามารถเท่านั้นได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคู่มือของเขาที่มีวรยุทธหนึ่งร้อยปี
อันที่จริงเย่เฟิงก็เป็นอย่างที่คิด เขาไม่กล้าสู้อย่างที่โอ้อวด แต่อย่างไรก็ตามเขามีซูเฟยหยิ่งอยู่ เขาไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวอะไรทั้งนั้น
“ฉันออกมาไม่ได้ต้องการสู้กับพวกคุณ”
เย่เฟิงที่เดินออกมาส่ายหัว ค่อยๆย่างก้าวพลางเอ่ยปากพูด “แต่ออกมาช่วยเหลือ”
“ช่วยเหลือ?”
คำพูดนี้ทำให้ซูเสี่ยวอวี่และหานจืออู๋ตาจ้องมองเขม็ง หรือว่าเย่เฟิงจะรู้ว่าพวกเขาวางแผนจะทำอะไร?
“ตัวฉันในนามตระกูลหลงและตระกูลเย่อย่างละครึ่ง จะช่วยเหลือพวกคุณจับกุมเทพธิดาทะเลตงไห่”
เย่เฟิงยกยิ้มขึ้น “พวกคุณรู้หรือว่าเทพธิดาทะเลตงไห่มีวรยุทธเท่าไหร่? พวกคุณรู้ความสามารถของเธอไหม? ไม่รู้ใช่ไหมเล่า? แต่ฉันรู้ดี”
ซูเสี่ยวอวี่และหานจืออู๋ได้ฟังก็สีหน้าเปลี่ยนสี
“แล้วแกรู้อะไรบ้าง? ถ้าต้องการช่วยเหลือก็แสดงความจริงใจมาซะ ไม่เช่นนั้นที่นี้ก็ไม่ต้อนรับแก”
ซูเสี่ยวอวี่มองเย่เฟิงอย่างระวัง การที่เย่เฟิงปรากฏตัวขึ้นมาที่นี่มันไม่ใช่สัญญาณที่ดีนัก แม้ว่าเย่เฟิงจะบอกว่าช่วยเหลือ แม้กระทั่งคนโง่ยังรู้ว่าความจริงมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม ถ้าสามารถเปิดปากเย่เฟิงได้ โอกาสสำเร็จของพวกเขามันก็จะมีมากขึ้น
สิ่งที่ไม่แน่ใจในตอนนี้คือ ตระกูลหลงส่งเย่เฟิงมาเพียงลำพัง หรือว่าส่งผู้คนมามากมายกัน? ถ้าหากส่งผู้คนมามากมาย เรื่องนี้อาจจะไม่ง่ายแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถค้นพบคนของตระกูลหลงในที่นี้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าตระกูลจะแอบลอบโจมตีเงียบๆหรือไม่
ทันใดนั้น ซูเสี่ยวอวี่และหานจืออู๋พลันครุ่นคิด จ้องมองอย่างระวังไปยังเย่เฟิง
มันไม่จำเป็นต้องพูดมากความเลย พวกเขาไม่ได้ต้องการเป็นศัตรูกับตระกูลหลง
เย่เฟิงเดินไปอย่างช้าๆ ค่อยเดินเข้าใกล้อีกฝ่ายจนเหลือระยะห่างสิบเมตร ทันใดนั้นแววตาก็สว่างวาบ กระทืบเท้าออก ร่างของเขาราวกับดาวตกพุ่งตรงไปหาอีกฝ่าย
ฉากนี้ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นตกใจ
เย่เฟิงกล้าที่จะลอบโจมตีพวกเขางั้นหรือ? เจ้าหนุ่มคนนี้มันคิดจริงๆหรือว่ามีความแข็งแกร่งขนาดนั้น?
ซูเสี่ยวอวี่ค่อนข้างสงสัย แต่หานจืออู๋กลับเดือดขึ้นแล้ว ไม่ต้องการคิดอะไรอีก ก่อนที่จะส่งกำปั้นอันใหญ่โตของเขาไปยังเย่เฟิง มวยกระเรียนห้าบรรพบุรุษ!
หานจืออู๋เป็นคนอารมณ์ร้อน แทบจะถูกผู้คนยั่วยุได้โดยง่าย และตอนนี้เย่เฟิงก็พลันลอบโจมตี เขาจึงไม่ได้คิดจะหลบหลีก เมื่อเย่เฟิงต้องการสู้กับเขา เขาก็จะออกไปสู้ด้วย บดขยี้ด้วยหมัดของเขา!
มวยกระเรียนห้าบรรพบุรุษถูกเก็บไว้ภายในหอตำราสำนักหมัดเทพทวารา มีเพียงแค่ศิษย์หลักเท่านั้นถึงจะร่ำเรียนได้ ความเข้าใจของหานจืออู๋ในวิชานี้บรรลุไปจนถึงขั้นสุดยอด
หมัดอันรุนแรงทั้งสองพุ่งไปยังเย่เฟิง ดูราวกับมันแทบจะบดขยี้เขาจนบี้แบนได้เลย
“ชิบหายแล้ว! มันจะสุดยอดเกินไปแล้ว!”
เย่เฟิงโพล่งร้องออกมาด้วยอาการตกใจ หมัดทั้งสองของอีกฝ่ายช่างรุนแรง เหนือเกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้เสียอีก ไม่จำเป็นต้องพูดถึงถ้าถูกต่อยโดนเลย หลังจากถูกหมัดนี้กระแทกเข้าจะต้องบาดเจ็บอย่างสาหัสแน่นอน
จอมยุทธที่มีวรยุทธหนึ่งร้อยปีมันไม่ง่ายเลยที่จะจัดการได้ สีหน้าของเย่เฟิงหมองคล้ำดำราวกับซีอิ๊ว
กระบี่ผ่ามิติ!
ร่างของเย่เฟิงสว่างวาบ หลบหลีกหมัดอันรุนแรงของอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย กระบี่สีเขียวก็พุ่งตรงไปยังหานจืออู๋ที่พุ่งเข้ามา
“ถอยก่อน!”
ซูเสี่ยวอวี่ที่อยู่ด้านข้างมองดูเย่เฟิงและหานจืออู๋ปะทะกัน เขาก็โพล่งตัดสินใจทันที
เขารู้สึกตื่นตัวระวัง คาดเดาว่าเย่เฟิงไม่ได้ต้องการโจมตี แท้จริงแล้วเขาทำอะไรกันแน่? เขาไม่สามารถขบคิดได้เลย ดังนั้นจึงตัดสินใจถอยออกมาก่อน ด้วยความรวดเร็วก็หนีไปยังปากทางเข้า
เมื่อเห็นซูเสี่ยวอวี่กระทำเช่นนั้น หานจืออู๋ก็ตะโกนดูถูกทันที ใบหน้าเคราดกถ่มน้ำลายออกมา เฒ่าเจ้าเล่ห์มันไม่มีแม้แต่ความกล้าเลยหรือถึงกลับต้องวิ่งหนีด้วยความกลัว?
ขณะที่ซูเสี่ยวอวี่วิ่งหนีไปแล้ว ศิษย์หมัดเทพทวาราก็เห็นว่าท่าไม่ดี จึงติดตามหลบหนีตามไป ส่วนหานจื่ออู๋ที่กำลังเผชิญหน้ากับลำแสงกระบี่ของเย่เฟิง เพียงแค่นเสียงเบาๆ กระตุ้นกำลังภายในปกคลุมแขนทั้งสองอย่างแน่นหนา
ติง!
เขาใช้แขนอันแข็งแกร่งนี้ปัดป้องกระบี่เย่เฟิง นอกจากนี้มันยังไม่ปรากฏแม้แต่รอบขีดข่วน
วรยุทธหนึ่งร้อยปีมันเหนือล้ำกว่าความแข็งแกร่งของเย่เฟิง
อย่างไรก็ตาม หานจืออู๋ต้องการสู้ หมัดกระแทกไปยังเส้นทางออก ไม่ยอมให้เหล่าศิษย์เทพทวาราจากไป ทางเข้าเบื้องหลังพวกเขาต่างระเบิดขึ้น
เขาไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าเย่เฟิงได้หลอกล่อเขามา ก่อนที่จะพามายังปากเส้นทางที่ซูเฟยหยิ่งอยู่
นี่เป็นโอกาสทองแล้วที่จะให้ซูเฟยหยิ่งลงมือ
ปรากฏผ้าไหมสีขาวหิมะขึ้น มันพุ่งออกมาจากเส้นทางอย่างรวดเร็ว ระเบิดไปด้วยกลิ่นอายอันเย็นเยียบ ยืดยาวออกอย่างไม่หยุด
พรึบ! พรึบ! พรึบ!
ผ้าไหมสีขาวพุ่งออกไปพันหานจืออู๋ที่อยู่ใกล้ทันที ก่อนที่จะยืดยาวออกไป และจัดการพันเหล่าศิษย์หมัดเทพทวาราที่เหลืออีกหลายคน
ร่างอันสง่างามและสูงส่งของซูเฟยหยิ่ง ปรากฏขึ้นมาจากเส้นทางด้านข้าง มือหยกกระตุกผ้าไหม ก่อนที่จะดึงผู้คนมากมายที่ถูกพันเอาไว้ ทำให้พวกเขาลอยไปข้างบนและพันเข้ากับเสาหินในตำหนัก มองดูราวกับมัมมี่ที่ถูกแขวนห้อยเอาไว้
“ดาวตกจากฟากฟ้า”
ซูเฟยหยิ่งเอ่ยปากเบาๆ เส้นผมลุกตั้งขึ้น ปรากฏศรดาราสีน้ำเงินเข้มมากมายภายในมือของนาง ด้วยรูปโฉมที่สมบูรณ์แบบไร้ข้อกังขา ปรากฏเป็นภาพที่สง่างามและน่าพิศวง
มันคือวิชาเซียนศรดาราขั้นที่สอง เรียกว่าดาวตกจากฟากฟ้า สามารถสร้างศรดาราได้เป็นพันดอก!
เมื่อซูเฟยหยิ่งเคลื่อนไหว ศรดาราสีน้ำเงินเข้มเจ็ดดอกก็ยิงออกไปยังศิษย์หมัดเทพทวาราที่ถูกห้อยอยู่ เกิดแสงสว่างจ้าราวกับดอกไม้เบ่งบานที่สวยงาม
ฉึก! ฉึก! ฉึก!
เหล่าศิษย์ธรรมดาต่างถูกสังหารทันที ส่วนหานจืออู๋ไม่มีแม้กระทั่งโชคที่จะหลบหนี ศรดาราสีน้ำเงินยิงทะลุอก ร่างสั่นสะท้านอยู่สองครั้ง ก่อนที่ร่างจะไร้เสียง
“ฮู่…”
ซูเฟยหยิ่งพ่นลมออกมาเล็กน้อย รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย นางรู้ดีว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บ
ก่อนที่หานจืออู๋จะตายเขาได้กระตุ้นกำลังภายในปกคลุมไปที่หมัด ก่อนที่จะต่อยไปยังผ้าไหมหิมะของซูเฟยหยิ่ง ร่างของซูเฟยหยิ่งยังไม่ได้ขับพิษอัคคี แต่ต้องมาปะทะกับหานจืออู๋ที่มีวรยุทธหนึ่งร้อยปี จึงไม่สามารถต้านทานได้ ถูกอีกฝ่ายทำร้ายจนบาดเจ็บ
อาการบาดเจ็บใหม่และเก่ารวมกัน ทำให้นางยิ่งอ่อนแอมากยิ่งขึ้น ใบหน้าขาวอันงดงามซีดเผือดปราศจากร่องรอยโลหิต แต่ท่าทางของนางยังคงเฉยชาราวกับภูเขาน้ำแข็ง ราวกับโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่ทำให้นางสนใจได้
“อาจารย์ ท่านเป็นเช่นไรบ้าง?”
เย่เฟิงเข้ามาจากด้านข้างพลางขมวดคิ้วมุ่น
ไม่คาดคิดเลยว่าหานจืออู๋จะทำให้ซูเฟยหยิ่งบาดเจ็บ ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของนางจะดูไม่ดีเลย และยังมีเรื่องเจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยาอีก จะจัดการต่อหรือไม่จัดการดี?
“ไม่เป็นปัญหาอะไร แกนศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าสำนักหั่วอวิ๋นถูกข้าทำลายไปแล้ว ตราบเท่าเจอร่างหลักของเขา ก็สามารถจัดการได้สบาย”
ซูเฟยหยิ่งกุมหน้าอกพลางพูดออกมาเบาๆ นัยน์ตาพลันสว่างวาบมองไปยังทางเข้าเส้นทางหนึ่ง
ซูเสี่ยวอวี่ที่เพิ่งหลบหนีไป แท้จริงแล้ววกกลับมาในตอนนี้ และยังนำกองกำลังมามากมายอีกด้วย ล้อมรอบอยู่ภายในตำหนักแห่งนี้
แทบจะไม่พูดจาใดๆ ซูเสี่ยวอวี่ก็ออกคำสั่ง ปืนปิดกั้นชีพจร ปืนยาชา และปืนลำแสงมากมาย เล็งตรงไปยังทั้งสองที่อยู่ภายในตำหนักหินแห่งนี้
ยังไงเทพธิดาก็ต้องโดนจับกุม มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ ต่อให้มีเย่เฟิงเพิ่มขึ้นมาก็ตาม
……………………………..
แปลโดย คั่นหนังสือ