ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 363 ศิลาจิตวิญญาณสวรรค์
ถ้าหากบอกเหล่าสาวน้อยที่ถูกเฉินเหยาหรงทำให้แปดเปื้อนได้รับรู้ว่า จุดจบของเฉินเหยาหรงกลายเป็นอาหารแมงมุมเช่นนี้ จะต้องโห่ร้องออกมาด้วยความยินดี ยื้อแย่งยกนิ้วให้กับเย่เฟิง
ได้ยินเสียงกรีดร้องน่าอนาถดังมาจากด้านนอกประตูหินเพียงหนึ่งถึงสองวินาทีก็หยุดเงียบไป เย่เฟิงจึงลอบส่งจิตสื่อสารให้ลงมือทันที
วิชาเซียน ดาวตกจากฟากฟ้า!
ซูเฟยหยิ่งเฝ้ารอเย่เฟิงให้นางใช้ออกกระจกหยางบริสุทธิ์ เจิ้นชี่พลันเหือดแห้ง ศรสีน้ำเงินมากมายทะลุผ่านรูประตูหินไปภายในทางเดิน เพียงกระบวนท่าเดียวแมงมุมดำก็กลายเป็นเถ้าถ่าน
แม้เหล่าแมงมุมดำนี้จะตัวเล็ก แต่ละตัวมีหัวเท่าขนาดสุนัข หากเอาไปปล่อยบนโลกผู้คนคงหวาดกลัวแทบตาย แต่เทียบกับแมงมุมดำยักษ์ที่เย่เฟิงจัดการเมื่อครู่นี้ พวกนี้มันไม่นับว่าเป็นตัวอะไร ความแข็งแกร่งก็ไม่มี
“ไปกันเถอะ ระวังให้ดีด้วย ข้าเกรงว่ามันจะมีตัวใหญ่อยู่อีก…”
ซูเฟยหยิ่งคว้าแขนเย่เฟิง ต้องการเหินไปยังรูประตูหิน
“ช้าก่อน…”
เย่เฟิงรั้งมือนุ่มของซูเฟยหยิ่ง ก่อนจะหันหน้าไป เตือนสติเฉินเจี้ยนสงและจอมยุทธมากมายที่ตกตะลึงกันอยู่ “ด้านนอกมันยังมีตัวใหญ่อยู่อีก ถ้าพวกแกยังอยู่ที่นี้ สุดท้ายจะต้องกลายเป็นมื้อเที่ยงของพวกมันแน่…”
ประโยคเพียงสั้นๆแต่ทำให้เฉินเจี้ยนสงและพวกที่เหลือขนลุกชัน
ต้องติดตามซูเฟิงและซูเฟยหยิ่งไป!
ภายในใจทุกคนแทบจะสั่งการความคิดนี้
มองดูซูเฟยหยิ่งปลดปล่อยศรน้ำเงินมากมาย ราวกับเป็นเซียนอมตะ ทำให้พวกเขาเข้าใจเรื่องเวทมนตร์ของเย่เฟิงและซูเฟยหยิ่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม พวกเขาคาดเดาภายในใจว่า ในเมื่อที่นี้ไม่ใช่โลก ถ้าเช่นนั้นซูเฟยหยิ่งก็ไม่ได้เป็นคนบนโลกสินะ?
มันสามารถอธิบายถึงความลึกลับของเทพธิดาทะเลตงไห่ได้อย่างธรรมดา เพียงบทสรุปนี้ก็แทบจะเปิดเผยออกมาหมด
พวกเขาไม่กล้าจะอยู่ในสถานที่แห่งนี้อีก เนื่องจากไม่มีใครกล้าจะอยู่รอเผชิญหน้ากับแมงมุมดำยักษ์ที่สูงถึงสี่ห้าเมตร จำต้องลุกขึ้น ฝืนทนกับอาการพะอืดพะอมของผลข้างเคียงจากการเคลื่อนย้าย รีบวิ่งไปยังรูที่ประตูหิน
เย่เฟิงและซูเฟยหยิ่งไม่ได้คิดรอพวกเขา ก้าวเข้าไปภายในรูประตูหิน จากห้องโถงพีธีกรรม ออกมาด้านนอกเป็นทางเดินที่บรรยากาศหนาวเย็น
กลิ่นเนื้อไหม้ลอยมาเตะจมูก มันเป็นกลิ่นซากศพของฝูงแมงมุมตัวเล็กที่ซูเฟยหยิ่งใช้ดาวตกสังหารไปเมื่อครู่นี้
ไม่รู้เลยว่าตัวใหญ่มันอยู่ที่ใดกัน? มีความเป็นไปได้ว่ามันจะต้องซ่อนตัวอยู่ใดสักแห่งในตอนนี้?
เย่เฟิงและซูเฟยหยิ่งขบคิดถึงปัญหานี้อยู่ตลอดเวลา ขณะที่เตรียมตัวเรียบร้อย ก็ใช้วิชาเซียนล่องหนกับตัวเองทันที! พวกเขารู้ว่าไม่สามารถซ่อนตัวจากการตรวจจับของแมงมุมยักษ์ได้ เพียงแต่ต้องการหลีกเลี่ยงการติดตามของเหล่าจอมยุทธด้านหลัง
หลังจากที่ล่องหนไปแล้ว ทั้งสองตรงไปยังหูประตูหินของห้องโถงพิธีกรรมในทันที เบิกตาค้างอย่างทำอะไรไม่ถูกมองดูเหล่าจอมยุทธข้ามรูประตูหินไปทีละคน
ผู้คนที่รีบเร่งเข้าไปก่อนเพื่อต้องการติดตามร่องรอยของเย่เฟิงและซูเฟยหยิ่ง เนื่องจากการติดตามทั้งสองคนนั้นรับรู้ได้ถึงความปลอดภัย แต่ไม่นานกลับพบว่าด้านนอกประตูหินเป็นทางเดินเต็มไปด้วยเหล่าซากศพของแมงมุมเปล่งประกายเกลื่อนกลาด หรี่ตามองด้วยความสงสัย เส้นทางตรงระยะกว่าหลายร้อยเมตร เย่เฟิงและซูเฟยหยิ่งหายไปปราศจากร่องรอย
ชายคนนั้นรู้สึกว่าไม่ถูกต้องทันที แต่เขาไม่ทันที่จะตั้งสติได้ เหล่าจอมยุทธที่ติดตามมาเบื้องหลัง แต่ละคนต่างเบียดกระแทกเขา มีมากถึงสามสิบคนที่คอยๆปรากฏตัวออกมา!
“ท่าไม่ดีแล้ว”
ใครบางคนโพล่งร้องออกมาด้วยความตกใจ แต่พวกเขารู้ว่าเวลานี้มันสายเกินไปแล้ว
เงาร่างยักษ์ที่ห้อยอยู่เหนือพวกเขา ห้อยต่องแต้งอยู่กับใยแมงมุม ขาทั้งแปดของแมงมุมดำเสียบแทงทะลุพวกเขาทันที
เสียงร้องน่าอนาถดังก้องอย่างกะทันหัน!
“ไปกันเถอะ”
เย่เฟิงและซูเฟยหยิ่งมองหน้ากัน ต่างคนต่างพยักหน้า รู้ว่าถึงเวลาแล้ว
กวนน้ำจับปลา* ก่อนจะไปจากสถานที่แห่งนี้!
[คั่นหนังสือ : 浑水摸鱼/กวนน้ำจับปลา = ฉวยโอกาสตอนที่ผู้คนกำลังสับสนวุ่นวาย]
ทั้งสองผ่านรูประตูหิน ใช้ออกวิชาย่างก้าวไร้เงาอย่างพร้อมเพรียง ความเร็วระเบิดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทันที
พุ่งตัวออกไป!
ทั้งสองทิ้งภาพติดตาเลือนรางเอาไว้ แต่ร่างจริงๆของพวกเขาเหินไปออกไปไกลมุ่งหน้าไปยังโถงทางเดินอีกฝั่งด้วยความรวดเร็ว
สำหรับสภาพของพวกเขาทั้งสองตอนนี้ หากต้องการจัดการแมงมุมดำยักษ์คงเป็นเรื่องยากอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้ว่าจะจัดการได้ มันก็จะเสียเวลาอย่างมาก สิ่งสำคัญที่สุดมันไม่มีเหยื่อล่อ และยังมีทักษะสัมผัสวิญญาณที่ไม่สามารถค้นหาแมงมุมดำยักษ์ได้
จึงทำได้เพียงสังเวยผู้คนเหล่านี้…
ขณะที่เย่เฟิงกำลังขบคิดภายในใจพลางหันกลับไปมองดูรู้สึกว่าแมงมุมดำยักษ์มันมีขนาดใหญ่กว่าตัวที่เขาสังหารไปก่อนหน้านี้ ส่วนท้ายของก้นถุงน้ำพิษมันมีขนาดเท่ารถตู้ ใหญ่โตจนอธิบายไม่ถูก
เย่เฟิงไม่ได้สังเกตมันให้ดีอย่างถี่ถ้วน สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการไปจากสถานที่แห่งนี้โดยเร็ว
จากสัมผัสที่แหวนกระบี่มังกรโบราณ สมบัติที่มีพลังวิญญาณอันมากมายอยู่สุดโถงทางเดินนี้ แต่ไม่ทราบเลยว่าสิ่งของชิ้นนั้นคืออะไร? ต้องได้มันมาอยู่ภายในมือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นอกจากพวกเขาทั้งสองแล้ว มันยังมีคนเหลืออีกที่ได้หลบหนีติดตามมายังเส้นทางนี้ รวมถึงเฉินเจี้ยนสงด้วย
แม้ว่ามันจะเป็นสถานการณ์สับสนวุ่นวาย เฉินเจี้ยนสงสามารถหาโอกาสทุกอย่าง ขอเพียงแค่ตัวเองรอดชีวิต และเมื่อเทียบกับชีวิตแล้วสิ่งอื่นๆต่างเป็นเรื่องรองลงมาหมด
ท่าร่างของเขาค่อนข้างดี ด้วยวรยุทธถึงหนึ่งร้อยปี ความรวดเร็วไม่ได้ด้อยไปกว่าเย่เฟิงและซูเฟยหยิ่งเลย
ผู้คนที่อยู่เบื้องหลัง เหล่าจอมยุทธกรีดร้องอย่างอนาถดังขึ้นต่อเนื่อง แต่เพียงไม่นานมันก็หยุดลง ราวกับว่าเจ้าแมงมุมดำยักษ์หายไปเฉยๆ
“ท่าไม่ดีแล้ว มันจ้องเล่นงานพวกเรา”
ใบหน้าอันงดงามของซูเฟยหยิ่งหมองหม่น คว้าเอาแขนเย่เฟิงไว้
สาเหตุเพราะพวกเขาทั้งสองคนร่วมมือกันสังหารเหล่าแมงมุมตัวเล็ก ดังนั้นเจ้าแมงมุมดำยักษ์เป็นธรรมดาที่มันจะมองพวกเขาเป็นเป้าหมายหลัก เมื่อพบเจอสถานการณ์เช่นนี้ ซูเฟยหยิ่งมีเพียงทางเลือกเดียว
นางที่คว้ากุมแขนเย่เฟิงเอาไว้ ไม่ได้ต้องการที่จะเสาะหาที่ปลอดภัย แต่เป็นการช่วยเหลือเย่เฟิง เพื่อให้เขาหนีไปได้
วิชาเซียน ดาวเคลื่อนดาราคล้อย!
แมงมุมดำยักษ์อาจจะปรากฏตัวขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นซูเฟยหยิ่งไม่มีเวลาพอให้ลังเล จับกุมเย่เฟิงเอาไว้ ใช้ออกวิชาดาวเคลื่อนดาราคล้อยออกไปเบื้องหน้าทันที!
ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงความอันตรายภายในวิหารเก่าแก่แห่งนี้ แม้จะอยู่ที่โบราณสถานที่ทะเลทราย แต่ต้องใช้ออกวิชาดาวเคลื่อนดาราคล้อยมันก็ยิ่งทำให้อันตรายมากขึ้น แต่ตอนนี้เจิ้นชี่ที่ซูเฟยหยิ่งฟื้นฟูมาอย่างยากเย็น จำต้องใช้เพื่อปกป้องชีวิตเอาไว้
วิชากระบี่ผ่ามิติของเย่เฟิงไม่สามารถนำคนอื่นเคลื่อนย้ายพริบตาไปด้วยได้ แต่วิชาดาวเคลื่อนดาราคล้อยนี้ทำได้
ร่างของพวกเขาเริ่มเลือนราง!
พรึบ!
จู่ๆปรากฏเงาร่างยักษ์ที่เบื้องหน้าเขาห่างไปไม่ไกล ขาเรียวยาวแข็งแกร่งทั้งแปดคล่องแคล่วว่องไว พุ่งเข้ามายังพวกเขาอย่างรวดเร็ว
ฉึก!
ขาแมงมุมอันแข็งแกร่งมีพิษพุ่งเข้ามา ทิ่มแทงไปยังตำแหน่งต้นขาซ้ายของร่างซูเฟยหยิ่งที่ยังไม่ได้สลายหายไปอย่างหมดจด ส่วนก้นของถุงน้ำพิษ ปลดปล่อยพิษร้ายใส่! ซูเฟยหยิ่งแค่นเสียงพลางกระตุ้นเจิ้นชี่ ในที่สุดดาวเคลื่อนดาราคล้อยใช้ออกทันท่วงที
เย่เฟิงเพียงรู้สึกภาพรอบๆต่างบิดเบือน เพียงไม่นาน การเคลื่อนย้ายก็หยุดลง และเขาต้องเบิกตากว้างตื่นตาตื่นใจมองดูหินที่เปล่งประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขา พลังวิญญาณรอบๆตัวเขาเข้มข้นอย่างมากมาย
ศิลาจิตวิญญาณสวรรค์
เย่เฟิงตื่นตะลึง ไม่คาดคิดว่าสถานที่แห่งนี้จะได้มาพบเจอศิลาจิตวิญญาณสวรรค์ นี่มันเป็นวัตถุดิบล้ำค้าที่โลกเทวะใช้มันสร้างอุปกรณ์วาร์ป เมื่อมีสิ่งนี้ แน่นอนว่าจะต้องกระตุ้นการทำงานอุปกรณ์วาร์ปที่อยู่ภายในห้องโถงพิธีกรรมก่อนหน้านี้ได้ จากนั้นก็จะกลับไปที่โลกได้
ในเวลานี้เขาไม่ควรที่จะมามีความสุขกับการค้นพบศิลาจิตวิญญาณสวรรค์ หลังจากที่ตกใจไปแล้ว จึงใช้ทักษะสัมผัสวิญญาณตรวจสอบรอบๆหนึ่งครั้ง ไม่พบสิ่งใดทั้งสิ้น แต่ขณะนั้นเองรู้สึกได้ว่าร่างอันบอบบางของซูเฟยหยิ่งพลันล้มลงเข้าสู่อ้อมแขนเข้าทันที
……………………………..
แปลโดย คั่นหนังสือ